ต้วนเหลยถิงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเปี่ยมแรงดึงดูด
“โยวหราน เมื่อครู่ในก้นสระเกิดเื่ใดขึ้นหรือ?”
เคอโยวหรานส่ายหน้า ยังไม่ทันได้สติกลับจากความนุ่มนวลอ่อนโยนของต้วนเหลยถิง ยิ่งไปกว่านั้นนางเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าแท้จริงแล้วเกิดเื่อันใดขึ้น
รับรู้เพียงว่ายามนี้ในศีรษะกระจ่างแจ้ง มีพลังมากมายนับไม่ถ้วนรวมตัวอยู่ภายในร่างของนาง
ปลายจมูกของต้วนเหลยถิงกรุ่นกลิ่นหอมหวานบางเบาบนกายของเคอโยวหราน
ครั้นอดใจไม่ไหวจึงประกบริมฝีปากแดงดั่งลูกท้อของนางอีกครั้ง มือทั้งสองข้างเริ่มเคลื่อนไหวอยู่ไม่สุขบนตัวนาง...
“บรู้ว...”
เสียงหอนของหมาป่าขัดจังหวะคนทั้งสองและดึงสติของเคอโยวหรานให้กลับมาอีกครั้ง นางพลันผลักต้วนเหลยถิงออกห่างทันที
หญิงสาวรีบหนีออกจากอ้อมกอดของเขาและพยายามแหวกว่ายเข้าหาฝั่ง...
ให้ตายเถิด ประมาทเกินไปแล้ว เหตุใดนางจึงไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าบุรุษที่นางออกเรือนด้วยยั่วยวนเก่งถึงเพียงนี้?
กระทั่งผู้ที่มีความทรงจำเ้าของร่างเดิมเช่นนางยังตกอยู่ในแดนละมุนของเขา จนเกือบจะถูกบุรุษผู้นี้กลืนกินทั้งตัวอยู่ในสระบัวแห่งนี้เสียแล้ว
ครั้นไออุ่นและกลิ่นหอมจางในอ้อมอกเลือนหายไป ต้วนเหลยถิงรู้สึกร้อนใจไม่เป็สุขอย่างน่าประหลาด สายตาทอดมองร่างเล็กที่กำลังพยายามหลบหนีสุดชีวิต
แววตาของเขามืดสลัวลงเล็กน้อย ใคร่ครวญการกระทำเมื่อครู่ของตนแล้วรู้สึกว่าบุ่มบ่ามเกินไปอยู่บ้างจริงๆ
แม้พวกเขาจะเป็สามีภรรยากัน ทว่าั้แ่แต่งงานจนถึงยามนี้ก็เป็เพียงสามีทางนิตินัยมิใช่ทางพฤตินัย จะร่วมหอกันในสระบัวเจ็ดสีเช่นนี้ได้อย่างไร?
เหตุใดความสามารถในการควบคุมตนเองอันแข็งแกร่งของเขากลับพังทลายลงในสระบัวเสียแล้ว?
ยังมีอีกเื่ คือหลังจากเคอโยวหรานตกลงไปในสระบัว เหตุใดนางจึงเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ถึงเพียงนี้?
