หลี่เต๋อเซินที่รักษาความสงบและผ่อนคลายมาเป็เวลานานตอนนี้กลับโกรธเป็ฟืนเป็ไฟสร้างความตื่นใให้กับแขกทุกคนที่อยู่ที่นี่ ผู้บริหารหลายคนของมู่หยุนคอร์ปอเรชั่นถามท่านประธานอย่างรวดเร็วว่าเกิดอะไรขึ้น
หลี่เต๋อเซินมีสีหน้าเคร่งเครียดแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ในขณะที่หลี่มู่หัวที่นั่งอยู่ข้างเขารู้สึกไม่พอใจเหมือนเขาคิดอะไรได้บางอย่าง
ขณะนั้นเองมีผู้ชายใส่เสื้อเชิ้ตลายดอกเดินโซเซเข้ามาภายในห้อง ใบหน้าของเขาขึ้นสีแดงเพราะแอลกอฮอล์และกำลังพูดพล่ามบางอย่าง กลิ่นเหม็นเหล้าจากร่างกายของเขาโชยมาแต่ไกล
ใบหน้าของชายคนนี้คล้ายคลึงหลี่มู่หัวมากเพียงแต่เตี้ยกว่าเล็กน้อยและดูเป็คนขี้เมา เขาไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงทันทีที่ชายคนนั้นเข้ามาถึงห้องอาหาร เขาพลันล้มลงไปกองกับพื้นสารรูปดูไม่ได้จากนั้นเขาก็คลานสี่ขาเข้าไปข้างๆ หลี่เต๋อเซินแล้วกอดขาของหลี่เต๋อเซินเอาไว้และเริ่มร้องไห้ฟูมฟาย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าสร้างความลำบากใจให้กับทุกคนที่พบเห็นอย่างมากทั้งหมดเป็เื่ภายในของตระกูลหลี่ ไม่ว่าชายคนนี้จะเป็ใคร แต่การกระทำต่ำทรามทั้งหมดของเขาก็เพียงพอจะก่อปัญหาให้หลี่เต๋อเซินแล้ว
“ทุเรศ”
ร่างกายของหลี่เต๋อเซินขณะนี้อ่อนแอเป็ทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งตอนนี้ความโกรธประดังเข้ามา ส่งผลให้ใบหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็สีแดงก่ำขณะที่ขาของเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เขาจึงเลือกใช้มือผลักศีรษะของชายคนนั้นออกไปตรงๆด้วยความรังเกียจ
ชายหนุ่มถูกผลักอย่างแรงจนร่วงไปกองกับพื้นแต่ก็ยังไม่ได้สติ และยังคงร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลอยู่เช่นนั้นเขาคลานไปกอดขาของหลี่เต๋อเซินอีกครั้ง พร้อมร้องไห้หนักกว่าเดิม
“ฮือ… พ่อ ชีวิตผมไม่เหลืออะไรแล้ว...ไดน่าไม่้าผมแล้ว... ไดน่าจากผมไปอยู่กับผู้ชายคนอื่นแล้ว... ฮือ...”
