ข้อสรุปที่ว่าอ้ายจื่อเย่มีปริมาณมากเกินไปจึงก่อให้เกิดสารพิษ ทำให้กูเฟยเยี่ยนลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เป็เพราะเซี่ยเสี่ยวหม่านใช้ยาเกินขนาดจนก่อให้เกิดสารพิษนั้นแก้ไขได้ง่าย แต่หากว่าเป็คนร้ายเล่นเล่ห์เพทุบายก็จะจัดการได้ยากแล้ว
เซี่ยเสี่ยวหม่านและหมางจ้งล้วนตกตะลึงตาค้าง ไม่คิดว่าจะเป็เช่นนี้
กูเฟยเยี่ยนไม่ชักช้าเอ่ยขึ้นมาทันที “สารพิษในขณะนี้ยังไม่เพียงพอที่จะก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สบาย แต่ถ้าล่าช้ากว่านี้ก็จะไม่ทันการแล้ว พวกเ้าสองคนรีบไปเปิดหน้าต่างออกให้หมด! หลังจากนั้นรีบไปต้มน้ำหงซังเย่มาสักหน่อย น้ำหงซังเย่สามารถดูดซับคุณสมบัติของสารพิษในไอน้ำได้”
“แต่ว่าเตี้ยนเซี่ย! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านทั้งกระวนกระวายใจ ทั้งยังเกิดความลังเล ความทุกข์ทรมานของเตี้ยนเซี่ยคือความหนาวเหน็บจากโรคประหลาดนี้ ในวันที่อากาศหนาวเช่นนี้ทันทีที่เปิดหน้าต่างออก ลมหนาวจะพัดพาเข้ามา เตี้ยนเซี่ยจะทรงอดทนไหวได้อย่างไร?
“เชื่อฟังนาง”
“รีบไป หากเกิดเหตุใดขึ้นกับเตี้ยนเซี่ย ข้ารับผิดชอบเอง! ”
จวินจิ่วเฉินและกูเฟยเยี่ยนพูดออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายมาก่อน
จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทรงเอ่ยออกมาเช่นนี้แล้ว เซี่ยเสี่ยวหม่านและหมางจ้งล้วนไม่กล้าล่าช้าสักวินาทีเดียว จึงรีบแยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ทันที
ในที่สุดสายตาของกูเฟยเยี่ยนก็ได้กลับมาที่แผ่นหลังแสนเย้ายวนของจวินจิ่วเฉิน นางประหม่าเป็อย่างยิ่ง แต่ก็ไม่กล้าล่าช้าแค่วินาทีเดียว นางทำได้เพียงเตือนสติให้ตนเองนั้นสงบสติ พร้อมกับดันทุรังก้าวเท้าเข้าไปอย่างรวดเร็ว
จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยก้มศีรษะอยู่ ต่อให้เข้าไปใกล้ นางก็มองไม่เห็นใบหน้าของพระองค์ ทว่าในทันทีที่เดินเข้าไปใกล้นางก็มองออกว่าพระองค์นั้นอ่อนแอมาก ไม่ค่อยจะมีเรี่ยวแรงสักเท่าใด เมื่อเดินเข้าไปใกล้อีกนิดนางก็ตะลึงงันทันทีและเกิดความตระหนกใ
์ นางรับรู้ได้ถึงความเย็นที่ร่างกายของเขาแผ่กระจายออกมา
ในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นจนร้อนเช่นนี้ นางกลับััได้ถึงความเย็นภายในร่างของเขาที่แผ่กระจายออกมา เขาจะหนาวเหน็บเพียงใดกัน?