ต้วนเหลยถิงใคร่ครวญขณะว่ายน้ำตามเคอโยวหรานขึ้นฝั่ง
อย่างไรก็ตาม ความเ็ปบริเวณเอวครั้งก่อนหน้านี้กลับเลือนหายไป ตรงกันข้ามยังถูกแทนที่ด้วยพลังนับไม่ถ้วนซึ่งหลั่งไหลเข้าสู่จุดตันเถียน [1] ของเขา
นอกจากนี้ กำลังภายในของเขากำลังเคลื่อนไหวผ่านเส้นลมปราณทั่วร่างด้วยตนเอง ไม่ทันรู้ตัวก็ไหลเวียนรอบโคจรมหาจักรวาล [2] ถึงสามรอบ
์! สระบัวแห่งนี้น่าอัศจรรย์เกินไปแล้ว น้ำในสระมีพลังลึกลับบางประการ
เคอโยวหรานขึ้นมาถึงฝั่ง พาร่างที่สวมใส่เสื้อผ้าเปียกชื้นวิ่งไปหลบหลังต้นไม้ใหญ่เพียงหนึ่งเดียวที่อยู่บนฝั่งภายในไม่กี่ก้าว
หลังพยายามสูดลมหายใจหลายเฮือก นางก็ทำให้หัวใจที่จวนจะกระโจนออกมาจากลำคอสงบลงได้สำเร็จ
ว่าไปแล้วก็น่าแปลกนัก นอกถ้ำคืออากาศในเดือนสอง กระทั่งตรงไหล่เขายังมีหิมะสะสมอยู่เลย
ทว่าภายในถ้ำกลับไม่หนาวแม้แต่นิด ต่อให้ทั่วทั้งกายจะเปียกชื้น นางก็มิได้รู้สึกไม่สบายตัวแต่อย่างใด
ไม่เพียงเท่านี้ หลังออกจากสระบัวยังรู้สึกอบอุ่นยิ่งนัก ร่างทั้งร่างผ่อนคลายราวกับถูกเพิ่มพลังก็มิปาน มีเรี่ยวแรงให้ใช้ไม่หมดสิ้น
ครั้นเคอโยวหรานมองสำรวจร่างกายของตนด้วยความสงสัยหนึ่งรอบ นางก็ถึงกับหวาดหวั่นโดยสมบูรณ์เสียแล้ว
เพียงชั่วครู่ที่ตกลงไปในสระ ทั่วทั้งร่างของนางพลันไม่ต่างกับถอดรกเปลี่ยนกระดูกเลยสักนิด
เนื้อหนังผอมแห้งดั่งท่อนฟืนมลายหายไป กลับกลายเป็ส่วนเว้าโค้งที่อวบอิ่มและมีเสน่ห์
เวลาผ่านไปไม่กี่อึดใจ ตอนนี้เสื้อผ้าบนกายของนางแห้งสนิทแล้ว
เคอโยวหรานหยิบเสื้อชั้นในหนึ่งตัวจากเขตจำหน่ายชุดชั้นในมาสวมใส่ให้เรียบร้อย
ยามนี้เพิ่งสังเกตเห็นมือที่ทำงานมานานปีของตน แผลอักเสบและรอยแห้งแตกแต่เดิมเลือนหายไปจนไร้ร่องรอย
นิ้วมือทั้งสิบเรียวยาว อ่อนนุ่มเรียบลื่น ทั้งรอยแผลที่เกิดจากเขี้ยวหมาป่าก็หายไปด้วยเช่นกัน
หากมิใช่เพราะประสบด้วยตนเอง แม้ตีให้ตายนางก็ไม่มีทางเชื่อว่าโลกนี้จะอัศจรรย์ถึงเพียงนี้
หญิงสาวหยิบกระจกบานเล็กมาจากชั้นวาง ให้ตายเถิด! นี่มิใช่รูปโฉมของนางในชาติก่อนหรอกหรือ?
หลังมองพิจารณาอย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ถูกต้อง งดงามและสมบูรณ์แบบกว่าตนในชาติก่อนเสียอีก ถึงขั้นมิอาจบรรยายได้ด้วยคำพูด
โดยเฉพาะไฝหยดน้ำตาสีแดงสดตรงหว่างคิ้วเม็ดนั้น งามจนแทบจะดึงดูดิญญาของนางเข้าไปเสียแล้ว
เคอโยวหรานเอนกายพิงต้นไม้ใหญ่ กุมหัวใจพลางพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่...
