เหอตังกุยเดินออกจากห้องโถง รอยยิ้มบนใบหน้าสดใสไม่น้อย ฮ่า ๆ ๆ มียาใดในแผ่นดินที่รักษาได้ทุกโรค? เดิมทีพุทราเ่าั้ก็ถูกทำขึ้นเพื่อรักษาโรคของเหล่าไท่ไท่เท่านั้น
ปีนี้เหล่าไท่ไท่อายุห้าสิบปีแล้ว เหตุที่ทำให้นางป่วยและอ่อนแอจนเกิดเป็โรคที่ไม่สามารถรักษาหายได้คือตอนที่นางให้กำเนิดท่านลุงสาม อีกทั้งความเศร้าโศกเื่ท่านตาหลัวตู้จ้งจากไปเมื่อเจ็ดปีก่อน สาเหตุเหล่านี้ทำให้ร่างกายของนางเกิดภาวะบกพร่อง เืลมยุ่งเหยิง ไร้ระเบียบ เส้นลมปราณถูกปิดกั้น เส้นเอ็นหดตัว การหายใจไม่คงที่ เ็ปจนขยับไม่ได้ รวมถึงไม่อยากอาหาร
สูตรยา “พุทราช่วยชีวิต” นั้นคิดค้นโดยท่านตาของนางเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยของเหล่าไท่ไท่ ต่อมาแม่ของนางแต่งงานกับตระกูลเหอในเมืองหลวงจึงมอบสูตรยาครึ่งแผ่นให้ตระกูลสามี หลายปีต่อมาร้านยาเย่าซือถังได้เพิ่มสมุนไพรอีกสิบห้าชนิด เช่นโสม หมาหวง หวงฉิน ซิ่งเหริน ฝูเสิน เฉินเซียง ชวนฉยงและตังกุยซึ่งช่วยขับลมและทำให้เืไหลเวียนดี พัฒนาจนเกิดเป็ยาคืนชีวิต ทั้งยังมีขี้ผึ้งจือมิ่งซึ่งเป็ที่รู้จักกันในหมู่ชาวบ้านในชื่อ “ยายืดอายุ” พวกเขาประกาศว่ายานี้คือสูตรลับที่ตระกูลเหอคิดค้น เนื่องจากยาค่อนข้างทำยากจึงมีราคาสูงกว่าทองคำถึงสิบห้าเท่า ถึงกระนั้นยาก็ยังเป็ที่นิยมมากจนขาดตลาด มีเพียงต้วนเสี่ยวโหลวทายาทตระกูลต้วนที่สามารถซื้อยาจากร้านเย่าซือถังได้
เหอตังกุยพบสูตรยาทั้งหมดจากจดหมายที่ท่านตาทิ้งไว้ให้นางในชาติก่อน โดยระบุเฉพาะว่า “เป็ยารักษาอาการเจ็บป่วยหลังคลอดของไฉต่านภรรยาที่รักของข้า” ความรู้ทางการแพทย์ของเหอตังกุยในเวลานั้นมีจำกัดยิ่งนัก นางจึงกลุ้มใจไม่น้อย ในเมื่อท่านตามีวิธีรักษาอาการป่วยของเหล่าไท่ไท่ เหตุใดจึงไม่มอบให้เหล่าไท่ไท่โดยตรง แต่กลับให้นางเก็บไว้เป็ความลับ? ด้วยท่านตาของนางมอบสิ่งนี้ให้เป็การส่วนตัว นางกลัวว่าหากครอบครัวสาขาแรกและสาขาสองรู้จะเกิดปัญหาใหญ่จึงไม่กล้านำเื่นี้ไปบอกใคร เพียงแอบใส่ยาลงในอาหารของเหล่าไท่ไท่ด้วยตนเองตามวิธีในใบสั่งยาเป็ประจำ ต่อมาอาการไขข้ออักเสบของเหล่าไท่ไท่ก็ดีขึ้นมากแต่ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
หลังอยู่ในตำหนักอ๋องหนิงหลายปี ทักษะการแพทย์ของเหอตังกุยก็พัฒนาขึ้นมาก นางพบว่าสูตรยานั้นไม่สมบูรณ์ ในยาหลักและยารองขาดสมุนไพรสี่ชนิด จึงคิดปรับแก้สูตร สองปีให้หลังก็สามารถรวบรวมสูตรยาโบราณหลายสูตรเข้าด้วยกัน พัฒนาเป็ “สูตรยาช่วยชีวิต” แสนมหัศจรรย์ นอกจากสามารถรักษาโรคไขข้ออักเสบของเหล่าไท่ไท่ได้หายขาด ซ้ำยังรักษาอาการอัมพาตครึ่งซีกได้อีกด้วย โดยสามารถรักษาให้หายได้ในทันที เมื่อเทียบกับยาคืนชีวิตและขี้ผึ้งจือมิ่งก็ถือว่าดีกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่า
