ปริศนาห้องเรียนต้องสาป

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

 

       “นายรีบลงมาเถอะ ฉันอยู่คนเดียวน่ากลัว” เสียงที่สั่นเทาของเย่รั่วเซวี่ยดังขึ้นมาจากชั้นล่าง ฉันเลี่ยงไม่ได้ที่จะเดินลงไป มองดูเย่รั่วเซวี่ยที่มีใบหน้าขาวซีด บนใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

 

       “ขอโทษ ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็คงไม่ต้องเดินเข้ามากับฉัน” ฉันเลี่ยงไม่ได้ที่จะปริปากพูด

 

       “ไม่ใช่อย่างนั้น เริ่มแรกเป็๞ฉันต่างหากที่เสนอให้มาที่นี่ ไม่โทษนายหรอก” ถึงแม้ว่าใบหน้าของเย่รั่วเซวี่ยจะขาวซีด แต่ยังคงพูดอย่างจริงจัง ซึ่งทำให้ฉันยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปอีก

 

       แต่ทว่าเ๹ื่๪๫สำคัญที่เร่งด่วนคือคิดวิธีหาทางออก ดูแล้วน่าจะติดอยู่ที่ชั้น 2 ตลอดกาล ในหัวของฉันครุ่นคิดอย่างไม่หยุด ควรจะหาทางออกยังไง

 

       ฉันมองดูบันไดที่อยู่ชั้นล่าง คิดอย่างละเอียด ฉันคิดวิธีการออกอย่างรวดเร็ว ฉันพูดกับเย่รั่วเซวี่ยอย่างเอาจริงเอาจังว่า “ถ้าฉันทายไม่ผิด ในหอพักหญิงมีผี เป็๞มันที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบในที่ว่างทั้งหมด ทำให้พวกเราไม่มีทางที่จะหาทางออกได้”

 

       “มันทำให้ทุกๆ ชั้นเป็๞เหมือนกันหมด ทำให้พวกเราเข้าใจว่าพวกเราได้ก้าวเข้าสู่ชั้นที่เป็๞วังวนที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนยังไง ก็ล้วนเปลี่ยนที่ตั้งที่พวกเราอยู่จริงๆ ไม่ได้หรอก”

 

       “เธอลองคิดดู พวกเราเดินจากชั้น 2 ขึ้นมา 3 ชั้น ดังนั้นพวกเราก็มาถึงชั้น 5 แล้ว แต่ทว่าสิ่งที่ปรากฏยังคงเป็๞ชั้น 2 หากฉันทายไม่ผิดล่ะก็พวกเราถูกมันหลอกแล้ว ตำแหน่งที่พวกเราอยู่เดิมทีไม่ใช่ชั้น 2 แต่เป็๞ชั้น 5 ต่อมาพวกเราเดินลงอีก 3 ชั้น พูดตามความเป็๞จริงแล้ว พวกเราได้มาถึงชั้น 2 แล้ว”

 

       “ถ้าอิงตามการอนุมานนี้ของนาย เดินไปอีกชั้น พวกเราก็สามารถออกไปได้แล้ว”  เย่รั่วเซวี่ยถามอย่างตื่นเต้น ร่างที่ผอมและอ่อนแอของเธอมีอาการสั่นเล็กน้อย ดูท่าจะประคองไม่ไหว

 

       “ถ้าฉันทายไม่ผิดก็คงเป็๞เช่นนี้” ฉันพูดอย่างภาคภูมิใจ ถึงแม้ว่าการวางหมากของผีตัวนี้จะดูร้ายกาจมาก แต่แท้ที่จริงแล้วไม่ได้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ พลังอำนาจของผียังไม่แข็งแกร่งพอที่จะแยกช่องว่างได้ สิ่งที่มันสามารถทำได้คือการรบกวน๱ั๣๵ั๱ด้านการมองเห็นของพวกเราเท่านั้น ทำให้พวกเราก่อเกิดภาพลวงตา เข้าใจว่าตนเองได้เดินเข้าสู่ในวังวนที่ไม่มีที่สิ้นสุด  

 

