“หา? หนึ่งพัน?”
ชายชราชุดขาดตะลึง อีกฝ่ายช่างกล้าต่อราคาเสียจริง!
“มากกว่านี้อีกได้ไหม ข้าต้องจ่ายค่าที่วันละหนึ่งพันเหรียญทองเลยนะ จะขายด้วยราคาค่าที่แบบนี้ไม่ได้!”
“ไม่ล่ะ หากขายก็รับไป หากไม่ขายก็ช่างเถอะ”
เสิ่นเสวียนแสดงท่าทีแข็งกร้าวออกมา ในเมื่อจะต่อราคาแล้วต้องจิตใจเด็ดเดี่ยว
“ได้ๆ ให้เ้าคนเดียวนะ เอาไปเลยหนึ่งพันเหรียญทอง”
ชายชราชุดขาดทำท่าทางเ็ปใจ คล้ายว่าเขาตัดสินใจครั้งใหญ่ไปแล้ว
“ให้ท่าน”
จากนั้นเสิ่นเสวียนก็เอาก้อนทองขนาดใหญ่ออกมาจากในมิติสองก้อน หนึ่งก้อนมีมูลค่าห้าร้อยเหรียญทอง หากว่ามันอยู่ในครอบครัวคนธรรมดาจะสามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
“เอาไปเลย”
ชายชราชุดขาดหยิบสิงโตหินสูงหนึ่งฉื่อส่งให้เสิ่นเสวียน
“ขอให้กิจการรุ่งเรือง”
ฝ่ายหนึ่งส่งเงิน อีกฝ่ายหนึ่งส่งของ เสิ่นเสวียนยิ้มให้อีกฝ่าย แล้วเขาก็รับสิงโตหินมาเก็บเข้าไปในมิติ ตอนที่รับมาแล้วเขาก็ได้รู้ว่าสิ่งของภายในสิงโตหินตัวนั้นคืออะไร
สิงโตหินไม่ใช่สิ่งของทั่วไป ภายในนั้นผนึกจิติญญาสัตว์เอาไว้ด้วยรอยประทับที่ลึกลับมาก มันดูเหมือนเป็สิงโตหินทั่วๆ ไปเท่านั้น แต่สามารถผนึกจิติญญาสัตว์ไว้ได้ต้องไม่ใช่ของธรรมดาอย่างแน่นอน
“เ้าหนุ่ม อยากได้ของชิ้นไหนอีกหรือเปล่า ข้าลดให้เ้าเป็พิเศษเลย”
“ไม่มีแล้ว”
เสิ่นเสวียนยิ้มให้อีกฝ่ายแล้วเดินจากไป
ส่วนชายชราชุดขาดที่มองเสิ่นเสวียนเดินไปกลับกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เ้าหนุ่มเอ๊ย ขิงแก่ย่อมเผ็ดกว่าขิงอ่อน สิงโตพังๆ ตัวนั้นข้าได้มาโดยบังเอิญ เ้ากลับให้เม็ดทองข้าถึงสองเม็ด เ้าขาดทุนแน่แล้ว”
ชายชราชุดขาดถือเม็ดทองสองเม็ดนั้นแล้วยกขึ้นจูบ เขาได้ค่าที่มาแล้ว หากขายออกได้อีกนับว่าเป็กำไรของเขาแล้ว ช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก
ชายชราชุดขาดภาคภูมิใจอยู่ตรงนั้น ส่วนเสิ่นเสวียนเดินห่างไปไกลแล้ว เขาเดินเข้าไปในตลาด ใช้พลังจิติญญาััไปรอบๆ ดูว่าสามารถหาซื้อของล้ำค่าอะไรได้อีก
แต่ของดีๆ กลับมีน้อยมาก เพราะที่นี่มีของขายเต็มไปหมด คนที่มาซื้อของก็มากมาย ที่นี่วุ่นวายมาก ของดีๆ ถูกแย่งซื้อไปหมดแล้ว
และสิ่งของที่เขา้าคงต้องไปหาซื้อภายในร้านเท่านั้น
‘ร้านหินหายาก’
ตัวอักษรบนป้ายโลหะที่แปะทองไว้ค่อนข้างสะดุดตา
เสิ่นเสวียนเดินเข้าไปในทันที
“คุณลูกค้า ้าสิ่งใดหรือ”
เมื่อเดินเข้าไปในร้าน ผู้ช่วยคนหนึ่งก็เดินออกมาต้อนรับ พวกเขาอยู่ที่นี่มานาน แค่เห็นเสิ่นเสวียนก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา
“มีอัญมณีห้าธาตุไหม”
“มี ไม่ทราบลูกค้า้าเท่าไร”
“มีเท่าไรเอาเท่านั้น”
ขณะที่กล่าว เสิ่นเสวียนเอาแหวนสีขาวออกมาวงหนึ่ง มีแสงส่องประกายราวกับเพชร
เขาคิดเพียงว่ามีเงินอยู่เท่าไร แต่ลืมสิ่งของที่ตนเองเก็บรวบรวมไว้ไปแล้ว
คนที่โดนเขาสังหารไปเ่าั้ แต่ละคนมีแหวนเก็บของอยู่ แหวนเ่าั้จะจดจำเ้าของ แต่เมื่อเ้าของตายไปแล้วมันจะกลายเป็สิ่งของไร้เ้าของทันที
ที่เขาเอาออกมาคือแหวนของนักปราชญ์ที่ล้อมสังหาราามารตะวันตกก่อนหน้านี้
หลังจากได้เห็นแหวนวงนี้ ผู้ช่วยคนนั้นก็แววตาเป็ประกายขึ้นมาทันที