ใน่ฤดูร้อนก่อนเหอตังกุยถูกฆ่า นางเคยนำสูตรยาแผ่นนี้กลับไปที่ตระกูลหลัว และหารือกับมารดาเป็การส่วนตัว นางคิดว่าสูตรยาดี ๆ เช่นนี้ควรเผยแพร่ให้เป็ประโยชน์ต่อผู้อื่น ให้คนในแผ่นดินนี้ได้ใช้ แต่เมื่อฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์ ร้านยาซานชิงถังก็ด้อยกว่าร้านยาเย่าซือถังและร้านยาอู่สือถังไม่น้อย ทำให้ไม่สามารถกลับมารุ่งโรจน์เหมือนก่อนได้อีก นางจึงตัดสินใจส่งสูตรยานี้ให้ตระกูลหลัวเพื่อเป็สูตรยาลับของร้านซานชิงถัง สืบทอดรุ่นสู่รุ่น ทว่าแม่ของนางกลับไม่เห็นด้วย เมื่อชวนสยงครุ่นคิดครู่หนึ่งจึงเอ่ย “ครอบครัวสาขาแรกและสาขาสองนั้นขัดแย้งกัน ตอนนี้พวกเขากำลังแบ่งทรัพย์สินของตระกูล ข้าคิดว่าสูตรยานี้ควรมอบให้พี่ชายคนโตหลัวชวนไป๋เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา” หลัวชวนไป๋คือพี่ชายร่วมมารดาของชวนสยง แต่หลัวชวนกู่และหลัวชวนผู่นั้นเป็พี่น้องต่างมารดาซึ่งก็คือเหล่าไท่ไท่ เมื่อมารดาแนะนำเช่นนี้ เหอตังกุยก็สามารถเข้าใจได้ นางเคารพการตัดสินใจของมารดามาโดยตลอด ดังนั้นจึงยอมทำตามคำแนะนำ
ไม่รู้ว่าท่านลุงสองได้ยินเื่ “สูตรยาวิเศษรักษาโรคเรื้อรังหลายปีของเหล่าไท่ไท่” ถูกครอบครัวสาขาแรกเอาไปมาจากที่ใด เขาจึงรีบไปหารือกับมารดาของตนทันที หลังเหล่าไท่ไท่เอ่ยแนะนำอย่างลวก ๆ เขาจึงไปตามหาเหอตังกุยที่ตำหนักอ๋องหนิง เหอตังกุยปฏิเสธอ้อม ๆ ตามคำแนะนำของมารดา ขณะนั้นโจวจิงหลันและซูซื่อเหนียงก็อยู่ในเหตุการณ์ ตอนนั้นพวกนางและเหอตังกุยมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เมื่อได้ยินบทสนทนาก็ไม่ได้พูดอันใด ทว่าพวกนางกลับขอให้หลัวชวนกู่อยู่ต่อพร้อมบอกว่าพวกนางรู้สถานที่ที่สนมเหอซ่อนสูตรยา ตราบใดที่เขายอมร่วมมือจัดการสนมเหอ สูตรยานั้นก็จะตกเป็ของเขา
หลัวชวนกู่ไตร่ตรองเื่นี้อยู่นาน ตระกูลหลัวถูกแบ่งออกแล้ว หลานสาวผู้มีความสามารถก็มีความสัมพันธ์อันดีกับครอบครัวสาขาแรก เมื่อครอบครัวสาขาแรกมีปัญหา นางมักจะจัดการให้ทันที แต่เมื่อครอบครัวสาขาสองขอความช่วยเหลือ นางกลับทำให้มันล่าช้าออกไป ดังนั้นเขาจึง้าสูตรยาแทนที่จะพึ่งพาหลานสาวเนรคุณ มิสู้ฉวยโอกาสครั้งนี้แย่งชิงสูตรยาไว้กับตัว เมื่อมีสูตรยาก็เท่ากับมีทุกอย่างในมือ ภรรยาและลูกสาวก็ไม่ต้องมาตำหนักอ๋องหนิงเพื่อเอาใจเหอตังกุยอีกต่อไป