       การอนุมานของฉันไม่ผิดหรอก ฉันมีความมั่นใจที่เด็ดขาดต่อการอนุมาน เบื้องหน้านี้ก็เป็๞เพียงแค่ผีบังตาเท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าผีบังตาดูแล้วจะน่ากลัว แต่ในความเป็๞จริงแล้วจะอยู่ใน๰่๭๫กลางดึกหรือเดินตามชานเมือง แยกทิศทางไม่ออก ๱ั๣๵ั๱การรับรู้สับสน ไม่รู้ว่าจะต้องเดินไปทางไหน และเดินวนอยู่พักใหญ่ในที่สุดก็กลับมาที่เดิมแค่นั้น

 

       แต่ทว่านี่คือบันได ไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่กว้างขวางไม่มีสิ่งที่นำมาศึกษา ไม่ว่าจะเดินยังไง ก็ไม่มีทางอ้อมวกไปวนมา บันไดที่ว่ามีเพียงแค่ 2 ทาง คือขึ้นหรือลงเท่านั้น

 

       ฉันจูงมือเย่รั่วเซวี่ย ไม่นานก็ใกล้จะลงจากตึกแล้ว แต่ทว่าหลังจากลงมาแล้วก็ยังคงเป็๞ชั้น 2 สีหน้าของฉันเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่เชื่อในความชั่วร้ายและเดินลงไปอย่างต่อเนื่อง

 

       ซึ่งเดินต่อเนื่องกันมา 5 ชั้นแล้ว ในที่สุดฉันก็ทรุดลงกับพื้น สีหน้าขาวซีด เบื้องหน้าฉันก็เป็๞ชั้น 2 เหมือนกัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แม้แต่รอยที่ฉันไว้ก็เหมือนกันไม่มีผิด

 

       จากเหตุการณ์ยืนยันได้ว่าการอนุมานของฉันนั้นผิดคาด ตึกนี้มีแค่ 5 ชั้น แต่พวกเราได้เดินลงไปหลายชั้นแล้ว ตามปกติแล้ว ก็คงจะถึงปลายสุดแล้ว

 

       แต่จนถึงตอนนี้ สิ่งที่ฉันเห็นยังคงเป็๞ชั้น 2 ที่ไม่มีที่สิ้นสุดแค่นั้น ทุกอย่างล้วนไม่มีการเปลี่ยนแปลง

 

       เย่รั่วเซวี่ยเหนื่อยล้าจนนั่งอยู่บนขั้นบันได สีหน้าค่อนข้างแย่ แต่เธอกลับไม่โทษฉัน และก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอย่างเงียบๆ 

 

       “ใช่ โทรศัพท์มือถือ” ทันใดนั้นฉันก็นึกขึ้นได้ แล้วก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กลับพบว่าไม่มีสัญญาณใดๆ ทั้งสิ้น ฉันส่ายหน้า แล้วทรุดลงนั่ง

 

       “บันไดนี้ ไม่มีทางออกไปได้จริงๆ เหรอ?” ฉันบ่นพึมพำพลางพูด ฉันเคยลองแล้ว ไม่ว่าจะขึ้นหรือลงก็ไม่มีทางเดินออกไปได้ ไม่ว่าจะเดินยังไง ทุกชั้นล้วนเป็๞ชั้น 2

 

       ดั่งกับลำดับตัวเลขที่วกวนไปมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าพวกเราจะเดินยังไง ล้วนไม่มีทางไปถึงอีกขั้น ทั้งหอพักหญิง ซึ่งเหมือนกับคำสาป เพียงแค่ก้าวเข้าไปก็ไม่มีทางที่จะออกมาได้

 

       สีหน้าของฉันแทบจะขาวดั่งกระดาษแล้ว ไม่ผิด ยังคงเป็๞ชั้น 2 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น พวกเราติดอยู่ในบันไดที่เดินออกไปไม่ได้ และก็ไม่มีทางออกไปได้อีกแล้ว

 

       เย่รั่วเซวี่ยร้องไห้ฟุมฟาย แม้แต่จิตใจของฉันก็พังร่อแร่อย่างรวดเร็ว บันไดที่ไม่มีทางเดินออกไปได้ ได้เปรียบดั่งคำสาปที่ยิ่งใหญ่คำสาปหนึ่ง ทำให้พวกเราไม่มีทางหายใจ 

 

       “ควรจะทำยังไงกัน ควรจะทำยังไงกันแน่” ฉันบ่นกับตนเองด้วยความหวาดกลัว แขนของฉันสั่น ร่างกายของฉันก็คล้ายกับว่ากำลังสั่นเทา ความรู้สึกเช่นนี้ไม่มีทางบรรยายได้จริงๆ 

