ตลอดระยะเวลาสามวันหลังจากนั้น ิอวี่เร่งเดินทางตลอดโดยที่เฮยจีก็ไม่ได้พูดคุยกับเขาเลย
อีกสามวันต่อมาเฮยจีถึงกลับมาสนใจิอวี่อีกครั้ง แม้พวกเขาสองคนเหมือนจะคืนดีกันแล้ว แต่พอเกิดเื่ผิดใจกันขึ้นทั้งคู่ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจ การพูดคุยก็เหมือนจะห่างเหินกันเล็กน้อย
แต่ทั้งคู่ก็เข้าขากันดี ไม่มีใครพูดถึงเื่เมื่อสามวันที่แล้วเลย
ตอนนี้ิอวี่เองก็ไม่ได้มีเวลามาจัดการเื่ความสัมพันธ์ของเขากับเฮยจี เพราะอย่างไรเฮยจีก็ยังอยู่ในหยกโบราณที่หน้าอกของเขา อยู่กับเขาตลอดเวลา ต่อไปยังมีโอกาสได้ปรับความเข้าใจในเื่นี้กันอีก
ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการเข้าสำนักเทพอัคคี!
สถานที่แรกที่ิอวี่ต้องผ่านก็คือราชวงศ์อวินซี ขอแค่หาพาหนะสัตว์ปีกที่แข็งแกร่งได้สักตัวในราชวงศ์อวินซี หลังจากนี้เขาก็จะไม่ต้องเดินเท้าอีก เขาสามารถใช้ความเร็วในการไปยังพื้นที่รกร้างที่กว้างใหญ่ได้
พูดกันตรงๆ ิอวี่แค่เคยได้ยินเื่ของพื้นที่รกร้างนั่น แต่ไม่เคยได้เห็นมันมาก่อนเลย ทำให้เขารู้สึกตั้งตารอคอยอย่างมาก
และหาก้าไปที่พื้นที่รกร้างนั่นให้เร็วที่สุดก็จะต้องหาพาหนะสัตว์ปีกที่เร็วมากพอ ตามที่ิอวี่ประเมินเอาไว้อย่างน้อยก็ต้องเป็อสูรสัตว์ปีกระดับแปด ก็น่าจะสามารถไปถึงพื้นที่รกร้างได้เร็วและเข้าสำนักเทพอัคคี
สถานที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนพาหนะสัตว์ปีกของราชวงศ์อวินซีมีจำนวนมาก และลานที่ใหญ่ที่สุดก็คือสวนสัตว์ปีกที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของราชวงศ์อวินซี สายพันธุ์ของพาหนะสัตว์ปีกเ่าั้ล้วนแต่หายาก มีความเร็ว และอดทน แต่ละตัวถูกฝึกมาแล้วอย่างดี ไม่มีนิสัยดุร้ายหลงเหลืออยู่แล้ว สามารถบังคับได้ง่าย
แต่ว่า สัตว์ปีกเหล่านี้ล้วนแต่เป็สายพันธุ์สูงและก็มีราคาที่สูงมาก หลายคนที่ได้เห็นความสง่างามของพวกมันก็ล้วนแต่อยากได้มาเป็ของตัวเอง แต่พอเห็นราคาเท่านั้นก็ถอนตัวกันหมด
ดังนั้น สัตว์ปีกสายพันธุ์สูงพวกนี้ เ้าของของพวกมันส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็ผู้มีความรู้ ตระกูลสูงส่ง หรือไม่ก็เหล่าสำนักใหญ่ จนไปถึงพวกเชื้อพระวงศ์เท่านั้นที่จะมีได้
ตัวอย่างเช่นเหยี่ยวดำหลิงเฟิงของราชวงศ์ต้าิที่เป็อสูรระดับเจ็ด มันเป็สายพันธุ์ชั้นดีและเป็พาหนะของชนชั้นสูงของราชวงศ์
แต่สวนสัตว์ปีกนี้แตกต่างออกไป ผู้ฝึกภายในสวนสัตว์ปีกล้วนแต่มีทักษะในการฝึกเฉพาะด้านที่สูงมาก สัตว์ปีกระดับแปดและเก้าถึงแม้จะแข็งแกร่งแต่ก็มีความโมโหร้ายด้วย ยากที่จะฝึกได้ ต่อให้เป็เชื้อพระวงศ์ก็ทำอะไรสัตว์ปีกพวกนั้นไม่ได้
เพราะสัตว์ปีกที่แข็งแกร่งเหล่านี้้าผู้กล้าที่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะสามารถฝึกมันได้ สัตว์ปีกของสวนสัตว์ปีกที่ฝึกเรียบร้อยแล้วเมื่อเอามาขายจึงแทบจะไม่ได้ตั้งเกณฑ์เื่พลังฝีมือของผู้ซื้อเลย
ดังนั้น สวนสัตว์ปีกที่สูงส่งพวกนั้นจึงสามารถขายได้ในราคาที่สูงมาก พูดกันตามตรงแล้ว มันก็คือการหาค่าฝึกให้กับครูฝึกเ่าั้นั่นเอง
สรุปแล้ว ขอแค่คุณมีเงินก็สามารถซื้อพาหนะสัตว์ปีกระดับสูงพวกนี้ได้แล้ว!
