ซีซวนรู้สึกถึงคลื่นพลังงานบางอย่างที่ไหลเวียนอยู่ในกาย ดั่งช่วยเสริมกำลังภายในให้แข็งแกร่งขึ้น ทว่านางกลับรู้สึกอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรงด้วยในเวลาเดียวกัน
การฝึกบำเพียงคู่ใช้เวลายาวนานเกินกว่านางจะครองสติไว้ได้ไหว กระทั่งสลบหลับใหลไปั้แ่ตอนไหนก็ยังไม่รู้สึกตัว กว่าจะฟื้นอีกทีก็ดวงตะวันแขวนอยู่ตรงศีรษะแล้ว
หากเป็ตามปรกติ ซีซวนที่มักถูกตามใจจะตื่นเวลาไหนไม่มีคนคอยบังคับ การฝึกฝนทบกวนตำรายิ่งเป็เื่ยากที่นางจะหยิบจับ หากไม่ใช่เฟยอวี่ที่เป็ศิษย์พี่ใหญ่ขู่เข็ญ การที่จะพบเห็นศิษย์น้องเจียงในสนามฝึกจึงนับว่าเป็เื่ยากยิ่ง
ทว่าวันนี้ไม่รู้ดวงตะวันขึ้นผิดฝั่งหรืออย่างไร ถึงได้เห็นร่างบางในชุดฝึกยืนอยู่ข้างลานกว้าง นับว่าเป็เื่แปลกประหลาดสำหรับศิษย์ร่วมอาจารย์คนอื่น ๆ มากนัก
"ได้สติหรือยัง" เหมยฮัวตบบ่าทักทายศิษย์น้องเบา ๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายมองลานฝึกด้วยใบหน้าเหม่อลอย ดวงตากลมโตหรี่รับแสงจนแทบปิดสนิท
"พี่เหมยฮัว ฮืออ ทั้งที่ข้าเพิ่งตื่น กลับถูกศิษย์น้องเล็กลากมาลานฝึก อากาศก็หนาว แสงแดดก็จ้าจนแทบลืมตาไม่ขึ้น แล้วข้าก็หิวแล้วด้วย แต่เขายังฝึกไม่หยุดเลย ฮือออ"
เหมือนอีกฝ่ายรอให้ใครเข้าช่วยเหลืออยู่นานแล้ว แค่เพียงนางเอ่ยทัก ร่างบางก็โผเข้าหาถูไถใบหน้าด้วยความออดอ้อนในทันที ทำให้เหมยฮัวอดไม่ได้ที่จะคลี่รอยยิ้มหัวเราะขบขัน ลูบเรือนผมนุ่มด้วยความเอ็นดู
นางเข้าใจแล้ว ว่าเหตุใดศิษย์พี่ใหญ่ถึงไม่เคยปฏิเสธศิษย์น้องเจียงได้สักครั้ง
"เอาละ ๆ หยุดร้องได้แล้ว ประเดี่ยวข้าดูต่อให้เอง ซวนเอ๋อร์ไปทานข้าวเถอะ ก่อนมาเห็นศิษย์พี่ใหญ่เข้าครัว ป่านนี้อาหารคงเสร็จรอให้ซวนเอ๋อร์กลับไปทานแล้ว"
"จริงนะเ้าคะ ขอบคุณพี่เหมยฮัว พี่เหมยฮัวใจดีที่สุด"
เหมยฮัวมองตามร่างบางที่วิ่งออกไปด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเปลี่ยนเป็เรียบเฉย เมื่อหันกลับไปมองร่างสูงโปร่งที่ร่ายรำกระบี่อยู่กลางลานฝึก
ทั้งที่เพิ่งได้เข้ามาเป็ลูกศิษย์ในสำนักจินิได้ไม่กี่วัน แต่อีกฝ่ายกลับมีความกระตือรือร้นร้อนวิชาไม่หยุด ทำให้นางอยากรู้นัก ว่าเขาจะขยันไปได้ถึงเมื่อใด
แม้เพิ่งจะตื่นเมื่อเกือบปลายยามอู่ ทว่าท้องของซีซวนกลับประท้วงร้องได้ตรงตามเวลาไม่ขาดเกิน อาจเป็เพราะนางเสียพลังงานไปมากกับการฝึกวิชาตอนกลางคืน การตื่นมาแล้วได้ทานอาหารแสนอร่อย จึงนับว่าเป็สิ่งที่คู่ควรแล้ว