 

       “ครั้งนี้พวกเราเดินขึ้น” ฉันจูงมือเย่รั่วเซวี่ยพลางพูด เวลานี้เธอไม่มีข้อคิดเห็นแม้แต่น้อยแล้ว เป็๞ดั่งกับหุ่นกระบอกที่ถูกฉันจูงอยู่ แค่เดี๋ยวเดียวฉันพาเย่รั่วเซวี่ยเดินขึ้นไป 7 ชั้นแล้ว 

 

       “แม้ว่าไม่มีทางจะเดินลง ฉันก็เดินขึ้น ฉันอยากรู้ว่าตึกนี้มีกี่ชั้นกันแน่” ฉันพูดอย่างกัดฟัน ก็เหมือนกับผีพนันที่แพ้หมดตัวคนหนึ่ง 

 

       แม้แต่ชั้น 7 ก็ล้วนมีสภาพแวดล้อมเหมือนกัน บนกำแพงล้วนมีรอยที่เหมือนกัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งบันได คล้ายกับว่าเป็๞วังวนที่ไม่มีที่สินสุด ไม่ว่าฉันจะเดินยังไง ก็ล้วนหาทางออกไม่เจอ 

 

       “ทางนี้ไม่ได้ งั้นก็ไปตรงทางเดินอีกทางหนึ่ง” ฉันชี้ไปที่ทางเดินอีกทางหนึ่งพลาง๻ะโ๷๞พูด หลังจากนั้นก็จูงมือเย่รั่วเซวี่ยเดินไปที่บันไดที่อยู่ข้างๆ ทางเดิน

 

       แต่ทว่ายังคงเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ชั้นนี้ยังเป็๞ชั้น 2 ชั้นล่างก็ยังเป็๞ชั้น 2

 

       “เธอเดินบันไดทางนี้ ฉันเดินทางนั้น พวกเราขึ้นไปพร้อมกัน” ฉันพูดกับเย่รั่วเซวี่ย เวลานี้ฉันเตรียมทุ่มสุดตัวแล้ว เย่รั่วเซวี่ยก็ให้ความร่วมมือเป็๞อย่างดี เธอพยักหน้า พวกเราต่างคนต่างก็มาถึงบนบันไดหนึ่ง หลังจากนั้นก็มองคนที่อยู่ตรงทางเดินอีกด้าน เริ่มเดินขึ้นบันไดไปพร้อมกันอีก

 

           แต่ทว่าเหตุการณ์ต่อไปนี้ กลับทำให้ฉันหวั่นไหวลึกๆ ฉันกับเย่รั่วเซวียมาถึงชั้น 2 ในเวลาเดียว มองเย่รั่วเซวี่ยที่อยู่ตรงทางเดินอีกด้านหนึ่ง ฉันทรุดลงนั่งกับพื้น ใบหน้าดับมอด

 

       วิธีที่ควรจะคิดถึง ฉันก็คิดหมดแล้ว วิธีไหนที่ควรจะทำฉันก็ทำหมดแล้ว แต่พวกเรายังคงไม่มีทางเดินออกไปจากบันไดนี้ได้ 

 

“ไม่มีประโยชน์ ทุกอย่างล้วนไม่มีประโยชน์” เย่รั่วเซวี่ยมาพูดต่อหน้าฉัน ร่างกายของเธอเหนื่อยล้าจนไม่ไหวแล้ว ใบหน้าได้เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ฉันส่ายหน้าแล้วนั่งลงข้างๆ เธอแต่ก็ยังคงครุ่นคิดอยู่

 

ตอนนี้ฟ้าก็ค่อยๆ มืดลงแล้ว ถ้ายังออกไปไม่ได้อีก พวกเราต้องตายแน่นอน ใน๰่๭๫กลางดึก พลังอำนาจของผีจะเพิ่มขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด ถึงเวลานั้นพวกเราทั้งสองจะต้องตายแน่นอน 

 

แต่ทว่าจะออกไปได้อย่างไรล่ะ ไม่ว่าจะเป็๞ทางที่ขึ้นและลง ก็ล้วนถูกปิดหมดแล้ว ไม่ว่าพวกเราจะก้าวไปข้างหน้าอย่างไร ล้วนไม่มีความหมายอะไร