ตามแผนของโจวจิงหลัน หลัวไป๋ฉยงต้องหาข้ออ้างว่านางถูกตระกูลสามีทำร้ายจึงหนีออกจากจวน แต่ไม่ได้กลับจวนตระกูลหลัว เพราะนางซื้อจวนข้างตำหนักอ๋องหนิงไว้แล้ว ตกดึกก็มักขอให้สาวใช้ไปหาเหอตังกุยหลายครั้งโดยบอกว่า “คุณหนูรองจะแขวนคอตาย” “คุณหนูรองกำลังจะจมน้ำตายในบ่อ” หรือไม่ก็ “คุณหนูรองกินยาพิษแล้วกระอักเื” ด้วยความเป็ห่วง เหอตังกุยจึงมักมาช่วยคุณหนูรองหลายครั้งในกลางดึก ทำให้โจวจิงหลันมีหลักฐานว่าเหอตังกุยมักออกจากตำหนักอ๋องหนิงบ่อย ๆ
ซุนเหม่ยเหนียงฮูหยินของหลัวชวนกู่เป็คนบอกความจริงที่โหดร้ายเหล่านี้แก่นางขณะมา “เยี่ยม” หลังจากนางถูกขังในคุกน้ำ
ซุนเหม่ยเหนียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งพลางกล่าวด้วยความสะใจว่ามันเป็ความผิดของเหอจิ้งเซียนที่ทรยศข้า เขาบอกว่าจะแต่งงานกับข้าแต่เขาไม่รักษาสัญญา เมื่อเห็นลูกสาวคนเดียวของเขาตกอยู่ในสภาพสิ้นหวังเช่นนี้ ข้ามีความสุขมาก แม้แต่ยามฝันก็ยังยิ้ม เจิงเยวี่ยเหลียนผู้แทนที่ตำแหน่งภรรยาแทนหลัวไป๋ฉยงไม่ใช่นางโลมแต่อย่างใด นางเป็ลูกพี่ลูกน้องของข้า ลูกชายลูกสาวที่เหอจิ้งเซียนรักสุดหัวใจล้วนเกิดจากเจิงเยวี่ยเหลียนกับสารถีผู้หนึ่ง เหอจิ้งเซียนติดค้างข้าและเ้าก็ควรชดใช้แทนเขา”
ขณะนี้เหอตังกุยที่ไม่สามารถพูดได้เข้าใจแล้วว่าที่แท้เทียนเอ๋อร์ลูกสาววัยครึ่งขวบของนางก็ต้องมาชดใช้ความผิดแทนเหอจิ้งเซียนบิดาแท้ ๆ ที่นางไม่เคยพบหน้า
“ ฮ่า ๆ ๆ ” เหอตังกุยหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตา “น่าสนใจ น่าสนใจมาก ฮ่า ๆ ” ชาติที่แล้ว “สูตรยาช่วยชีวิต” ที่เป็ความลับของตระกูลเหอถูกทำเป็ “พุทราช่วยชีวิต” และตอนนี้ก็กลายเป็มรดกตกทอดของตระกูลหลัวอีกครั้ง
หนิงยวนขมวดคิ้วมองสาวน้อยที่กำลังหัวเราะทั้งที่น้ำตาไหลพรากเต็มใบหน้า แม้นางจะหัวเราะร่าแต่หนิงยวนก็ััได้ถึงความเศร้าโศก เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดเด็กสาวอายุสิบขวบจึงโศกเศร้ามากถึงเพียงนี้ ขณะเดียวกันก็ไม่รู้ว่าควรพา “เฟิงหยาง” ไปทำ “บททดสอบสนทนา” เป็ครั้งที่สองหรือควรหลีกเลี่ยงสตรีผู้นั้นอย่างชาญฉลาด แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากนั้นไม่นานสาวน้อยที่หัวเราะอย่างบ้าคลั่งไม่หยุดผู้นั้นจะเืไหลออกจากตา หู จมูกและปากก่อนหมดสติล้มกองกับพื้น
หนิงยวนเดินเข้าใกล้ด้วยความลังเล ก่อนเอื้อมมือตรวจสอบลมหายใจและจับชีพจรของนางครู่หนึ่ง นี่นาง...