กูเฟยเยี่ยนร้อนรน “เตี้ยนเซี่ย นู๋ปี้คือบ่าวยากูเฟยเยี่ยนที่มาใหม่ สถานการณ์ของพระองค์หมางจ้งได้กล่าวกับนู๋ปี้แล้ว ทว่าไม่ครอบคลุมในทุกๆด้าน สามารถอธิบายอาการของโรคให้นู๋ปี้โดยละเอียดได้หรือไม่เ้าค่ะ? แม้ว่านู๋ปี้จะไม่ใช่อาจารย์แพทย์ แต่ว่าสามารถวินิจฉัยร่วมกับใบสั่งยาออกมาได้”
จวินจิ่วเฉินก้มศีรษะลงประหนึ่งว่าไม่้ามองเห็นนาง ทำเพียงเอ่ยขึ้นมา “ช่วยเปิ่นหวางหายาขับไล่ความหนาวเย็นขั้นสูงมาก็พอ”
กูเฟยเยี่ยนเอ่ยอย่างจริงจัง “เตี้ยนเซี่ย ยานั้นไม่สามารถใช้มั่วได้! หากว่าเป็โรคที่ไม่สามารถบอกผู้อื่นได้ เมื่อบอกกับนู๋ปี้แล้ว นู๋ปี้ไม่ปล่อยให้รั่วไหลไปด้านนอกอย่างแน่นอน! ”
ทว่าจวินจิ่วเฉินไม่ตอบกลับนาง เขาหลับตาลงแล้วเริ่มใช้พลังขับไล่ความเย็นอีกครั้ง
กูเฟยเยี่ยนไม่เข้าใจว่าพระองค์หมายความว่าอย่างไร “เตี้ยนเซี่ย? ”
ดูเหมือนว่าจวินจิ่วเฉินจะไม่้าสนใจไยดีนาง เขาลองใช้พลังขับไล่ความหนาวเย็นอีกครั้ง
ั์ตาของกูเฟยเยี่ยนทอแสงแห่งความซับซ้อน แล้วฉวยโอกาสตัดสินใจอย่างฉับพลัน “เตี้ยนเซี่ยโปรดยกโทษให้นู๋ปี้ที่…เสียมารยาท นู๋ปี้จำเป็ต้องลงน้ำไปดูในทันที”
เขาหนาวเหน็บเช่นนี้ไม่สามารถใช้พลังได้และยิ่งไม่สามารถล่าช้าได้อีก! เขาไม่อธิบายให้กับนางอย่างชัดเจน แต่อย่างน้อยต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่าแร่หินศิลาโอสถในบ่อน้ำพุร้อนนั้นคืออะไรเพื่อความแน่ใจในใบสั่งยา
เมื่อกูเฟยเยี่ยนพูดจบลงก็ะโลงไปในบ่อน้ำโดยไม่ลังเล จวินจิ่วเฉินเกิดความคาดไม่ถึง เขาหันหลังไปมอง เห็นเพียงแค่กูเฟยเยี่ยนลงไปในน้ำแล้ว เขาอยากจะขวางก็ขวางไม่ทัน ละอองน้ำแผ่ปกคลุมอย่างหนาทึบบริเวณบ่อน้ำ เป็เพราะมียาสมุนไพรส่งผลให้น้ำในบ่อเกิดความขุ่นมัว ในไม่ช้าเขาก็มองไม่เห็นนางแล้ว
หญิงสาวผู้นี้้าจะทำอะไร?
นางจะตรวจสอบเจอความลับใต้น้ำหรือไม่? จวินจิ่วเฉินไม่เชื่อ
ในขณะนี้เป็่เวลาที่การป้องกันตัวของเขาอ่อนแอที่สุด แม้ว่าจะเป็มือของผู้ที่ไม่มีเรี่ยวแรง ก็สามารถสังหารเขาให้ตายได้อย่างง่ายดาย เขาควรที่จะเรียกองครักษ์ลับมาในทันที เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้เรียก เขาจับจ้องไปที่ผิวน้ำรอคอยพร้อมกับระวังตัวด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามหลังจากที่รอแล้วรอเล่า ผิวน้ำก็ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหว จวินจิ่วเฉินไม่ทราบว่ามีเรี่ยวแรงมาจากที่ไหนในการะโเรียกด้วยน้ำเสียงเ็า “กูเฟยเยี่ยน! ”
ภายในน้ำไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
“กูเฟยเยี่ยน! ”
จวินจิ่วเฉินะโเรียกอีกครั้ง เห็นได้ชัดเจนว่าสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงไปมาก ในขณะที่เขากำลังจะะโเป็ครั้งที่สามกูเฟยเยี่ยนก็ได้โผล่ขึ้นมาจากน้ำโดยทันที ดูเหมือนว่านางจะทำอะไรบางอย่างสำเร็จเพราะดีอกดีใจอย่างเด่นชัด นางใช้มือข้างหนึ่งลูบคราบน้ำบนใบหน้า มืออีกข้างหนึ่งถืออะไรบางอย่างยื่นไปที่ด้านหน้าของเขา “จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย พระองค์โปรดทอดพระเนตร นี่คือ…”
นางเอ่ยออกมาได้เพียงนิด ละอองน้ำที่อยู่บริเวณสายตาได้สลายออกไป ทำให้นางมองเห็นใบหน้าของจวินจิ่วเฉินอย่างชัดเจน นางตะลึงทันที!