แหวนมีการแบ่งระดับด้วยเช่นกัน อย่างเช่นแหวนผลึกขาวในมือเสิ่นเสวียนวงนี้ มองก็รู้แล้วว่าอยู่ในระดับสูง ภายในนั้นมีมิติค่อนข้างใหญ่ เพียงแค่ตัวแหวนก็มีมูลค่ามากกว่าหนึ่งล้านเหรียญทองแล้ว
“คุณลูกค้ารอสักครู่ ข้าจะไปตามเ้าของร้าน”
ผู้ช่วยคนนั้นไม่กล้าตัดสินใจเื่ใหญ่ขนาดนี้ จึงวิ่งไปยังหลังร้านเพื่อเชิญเ้าของร้าน เ้าของร้านวิ่งตามทางเล็กๆ ออกมาแล้วเชิญเสิ่นเสวียนเข้าไปยังด้านหลัง จัดเตรียมน้ำชาและที่นั่งไว้ให้ อีกด้านหนึ่งก็สั่งให้ผู้ช่วยจัดเตรียมอัญมณีห้าธาตุ
เพียงไม่นานอัญมณีห้าธาตุถูกเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว บรรจุใส่ถุงใบหนึ่ง
“ในนี้มีอัญมณีทั้งหมดห้าพันเม็ด ธาตุละหนึ่งพันเม็ด แต่ละเม็ดมีราคาหนึ่งพันเหรียญทอง ทั้งหมดเป็จำนวนเงินห้าล้านเหรียญทอง คุณชายจะจ่ายด้วยบัตรหรือเงินสด”
เ้าของร้านโค้งกายพลางกล่าวกับเสิ่นเสวียนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม นี่คือยอดขายห้าล้านเหรียญทอง ในหนึ่งปีจะมีอยู่เพียงไม่กี่ครั้ง โดยปกติแล้วจะมาซื้อกันเพียงไม่กี่เม็ด น้อยมากที่จะซื้อมากกว่าสิบเม็ด ใครจะใช้จ่ายได้อย่างเสิ่นเสวียน ซื้อทีเดียวถึงห้าพันเม็ดเช่นนี้
“ห้าล้าน? แพงขนาดนี้เลย”
เสิ่นเสวียนขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจหลังจากได้ยินราคารวม
เมื่อครู่ตอนที่อยู่ด้านนอกเขาเห็นว่าภายในห้องหนึ่งมีพลังผสมผสานอยู่ สำหรับเขาแล้วไม่ได้มีค่ามากขนาดนั้น เขาจึงบอกว่ามีเท่าไรเอามาให้หมด แต่คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะแพงขนาดนี้
“คุณชายล้อเล่นหรือเปล่า พวกเราขายราคานี้มาตลอด ทั่วทั้งตลาดก็มีร้านของพวกเราเพียงร้านเดียว เป็ราคากันเองที่สุดแล้ว”
เ้าของร้านกล่าวกับเสิ่นเสวียนด้วยรอยยิ้มกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่เอาแล้ว ราคาที่เขาบอกไปเป็ราคาที่ถูกที่สุด แต่เนื่องจากราคาสูงถึงห้าล้านเหรียญทอง คนที่สามารถจ่ายด้วยราคานี้ได้จึงไม่ธรรมดา
“อืม”
เสิ่นเสวียนพยักหน้า แล้วเขาจึงได้เข้าใจถึงสถานการณ์ของการตลาด
หินพลังงานห้าพันเม็ดนี้เพียงพอให้เขาสร้างหุ่นเชิดได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น หากดูจากพลังที่หมดไปตอนหลอมรวมหยวนก่อกำเนิดของเขาก่อนหน้านี้ อย่าว่าแต่ห้าล้านเหรียญทองเลย ต่อให้ใช้ห้าล้านเหรียญทองสักหนึ่งร้อยครั้งก็ไม่พอ โชคดีที่ได้เจอกับผู้เฒ่าจี๋เล่อ ไม่อย่างนั้นตอนหลอมรวมหยวนก่อกำเนิดเขาคงจ่ายไม่ไหวอย่างแน่นอน
และแน่นอนว่าจะมีเงินหรือไม่คืออีกเื่หนึ่ง แม้จะรวบรวมหินพลังทั้งหมดในตลาดนี้มาก็ยังไม่พอกับการหลอมรวมหยวนก่อกำเนิด ของล้ำค่าที่แท้จริงไม่มีวันออกสู่ตลาด นอกเสียจากจะเป็เื่ไม่คาดคิด
เสิ่นเสวียนหยิบแหวนวงนั้นออกมาแล้วใช้พลังสมาธิััถึงภายใน ้าหาบัตรหรือเงินภายในนั้น แต่เขาหาเท่าไรก็ไม่เจออะไรเลย ภายในแหวนนั้นนอกจากเสื้อผ้าซักแล้วจำนวนหนึ่ง ก็มีเพียงศาสตราวิเศษไม่กี่ชิ้น
“ข้าอยากเอาของมาแลก ท่านคิดเห็นอย่างไร” เสิ่นเสวียนกล่าวกับเ้าของร้าน
“คุณชายหมายความว่าอย่างไร”
เ้าของร้านหน้าเสีย มาซื้อของแล้วไม่เอาเงินมา จะมาทำไมกัน
“สิ่งนี้”
ขณะที่กล่าว เสิ่นเสวียนหยิบพัดออกมาจากแหวน นี่คือพัดที่นักปราชญ์คนนั้นเคยใช้ มันคือศาสตราวิเศษขั้นลึกลับระดับสูง ซึ่งเขาไม่สนใจ แต่น่าจะได้เงินบ้าง
“ขั้นลึกลับระดับสูง!”