คนของมู่หยุนคอร์ปอเรชั่นรู้อยู่แล้วว่าชายคนนี้คือใครขณะที่หยางเฉินและคนอื่นๆ รู้แค่ว่าเขาเป็ลูกชายอีกคนของหลี่เต๋อเซิน
หลี่เต๋อเซินถูกทำให้เสียหน้าต่อหน้าทุกคนและนั้นทำให้เขายิ่งทวีความโกรธมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามเป็เื่น่าเสียดายที่ไอ้สารเลวตรงหน้าดันเป็ลูกชายของเขาเสียนี่เขาไม่สามารถโทรบอกให้บอดี้การ์ดมาลากตัวเขาออกไปได้ดังนั้นเขาทำได้เพียงเก็บงำโทสะเอาไว้และพูดกับทุกคน
“ขอโทษด้วยนะครับนี่คือลูกชายคนโตของผม มู่เฉิง ผมไม่ได้สั่งสอนเขาให้ดีดังนั้นเขาจึงได้แต่ลอยไปลอยมา ผมล่ะจนปัญญาจะอบรมแล้วเื่นี้ช่างขายหน้าทุกคนจริงๆ"
“ท่านประธาน คุณไม่จำเป็ต้องกังวลทุกครอบครัวต่างมีปัญหาด้วยกันทั้งนั้นผมคิดว่าคุณชายท่านนี้แค่วิ่งร้องไห้มาหาคุณเพราะอกหักก็เท่านั้น” ผู้บริหารคนอื่นๆพยายามปลอบโยน
หลี่มู่หัวยืนขึ้นและเดินไปด้านข้างของหลี่มู่เฉิง คอยช่วยเหลือเขาอยู่ข้างๆ
“พี่ครับไม่ว่าปัญหาจะเป็อะไรก็ตาม เราสามารถมาปรึกษากันภายหลังได้อย่ากอดขาพ่อไว้แบบนี้อีกเลย แขกกำลังมองท่านอยู่นะครับ”
หลี่มู่เฉิงตอบสนองสถานการณ์นี้โดยหันไปกอดขาของหลี่มู่หัวแทน
“ โอ้ น้องพี่ พี่เสียใจมากจริงๆ...ไม่ว่าไดน่า้าสิ่งใดพี่ก็ให้ได้ทั้งหมด...แต่ทำไมเธอต้องทิ้งพี่ไปแบบนี้ด้วย... ฮือๆ...”
“พี่ครับ... อย่าร้องไห้อีกเลยพวกเราไปคุยกันข้างนอกเถอะ ให้ฉันช่วยพี่หาทางออกนะ?” ราวกับหลี่มู่หัวเป็พี่ชายเสียเองส่วนหลี่มู่เฉิงเป็น้องชายที่าเ็และหมดหนทาง
หลี่มู่เฉิงเหมือนกับเด็กน้อยที่ไม่ยอมขยับตัวไหนเขายังคงส่งเสียงร้องไห้ พลางพูดประโยคชวนหดหู่อย่าง “ไดน่า อย่าจากฉันไป” หรือ “ปล่อยฉันตาย ลงอยู่ตรงนี้” วนไปวนมาไม่จบสิ้น
ฉากที่เห็นตรงหน้านี้ค่อนข้างโหดร้ายยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าสถานการณ์นี้มีแขกหลายคนร่วมอยู่ด้วย
ทุกคนอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกหลังจากนั้นก็ปรากฏร่างของบุรุษชุดดำบุกเข้ามาในห้องอาหารเขามีร่างกายที่กำยำและใบหน้าคมเข้ม เมื่อชายคนนั้นเห็นหลี่มู่เฉิงในสภาพที่น่าสมเพชแล้วก็ตรงเข้ามาเพื่อช่วยเหลือเขาในทันทีจากนั้นก็โค้งคำนับต่อหลี่เต๋อเซินและพูดขึ้นว่า
“ขอโทษครับท่านประธานที่ผมไม่สามารถหยุดคุณชายเอาไว้ได้ เป็ความผิดของผมเอง”
ท่าทางของหลี่เต๋อเซินผ่อนคลายลง เขาเอ่ยถามว่า “หลี่เิ ฉันให้นายดูแลเขาแท้ๆแต่ทำไมเขากลับมาเป็แบบนี้อีกแล้ว?”