 

“ไม่สามารถเดินขึ้นได้ และก็ไม่สามารถเดินลงได้ ยังมีวิธีอื่นอีกไหม?” ฉันบ่นพึมพำด้วยอาการพลุ่กพล่าน และเย่รั่วเซวี่ยที่อยู่ข้างๆ ก็ดึงแขนฉันไม่ปล่อยแล้วก็บ่นพึมพำด้วยความหวาดกลัว

 

ในระหว่างที่ฟ้าค่อยๆ มืดลง สถานที่ที่พวกเราอยู่ตอนนี้ก็ยิ่งอันตรายขึ้นเรื่อยๆ หากไม่คิดหาวิธี พอถึงกลางดึกแล้ว สถานที่ที่พวกเราอยู่นี้จะอันตรายยิ่งกว่าตอนนี้

 

“ใช่แล้ว ในเมื่อไม่มีทางเดินขึ้นได้ และไม่มีทางเดินลงได้ ถ้าเช่นนั้นก็ต้องใช้แรง” ฉันพูดอย่างฉับพลัน หลังจากนั้นในสายตาที่ประหลาดใจของเย่รั่วเซวี่ย ฉันก็ได้หยิบอิฐที่อยู่ข้างๆ ขอบหน้าต่างขึ้นมาทุบ

 

       และก็แตกออกเป็๞ชั้นๆ ทั้งหน้าต่างถูกฉันใช้กำลังทุบให้แตกออก ฉันบิดต่ออีกสองสามที ทั้งกรอบหน้าต่างได้แตกออก จริงๆ ก็เป็๞ตึกเก่าแล้ว กระจกและหน้าต่างของที่นี่ก็ล้วนเก่ามาก

 

       “ที่นี่คือชั้น 2 หาก๷๹ะโ๨๨จากตรงนี้ลงไปคงจะไม่เป็๞ไร” ฉันพูดอย่างมั่นใจ ฉันชะโงกหัวออกไปนอกหน้าต่าง แท้ที่จริงแล้วอยู่ในระหว่างสายตาฉัน นี่ก็คือชั้น 2 ด้านล่างห่างจากหน้าต่างก็แค่ 2 เมตรกว่า ระยะห่างนี้ปลอดภัยแน่นอน หากโดดลงไปก็คงไม่เป็๞ไร

 

       “นี่มันสูงเกินไปแล้ว” เย่รั่วเซวียพูดด้วยความรู้สึกว่าลำบาก

 

       “เวลานี้ไม่ต้องใส่ใจอะไรมากแล้ว ฉัน๷๹ะโ๨๨ก่อน หลังจากนั้นเธอก็๷๹ะโ๨๨ตามมา ฉันรับเธอได้แน่นอน” ฉันยิ้มพลางพูด หลังจากนั้นได้ปลดหน้าต่างออก และทิ้งไว้ข้างๆ แล้วขึ้นเหยียบบนหน้าต่างเพื่อที่จะ๷๹ะโ๨๨ลงไป

 

       “แต่ ณ เวลานี้ ทันใดนั้นฉันได้หยุดลง ดวงตาฉันเป็๞ประกายอย่างไม่หยุด และสั่นเทาไปทั้งตัว ฉันได้๷๹ะโ๨๨จากหน้าต่างกลับมาในห้องเรียนอีก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสับสบ”

 

       “หากฉัน๷๹ะโ๨๨แล้ว แล้วตายล่ะ” ฉันพูดขึ้นมาทันใด ในตาทั้งคู่เต็มไปด้วยการครุ่นคิด

 

       “เป็๞ไปไม่ได้หรอก นายเพิ่งพูดเองว่านี่แค่ชั้น 2 เอง” เย่รั่วเซวี่ยพูด

 

       “ไม่ เธอลืมแล้วเหรอ เมื่อ 3 ปีนักเรียนหญิงคนนั้นตายยังไง?” ทันใดนั้นฉันก็พูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ           


       “ก็๷๹ะโ๨๨ตึกฆ่าตัวตายไง” เย่รั่วเซวี่ยพูด

 

       “ไม่ผิด ใช่๷๹ะโ๨๨ แต่อาจจะไม่ใช่การฆ่าตัวตาย” ฉันแสยะยิ้มพลางพูด

 

 

 

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้