ในความเป็จริงนางควรจะได้ทานอาหารหลังตื่นนอนในทันที แต่วันนี้กลับถูกศิษย์น้องคนใหม่ดึงให้ไปช่วยดูการฝึกซ้อม ทำให้ท้องที่ว่างเปล่าของนางไม่ถูกเติมเต็ม นับว่าเป็เื่โหดร้ายสำหรับนางมากนัก
เมื่อได้ยินว่าศิษย์พี่ใหญ่เข้าครัวทำอาหารไว้รอ จึงเหมือนกับว่านางได้ขึ้น์อีกครั้ง ลาบปากที่รออยู่ ทำให้ถึงแม้ท้องจะว่างเปล่า แต่ฝีเท้าที่ออกวิ่งกลับไม่ลดน้อยลงเลย
"ไปที่ใดมา" เฟยอวี่รู้สึกผิดที่เมื่อคืนเอาแต่ใจ ไม่ยอมลามือปล่อยให้หญิงสาวได้พักโดยง่าย วันนี้เขาจึงเข้าครัวทำอาหาร หวังให้นางไม่รู้สึกขุ่นเคือง
แต่ไม่คิดว่า ร่างบางที่ควรหมดแรงนอนรอเขาอยู่ภายในห้อง จะแอบหนีหายไปซุกซนที่อื่นเสียได้
"เกี๊ยวหมูน้ำมันพริกหรือเ้าคะ กลิ่นหอมมาก"
"ข้าถามว่าเ้าไปที่ใดมา" ชายหนุ่มดึงชามเกี๊ยวออกจากร่างบาง ปล่อยให้นางได้แต่มองตามตาละห้อย โทษฐานที่นางสนใจอาหารมากกว่าตอบคำถามเขา
"ไปดูศิษย์น้องซ่งฝึกซ้อมมาเ้าค่ะ" ซีซวนกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองร่างสูง อ้อนวอนขอชามเกี๊ยวคืน
"ไปดูทำไม"
"ศิษย์น้องซ่งเพิ่งมาได้วันเดียว เมื่อวานซวนเอ๋อร์เป็คนที่ได้คุยกับเขาเยอะที่สุด วันนี้เขาเลยชวนซวนเอ๋อร์ไปดูการฝึกซ้อม เขาคงเผื่ออยากขอคำแนะนำเ้าค่ะ" หญิงสาวตอบตามความคาดเดาของตนเอง เพราะนางก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมศิษย์น้องคนใหม่ถึงให้นางไปดูเขาฝึกซ้อมด้วย
"หลังจากนี้ห้ามไปอีก ให้ศิษย์พี่คนอื่นคอยดูแทน"
"เ้าค่ะ ซวนเอ๋อร์รู้แล้ว ศิษย์พี่ใหญ่ขอ น้ำแกงจะเย็นหมดแล้ว"
เฟยอวี่จนปัญญาจะพูดกับหญิงสาว ทั้งที่พูดอยู่กับเขา แต่สายตานางมีแต่ชามเกี๊ยวในมือเขาไม่ห่าง หากก้นนางมีหาง คงส่ายไปมาจนหลุดขาดไปแล้ว
"ต้องทำยังไง"
ซีซวนไม่อิดออด ทันทีที่ร่างสูงขยับลงนั่งบนเก้าอี้ นางก็ปีนป่ายขึ้นไปนั่งอยู่บนตักแกร่ง โอบลำแขนลอบลำคอระหง เตรียมพร้อมสำหรับการทานเกี๊ยวหมูที่นางรอคอย
"อืมม อร่อยเ้าค่ะ" หญิงสาวได้ลิ้มรสน้ำแกงก่อนเป็อันดับแรกจากการป้อนของชายหนุ่ม ดวงตากลมโตหลับพริ้มอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะได้ทานเกี้ยวหมูน้ำมันพริกที่ไหน รสชาติก็ไม่เหมือนกับที่ศิษย์พี่ใหญ่เป็คนทำให้
ทว่าพอถึงเกี๊ยวห่อหมูของสำคัญที่สุดในชาม ร่างบางกลับชะงักเกิดรู้สึกชั่งใจ ว่าจะทานต่อดีหรือไม่ ถึงแม้นางอยากจะทานมากแค่ไหนก็ตาม
ลำพังน้ำแกงที่ถูกป้อนด้วยช้อน นางยังพอเก็บซ้อนความกระดากอายเอาไว้ได้ แต่พอเป็ตัวเกี๊ยว ใบหน้าขาวกลับเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา เมื่อนึกถึงขั้นตอนการทานของมัน
"ทำไม ไม่อยากทานแล้ว"