“ท่านประธานครับ หลังจากที่คุณไดน่าลูกสาวของ เอิล สก็อต ชาวอังกฤษจบการศึกษาเธอเลือกที่จะกลับไปประเทศอังกฤษเพื่อแต่งงาน ดังนั้นเธอจึงขอเลิกกับคุณชายนับจากนั้นคุณชายก็ดื่มเหล้ามาตลอดทั้งคืนจน มีสภาพอย่างที่เห็นนี่แหละครับท่าน”หลี่เิตอบคำถามกลับไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“สำหรับผู้หญิงต่างชาติคนหนึ่งแล้วอีกนานแค่ไหนถึงเขาจะหยุดทำตัวน่าขายหน้าแบบนี้เสียทีนะ” หลี่เต๋อเซินไอจนตัวโยนอยู่หลายครั้งด้วยความโมโหจนหลี่มู่หัวยืนที่อยู่เคียงข้าง ต้องคอยกล่าวปลอบใจ
เมื่อมองหลี่มู่หัวที่มีสีหน้าห่วงใยหลี่เต๋อเซินจึงรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย เขาโบกมือและพูด
“พาไอ้ลูกชายสารเลวคนนี้กลับห้องไปอย่าให้เขาเสนอหน้ามาทำเื่น่าอับอายแบบนี้อีกบอกเขาด้วยว่าหลังจากที่เขาได้สติแล้ว ถ้าเขายังกล้าดื่มเพราะผู้หญิงคนนั้นอีกฉันจะลงโทษเขาเป็เวลา 3 เดือน"
“รับทราบครับ ท่านประธาน” หลี่เิรับคำสั่งเสียงดังฟังชัดจากนั้นก็ใช้กำลังลากหลี่มู่เฉิงออกไปทันที
หลี่เต๋อเซินจ้องมองไปที่ประตูด้วยสายตาว่างเปล่าชั่วขณะจากนั้นบังคับตัวเองให้ฝืนยิ้มออกมาและกล่าวว่า
“ขอโทษที่ทำให้ทุกท่านในะครับการไม่ได้อบรมสั่งสอนลูกคนนี้ให้ดีถือเป็ความเสียใจที่สุดในชีวิตของผมโชคดีที่ผมมีลูกอีกคนคือ มู่หัว เขาสามารถเป็ทายาทสืบต่องานต่อไปได้ถือได้ว่า์เมตตาผมแล้ว”
ฟังหลี่เต๋อเซินพูดอย่างนั้นผู้บริหารของมู่หยุนคอร์ปอเรชั่นต่างร้องสรรเสริญขึ้นมาในทันทียังไงทุกคนต่างรู้อยู่แล้วว่าหลี่มู่หัวอยู่มีฐานะใดในบริษัทแม้แต่อู๋เต๋าที่เป็แขกก็ยังกล่าวสรรเสริญตามพวกเขาพูดเป็เสียงเดียวกันว่าหลี่มู่หัวนั้นเป็บุตรที่์ส่งมาเกิดและเป็บุคคลที่หาได้ยากในโลกใบนี้
การสรรเสริญยกยอจากทุกคนไม่ได้ทำให้หลี่มู่หัวมีความสุข เขาแอบกระซิบกล่าวกับหลี่เต๋อเซินว่า
“คุณพ่อครับผมรู้สึกว่าพี่ใหญ่ภายในแล้วเขาเป็คนดีแต่เขาแค่ยังไม่เข้าใจความเ็ปและความพยายามของพ่อ เมื่อเขาเข้าใจพวกเราเขาจะเปลี่ยนไปเป็คนใหม่และตั้งใจทำงานให้กับบริษัท พ่อครับพ่อควรจะให้โอกาสพี่เขานะครับ”
“หึ” หลี่เต๋อเซินหัวเราะขึ้น“ให้โอกาสมัน? แกคิดว่าฉันจะไม่ให้โอกาสมันเลยอย่างนั้นหรือ?3 ปีก่อนฉันให้มันเข้ามามีส่วนร่วมในโปรเจกต์การลงทุนและมันก็ทำล้มเหลว ถ้าฉันไม่เข้ามาก็ไม่รู้ว่าพวกเราจะสูญเสียกันไปอีกมากขนาดไหนสิ่งที่มันรู้มีแค่การร่ำสุรากับบ้านารี อะไรที่แสดงให้เห็นถึงความเป็ผู้ใหญ่ในตัวของมันแกดูแลมันเหมือนพี่ชาย แต่มันทำอะไรให้แกบ้างั้แ่เล็กจนโตเนี่ย?”
“แต่...”