เ้าของร้านค่อนข้างรอบรู้ เขามองแวบเดียวก็รู้ถึงระดับของพัดเล่มนั้นแล้ว
“นี่!!! คือว่าคุณชาย้าเอาพัดเล่มนี้มาแลกเปลี่ยนอย่างนั้นหรือ”
เ้าของร้านมองเสิ่นเสวียนอย่างไม่อยากเชื่อ จึงถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
“อืม ท่านลองประเมินราคาดู”
เสิ่นเสวียนไม่แน่ใจว่าราคาคุ้มค่าเพียงใด หากไม่พอเขาค่อยเอาสิ่งใหม่ออกมา
“สิ่งนี้... ข้าไม่ปิดบังคุณชายแล้วกัน ข้ากำลังตามหาศาสตราวุธที่เหมาะสมกับตนเองมานาน และข้าคิดว่าพัดเล่มนี้เหมาะสมกับข้ามาก ข้ายินยอมจ่ายด้วยราคาแปดล้านเหรียญทอง”
เ้าของร้านกัดฟันกล่าว ราคาแปดล้านเหรียญทองเรียกได้ว่าเป็ทั้งชีวิตของเขา แต่สำหรับศาสตราวิเศษชิ้นนี้แล้วค่อนข้างคุ้มค่า
“หืม? แปดล้านเหรียญทอง”
เสิ่นเสวียนตะลึงเล็กน้อย พัดเล่มนี้ได้ราคาดีขนาดนี้เลย
“หากคุณชายคิดว่าน้อยเกินไป ข้ายังพอมีอัญมณีห้าธาตุเก็บไว้อีกเล็กน้อย ประมาณสองพันเม็ด ใช้พวกมันเสริมเข้าไปแทนได้หรือไม่” เ้าของร้านกล่าวทันทีที่เห็นว่าเสิ่นเสวียนลังเล แล้วเขาก็หยิบอัญมณีออกมาจากกล่องด้านล่าง
เสิ่นเสวียนมองเ้าของร้านแล้วหันมองผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ จากนั้นจึงพยักหน้า
“เอาตามนั้น”
การแลกเปลี่ยนครั้งนี้ทำให้เขาประหลาดใจมาก ที่แท้ศาสตราวิเศษก็มีค่ามากขนาดนี้ แต่สิ่งที่เสิ่นเสวียนไม่รู้เลยก็คือ หากเอาพัดเล่มนี้ไปประมูลขายอาจได้ราคาสูงมากถึงสิบล้านเหรียญทองเลยทีเดียว
เสิ่นเสวียนนั่งอยู่ตรงนั้น ครุ่นคิดว่าจะเอาของล้ำค่าที่ตนเองแย่งชิงมาแลกเปลี่ยนเป็เงินได้อย่างไร เ้าของร้านกำลังวุ่นอยู่กับการแลกเปลี่ยนเงินให้กับเขา หลังจากหักค่ามณีไปแล้วห้าล้านเหรียญทอง เขายังมีเหลืออีกสามล้านเหรียญทอง ซึ่งเป็จำนวนที่มหาศาล
จากนั้นสิบนาที เสิ่นเสวียนก็เดินออกจากร้านหินหายากด้วยสีหน้าพึงพอใจ
หินพลังที่เขาเตรียมไว้ครั้งนี้ รวมเข้ากับองค์ประกอบห้าธาตุของตนเอง เพียงพอจะทำให้เขาหลอมรวมแม่ทัพเทพขั้นจักรพรรดิผู้นั้นได้สำเร็จ
ขณะที่เขาเตรียมจะเดินออกไป เสวียนหลิงเอ่อร์ก็ลอยออกมาจากโลงศพภายในมิติของเขา
“แผงขายของที่สามทางด้านขวา ซื้องูจิ่นเมี่ยนตัวนั้นที่อยู่ในกรงให้ข้าที”
เสิ่นเสวียนมองแผงขายของทางขวาตามเสียงของเสวียนหลิงเอ่อร์