สิ่งที่จวินจิ่วเฉินเป็ไม่ใช่โรคความหนาวเหน็บ แต่เป็เพราะร่างกายถูกพิษไอเย็น
นี่เป็ความลับที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา ในความเป็จริงแล้วการแช่ยาสมุนไพรในบ่อน้ำพุร้อน เป็เพียงแค่การขับไล่ความหนาวเย็นเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้เท่านั้น แม้ว่าต้องทนต่อความหนาวเหน็บเข้าไปถึงกระดูก และความเย็นไปถึงขั้วหัวใจครั้งแล้วครั้งเล่า เขาก็ไม่้าที่จะรักษา
จวินจิ่วเฉินไม่ได้หยิบศิลาโอสถบนฝ่ามือกูเฟยเยี่ยน ฝ่ามือใหญ่ของเขาหยุดอยู่เหนือฝ่ามือของกูเฟยเยี่ยนชั่วครู่ ก่อนจะคว้าตัวนางเข้ามาโดยไม่ได้คาดคิดมาก่อน เขาใช้เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่ทั้งหมดดึงนางเข้าสู่อ้อมอกอย่างรุนแรง
“จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย! ”
กูเฟยเยี่ยนไม่เข้าใจในสถานการณ์นี้ นางตะลึงมาก
เดิมทีจวินจิ่วเฉินควรที่จะลงมือในทันที ทว่าเขาหยุดไว้ชั่วขณะ และในขณะที่เขากำลังจะลงมือจริงๆ จู่ๆ เขาก็เกิดอาการหนาวสั่น ร่างกายอดไม่ไหวที่จะสั่นสะท้านขึ้นมาในทันทีทันใด
เป็เช่นนี้ได้อย่างไร?
ต่อให้บ่อสมุนไพรจะไม่ออกฤทธิ์แล้ว แต่เขาก็มีความมั่นใจว่าจะสามารถใช้พลังต้านอากาศที่เย็นะเืทนทรมานให้ผ่านไปได้
นับั้แ่ที่เริ่มมีอาการมาจนกระทั่งทุกวันนี้ เขาไม่เคยหนาวถึงขั้นนี้มาก่อน ในเวลานี้เขาไม่สามารถที่จะควบคุมอาการสั่นได้ เขาเฝ้าปรารถนาที่จะแสวงหาความอบอุ่นมากเหลือเกิน
กูเฟยเยี่ยนใอย่างยิ่ง “เตี้ยนเซี่ย พระองค์เป็อะไรไป! ”
กูเฟยเยี่ยนแช่ตัวอยู่ในบ่อยาสมุนไพรมานานมากทีเดียว ร่างกายจึงมีความอบอุ่น ฝ่ามือมีความร้อนเป็พิเศษ สำหรับจวินจิ่วเฉินในขณะนี้แล้วเรียกได้ว่าถูกดึงดูดโดยสัญชาตญาณ! แม้ว่าเขาจะพยายามรักษาสติสัมปชัญญะเอาไว้ แต่ในท้ายที่สุดก็ยังสูญเสียสติสัมปชัญญะ ก่อนจะโอบกอดกูเฟยเยี่ยนไว้แน่นด้วยสัญชาตญาณทั่วไป เพียงเพื่อซึมซับความอบอุ่น!