“ไม่มีแต่… ฉันคาดหวังในตัวแกมากจะดีกว่านี้ถ้าแกไม่ทำให้ฉันผิดหวัง” หลี่เต๋อเซินกำชับด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
ได้ฟังดังนั้นเขาก็ทำตัวไม่ถูก หลี่มู่หัวทำได้เพียงพยักหน้าจากนั้นก็ไม่ไม่มีคำพูดใดอะไรออกมาจากปากเขาอีก
หยางเฉินตัดแบ่งชิ้นเนื้องูออกมาและนั่งกินอยู่เงียบๆ ขณะเฝ้าดูความวุ่นวายของตระกูลหลี่ด้วยสายตางุนงงเล็กน้อยแต่มันก็จบไปอย่างว่องไว
หลังจากงานเลี้ยงต้อนรับได้จบลงคนจากมู่หยุนคอร์ปอเรชั่นก็เข้าพักอยู่ที่ Twilight Villa เช่นกันที่นี่เป็ศูนย์กลางของความบันเทิงและการพักผ่อนนอกจากนี้ยังมีเ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ นักธุรกิจ และมหาเศรษฐีภายในรีสอร์ตนี้ดังนั้นพวกเขาจึงแยกย้ายไปหาความสนุกตามแนวทางของตนเอง
หยางเฉินและคนอื่นๆ ที่มาถึงก่อน เดินไปยังห้องพักสุดหรูที่ถูกเตรียมไว้เพื่อพวกเขาหยางเฉินและโม่เชี่ยนนีอยู่ห้องข้างๆ กันในขณะที่อู๋เต๋าและเลขาตัวน้อยของเขาก็อยู่ห้องถัดออกไปอย่างไรก็ตามหลังจากที่เลขารับกุญแจแล้ว เธอทิ้งกระเป๋าเดินทางไว้ในห้องของอู๋เต๋าดังนั้นก็คงไม่จำเป็ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมแล้ว
ในขณะที่หลี่มู่หัวนั่งรอพวกเขาทั้ง 4 คนอย่างสุภาพเพื่อตกลงเื่ที่พักเขาก็พาพวกหยางเฉินเดินชมรอบๆ Twilight Villa แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆและเครื่องอำนวยความสะดวก อาทิ บ่อน้ำพุร้อน ซาวน่า ยิม ห้องชงชาห้องฝึกศิลปะการต่อสู้ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ซึ่งก็เป็ไปตามที่คาดไว้มีสนามแข่งรถที่ด้านหลังรีสอร์ต และพวกเขาเตรียมรถสปอร์ตที่ผิดกฎหมายเอาไว้อยู่หลายคัน
แล้วพวกเขาก็มาถึงคาสิโน Twilight Villa ซึ่งเป็สถานที่สุดท้ายแล้วตอนนี้เป็เวลากลางคืนพอดี อู๋เต๋าและผู้ช่วยของเขาขอตัวเดินแยกออกไปใช้เวลาร่วมกับคนอื่นๆตอนนี้เหลือเพียงแค่หยางเฉินและโม่เชี่ยนนีที่เดินตามหลี่มู่หัวเข้าไปในคาสิโน
เห็นได้ชัดว่าในคาสิโนนั้นน่าสนใจมากกว่าสถานที่อื่นๆแม้ว่าฮ่องกงจะไม่ใช่มาเก๊า แต่ธุรกิจคาสิโนก็ยังคงร้อนแรงสำหรับที่นี่
หยางเฉินไม่เคยสนใจการพนัน เหตุผลก็คือความตื่นเต้นความสนุกที่สุดที่คนคนหนึ่งจะได้รับจากการเล่นการพนันมันเป็ความสนุกและความตื่นใจากการได้รับรางวัลก้อนใหญ่อย่างฉับพลันสำหรับหยางเฉินแล้วนั้น การพนันยังคงห่างไกลจากความตื่นเต้นจากสิ่งที่เขาทำมากนัก
หลี่มู่หัวยิ้มและอธิบายประวัติของคาสิโนและสิ่งที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นที่นี่ ขณะที่เดินอยู่เขาก็ทักทายคนอื่นๆที่ดูคุ้นหน้าคุ้นตาในแวดวงธุรกิจไปด้วย ดูเป็มิตรเป็อย่างมาก
เมื่อทั้ง 3 คนเดินเข้าไปในโซนไพ่นกกระจอกมุมมองที่คุ้นเคยก็เข้าสู่สายตาของพวกเขา
หลี่มู่เฉิงที่สวมชุดสูทสีฉูดฉาดและคาบซิก้าร์ไว้ในปากเขานั่งเล่นไพ่นกกระจอกอยู่กับชายวัยกลางคนที่ดูท่าทางแข็งขันอีกหลายคนขณะที่บอดี้การ์ดส่วนตัวชื่อ หลี่เิ ยืนอยู่เงียบๆ ข้างหลังเขา
หลี่มู่หัวไม่ได้ดูถูกพี่ชายของเขาเหมือนกับคนอื่นๆเมื่อเขามองเห็นพี่ชาย เขาเข้าไปหาทันที
“พี่ชาย โชควันนี้เป็อย่างไรบ้าง?”
