ความเร็วของอาชาเดือนดารัญนั้นมีข้อจำกัดมากในเส้นขอบฟ้า แต่มันก็เป็ความเร็วที่คนอื่นเทียบไม่ติด
ด้วยระยะทางสองลี้ ในชั่วพริบตาอาชาเดือนดารัญก็ก้าวไปถึงหนึ่งลี้แล้ว
หลัวเลี่ยใช้สองมือโบกสะบัดครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ัน้ำแข็งและัไฟเ่าั้แตกเป็เสี่ยงๆ และไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้
ในเวลานี้ มันแสดงให้เห็นว่าพลังการต่อสู้ของหลัวเลี่ยนั้นน่ากลัวเพียงใด และไม่สามารถคาดเดาได้เลย
ชางจื่อเฟิงไม่กล้าใจร้อน ส่วนต้วนเหยียนเจี๋ยที่เพิ่งมาถึงก็อ้าปากค้างและมองด้วยความตกตะลึง
“เขาแข็งแกร่งจริงๆ” เยาวชนมากฝีมือกล่าวขึ้นเบาๆ
ต้วนเหยียนเจี๋ยอยากจะสาปแช่งและประชดความตั้งใจของเขา แต่เมื่อเขาเห็นัน้ำแข็งที่ทรงพลังและัไฟพุ่งเข้ามา เขาก็พูดไม่ออก เพราะตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะฆ่าพวกมันได้หลายสิบตัวติดต่อกันโดยที่ตนเองยังไร้รอยขีดข่วนได้
“จะทำอย่างไรดี” ต้วนเหยียนเจี๋ยมองไปที่ชางจื่อเฟิง
กลุ่มหมีขนทองและอัจฉริยะรุ่นเยาว์เทียนคงถูกพลังจากเส้นขอบฟ้า ทำให้พวกเขาไม่สามารถใช้วิชาตัวเบาได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และไม่สามารถใช้พลังสูงสุดได้
ชางจื่อเฟิงดูเหมือนจะตอบต้วนเหยียนเจี๋ย แต่ก็ราวกับว่าเขากำลังพูดกับหลัวเลี่ยด้วย เสียงของเขาดังและกระจายไปไกล “ข้าคิดมานานแล้วว่าหลัวเลี่ยอาจฝ่าด่านของเราและขึ้นไปบนเส้นขอบฟ้าได้ ดังนั้นข้าก็เลยเตรียมการไว้แล้ว”
“เส้นขอบฟ้านี้ก่อตัวขึ้นโดยัระดับกายทองคำสองตัว ทั้งสองเป็ัน้ำแข็งและัเพลิงกลืนเมฆ พวกมันตายโดยไม่เต็มใจ และทั้งสองต่างมีสิทธิ์ขึ้นเป็ับรรพชน แต่พวกเขาก็ตายในขณะที่อยู่ในระดับกายทองคำ ด้วยความที่ร่างัระดับนี้นั้นเป็ะ ซึ่งก่อให้เกิดแนวเส้นขอบฟ้าขึ้น”
“บนเส้นขอบฟ้านั้น น้ำแข็งและไฟจะต่อสู้กันเสมอ”
“ขอเพียงมีเืัจำนวนหนึ่งจากัน้ำแข็งและัเพลิงกลืนเมฆ เมื่อเป็ชนิดเดียวกันก็จะสามารถเพิ่มอันตรายให้กับเส้นขอบฟ้าได้หลายเท่า”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด ต้วนเหยียนเจี๋ยและคนอื่นๆ ก็หัวเราะออกมา
สีหน้าของหยางเสี้ยวเสียและคนอื่นๆ เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
จากนั้นเขาก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ถึงอย่างไรชางจื่อเฟิงก็เป็องค์ชายของอาณาจักรชาง เมื่อเขาได้ลงมือแล้วก็ไม่ง่ายนักที่จะรับมือ
“หลัวเลี่ย ในเมื่อข้าจะไม่ได้ของในมือของเ้า เช่นนั้นก็ปล่อยให้มันตกลงไปในเหวเสียเถิด ข้าจะฆ่าเ้า!" ชางจื่อเฟิงคำรามอย่างดุเดือดและยกมือขึ้น
พรึ่บๆ...
เกล็ดัมากกว่าสิบเกล็ดลอยออกมา
เกล็ดัเหล่านี้ล้วนมาจากัน้ำแข็งและัเพลิงกลืนเมฆ แน่นอนว่ามันไม่ได้มาจากัทรงพลังสองตัวที่ตายไปแล้วแต่มาจากัรุ่นลูกหลานที่มีสายเืเดียวกันและมีเืัอยู่บนเกล็ดั
กรรซ์!
กรรซ์!