“คุณชาย นางเป็อันใดหรือ? พวกเราควรเรียกคนในจวนมาตรวจสอบหรือไม่?” เฟิงหยางมองสาวน้อยผู้มีเืไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดพลางเอ่ยแนะนำ “ไม่ได้ เรียกไม่ได้ เ้ารีบไปเปิดห้องข้าแล้วเฝ้าหน้าประตู ห้ามใครเข้าใกล้เด็ดขาด” หนิงยวนอุ้มร่างที่นอนบนพื้นขึ้นมาก่อนเอ่ยสั่งเสียงต่ำ
......
“สวบ ๆ ๆ ๆ ” เสียงฝีเท้าประหลาดดังขึ้นท่ามกลางป่าไผ่เงียบสงัด คล้ายมีใครบางคนกำลังเหยียบใบไผ่ แต่ระหว่างก้าวเดินทุกก้าวกลับเท่าคนปกติเดินถึงยี่สิบสามสิบก้าว เมื่อเสียงดังขึ้นท่ามกลางป่าไผ่กลางดึกก็ยิ่งฟังดูแปลกนัก
เ้าของเสียงเดินนั้นไม่ใช่คนอื่นไกลแต่เป็เนี่ยชุนผู้ชำนาญทักษะฝ่าเท้าไร้เงา ในยุทธภพรู้จักเขาในนาม “นักเดินเท้าลึกลับผู้ว่องไว” เนี่ยชุนเดินตัดผ่านป่าไผ่ขมอย่างชำนาญ ไม่นานก็ถึงจุดสิ้นสุดของป่า เมื่อผ่านผืนทรายที่เต็มไปด้วยหินแปลก ๆ เหยียบย่างข้ามบ่อน้ำดำที่ตื้นลึกไม่ราบเรียบ ในที่สุดก็มาถึงปากทางถ้ำลึก หลังฟังอยู่ด้านนอกครู่หนึ่ง จู่ ๆ เขาก็เดินในท่าแปลกประหลาดเนื่องจากพยายามใช้ฝ่าเท้าไร้เงาอย่างเต็มที่ ก่อนะโเสียงดัง “ข้ารู้ว่าเ้าอยู่ในนั้น รีบออกมาแล้วยอมมอบตัวเสีย”
เสียงแหลมเล็กดังขึ้นในอากาศ เนี่ยชุนเข้ามาในถ้ำด้วยความรวดเร็ว แสงสลัวในถ้ำทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจนนัก ไม่นานเนี่ยชุนก็เข้ามาถึงส่วนลึกของถ้ำ พลันมีคนเอ่ยเสียงต่ำ “ศิษย์น้อง ช้าก่อน ข้าเอง”
เนี่ยชุนยืนนิ่งกับที่พลางขมวดคิ้วมองชายวัยกลางคนผมยาวประบ่า ในแววตาไร้ซึ่งความรู้สึกใด ก่อนเอ่ยเ็า “เ้ามาทำอะไรที่นี่?”