ตอนที่ิอวี่มาถึงราชวงศ์อวินซีนั้น เขาก็ออกมาจากราชวงศ์ต้าิแล้วประมาณเจ็ดวัน
หลังจากเจ็ดวัน ิอวี่ยังเดินทางตามปกติต่อไป เขาเดินตรงเข้าไปในราชวงศ์อวินซี เป้าหมาย ก็คือสวนสัตว์ปีกที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของราชวงศ์อวินซี
ระหว่างที่เขากำลังเร่งเดินทางนั้นก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ เขาเอาเคล็ดลับการทะลวงระดับจากขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้าระดับสูงสุดไปยังขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งที่ิเฉินเหยียนให้มาออกมาอ่านอย่างละเอียดด้วย
ในเคล็ดลับบันทึกเอาไว้ว่า ‘เมื่อรู้สึกว่าพลังลมปราณในร่างกายอยู่ในการควบคุมของตัวเองได้ทั้งหมดแล้ว รู้สึกว่าลมปราณที่บริเวณหัวใจเกิดการเคลื่อนไหว ถึงจะสามารถลองสร้างหัวใจเทวะออกมา และทะลวงไปถึงขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งได้’
แล้วในนั้นยังบันทึกวิธีการรวบรวมลมปราณไปไว้ในหัวใจ และยังเขียนถึงข้อผิดพลาดและจุดที่ควรระวัง รวมไปถึงปัญหาทางด้านสภาพจิตด้วยว่า ห้ามใจร้อนระหว่างการฝึกเด็ดขาด เร่งรีบเกินไปไม่ใช่เื่ดี
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บันทึกของิเฉินเหยียนเล่มนี้เป็ของที่มีมูลค่าอย่างมากมายสำหรับิอวี่ที่กำลังจะไปถึงจุดนั้น
ตามที่บันทึกเขียนเอาไว้ เขารู้สึกได้ว่าสามารถควบคุมลมปราณในร่างกายของตนเองได้ทั้งหมดแล้ว และทุกครั้งที่หัวใจเต้นก็ยังััได้ว่าลมปราณมันมีการเคลื่อนไหวตามไปด้วย
ถึงแม้ความรู้สึกนี้ยังไม่ได้รุนแรง แต่ก็มีอยู่จริง
จากความเร็วในการพัฒนาแบบนี้ อีกไม่นานิอวี่ก็น่าจะสามารถไปถึงขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งได้ และเมื่อเขาสามารถสร้างหัวใจเทวะขึ้นมา ก็จะสามารถฝึกเคล็ดวิชาหยินหยางไร้เทียมทานเคล็ดวิชาบทที่สองใน “คัมภีร์ไท่กู่หยินหยาง” !
ตลอดทางิอวี่ไม่เพียงเร่งเดินทางอย่างเดียว แต่เขายังทำการฝึกลมปราณด้วย
หลังจากที่เขาดูดซับปราณหมื่นอสูรเข้าไป ลมปราณชีวิตในร่างกายของิอวี่ก็เหมือนอยู่ในสถานะเต็มเปี่ยมตลอดเวลา ตอนนี้คิดอยากจะดูดลมปราณที่มากขึ้นก็เป็ไปไม่ค่อยได้
ซึ่งนี่ก็เป็ความแตกต่างระหว่างขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนกับขอบเขตอมฤต ขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนเน้นไปที่การลอกคราบร่างกายและพลังจิต แล้วสะสมลมปราณเอาไว้ทั่วร่างกาย ถึงแม้จะมีลมปราณที่แข็งกล้าแต่ก็เหมือนทรายที่เต็มกระดาน
ส่วนขอบเขตอมฤตเป็การเอาลมปราณซ่อนเอาไว้ในอวัยวะทั้งห้า ใช้การเสริมความแข็งแกร่งภายใน เพื่อให้มีลมปราณที่แข็งแกร่งมากขึ้น และทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง!