หลี่มู่เฉิงหันกลับมามองน้องชายของเขาช้าๆและพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ว่า
“ก่อนหน้านี้ก็ดีอยู่แต่ชุดไพ่ที่ฉันได้ตอนนี้เน่าสุดๆ ฉันก็สงสัยอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะมันเริ่มเป็ั้แ่นายมานี่แหละ”
ฟังหลี่มู่เฉิงพูดกับหลี่มู่หัวแบบนี้โม่เชี่ยนนีที่ประทับใจในตัวของหลี่มู่หัวมาตลอดทั้งวัน ก็เริ่มขุ่นเคือง
“เขาเป็น้องชายของคุณนะนี่คุณจะไม่หยาบคายไปหน่อยเหรอที่พูดจากับเขาแบบนี้?”
หลี่มู่เฉิงสังเกตเห็นโม่เชี่ยนนีดวงตาของเขาเป็ประกาย มองมาที่เธออย่างหยาบโลน
“เธอชื่ออะไรนะ มาจากไหนคืนเดียวคิดเท่าไร?”
“แก...”
เมื่อมองเห็นโม่เชี่ยนนีโมโหขึ้นมาหลี่มู่หัวพยายามไกล่เกลี่ยอย่างรวดเร็ว
“พี่ อย่าทำแบบนี้คุณโม่เป็แขกคนสำคัญที่มาจากบริษัทอวี้เหล่ยที่จงไห่ เธอไม่ใช่ผู้หญิงประเภทนั้น”
“น้องพี่แกจะไปตัดสินอย่างนั้นได้ยังไง? ผู้หญิงแบบเธอส่วนใหญ่ร่านกันทั้งนั้นมันก็แค่แกจะสามารถจ่ายได้เท่าไร ฉันเคยเห็นผู้หญิงแบบนี้มาเยอะแล้วแล้วจะแกล้งทำเป็บริสุทธิ์ผุดผ่องไปเพื่ออะไร?” หลี่มู่เฉิงมีท่าทีอิ่มเอมใจและส่ายหัวด้วยความรังเกียจระคนดูถูก
ในขณะที่หลี่มู่หัวกำลังช่วยไกล่เกลี่ยสถานการณ์นี้อยู่ภายในใจของโม่เชี่ยนนียังคงนึกถึงคำพูดหยาบโลนของหลี่มู่เฉิงการถูกเรียกว่าเป็ผู้หญิงประเภทนั้นต่อหน้าคนมากมายสำหรับเธอแล้วถือว่าเป็เื่ที่น่าขายหน้าเมื่อทนความอึดอัดจากสายตาของคนจำนวนมากไม่ไหวโม่เชี่ยนนีจึงกัดฟันวิ่งออกไปจากคาสิโนด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
หลี่มู่หัวรีบสั่งให้บอดี้การ์ด 2 คนตามไปดูแลโม่เชี่ยนนีแล้วพาเธอกลับห้องพัดอย่างปลอดภัย อย่างที่รู้กันว่า Twilight Villa เป็สถานที่ที่ใหญ่มากและเป็เื่ยากในการจดจำเส้นทางสำหรับคนที่มาเป็ครั้งแรกนี่แสดงให้เห็นว่าหลี่มู่หัวเป็คนที่รอบคอบและมีน้ำใจ
หยางเฉินเดินเข้าไปหาหลี่มู่เฉิงเงียบๆวางมือไว้บนบ่าของเขา และยิ้มกลับไปที่เขา
“แก้าอะไร? ฉันไม่ใช่เกย์” หลี่มู่เฉิงค่อยๆ ถอยห่างจากหยางเฉิน
หยางเฉินยิ้มและพูดว่า
“ผมคิดว่าคุณกล้าหาญมากกว่าน้องชายตัวเองแต่ผมไม่รู้ว่าคุณมีฝีมือในการเล่นพนันดีแค่ไหน คุณกล้าพนันกับผมมั้ย?”