ร่างกายของกูเฟยเยี่ยนเกิดความแข็งทื่อ “เตี้ยนเซี่ย พระองค์ พระองค์อย่า…พระองค์ทรงปล่อยหม่อมฉันเถอะ พระองค์อดทนต่ออีกนิด ประสิทธิภาพของยาแร่ศิลาโอสถชื่อเยี่ยนได้ออกฤทธิ์ออกมาแล้ว”
นอกจากนางจะเกิดความลนลานแล้ว ยังััได้ถึงความเย็นจากร่างกายของเขาได้อย่างสมบูรณ์
ภายในร่างกายของเขาเหมือนจะแผ่กระจายไอความเย็นออกมาไม่หยุด การถูกเขาโอบกอดให้ความรู้สึกเหมือนว่าถูกไอความเย็นล้อมรอบเอาไว้! ต้องยอมรับเลยว่านางเริ่มจะทนความเย็นไม่ไหวแล้ว
จวินจิ่วเฉินนอกจากจะไม่ปล่อยแล้ว สองมือของเขาก็ยังโอบกอดไปที่เอวบางของกูเฟยเยี่ยน ยิ่งกอดยิ่งแน่น ราวกับว่า้าให้ร่างกายของนางฝังเข้าไปในอ้อมกอด เพื่อดูดซับอุณหภูมิอบอุ่นของนางทั้งหมด
“เตี้ยนเซี่ย พระองค์ปล่อยเถอะ”
“เตี้ยนเซี่ย…”
ทันทีที่กูเฟยเยี่ยนร้อนใจ นางก็ดิ้นรนขึ้นมา จวินจิ่วเฉินไม่ได้มีเรี่ยวแรงมากนัก กูเฟยเยี่ยนทั้งดิ้นรนทั้งผลักดัน เขาจึงชนเข้ากับขอบบ่อและไม่สามารถยืนทรงตัวเอาไว้ได้ ไม่ช้าร่างกายก็เริ่มจมลงไป
“เตี้ยนเซี่ย! ”
กูเฟยเยี่ยนรีบร้อนเข้าไปประคอง ทันทีที่นางเข้าใกล้ จวินจิ่วเฉินก็โอบล้อมนางตามสัญชาตญาณอีกครั้ง ในครั้งนี้กูเฟยเยี่ยนไม่กล้าดิ้นแล้ว นางตระหนักได้ว่าเื่ราวมีความผิดปกติจึงอดทนต่อความรู้สึกหนาวเย็น
ประสิทธิภาพของสมุนไพรในบ่อน้ำพุร้อนโดยส่วนใหญ่ได้ฟื้นตัวกลับมาแล้ว ตามหลักแล้วสถานการณ์ของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะเริ่มดีขึ้น ทว่าสถานการณ์ของเขาในตอนนี้กลับเลวร้ายลงอย่างเห็นได้ชัด!
สถานการณ์เช่นนี้หมายความว่า ยาสมุนไพรในบ่อน้ำพุร้อนสูญเสียประสิทธิภาพ และไม่มีผลต่อโรคของเขาแล้ว! หากไม่ได้เป็เพราะว่าเขาทำการแช่ยาสมุนไพรตัวเดิมมาเป็ระยะเวลานาน ร่างกายเกิดความดื้อยา ก็ต้องเป็เพราะว่า โรคเกิดการเปลี่ยนแปลงทำให้ยาสมุนไพรบ่อน้ำพุร้อนไม่สามารถรักษาได้อีกต่อไป
ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอันใดล้วนย่ำแย่อย่างยิ่ง!
ทำอย่างไรดี?
“โรคความหนาวเหน็บ” นี้แปลกประหลาดมาก ต่อให้ทราบใบสั่งยากูเฟยเยี่ยนก็ทำได้เพียงวิเคราะห์ออกมาได้ว่าใบสั่งยานี้ใช้สำหรับขับไล่ความหนาวเย็น นอกนั้นแล้วไม่สามารถคาดการณ์ออกมาได้
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หาก้าวิเคราะห์ว่าใบสั่งยามีประสิทธิภาพหรือไม่ จำเป็ต้องได้รับการช่วยเหลือจากแพทย์รักษา
กูเฟยเยี่ยนกระวนกระวายใจแล้ว นางกำลังจะะโเรียกหมางจ้งกับเซี่ยเสี่ยวหม่านมา ทว่าพอคิดอีกทีก็หยุดลง
ตามหาในเวลานี้อาจจะไม่ทันการ
อีกอย่างคือสถานการณ์เช่นนี้ ทันทีที่ไท่อีมาถึงก็ทำได้เพียงเปลี่ยนใบสั่งยา แร่ศิลาโอสถชื่อเยี่ยนประกอบกับสมุนไพรทั่วไปจะทำให้มีฤทธิ์ในการขับไล่ความหนาวเย็นมากที่สุดอยู่แล้ว แม้แต่ยาสมุนไพรนี้ยังไม่สามารถรักษาได้ สมุนไพรทั่วไปชนิดอื่นยิ่งไม่สามารถรักษาได้ เมื่อพิจารณาตามเหตุการณ์แล้วต้องเพิ่มแร่ศิลาโอสถลงไปอีกหนึ่งชนิด
ในสถานการณ์เช่นนี้สามารถตามหาแร่ศิลาโอสถอีกชนิดได้จากที่ใด? แม้ว่าจะหามันพบก็ไม่สามารถใช้ได้ในทันที การใช้แร่ศิลาโอสถสองชนิดที่มีความแตกต่างกันร่วมกัน จำเป็ต้องใช้เชื้อกระตุ้นหนึ่งชนิด มิฉะนั้นแล้วจะไม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ และเชื้อกระตุ้นนี้มักจะหายากยิ่งกว่าแร่ศิลาโอสถเสียอีก!