ที่แท้เทพบุตรของนางนั้นมีรูปโฉมงดงามดั่งคำเล่าลือจริงเสียด้วย! ! !
ลักษณะบนใบหน้าเป็กระจับดั่งประติมากรรมสรวง์ ไม่ว่าจะคิ้ว ปากหรือจมูกไม่ว่าจะมองมาจากมุมใดล้วนสมบูรณ์แบบ ไร้จุดด่างพร้อย ดวงตาลึกลับดำทมิฬของเขาเพียงพอที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงการถูกเมินเฉยและเฉยชา แต่ทั่วทั้งใบหน้าที่แผ่กระจายแสงรัศมี กลับเพิ่มความเ็าและสูงส่งให้กับเขา
แม้ว่าใบหน้าของเขาจะขาวซีด ริมฝีปากม่วงคล้ำ ทว่าไม่ได้ส่งผลต่อความหล่อเหลาของเขาเลยสักนิด
ภายใต้โลกใบนี้จะมีผู้ที่รูปโฉมงดงามเช่นนี้ได้อย่างไร?
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้ถูกควบคุมโดยรูปหน้าและไม่ได้เคลิบเคลิ้ม แต่ในขณะที่ตกตะลึงภายในจิตใจของนางก็ปรากฏถึงความรู้สึกคุ้นเคย
สายตาเช่นนี้ เค้าโครงใบหน้าเช่นนี้ ราวกับว่าตนเองเคยพบเจอจากที่ไหนสักแห่ง
ความคุ้นเคยเช่นนี้ให้ความรู้สึกไกลและใกล้ ราวกับว่าได้พบเจอเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็คล้ายกับได้เจอเมื่อนานมาแล้วเช่นกัน นางแยกไม่ออกว่าเป็ตนเองที่เคยพบเขา หรือเป็เ้าของร่างเดิมที่เคยพบเขา และเป็ชาตินี้ที่ได้พบเขา หรือชาติที่แล้วที่ได้พบเขา
กูเฟยเยี่ยนยิ่งพยายามนึกถึงความทรงจำมากเพียงใดก็ยิ่งมองอย่างจริงจังมากเพียงนั้น นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในขณะนี้สายตาของตนเองมีความโง่เง่าเต่าตุ่นเพียงใด
จวินจิ่วเฉินรังเกียจสายตาแบบนี้ แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะเต็มไปด้วยความอ่อนแอ ทว่ากลับเต็มไปด้วยความรังเกียจ “กูเฟยเยี่ยน เ้ามองพอหรือยัง? ”
เมื่อถูกจวินจิ่วเฉินเอ่ยถามเช่นนั้น กูเฟยเยี่ยนจึงรู้สึกตัวขึ้นมาทันที นี่มันเรียกได้ว่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก!
เมื่อเห็นถึงความรังเกียจในสายตาของเขา นางกลับรู้สึกได้ถึงความคุ้นเคย เพียงแต่ว่านางไม่มีเวลามาคิดมากนัก นางไม่ได้อธิบายอะไรออกมา รีบร้อนว่ายน้ำเข้าไปโดยไม่กล้าสบตาเขา นางทำเพียงแค่ยื่นสิ่งของที่อยู่บนมือออกไปเท่านั้น
“เตี้ยนเซี่ย นี่คือแร่ศิลาโอสถชื่อเยี่ยน ซึ่งน่าจะเป็สมุนไพรที่สำคัญที่สุดในบ่อสมุนไพรน้ำพุร้อนของพระองค์ แร่ศิลาโอสถชนิดนี้มีฤทธิ์ในการขับไล่ความหนาวเย็นที่หาที่เทียบไม่ได้และให้ผลลัพธ์อันน่ามหัศจรรย์ เมื่อประกอบกับจื่ออ้ายเย่ ไป๋ซานเจียง ชางเอ๋อร์ และไป๋จื่อแล้วมันไม่เพียงแต่สามารถออกฤทธิ์ขับไล่ความหนาวเย็นได้อย่างเต็มที่แล้ว แต่ยังมีประโยชน์ต่อการรักษาจิตใจให้สงบอีกด้วย
เมื่อเห็นสิ่งของบนมือของกูเฟยเยี่ยนและได้ฟังคำพูดของนางเมื่อครู่นี้ จวินจิ่วเฉินใอย่างหาที่เปรียบไม่ได้!