ความรู้สึกของนางในยามนี้ยากจะอธิบายเป็คำพูด ทั้งยินดีระคนกังวลใจ
ยินดีที่นางกลับมามีรูปโฉมเช่นในชาติก่อน กลายเป็หญิงงามล้ำเลิศ มีสตรีใดไม่หวังให้ตนเองงดงามกันเล่า
แต่สิ่งที่เป็กังวลคือความเปลี่ยนแปลงมีมากจนเกินไป คนในครอบครัวอาจจดจำมิได้ อีกทั้งนางไม่สามารถออกไปข้างนอกด้วยใบหน้าเช่นนี้ได้
ในยุคสมัยที่กฎหมายไม่สมบูรณ์นี้ นี่คือเครื่องหมายเร่งเอาชีวิตอย่างแท้จริง
ตอนที่ยังไร้พละกำลังอันแข็งแกร่งจนสามารถปกป้องตนเองได้ นางไม่อยากให้ใบหน้านี้ทำให้ตนต้องตกอยู่ในอันตราย
ขณะคิดใคร่ครวญ แผ่นหลังของเคอโยวหรานพลันถูกเงามืดทาบทับ ฝ่ามือข้างหนึ่งของต้วนเหลยถิงค้ำยันลงบนต้นไม้ มืออีกข้างเชยปลายคางของเคอโยวหรานขึ้น เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนละมุนว่า
“กำลังกังวลเื่ใดหรือ? มีข้าอยู่ ไม่ต้องกลัว ดีหรือไม่?”
ริมฝีปากของเคอโยวหรานเผยอเล็กน้อย คิดอยากจะเอ่ยบางสิ่ง แต่กลับถูกริมฝีปากเจือความเย็นประทับลงมา
กระทั่งต้วนเหลยถิงเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าเพราะเหตุใด? หลังจากได้ลิ้มรสความงามของสตรีตรงหน้าก็ก่อเกิดเป็ความรู้สึกตกหลุมรักจนมิอาจถอนตัว
เคอโยวหรานที่จวนจะขาดใจใช้มือทั้งสองข้างดันแผงอกของบุรุษ นางผินหน้าหนีพลางออกแรงสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปใหม่
ต้วนเหลยถิงได้สติกลับคืนมา เขาวางศีรษะลงบนซอกคอของนาง ปรับอารมณ์ของตนเองอยู่เนิ่นนานก่อนจะค่อยๆ ปล่อยมือจากเคอโยวหราน
ชายหนุ่มปลดเสื้อตัวนอกออก ตามด้วยหยิบถุงหนังวัวกันน้ำบริเวณข้างเอวของตน
จากนั้นดึงเคอโยวหรานให้นั่งลงบนพื้น เทขวดและกระปุกในถุงออกมาแต่งแต้มลงบนใบหน้าของนางอย่างเอาจริงเอาจัง
ไม่นานนัก เคอโยวหรานในรูปโฉมเดิมก็ถูกรังสรรค์ให้กลับคืนมา
เขายังถอดเสื้อตัวในของตน ฉีกออกเป็แถบผ้าและพันไว้เหนือศีรษะของเคอโยวหราน ยามนี้ดูสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
ต้วนเหลยถิงพึงพอใจกับผลงานชั้นเลิศของตนเองยิ่งนัก รีบดึงเคอโยวหรานมายังริมสระบัวเจ็ดสีเพื่อให้นางมองเงาภายในน้ำ
เคอโยวหรานเบิกตากว้าง เอ่ยด้วยความประหลาดใจว่า “ท่านรู้วิชาแปลงโฉมหรือเ้าคะ?”
ต้วนเหลยถิงไม่ปฏิเสธ เขาสยายผมของตนลง หยิบกรรไกรออกมาจากในถุงแล้วตัดเส้นผมจำนวนไม่น้อย
อาศัยเงาสะท้อนภายในน้ำ จัดแต่งจนหนวดเคราของตนเองกลับมาดังเดิม
เคอโยวหรานเอ่ยด้วยความฉงน “เหตุใดท่านต้องใช้หนวดเคราบดบังใบหน้าหล่อเหลาของตนเองด้วยเล่า?”
นึกไม่ถึงว่าต้วนเหลยถิงจะตอบกลับโดยไม่ลังเลแม้แต่นิด “เพื่อหลบเลี่ยงการตามล่าของศัตรู”
“อ้อ...” เคอโยวหรานนิ่งเงียบโดยพลัน
“เป็อันใดไป กลัวแล้วหรือ?” ต้วนเหลยถิงเอ่ยอย่างขบขัน
“วางใจเถิด หากพบเจออันตราย ข้าจะจัดการหาที่ปลอดภัยให้เ้าและคนในครอบครัว ไม่มีทางปล่อยให้พวกเ้าต้องเสี่ยงอันตรายอย่างแน่นอน”
เคอโยวหรานกลอกตาขาว “ข้าบอกว่ากลัวเสียเมื่อใด? เพียงประหลาดใจเล็กน้อยว่าเหตุใดท่านถึงบอกข้า มิใช่ว่าควรจะปิดบังข้าหรือเ้าคะ?”