เมื่อเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย กูเฟยเยี่ยนจึงไม่กล้าลองเสี่ยง นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่สามารถใช้ได้
ในขณะนี้ร่างกายของจวินจิ่วเฉินเริ่มสั่นเทาขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะแช่ตัวอยู่ในสมุนไพรบ่อน้ำพุร้อน ทว่าร่างกายก็ยังคงเย็นะเื ทั่วทั้งร่างกายแผ่กระจายไอความเย็นออกมา ทำให้กูเฟยเยี่ยนเริ่มรู้สึกทนหนาวไม่ไหว
กูเฟยเยี่ยนฉวยโอกาสตัดสินใจอย่างฉับพลัน โดยการนำหวางเป่าติงมาถูเบาๆ สองถึงสามครั้งเพื่อเรียกอัคคีเทพออกมา แม้ว่าจะอยู่ภายในน้ำหวางเป่าติงก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงขนาดให้ใหญ่ขึ้นมาหนึ่งขนาดได้ ภายในหวางเป่าติงเกิดการเผาไหม้ และปรากฏอัคคีเทพที่ไร้รูปและไร้กลิ่น
การกลั่นกรองสมุนไพรที่ไม่เหมือนกันจำเป็ต้องใช้ระดับความแรงของไฟที่แตกต่างกัน อัคคีเทพนั้นมีระดับหนึ่งไปจนถึงระดับเก้า ระดับยิ่งสูงมากเพียงใดระดับความแรงของไฟก็ยิ่งมากเพียงนั้น ความร้อนที่ส่งไปที่ผนังเตาก็จะมากขึ้น ในขณะเดียวกันหวางเป่าติงก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมา
กูเฟยเยี่ยนทำพันธสัญญากับหวางเป่าติงมาได้ไม่นานนัก จึงรับรู้ไม่มากและยังไม่ได้เริ่มฝึกฝนบำเพ็ญญาณอย่างจริงจัง อย่างมากก็ทำได้เพียงเรียกอัคคีเทพระดับสามออกมา
อัคคีเทพระดับหนึ่งนั้น นางนำมาใช้ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย จึงไม่มีประโยชน์ต่อจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย นางไม่ทราบว่าระดับสองและระดับสามนั้นจะมีประโยชน์หรือไม่ ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีวิธีการอื่นใดแล้วจึงทำได้เพียงลองใช้
ด้วยการเผาไหม้ของอัคคีเทพ หวางเป่าติงค่อยๆ บังเกิดความร้อนขึ้นมา กูเฟยเยี่ยนจึงดึงมือของจวินจิ่วเฉินมาเพื่อให้สองมือของเขาโอบกอดหวางเป่าติง เห็นได้ชัดว่าจวินจิ่วเฉินไม่ได้สติไปแล้ว ทว่ายังจะจู้จี้จุกจิกอีก เขาชื่นชอบอุณหภูมิบนร่างกายของกูเฟยเยี่ยนยิ่งกว่า หลังจากที่โอบกอดหวางเป่าติงแล้วเขาก็ได้ปล่อยมือออก พลางย้อนกลับไปโอบกอดกูเฟยเยี่ยนอีกครั้ง
กูเฟยเยี่ยนตกตะลึงตาค้างเล็กน้อย ดึงมือของเขากดลงมาอีกครั้ง จากนั้นจึงรีบเรียกอัคคีเทพระดับสองออกมา อัคคีเทพค่อยๆ ร้อนแผดเผา หวางเป่าติงก็มีขนาดใหญ่ขึ้น
อย่างไม่ต้องสงสัยเลย จวินจิ่วเฉินชอบอุณหภูมิของอัคคีเทพระดับสอง ในครั้งนี้เขาไม่ได้ปล่อยมือออกมาอีกครั้ง กูเฟยเยี่ยนรอคอยอยู่ชั่วขณะ รู้สึกได้ว่าความเย็นบนร่างกายของเขาลดลงแล้ว เพียงแต่ว่าร่างกายของเขายังคงเย็นเฉียบ
กูเฟยเยี่ยนเกิดความตึงเครียด รีบร้อนเรียกอัคคีเทพระดับสามออกมา หากว่าอัคคีเทพระดับสามยังไม่สามารถช่วยให้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยขับไล่ความหนาวเย็นภายในร่างกายออกไปได้ นางก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำเช่นไรแล้ว