ต้องรู้ไว้ว่าความลับของแร่ศิลาโอสถชื่อเยี่ยนนี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่ทราบดี แม้กระทั่งหมางจ้งและเซี่ยเสี่ยวหม่านที่เขาเชื่อใจมากที่สุด ทั้งสองปรนนิบัติรับใช้เขามานาน ก็รู้เพียงแค่ว่าบ่อน้ำพุร้อนมีประสิทธิภาพทางยา และไม่รู้ว่าหัวใจสำคัญของประสิทธิภาพทางยาอยู่ที่ใด ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่รู้ถึงความจริงของโรคความหนาวเย็นของเขา
หญิงสาวผู้นี้ได้เข้ามายังไม่ถึงเวลาหนึ่งถ้วยชา ไม่เพียงแต่สามารถคาดเดาได้ว่าในบ่อน้ำมีแร่ศิลาโอสถชื่อเยี่ยนแล้ว แต่ยังสามารถหามันพบจากใต้น้ำได้!
ตกลงแล้วความสามารถของนางสูงเพียงใดกัน นางยังซ่อนความสามารถที่เขาไม่รับรู้ไว้อีกมากเพียงใด?
แม้ว่าอาจารย์แพทย์จะไม่เหมือนกับแพทย์รักษา ในส่วนของการที่สามารถวินิจฉัยโรคออกมาได้อย่างแม่นยำ โดยผ่านการดู ฟัง ถาม และจับชีพจร ทว่าในทันทีที่พวกเขาได้รับใบสั่งยาที่ถูกต้องและแม่นยำ พวกเขาก็จะสามารถคาดการณ์ได้ว่าใบสั่งยานี้ใช้สำหรับการรักษาอาการของโรคใดได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
หญิงสาวผู้นี้จะสามารถคาดการณ์ความลับของโรคความหนาวเหน็บออกมาได้หรือไม่?
เมื่อมองไปที่ศิลาสีแดงที่แตกเป็ชิ้นบนฝ่ามือของกูเฟยเยี่ยน ดวงตาลึกลับและเ็าคู่นั้นของจวินจิ่วเฉินก็ได้ปรากฏถึงจิตสังหาร!
กูเฟยเยี่ยนนั้นไม่กล้าที่จะมองเข้าไปในดวงตาของจวินจิ่วเฉิน จึงเป็ที่แน่นอนว่านางไม่ได้เห็นถึงจิตสังหารในสายตาของเขา นางในเวลานี้คิดเพียงแค่ว่า้าที่จะช่วยเขาตามหาสาเหตุที่ทำให้ยาสมุนไพรในบ่อน้ำพุร้อนไม่เกิดประสิทธิภาพโดยเร็วที่สุด
“เตี้ยนเซี่ย เมื่อสักครู่นี้หม่อมฉันได้ตรวจสอบไปหนึ่งรอบ แร่ศิลาโอสถชื่อเยี่ยนในบ่อยังเพียงพอต่อการใช้งาน แต่ว่าประสิทธิภาพของยาบนผิวของแร่ศิลาล้วนสลายไปหมดแล้ว ดังนั้นประสิทธิภาพของยาจึงได้ออกฤทธิ์ช้ามาก ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพของบ่อสมุนไพรทั้งหมด หม่อมฉันได้ทุบศิลาชื่อเยี่ยนให้แตกออกบางส่วน ในไม่ช้าประสิทธิภาพของยาก็จะออกมา พระองค์โปรดอนทนต่ออีกนิด”
ใบหน้าของกูเฟยเยี่ยนเอาจริงเอาจัง ในความเป็จริงแล้วภายใต้บ่อน้ำ นางไม่ได้ทุบแร่ศิลาโอสถแตก แต่เป็การนำศิลาสมุนไพรเข้าไปจัดการในหวางเป่าติง เพื่อให้ประสิทธิภาพของยาสามารถออกฤทธิ์ออกมาได้เร็วที่สุด
จวินจิ่วเฉินจับจ้องไปบนฝ่ามือของกูเฟยเยี่ยนโดยไม่ส่งเสียงใดๆ เขาอดทนต่อความหนาวเหน็บพร้อมกับยื่นมือไปทางด้านของกูเฟยเยี่ยนอย่างช้าๆ
แม้ว่าเขาจะให้ข้อยกเว้นหลายต่อหลายครั้งแก่หญิงสาวผู้นี้ ที่ไม่ทราบที่มาที่ไป ทว่าในเื่นี้เขาไม่้าให้นางรู้…