ชายวัยกลางคนโบกมือ “หลายวันก่อนข้าถูกนักฆ่าลอบสังหาร วรยุทธ์ของเขาสูงส่งจนน่าประหลาดใจจนข้าเกือบเอาชีวิตไม่รอด ข้าพยายามหลบหนีเต็มที่แต่ก็ได้รับาเ็สาหัส โชคดีที่พบหลัวม่ายทง เขาเคยทำงานกับข้าในราชสำนัก เขาประทับใจในตัวข้าและรู้ว่าข้าถูกย้ายจากกองทัพเข้าไปในหน่วยจิ่นอีเว่ยเพื่อรับหน้าที่ผู้บัญชาการคนใหม่ ข้าจึงขอความช่วยเหลือจากเขาและบอกเขาว่าข้า้าหาสถานที่เงียบ ๆ เพื่อพักฟื้น เขาจึงแนะนำที่นี่ ข้าไม่ได้บุกรุกแต่นายท่านผู้เฒ่าหลัวอนุญาตแล้ว”
เนี่ยชุนเอ่ยถามด้วยสีหน้าเ็า “หมายความว่าเ้าฆ่าอีกาพวกนั้นหรือ? เพลิงไหม้...เ้าก็เป็คนจุดใช่หรือไม่? เ้าจะอยู่ที่นี่นานเพียงใด?”
“ฮ่า ๆ ๆ ศิษย์น้อง เ้าช่างไร้ความรู้สึกเสียจริง เ้าและข้าไม่ได้พบกันนานถึงสิบปี ทว่าเมื่อพบหน้า เ้ากลับสนใจเพียงเื่นกเสียงดังน่ารำคาญพวกนั้นตาย เ้า้าไล่ข้าใช่หรือไม่?” ชายวัยกลางคนนั่งหน้ากองไฟ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหม่นหมอง “ข้าสงสัยว่าคนในหน่วยองครักษ์จิ่นอีเว่ยจะเปิดเผยเบาะแสของข้า ดังนั้นข้าจะไม่ออกไปก่อนที่ข้าจะหายดี ในเมื่อเ้ารู้แล้วว่าข้าอยู่ที่นี่ เ้าต้องนำอาหารและน้ำมาให้ข้าทุกวัน เช่นนี้ข้าก็ไม่จำเป็ต้องขโมยอาหารที่ห้องครัวแล้ว หากคนในจวนไม่เห็นข้าก็สามารถลดอันตรายลงได้บ้าง...ฮ่า ๆ ๆ ศิษย์น้อง เ้ารู้ว่าการที่ข้ารักษาตัวอยู่ที่นี่เป็ความลับ ใครก็ตามที่เห็นข้า คนผู้นั้นก็ต้องตาย”
“ไม่เจอกันหลายปี เ้ายังใจดำอำมหิตเช่นเคย” เนี่ยชุนกัดฟันกล่าว
“ฮ่า ๆ ๆ ไม่ถึงเพียงนั้นหรอก ข้าเพียงอยากให้เ้าหัวเราะ แต่ว่า...” ดวงตาของชายวัยกลางคนเป็ประกาย มุมปากโค้งขึ้นพลางเอ่ย “ในฐานะศิษย์ที่น่าภูมิใจที่สุดของท่านอาจารย์ เหตุใดตอนนี้จึงไม่เป็ที่ร่ำลือในยุทธภพ แต่กลับกลายเป็คนขี้ขลาดในตระกูลหลัวเช่นนี้? หรือตระกูลหลัวมีบางสิ่งฉุดรั้งเ้าได้?”