การใช้ญาณสมาธิควบคุมหวางเป่าติงไม่ใช่งานที่ง่ายดายเลย
กูเฟยเยี่ยนสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงไปมากทีเดียวถึงจะเรียกอัคคีเทพระดับสามออกมาได้ ทันทีที่อัคคีเทพระดับสามออกมา หวางเป่าติงก็ใหญ่ขึ้นมาเรื่อยๆ ไฟที่ไร้รูปภายในเตาก็ค่อยๆ เปี่ยมล้นไปด้วยพลัง
แม้ว่าจะมีมือของจวินจิ่วเฉินขั้นกลางระหว่างหวางเป่าติงกับมือของนาง กูเฟยเยี่ยนก็ไม่อาจทนต่อความร้อนได้ นางจึงทำได้เพียงปล่อยมือของจวินจิ่วเฉินออก รอคอยอย่างกังวล โชคดีที่ระดับความแรงของไฟในขั้นนี้เพียงพอที่จะให้ความอบอุ่นต่อจวินจิ่วเฉิน! กูเฟยเยี่ยนััได้อย่างชัดเจนว่าความเย็นบนร่างกายของเขากำลังค่อยๆ สลายหายไป และร่างกายของเขาก็ได้ค่อยๆ กลับมาอุ่นขึ้น
ความกังวลของกูเฟยเยี่ยนสงบลงในที่สุด
หากว่านายเหนือหัวผู้นี้เกิดมีอันเป็ไปขึ้นมา นางไม่กล้าจะจินตนาการเลยว่าผลลัพธ์จะเป็เช่นไร
ร่างกายของจวินจิ่วเฉินกลับมาอบอุ่นขึ้นอีกครั้ง ทว่าเรี่ยวแรงกลับค่อยๆ หายไป เขาพิงอยู่บริเวณแผ่นหลังของกูเฟยเยี่ยน มือทั้งสองข้างอ้อมผ่านเอวของนางไปโอบกอดหวางเป่าติง ร่างกายค่อยๆ ทาบทับลงมาบนแผ่นหลังของนาง พลางซุกศีรษะไว้บริเวณไหล่ของนาง
เซี่ยเสี่ยวหม่านและหมางจ้งได้กลับมาแล้ว ทั้งสองคนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นภายในน้ำ จากมุมของพวกเขาที่มองออกไปพบว่า จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยหันหลังให้กับพวกเขาแล้วโอบกอดกูเฟยเยี่ยนไว้ในอ้อมอกอย่างเหนียวแน่น ใบหน้าของคนทั้งสองใกล้ชิดกันมาก ความใกล้ชิดสนิทสนมของคนทั้งสองราวกับว่ากำลังพูดคุยกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างอยู่
เซี่ยเสี่ยวหม่านและหมางจ้งแทบจะหยุดก้าวเดินพร้อมกัน ทั้งสองคนล้วนตะลึงงัน!
เตี้ยนเซี่ยทรง…นี่คือฟื้นตัวแล้วใช่หรือไม่?
กูเฟยเยี่ยนมีความสามารถจริงๆ !
เพียงแต่ว่าเหตุใดกูเฟยเยี่ยนจึงลงน้ำไป? นางลงไปเองหรือว่าเตี้ยนเซี่ยดึงนางลงไปกัน?
จากมุมนี้ที่มองออกไป ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็เป็เตี้ยนเซี่ยที่ทรงโอบกอดกูเฟยเยี่ยน ไม่ใช่กูเฟยเยี่ยนที่เป็ผู้โอบกอดเตี้ยนเซี่ย! แม้ว่าในตอนนี้เตี้ยนเซี่ยจะทรงอ่อนแอมาก ทว่าหากพระองค์ไม่พอใจก็สามารถะโเรียกองครักษ์ลับได้ตลอด และกูเฟยเยี่ยนจะไม่มีโอกาสในการอิงแอบแนบชิด ซบอยู่ในอ้อมอกแน่นอน!
ดังนั้นแล้วเตี้ยนเซี่ยทรงริเริ่มก่อน!
แต่ว่าหญิงสาวผู้นี้เป็คู่หมั้นของฉีอวี้และมีเื่อื้อฉาวเต็มไปทั่วกับเฉิงอี้เฟย เตี้ยนเซี่ยไม่ถึงกับต้องทำเช่นนี้นี่นา! ไม่มีเหตุผลเลย!
เพื่ออะไร?
ทั้งสองคนพูดคุยกันเป็ระยะเวลานาน ในที่สุดหมางจ้งก็พึมพำออกมา “ข้ารู้แล้ว รู้แล้ว! เตี้ยนเซี่ยทรงปฏิบัติต่อนางแตกต่างออกไป เตี้ยนเซี่ยทรงชอบนาง! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านไม่เต็มใจเชื่อ ทว่าก็โต้แย้งไม่ได้…