เถียนซู่เจิงคอยสังเกตใบหน้างามของหลานสาวอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่านางจะโกรธตนยามที่เอ่ยชื่อของเว่ยเจ๋อิโดยพลการ แต่น่าแปลกที่ใบหน้าของเถียนสวี่หลันยังคงเรียบเฉยไร้การเปลี่ยนแปลง
“เป็เช่นนี้เอง ข้าก็เคยได้ยินมาบ้างว่าเขาเป็อัจฉริยะในด้านนี้ แต่นึกไม่ถึงว่าจะสามารถสอนผู้อื่นได้ด้วย ท่านโชคดีจริงๆ นะอาเล็ก”
เถียนสวี่หลันยิ้มให้นาง ทั้งยังตบลงไปที่ไหล่ของนางเบาๆ จากนั้นสตรีทั้งสองก็พูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเื่ต่างๆ อีกหลายเื่ เพื่อเป็การฆ่าเวลาในการรอเถียนห่าวซวน
“พี่ใหญ่อาเล็ก พวกท่านมาทำอันใดที่นี่”
เถียนห่าวซวนส่งเสียงทักทายสตรีทั้งสองมาแต่ไกล เด็กชายที่ตัวสูงแค่หน้าอกของนางวิ่งตรงมาที่ศาลาอย่างรวดเร็ว ตะวันยามบ่ายยังคงส่องแสงร้อนแรง ทำให้บนใบหน้ากลมที่เหมือนซาลาเปาของเถียนห่าวซวนมีเหงื่อผุดขึ้นมาตามไรผม เถียนสวี่หลันหยิบผ้าเช็ดหน้าของนางออกซับเหงื่อให้น้องชายอย่างอ่อนโยน
“เหนื่อยหรือไม่”
เสียงหวานเอ่ยถามน้องชายที่ดูเหนื่อยหอบเล็กน้อย เพราะต้องวิ่งมาหาพวกนาง
“ข้าไม่เหนื่อยขอรับ ว่าแต่พวกท่านสองคนกำลังจะไปที่ใดหรือ เหตุใดมาถึงมานังอยู่ที่นี่ กลางวันร้อนจะตาย ระวังท่านย่าจะดุเอานะหากท่านเกิดไม่สบายขึ้นมา”
เถียนสวี่หลันหัวเราะเสียงใส เ้าอันธพาลน้อยของนางรู้จักทำตัวเป็ผู้ใหญ่ริอ่านมาสั่งสอนพี่สาวอย่างนางหรือ เถียนสวี่หลันบีบแก้มนุ่มของเขาเล่นอย่างมันเขี้ยว
“ข้ากับอาเล็กมารอเ้าเข้าไปในอำเภอพร้อมกัน อยากไปด้วยหรือไม่”
เถียนห่าวซวนพยักหน้ารับอย่างตื่นเต้น เพราะเขาไม่ได้ไปในอำเภอนานแล้ว ในระหว่างที่ทั้งสามนั่งรอเกวียนวัวที่ศาลาหน้าหมู่บ้าน ลุงหลิวที่มีอาชีพขับเกวียนวัวรับส่งคนในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียงไปยังอำเภอเหออันก็ขับเกวียนวัวมาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าศาลา
ร่างสูงโปร่งของเว่ยเจ๋อิก็ก้าวลงมาจากเกวียนวัวด้วยท่าทางสง่างาม เถียนสวี่หลันไม่คิดว่าตนเองจะบังเอิญมาเจอเขาที่นี่อีก ร่างบางรีบก้าวเข้าไปหลบที่ด้านหลังของเถียนซู่เจิงอย่างตั้งตัวไม่ทัน แต่น่าเสียดายที่เขาเห็นนางแล้ว เว่ยเจ๋อิมองสำรวจสามคนที่ยืนอยู่หน้าศาลา ก่อนก้าวเข้ามาหาเถียนซู่เจิง
“เ้ากำลังจะไปไหน”
เขาไม่แม้แต่จะทักทายสองพี่น้องที่ยืนอยู่ด้วยกัน เถียนซู่เจิงมีท่าทีอึดอัดเล็กน้อยที่เขาแสดงออกเช่นนี้ เถียนสวี่หลันเห็นเว่ยเจ๋อิไม่สนใจตนนางก็รีบดึงมือน้องชายเดินไปที่เกวียนวัวอย่างรวดเร็ว คล้ายกำลังหนีอะไรบางอย่าง
“อาเล็ก ถ้าวันนี้ท่านไม่ว่างเราค่อยไปวันอื่นกันก็ได้ วันนี้ข้าไปกับซวนเอ๋อก่อน ไปเร็วท่านลุงหลิว”
เถียนสวี่หลันเร่งคนขับเกวียนวัวให้รีบไป เว่ยเจ๋อิไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางต้องแสดงท่าทางหวาดกลัวเขาเช่นนั้นด้วย เขาเพียงเข้ามาคุยกับเถียนซู่เจิงเท่านั้นมิได้คิดจะทำอันใดนางเสียหน่อย
“แม่หนูผู้นั้นไม่ไปด้วยหรือ”
ลุงหลิวถามเถียนซู่เจิง ก่อนจะใช้แซ่ฟาดไปที่วัวไม่แรงนักเพื่อกระตุ้นให้มันออกเดิน
“ขะ...ข้าก็จะไปเ้าค่ะ รอข้าก่อน”
ลุงหลิวดึงเชือกวัวให้หยุดเดินเพื่อรอนาง