เนี่ยชุนเอ่ยด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “เกิ่งปิ่งซิ่ว ฟังข้าให้ดี ตระกูลหลัวคือบ้านข้า ข้าจะปกป้องทุกสิ่งทุกอย่างของที่นี่ ในเมื่อนายท่านผู้เฒ่าหลัวอนุญาตให้เ้าอยู่ที่นี่ เช่นนั้นทุกวันตอนเช้าข้าจะวางอาหารและน้ำไว้ที่ทางเข้าถ้ำตามข้อตกลง เ้าไม่สามารถออกจากถ้ำได้จนกว่าจะหายดี หากข้าเห็นเ้าออกมา ข้าจะฆ่าเ้าเสีย เ้าก็รู้ว่าเ้าในตอนนี้สังหารง่ายกว่าแมงมุมเสียอีก เ้าถูกไล่ออกจากสำนักนานแล้ว ไม่ถือว่าเ้าเป็ศิษย์ร่วมสำนักหลงฮูกับข้า ฉะนั้นการสังหารเ้าก็ไม่นับว่าสังหารศิษย์ร่วมสำนัก”
ที่แท้ชายวัยกลางคนก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็ผู้บัญชาการจิ่นอีเว่ยเกิ่งปิ่งซิ่วผู้เป็ที่รู้จักในนาม “เ้าหน้าที่ที่โหดร้ายที่สุดในใต้หล้า” คนผู้นี้โหดร้าย ลึกลับและคาดเดายาก แม้จะดูสงบเยือกเย็นเหมือนคนธรรมดาทั่วไปแต่คนที่คุ้นเคยกับเขาเป็อย่างดีจะรู้ว่ามีปีศาจกระหายเือยู่ในใจของเขา เกิ่งปิ่งซิ่วนั้นใจคอคับแคบ ไม่ว่าจะเื่เล็กหรือใหญ่ก็ต้องแก้แค้น วิธีสังหารก็โเี้ยิ่งนัก
เกิ่งปิ่งซิ่วแสยะยิ้มที่เปื้อนเืพลางเอ่ย “ศิษย์น้อง เ้าพูดถึงไหนแล้ว ข้าได้รับาเ็และอยากอยู่ที่นี่ ตราบใดที่อาหารพร้อม มีเหล้า มีเนื้อสัตว์ ข้าไม่มีทางเดินเตร่ในตระกูลหลัวแน่นอน เ้าเห็นด้วยหรือไม่? เฮ้อ จะจ้องข้าไปไย? ข้าไม่ใช่ฆาตกรที่เห็นใครก็สังหารไปเรื่อยเสียหน่อย เช่นสตรีที่ขวางทางข้าเมื่อครู่ก็เพียงทำให้นางสะดุดตกลงน้ำเท่านั้น ไม่ได้หักคอนางให้ตายแม้แต่น้อย แค่ก ๆ ทว่าไม่รู้ว่าเด็กปีศาจที่ใดใช้เคล็ดวิชาฉางเฟิงที่หายสาบสูญไปนานได้จนเกือบเอาชีวิตข้าไปแล้ว มันสมควรตายยิ่งนัก”
“เด็กปีศาจ? เคล็ดวิชาฉางเฟิง?” เนี่ยชุนขมวดคิ้ว แม้เขาจะรู้ว่ามียอดฝีมือที่สามารถใช้เคล็ดวิชาฉางเฟิงได้แต่ก็ไม่เคยได้ยินว่าคนผู้นี้รับลูกศิษย์
เกิ่งปิ่งซิ่วกดหน้าอกด้วยความเ็ป ไอออกมาพลางเอ่ย “สิบวันก่อน ข้าและลูกน้องพบคนเ้าเล่ห์ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของพวกข้าที่เมืองตู้เอ๋อร์ เขาสวมหน้ากากเหล็ก ไม่เปิดเผยใบหน้าแท้จริง แต่ดูจากรูปร่างและเสียง แค่ก ๆ น่าจะเป็เด็กหนุ่มอายุน้อยกว่าสิบสองปี วันนั้นพวกข้าไล่ตามเขาไปที่เชิงเขาแต่สุดท้ายก็หนีไปได้ หาจนทั่วป่าหลายวันก็ไม่พบ แค่ก ๆ หลายวันก่อนข้าไปปฏิบัติหน้าที่ที่เมืองหยางโจวเพียงลำพัง แต่ถูกกระดาษแผ่นหนึ่งลอยมาพร้อมหอกหลอกล่อให้ออกไปชานเมือง จากนั้นเด็กปีศาจก็ปรากฏตัวอีกครั้ง พยายามสังหารข้าจนหมดท่าเช่นนี้”