ท่อนแขนยาวของต้วนเหลยถิงพลันยื่นออกมา โอบเคอโยวหรานเข้าสู่อ้อมอกแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า
“เ้าคือภรรยาของข้า สมควรจะรับรู้เื่เหล่านี้ ศัตรูของข้ามีภูมิหลังอันยิ่งใหญ่ หากเ้าเป็กังวล ข้าสามารถหย่าร้างได้ทันทีเพื่อคืนอิสระแก่เ้า”
หัวใจของเคอโยวหรานถึงกับกระตุก ภายในความทรงจำเ้าของร่างเดิมไม่มีเื่เช่นนี้ ทั้งยังไม่เคยได้ยินสกุลต้วนเอ่ยว่าพวกเขามีศัตรู
เป็เพราะการมาถึงของตนเปลี่ยนแปลงชาติกำเนิดของต้วนเหลยถิง หรือว่าเดิมทีอีกฝ่ายก็มีศัตรูอยู่แล้ว เพียงแต่สามปีให้หลังก็ยังไม่มีศัตรูมาทวงแค้นเขา?
เคอโยวหรานเงยดวงหน้าเล็กขึ้นมองต้วนเหลยถิง ก่อนเอ่ยอย่างสุขุมผิดจากยามปกติ
“นับั้แ่วันที่ออกเรือนกับท่าน บนหัวของข้าก็มีนามของท่านสลักอยู่ ท่านคิดว่าหลังจากพวกเราหย่าร้างกัน ครั้นศัตรูของท่านล่วงรู้ถึงการมีอยู่ของข้า คนผู้นั้นยังจะปล่อยข้ากับครอบครัวไปโดยง่ายหรือเ้าคะ?
ในเมื่อศัตรูของท่านแข็งแกร่งมาก เช่นนั้นพวกเราก็ต้องกลายเป็ฝ่ายที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเขา การหลบเลี่ยงมิอาจแก้ไขปัญหาใดๆ ได้เ้าค่ะ
มิสู้พัฒนาตนเองให้แข็งแกร่งก่อนที่เขาจะหาท่านพบเป็อย่างไร
ให้แข็งแกร่งเสียจนสามารถขยี้ศัตรูของท่านให้ตายอย่างง่ายดายไม่ต่างกับขยี้มดตัวหนึ่ง เป็เช่นนั้นไม่ดีกว่าหรือเ้าคะ?”
ต้วนเหลยถิง “...?”
แท้จริงแล้วเขาแต่งภรรยาเยี่ยงไรกัน? ช่างสมดังใจเหลือเกิน นึกไม่ถึงว่าความคิดเห็นจะบังเอิญตรงกันกับตนเช่นนี้
มุมปากอดไม่ได้ที่จะหยักยก แอบขโมยจูบมุมปากของเคอโยวหรานอย่างมิอาจหักห้ามใจ
---------------------------------------
เชิงอรรถ
[1] จุดตันเถียน 丹田 หมายถึง จุดเืลมที่อยู่ใต้สะดือประมาณสามนิ้ว
[2] โคจรมหาจักรวาล 大周天 หมายถึง วิชาฝึกสำหรับการควบคุมลมปราณจากลัทธิเต๋า มีอยู่สองหลักวิชาใหญ่ คือการโคจรลมปราณแบบจุลจักรวาล (เสี่ยวโจวเทียน 小周天) และการโคจรลมปราณแบบมหาจักรวาล (ต้าโจวเทียน 大周天) การโคจรลมปราณแบบจุลจักรวาลเป็การโคจรลมปราณผ่านสองจุดเท่านั้น แต่การโคจรลมปราณแบบมหาจักรวาลเป็การไหลเวียนพลังปราณไปตามจุดเส้นชีพจรทั่วร่างกาย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้