“เว่ยเจ๋อิเอาไว้เราค่อยคุยกันวันหลัง ข้ามีธุระที่อำเภอ ต้องขอตัวก่อน”
นางรีบวิ่งตามให้ทันเกวียนวัวที่หยุดรอ เว่ยเจ๋อิรู้สึกคาใจเขาจึงเดินตามนางไป ด้วยขาที่ยาวกว่าทำให้เขาก้าวไม่กี่ก้าวก็ทันนางแล้ว เถียนซู่เจิงขึ้นไปนั่งบนเกวียนวัวโดยที่ไม่รู้ว่าด้านหลังของตนมีร่างสูงตามมาด้วย คนที่ใมากกว่าใครคือเถียนสวี่หลัน
นางรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกที่ต้องนั่งอยู่ในสถานที่เดียวกันกับเขา นางไม่ชอบที่เว่ยเจ๋อิมองมาที่นางอย่างสำรวจ เพราะมันเหมือนกับเขาสามารถมองเห็นทะลุจิตใจของนางได้ เถียนสวี่หลันค่อยๆ ถอยออกไปจนสุดม้านั่ง ตลอดทางนางเอาแต่นั่งเงียบและก้มหน้าไม่ยอมพูดจากับใคร มีเพียงเสียงของน้องชายของนางที่พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด
“เ้าไปทำอันใดที่อำเภอเหออัน”
หลังจากที่เกวียนวัวออกวิ่งไปได้สักระยะ เขาจึงเอ่ยถามเถียนซู่เจิงที่นั่งอยู่ด้านข้าง
“ข้ากับหลันเอ๋อและซวนเอ๋อแค่อยากจะเข้าไปเที่ยวเล่นในอำเภอเท่านั้น เ้าลืมแล้วหรือว่าพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ของข้าเปิดร้านขายของในอำเภอ อีกอย่างหลันเอ๋อเองก็อยากได้กระดาษเพื่อไปคัด...”
“อาเล็กท่านหิวหรือไม่!! เอาไว้เราไปถึงอำเภอเหออันเราหาอะไรกินกันก่อนก็ดีนะ ซวนเอ๋อเองก็คงจะหิวแล้วเช่นกัน”
เถียนสวี่หลันรีบเอ่ยขัดขึ้นก่อนที่อาเล็กของนางจะบอกเว่ยเจ่อิเื่ที่นางเริ่มเรียนอ่านเขียน เพราะนางไม่อยากให้เขาใช้สายตาถูกนางไปมากกว่านี้
เมื่อปีก่อนเถียนสวี่หลันเคยโกรธเว่ยเจ๋อิที่เขาไม่สนใจ นางเลยพูดจาดูถูกเกี่ยวกับการเรียนและสำนักศึกษาของเขามาก่อน หากให้เขารู้ว่านางกำลังเรียนหนังสือเขาจะต้องดูถูกนางเป็แน่ นางไม่อยากให้ตนเองจะต้องอับอายไปมากกว่านี้
“ดะ..ได้”
เถียนซู่เจิงพยักหน้าตอบรับคำพูดของหลานสาว นางเหลือบตามองใบหน้าด้านข้างของสหายตนที่กำลังขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจที่เถียนสวีหลันเอ่ยทะลุกลางปล้องขึ้นมา เถียนสวี่หลันที่นั่งอยู่จนสุดม้านั่ง ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะมองออกไปด้านนอกเกวียนวัว
อาเล็กเองก็อยู่ที่นี่เขาคงไม่กล้าทำอันใดรุนแรงกับนางหรอกกระมัง เถียนสวี่หลันเอ่ยปลอบตนเองในใจ เว่ยเจ๋อิที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเถียนสวี่หลันเอาแต่จ้องหน้านางอยู่เช่นเดิม
เขารู้สึกแปลกใจในพฤติกรรมของนางไม่น้อย หากในเวลาปกตินางคงจะเข้ามาประชิดตัวเขาแล้ว ยิ่งในสถานที่จำกัดพื้นที่เช่นเกวียนวัวนางยิ่งจะต้องฉวยโอกาสเพื่อเข้าหาเขาให้ได้
แต่นี่เกิดอันใดขึ้นกัน นางไม่เพียงไม่เข้าหาตน แต่นางถึงกับถอยออกไปจนสุดปลายม้านั่งเพื่ออยู่ให้ห่างจากเขาเป็เช่นนี้ก็ดีแล้วมิใช่หรือ นี่เป็สิ่งที่เขา้ามาตลอด แต่เหตุใดเขาจะต้องรู้สึกหงุดหงิดมากมายเพียงนี้
เถียนสวี่หลันไม่รู้ความคิดในใจของเว่ยเจ๋อิ เมื่อเกวียนวัวมาถึงทางเข้าอำเภอเหออัน นางก็รีบจ่ายเงินค่าโดยสารสำหรับสามคนจากนั้นจึงรีบพาน้องชายเดินตัวปลิวไปที่ร้านขายบะหมี่ทันที ในใจของนางตอนนี้หวังแค่ว่าคนผู้นั้นจะไม่ตามมาที่นี่อีก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้