เนี่ยชุนมองเกิ่งปิ่งชิ่วด้วยสายตาเหยียดหยาม “เ้าแพ้แม้กระทั่งเด็ก ผู้บัญชาการเกิ่ง นับวันยิ่งถอยหลังลงคลองจริง ๆ ”
“แค่ก ๆ เขาลอบทำร้ายข้าก่อน เด็กปีศาจผู้นี้ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา เพราะมนุษย์ในวัยของเขาไม่มีทางมีวรยุทธ์เก่งกาจเช่นนี้ ในบรรดาคนทั้งหมดที่ข้ารู้จักมีเพียงลู่เจียงเป่ย เกาเจวี๋ยและผู้าุโไม่กี่คนที่ต่อสู้กับเขาได้” เกิ่งปิ่งซิ่วมองแผลบนขาทั้งสองด้วยความหวาดกลัว ก่อนขมวดคิ้วพลางเอ่ย “ครั้งที่แล้ว ด้วยความร่วมมือสกัดกั้นของพวกข้าทำให้เขาได้รับาเ็หลายสิบแผล แต่ใช้เวลาไม่ถึงสิบวันาแของเขาก็หายดี มันหายเป็ปลิดทิ้งเช่นนั้นได้อย่างไร?”
“เหตุใดเขาจึง้าสังหารเ้า?” เนี่ยชุนเอ่ยถามด้วยท่าทีเยาะเย้ย “เ้าไปทำเื่ไร้คุณธรรมอันใดอีกกระนั้นหรือ?”
เกิ่งปิ่งซิ่วขมวดคิ้วพลางเอ่ย “ทีแรกข้าคิดว่าเขาจำคนผิด เพราะเขาพูดว่า ‘ทุกคนมีสิทธิ์สังหารเ้าหน้าที่ที่โหดร้ายที่สุดในแผ่นดิน’ แต่ข้าไม่ได้เป็เ้าหน้าที่ของราชสำนักอย่างเป็ทางการ นอกจากขุนนางในราชสำนักที่ข้าเคยดำรงตำแหน่งตอนยังหนุ่มเป็เวลาสองปีแล้ว ข้าก็อยู่ในกองทัพทางตะวันตกเฉียงเหนือนานกว่าสิบปี ไม่เคยเดินบนเส้นทางขุนนางจริงจัง จนถึงต้นปีนี้...ข้าเพิ่งได้รับตำแหน่งจิ่นอีเว่ยขั้นสี่ ข้าจึงขอให้เขาหยุดแล้วบอกเขาว่า ‘ข้าคือเกิ่งปิ่งซิ่ว ไม่ใช่เ้าหน้าที่ที่โหดร้ายที่สุดในแผ่นดิน’ แต่เขากลับะโ ‘คนที่ต้องถูกสังหารคือเ้าแน่นอน’ ขณะเดียวกันก็ใช้กระบวนท่าสังหารเคล็ดวิชาฉางเฟิง...ช่างเป็เด็กหนุ่มที่แข็งแกร่งไม่น้อย อายุเพียงสิบสองปีแต่กลับมีวรยุทธ์เก่งกาจเพียงนี้ อีกทั้งเขายังเกลียดข้ามาก หากเขาเติบโต ข้าจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?”
“สมน้ำหน้า” เนี่ยชุนแทบไม่สนใจเื่นั้น สิ่งที่เขาสนใจกลับเป็เด็กหนุ่มลึกลับ
เกิ่งปิ่งซิ่วมองเนี่ยชุนพลางขอร้อง “ศิษย์น้อง ข้าได้ยินว่าเ้าอยู่ในจวนตระกูลหลัว ข้าจึงมาที่นี่ ที่ผ่านมาขณะพวกเราอยู่ในสำนักหลงฮู ข้าปฏิบัติต่อเ้าเป็อย่างดี ทั้งยังเคยช่วยชีวิตเ้า ตอนนี้ข้าอยากขอร้องให้เ้าส่งคำสั่งไปยังสำนักหลงฮู ช่วยตรวจสอบภูมิหลังเด็กชายผู้นั้นให้ข้าที”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้