"ทาน ทานเ้าค่ะ"
มุมปากหยักข่มไม่ให้หลุดคลี่รอยยิ้ม ก่อนจะตักชิ้นเกี๊ยวที่บรรจงห่อให้นางได้ทานโดยเฉพาะเข้าปากตนเอง เขากัดปลายไว้ครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งรอให้ร่างบางโน้มใบหน้าเข้าใกล้ใช้ปากรับต่อไป
ชายหนุ่มยังใจดีใช้ริมฝีปากช่วยเช็ดน้ำแกงที่เปื้อนมุมปากสวย ระหว่างรอให้ร่างบางเคี้ยวลิ้มรสชาติอาหารในปาก
"อร่อยไหม"
"อร่อยเ้าค่ะ"
"เช่นนั้นก็ทานอีก มีให้เ้าอีกเยอะ"
ซีซวนข่มความกระดากอาย อ้าปากรับเกี๊ยวจากปากชายหนุ่มอย่างเป็ธรรมชาติ ทว่าหัวใจดวงน้อยของนางกลับกำลังเต้นระรัวไม่เป็จังหวะ
ไม่ว่ากี่ครั้งที่ได้ทานอาหารกับศิษย์พี่ใหญ่ นางก็ยังไม่สามารถทำใจให้คุ้นชิ้นกับความใกล้ชิดนี้ได้
"อิ่มแล้วเ้าค่ะ"
"เด็กดี" เฟยอวี่วางชามในมือลงเมื่อเห็นว่าหญิงสาวทานเกี๊ยวหมดแล้ว ก่อนจะปิดท้ายด้วยการป้อนน้ำให้นางด้วยปากตนเอง
ซีซวนกลืนน้ำลงคอเป็อันจบการทานอาหารมื้ออร่อย ทว่าชายหนุ่มกลับไม่หยุดแค่เพียงป้อนน้ำให้นาง ริมฝีปากร้อนเข้าประกบจุมพิตดูดดื่ม เรียวลิ้นหยาบสอดเข้าโพรงปาก เกี่ยวตวัดหลอกล้อให้นางโต้ตอบพัวพัน ชักนำให้เข้าไปสำรวจภายในโพรงปากอุ่นของเขาด้วยเช่นกัน
"อืมม อ่าา"
เฟยอวี่ไม่ปล่อยให้ลูกแมวน้อยในวงแขนได้หลุดหนี ริมฝีปากร้อนโรมรันแลกเปลี่ยนน้ำเชื่อมใส ฝ่ามือข้างหนึ่งลูบวนแผ่นหลังบาง อีกข้างล้วงเข้าชายกระโปรง ลูบไล้ขาเรียวผ่านกางเกงตัวในที่นางสวมใส่ไว้
ชายหนุ่มจุมพิตร่างบางจนหนำใจถึงปล่อยให้นางเป็อิสระ ไม่ล่วงเกินไปไกลแม้ฝ่ามือจะล้วงเข้าลึกถึงจุดสำคัญ มุมปากหยักคลี่รอยยิ้มเ้าเล่ห์ เมื่อเห็นใบหน้าสวยจ้องมองด้วยความมึนงง ดวงตากลมโตฉ่ำวาวมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
"ไม่ได้ มีธุระต้องไปคุยกับอาจารย์ต่อ"
หลังถูกนิ้วยาวเคาะสันจมูกเรียกสติ ซีซวนก็รีบมุดหน้าเข้ากับแผงอกกว้างด้วยความเขินอายทันที
นางไม่ได้้าให้เขาทำต่อเสียเมื่อไหร่ ไม่ได้้าจริง ๆ
"อยู่ห้องก็จัดการเก็บข้าวของให้ดีเล่า อีกสองวันออกเดินทางจะได้ไม่รีบร้อนจนลืมของ"
"เก็บของหรือเ้าคะ หรือว่า.."
"อาจารย์อนุญาตให้พาเ้าไปได้ แต่ต้องรับปากก่อนวะ...."
เฟยอวี่ยังไม่ทันพูดได้จบคำ ร่างบางก็ะโลงจากตักเขาวิ่งไปเสียแล้ว เห็นท่าทางดีใจของนาง ชายหนุ่มจึงหยุดไม่พูดต่อ เปลี่ยนเป็นั่งมองนางเร่งจัดการเก็บของด้วยรอยยิ้มละมุนแทน
**************************************************************
** ยามอู่ (午:wǔ) เริ่มนับั้แ่เวลา 11.00 – 13.00 น.
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้