และในตอนนี้ิอวี่ก็้ารวบรวมลมปราณทั้งหมดในร่างกายของเขาที่กระจัดกระจายเหมือนกระดานทรายให้รวมเป็ก้อน เพื่อให้ปริมาณเปลี่ยนเป็คุณภาพ และสร้างความเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน
ิอวี่คิดและทำความเข้าใจอยู่ตลอดระยะเวลาสิบวัน จนเดินทางมาถึงเป้าหมายของเขา สวนสัตว์ปีก!
สวนสัตว์ปีกมันไม่ใช่แค่สวน และก็ไม่ใช่สถานที่ที่มีสิ่งก่อสร้างจำนวนมาก แต่มันเป็สวนป่าที่มีพื้นที่กว้างขวางอย่างมาก
ที่นี่มีพาหนะสัตว์ปีกสายพันธุ์ชั้นดีมากมายถูกขังอยู่ในกรงขนาดใหญ่ วางเรียงรายทั้งสองข้างทางในสวนป่า
ลูกค้าที่มายังสวนสัตว์ปีกสามารถชมบรรยากาศทิวทัศน์ที่งดงามโดยรอบและสัตว์ปีกสายพันธุ์ชั้นดีไปพร้อมกัน เวลาที่เลือกซื้อก็จะมีอารมณ์ที่สบายและสุนทรีย์อย่างมาก
ิอวี่จ่ายค่าเข้าชมในราคาหนึ่งพันหยกดำและเข้าไปั้แ่เช้า เมื่อเข้ามาก็เดินตรงเข้าไปชมในทันที
ผู้คนมากมายมีมาไม่ขาดสาย ทั้งสองข้างทางในสวนป่ามีกรงขนาดใหญ่เรียงกันอยู่ ซึ่งภายในมีสัตว์ปีกประเภทต่างๆ ท่ามกลางแสงอาทิตย์ก็มีแสงจากสายตาของอะไรบางอย่างเปล่งประกายมาตรงหน้าของิอวี่
สัตว์ปีกทุกตัวในสวนแห่งนี้มีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบมาก โดยมากแทบจะไม่มีตำหนิเลย ไม่ว่าจะเป็รูปลักษณ์ภายนอกหรือว่าเื่ของประสิทธิภาพก็ล้วนหาที่ติไม่ได้เลย
ิอวี่กวาดสายตามองไป อสูรสัตว์ปีกระดับเจ็ดหนึ่งตัวก็มีราคาสูงถึงสิบห้าล้านเหรียญหยกดำแล้ว!
ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าไร ระดับและสายพันธุ์ก็จะสูงและดีขึ้นเท่านั้น แล้วราคาก็สูงตามไปด้วย อสูรสัตว์ปีกระดับแปด ราคาของเหยี่ยวดวงตาสีม่วงมันเพิ่มขึ้นมาอีกสิบล้านเหรียญหยกดำ เท่ากับว่ามีราคาอยู่ที่ยี่สิบห้าล้านเหรียญหยกดำ!
พอมาถึงตรงนี้ นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้คิดจะซื้อก็ล้วนแต่ชื่นชม เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของเ้าเหยี่ยวดวงตาสีม่วงที่งดงามก็รู้สึกมีความสุขและเอ่ยปากชื่นชมไม่ขาดสาย
แต่ิอวี่กลับแตกต่างออกไป เขา้าอสูรสัตว์ปีกที่มีความรวดเร็วอย่างมาก สำหรับคนที่มีทรัพย์สินสามร้อยล้านเหรียญอย่างิอวี่แล้ว เื่เงินไม่ใช่ปัญหาเลย
“เร็วเข้า จะเริ่มจัดแสดงสิบยอดอสูรสัตว์ปีกด้านหน้านี้แล้ว!” คนที่อยู่ข้างๆ ิอวี่พูด
อีกคนได้ยินดังนั้นก็รีบวิ่งมาทางนี้ทันที “ข้าไปก่อนนะ เดี๋ยวไม่ได้ที่ดีๆ ในการดูจะแย่”
“นี่ รอข้าก่อนสิ!”
ผู้คนจำนวนมากมุ่งหน้าไปทางท้ายป่ากันหมด
“หือ?”
ิอวี่เปิดััแห่งิญญาขึ้นและใช้มองไปด้านหน้า เขาพบว่าตรงสุดทางมีแท่นหินสีขาวขนาดใหญ่สิบแท่นตั้งเป็วงกลมเรียงอยู่
และ้าลานหินนั้นมีลำแสงสีสันสดใสสิบอันพุ่งเข้าหาแท่นหิน ิอวี่จ้องมองไปก็พบว่ามันคืออสูรสัตว์ปีกจำนวนสิบตัว!