จู่ๆ เสียงร้องของัสองเสียงที่สั่นะเืทุกสิ่งก็ดังขึ้น
ัน้ำแข็งและัเพลิงที่โจมตีกันอย่างเมามันละลายหายไป และกลายเป็อากาศเย็นและเปลวไฟอันบริสุทธิ์
ภายใต้เหวทั้งสองด้าน ัั์สองตัวที่มีความหนาเกือบหนึ่งจั้งและยาวมากกว่าสิบจั้งบินขึ้นมา พวกมันบินขึ้นมาพร้อมกับเขี้ยวและกรงเล็บอันแหลมคม ทำให้อากาศเย็นและเปลวไฟเพิ่มพลังอีกครั้ง
อากาศที่เย็นเสียดกระดูกและเปลวเพลิงที่ลุกโชติ่ปะทะกัน ก่อตัวเป็กองกำลังไร้ปีกที่มองไม่เห็นครอบคลุมรัศมีหลายลี้ ทำให้กลุ่มหมีขนทองซึ่งอยู่รอบนอกของเส้นขอบฟ้าล้มลงเสียงดัง “ตุ้บๆ”
“หลัวเลี่ย ตายซะเถอะ!” ชางจื่อเฟิงะโ
ทันใดนั้น ัน้ำแข็งขนาดใหญ่และัไฟสองตัวก็พุ่งเข้าหาหลัวเลี่ยที่อยู่บนเส้นขอบฟ้า
ัสองตัวนี้ไม่ธรรมดา มันเป็การหลอมรวมธรรมชาติของัของสองเผ่าัผู้ทรงพลังที่ตกสู่เหว มันดูดซับความเย็นของัน้ำแข็งและเปลวเพลิงของัเพลิงกลืนเมฆ จนทำให้มีพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
แม้แต่หลัวเลี่ยก็ยังรู้สึกถึงภัยคุกคาม
แต่เขาก็ไม่ถอย
ยิ่งเขามาถึงกลางทางแล้วยิ่งถอยไม่ได้ เขาะโไม่ได้ ทำได้แค่เดินเท่านั้น
ในที่สุดหลัวเลี่ยก็อยากฆ่าชางจื่อเฟิงแล้ว
ในตอนที่เขากำลังจะโจมตีอย่างรุนแรง เสียงร่ายคาถาก็ดังขึ้น
เป็เสวี่ยปิงหนิงที่ถือพู่กันศักดิ์สิทธิ์และร่ายคาถาอยู่
กลิ่นอายัที่ทรงพลังรวมตัวกันที่ปลายพู่กัน จากนั้นเสวี่ยปิงหนิงก็ชี้ไปที่ความว่างเปล่า
พรึ่บ!
ภายในหมอกจางๆ มีแสงสว่างเรืองรองไปทั่ว
ร่างของัน้ำแข็งและัไฟขนาดใหญ่ที่บินโฉบไปมาทั้งสองตัวสั่นอย่างรุนแรง จากนั้นก็หยุดกลางอากาศราวกับถูกแช่แข็ง และในลมหายใจต่อมาพวกมันก็ทรุดตัวลงและตกลงสู่เหวลึก
“คาถาปิดผนึก”
เสวี่ยปิงหนิงถอนหายใจ นางเหนื่อยเล็กน้อยและมีเหงื่อบางๆ ผุดขึ้นบนหน้าผากของนาง คาถานี้แทบจะทำให้นางหมดเรี่ยวแรง “ข้าเคยพูดไว้ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเื่ของเ้าที่เกิดขึ้นใน่ปีนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะปล่อยให้เ้าโจมตีต่อไปโดยไม่สู้กลับ”
เสวี่ยปิงหนิงที่ไม่ใช่เด็กแล้ว นางอธิบายเหตุผลในการกระทำของตัวเองอย่างชัดเจน
นี่ก็สมเหตุสมผลแล้ว ถ้ามีคน้าฆ่านาง นางจะยืนนิ่งๆ รอความตายได้อย่างไร
ชางจื่อเฟิงตัวสั่นด้วยความโกรธ “เ้าได้เตรียมการไว้แล้ว”
“เ้าพูดถึงคาถาปิดผนึกหรือ?” เสวี่ยปิงหนิงกล่าวอย่างเฉยเมย “ข้าเรียนรู้มันมาเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้แล้ว ก็ไม่ยากเท่าไหร่ อ่า ใช่แล้ว ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านี้เ้าอยากจับตัวข้าไปต่อรองกับหลัวเลี่ยไม่ใช่หรือ เช่นนั้นข้าจะตอบแทนเ้าด้วยคาถาปิดผนึกนี้ก็แล้วกัน”
ใบหน้าของชางจื่อเฟิงเปลี่ยนเป็สีเขียวคล้ำ
หยางเสี้ยวเสียและคนอื่นๆ ที่กังวลในตอนแรก เมื่อเห็นสถานการณ์นี้พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“พวกเ้าจะมีความสุขเร็วเกินไปแล้ว”
“หลัวเลี่ย ข้าบอกว่าเ้าต้องตาย เ้าก็ต้องตาย!"