อสูรสัตว์ปีกสิบตัวนี้มีความเร็วอย่างมากราวกับสายฟ้าฟาดเลย ้าท้องฟ้าที่สูงราวหนึ่งร้อยเมตร แต่พริบตาเดียวพวกมันก็บินลงมาบนลานหินทั้งสิบแล้ว!
อสูรสัตว์ปีกทั้งสิบตัวส่งเสียงร้องออกมาพร้อมกัน เสียงของมันดังก้องไปทั่วบริเวณ!
แทบจะเป็นาทีเดียวกันกับที่ิอวี่พุ่งตัวไปด้านหน้าทันทีด้วยความเร็ว เขามายังบริเวณแท่นหินด้วยเวลาแค่พริบตาและมองไปบนแท่นหินเ่าั้
บนหลังของอสูรสัตว์ปีกทั้งสิบตัวมีหญิงสวมชุดสีดำนั่งอยู่ รูปร่างเร่าร้อน ใบหน้างดงาม เมื่อครู่พวกนางเป็คนบังคับเ้าอสูรสัตว์ปีกทั้งสิบตัวนี้
ด้านล่างของพวกนางทุกคนเป็อสูรสัตว์ปีกที่มีรูปร่างไม่ใหญ่แต่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก แต่ละตัวมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเป็ของตัวเอง ท่ามกลางแสงแดดสีทองที่ส่องลงมามันเหมือนเกราะเหล็กสีทองที่สะท้อนเข้ามาในดวงตาของิอวี่
อสูรสัตว์ปีกที่แพรวพราว หญิงสาวที่งดงาม มันทำให้ผู้คนที่ได้พบเห็นแทบจะอยากพุ่งตัวเข้าหา!
สำหรับิอวี่แล้ว หญิงสาวที่รูปร่างหน้าตาดีและเร่าร้อนเหล่านี้พลังฝีมือของพวกนางไม่สูงเลย แต่ว่ามีทักษะในการควบคุมสัตว์ที่สูงมาก เพราะอสูรสัตว์ปีกที่อยู่ด้านล่างของพวกนางทั้งสิบตัวนั้นล้วนแต่เป็อสูรระดับเก้า!
และอสูรสัตว์ปีกทั้งสิบตัวนี้อาศัยความเร็วและความอดทนสูงมาก ด้านการต่อสู้ของพวกมันอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งมาก แต่ด้านความเร็วพวกมันเร็วอย่างถึงที่สุด!
ระหว่างการต่อสู้ต้องมีพลังที่แข็งแกร่ง แต่เมื่อพบเจอกับผู้ที่แข็งแกร่งที่ไม่อาจสู้ได้ พลังอำนาจเ่าั้มันก็ไม่มีประโยชน์
เมื่อมีอสูรสัตว์ปีกที่มีความรวดเร็วมาก ต่อให้ศัตรูจะมีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน กำลังรบแข็งแกร่งแค่ไหน ก็อาจจะไม่ได้มีความเร็วแบบนั้น ผู้ที่ควบคุมอสูรสัตว์ปีกเ่าั้อาจจะใช้อสูรสัตว์ปีกที่พวกเขามีเพื่อหนีการไล่ล่าและรักษาชีวิตของตนเองไว้ได้!
รูปลักษณ์ของอสูรสัตว์ปีกทั้งสิบตัวยิ่งดูตื่นตาตื่นใจมาก หากได้ขี่มันออกไปคงเป็อะไรที่ยอดเยี่ยมมาก
เลือกตัวไหนดีนะ?
ิอวี่ใช้ััแห่งิญญาสำรวจอสูรสัตว์ปีกอย่างต่อเนื่องและคิดทบทวนอยู่ตลอด เขาพบว่ามีอสูรสัตว์ปีกประเภทเหยี่ยวตัวหนึ่งเหมือนจะได้รับาเ็ ถึงแม้มันจะซ่อนอยู่ใต้ปีกแต่มันก็มีอยู่จริงๆ
เมื่อต้องบินอยู่บนที่สูง าแเล็กๆ ต่อให้แค่นิดเดียวก็อาจส่งผลต่อความสมดุลกับความเร็วได้ ดังนั้นเหยี่ยวตัวนี้จึงไม่สมบูรณ์
“ตัวนี้ ไม่ได้”
ิอวี่ส่ายหน้าแล้วพูดกับตัวเอง จากนั้นก็จ้องไปยังอสูรสัตว์ปีกตัวอื่น
แต่ในเวลานี้เอง คนด้านข้างิอวี่ก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เ็า “เหอะๆ ไม่รู้จักของดี”