ทันใดนั้นชางจื่อเฟิงก็หยิบมีดสั้นออกมา
ทันทีที่มีดปรากฏออกมา หุบเหวทั้งสองด้านของเส้นขอบฟ้าก็มีปฏิกิริยาอากาศเย็นหมุนวนอย่างรุนแรง เปลวเพลิงลุกโชนและลอยไปมา มีกระทั่งเสียงคำรามของั และพลังของัที่น่าสะพรึงกลัว
“มีดจิตั!”
“คิดไม่ถึงสินะ นี่เป็สมบัติศักดิ์สิทธิ์ในคลังสมบัติของอาณาจักรชาง”
“รู้ไหมว่าข้าจ่ายไปเท่าไหร่เพื่อที่จะได้มันมา ข้าเกือบจะเสียทุกอย่างของตัวเอง มันเป็ไพ่ใบสุดท้ายของข้า แม้ว่าข้าจะหยุดเ้าไม่ให้ไปถึงเส้นขอบฟ้าไม่ได้ แต่ข้าก็จะปล่อยให้เ้าตายบนเส้นขอบฟ้านั้นแทน”
“ถ้าเ้าไม่ตาย ข้าชางจื่อเฟิงคนนี้จะมีหน้าไปพบบรรพบุรุษได้อย่างไร”
“หลัวเลี่ยจงเตรียมตัวให้พร้อม เ้ากำลังจะตายแล้ว"
ดวงตาของชางจื่อเฟิงเ็า เขาใช้มือแทงมีดจิตัเข้าไปในหน้าอกของเขา
ฉึก!
เืสาดกระเซ็น
ราวกับว่ามีดจิตัฟื้นคืนชีพขึ้นมา จู่ๆ มันก็ส่องแสงสว่างวาบ ตรงปลายด้ามมีดมีหัวของัอยู่ ดวงตาของมันเหมือนอัญมณีที่ส่องประกาย และปากของัที่อ้าออกมาก็ส่งเสียงคำราม
กล้ามเนื้อบนใบหน้าของชางจื่อเฟิงกระตุก มีไอร้อนออกมาจากส่วนบนศีรษะของเขา สีผิวของเขาคล้ำลง ร่างกายของเขากลายเป็วงกลมในทันที และดวงตาของเขาก็ไม่สดใสเหมือนมนุษย์อีกต่อไป
“สายเืราชวงศ์ชางอาจไม่ใช่สายเืที่ทรงพลังที่สุด แต่ก็เป็หนึ่งในสายเืที่เทพประทานพรมากที่สุด ไม่เช่นนั้นเราจะสร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร”
“เมื่อเืของข้ารวมเข้ากับส่วนหนึ่งของจิติญญาของข้าแล้ว มันก็จะชุบชีวิตของมีดจิตัได้”
พรึ่บ!
ชางจื่อเฟิงดึงมีดจิตัออกมา เขาโบกมือของเขาแล้วโยนมันลงไปในเหวแห่งเปลวเพลิง “ใช้จิติญญาของข้า เืของข้า และมีดของข้า เพื่อปลุกัที่หลับใหลให้ฟื้นขึ้นมา นักรบิญญาัเพลิง!”
มีดจิตัตกลงไปในเปลวเพลิง
เมื่อมันตกลงมามากกว่าสามสิบจั้ง มันก็ปล่อยเสียงคำรามของัออกมา จากนั้นลำแสงสองลำก็พุ่งออกมาจากดวงตาของัและจมลงไปในนั้น
ทันใดนั้น เปลวเพลิงก็แข็งแกร่งขึ้น มันลุกไหม้อย่างรุนแรง จนทำให้เกิดการะเิออกมาจากก้นบึ้งแห่งเปลวเพลิง
ัส่งเสียงคำรามอย่างต่อเนื่อง และมีพลังของัที่ทำให้ทุกคนรู้สึกราวกับอวัยวะภายในถูกบีบรัด
ตึง
ร่างใหญ่ที่มีความสูงเกือบหนึ่งจั้งะโออกมาจากหุบเหว
หัวของมันเป็ั ร่างกายเป็มนุษย์ และหางของมันเป็ั ผิวทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยเกล็ดของั ขาและเท้าอยู่ในร่างมนุษย์ แต่มืออยู่ในรูปของกรงเล็บั ทั้งตัวมีไอพลังที่น่าสะพรึงกลัว ร่างนี้แฝงไปด้วยไอพลังของชางจื่อเฟิง
นี่คืุ์จิตัเพลิง