เสียงของลูกเตะที่ปะทะกับหน้าอกของฉินเฟิงคล้ายกับรถสองคันที่ชนกันด้วยความเร็วมันเสียงดังมากจนทั้งลานประลองสั่นเล็กน้อย
ฉินเฟิงโดนส่งกระเด็นไปที่กรงไฟฟ้า ทำให้ได้ยินเสียงเปรี๊ยะๆ
ฉากนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงผู้หญิงบางคนที่อ่อนไหวก็ไม่กล้ามองฉินเฟิงอีกต่อไปพวกเขามั่นใจว่าอาจจะเพราะความกล้าหรือเืร้อนฉินเฟิงเลยจบด้วยการโดนกรงไฟฟ้าช็อตเกรียม
“ฉินเฟิง...”หานอิ๋งอิ๋งร้องออกมาขณะที่น้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่แม้แต่หานอิ๋งอิ๋งก็เชื่อว่าฉินเฟิงตายแล้วเหมือนกัน
ทั้งข้อมือและขาโดนหัก แล้วยังโดนเตะเหมือนกับลูกบอลแถมยังโดนไฟฟ้าช็อตอีก เขาจะยังรอดอยู่ได้อย่างไง?
ด้วยเหตุผลบางอย่างเมื่อเธอนึกถึงความจริงที่ว่าเธอจะไม่สามารถเห็นฉินเฟิงได้อีกครั้งเธอก็รู้สึกว่างเปล่าอยู่ข้างใน
“ฮึ่ม...ไอ้เด็กโง่สำหรับพ่อแล้ว ฆ่าแกก็เหมือนเหยียบมดปลวก” ในทางกลับกันเฒ่าเฟิงไม่ได้แสดงอาการอะไรสำหรับความตายของฉินเฟิง เขาฆ่าคนมามากในอดีตดังนั้นเพิ่มฉินเฟิงเข้าไปจึงไม่ใช่เื่ใหญ่อะไร
แน่นอนว่าคนที่มีความสุขมากที่สุดคือฮ่าวหยุนเขาเห็นฉินเฟิงโดนอัดจนลุกไม่ขึ้นด้วยตัวเอง และในที่สุดก็โดนไฟช็อตตายเขามีความสุขมากจนอยากจะเป็บ้า
โจวข่ายและซือหม่าถูก็เริ่มแสดงความยินดีกับฮ่าวหยุน“ยินดีด้วย นายน้อยหยุน คนน่ารำคาญมันหายไปแล้ว ในกาลต่อไปสี่คุณชายแห่งเมืองเว่ยเฉิงก็จะกลายเป็สามคุณชายแห่งเมืองเว่ยเฉิง”
พวกเขาแต่ละคนไม่ชอบฉินเฟิงและเมื่อเห็นว่าฮ่าวหยุนได้กำจัดเขาไปแล้ว พวกเขาจึงรู้สึกยินดีจนไม่เป็ตัวของตัวเอง
“ฮ่าๆๆวันนี้เป็วันเฉลิมฉลองใหญ่ หลังจบงานฉันจะจัดงานเลี้ยงให้ยิ่งใหญ่อลังการฉันจะบอกผู้จัดการหม่าทีหลังว่าทุกอย่างในวังัพลอยม่วงนี้ฉันเลี้ยงเอง”
ฮ่าวหยุนดีใจจริงๆ เขาอยากจะจัดการฉินเฟิงมานานแล้วและไม่เคยคิดว่าฉินเฟิงจะพาตัวเองไปสู่ความตาย ดูเหมือน์จะเข้าข้างเขา
เมื่อเขากำลังลงไปข้างล่างและพูดกับผู้จัดการหม่าให้ยกเลิกค่าใช้จ่ายของแขกทั้งหมดอย่างตื่นเต้นเสียงเ็าก็ดังออกมา
เสียงไม่ได้ดังมาก แต่หูทุกคนได้ยินชัดเจนเหมือนกับเสียงดังกระหึ่มของฟ้าที่ผ่าลงบนหัวของพวกเขา
“นายน้อยหยุนฉันยังอยู่ดีมีสุข แกจะฉลองอะไร?”ฉินเฟิงเป็เหมือนกับผีและไม่มีใครรู้ว่าเขายืนขึ้นั้แ่เมื่อไร
เขายืนตัวตรงพร้อมกับเอามือไพล่หลัง เขายิ้มจางๆบนใบหน้าและปล่อยบรรยากาศที่เย็นะเืออกมาจากตัว
เหมือนกับว่าเขาตายแล้วกลายเป็คนใหม่ บรรยากาศคุกคามที่ออกมาจากตัวของเขาแผ่ความรู้สึกกดดันออกมา
ทุกคนรู้สึกเหมือนกับลมใบไม้ผลิหลังพายุที่สร้างชีวิตใหม่เหล่าคนดูอดที่จะนับถือฉินเฟิงอย่างช่วยไม่ได้ภาพที่เขายืนอยู่ตรงนั้นเหมือนกับเทพาที่อยู่ยงคงกระพันฝังลึกในจิตใจพวกเขา
หลังจากพูดจบ ฉินเฟิงเดินมาหาจางเปียวและนั่งยองๆขณะที่ใส่ยาเม็ดสีแดงลงในปากของจางเปียว
แล้วเขาก็ยืนขึ้นดูเวลาบนนาฬิกาของเขาขณะที่รอยยิ้มน้อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้า เขาพึมพำกับตัวเอง “เหลืออีก 3 นาทีมันก็พอแล้วที่จะจัดการไอ้แก่เฟอะฟะนั่น!”
ฉินเฟิงไม่ได้มั่นใจเกินเหตุ แต่หลังจากโดนอัดหลายรอบเขาก็ทลายขีดจำกัดสู่ขั้นที่สองได้สำเร็จและได้รับแต้มสำราญ 500 แต้มจากระบบ เขาซื้อยาสมานทองขั้นต้น 2 เม็ด เม็ดหนึ่งให้ตัวเอง อีกเม็ดให้จางเปียว
หลังจากกินยาสมานทองขั้นต้นบวกกับทลายขีดจำกัดสู่ขั้นที่สองกระดูกของฉินเฟิงก็รักษาหายอย่างสมบูรณ์และว่องไวขึ้นมากกว่าแต่ก่อน
ตอนนี้เขามีพละกำลังมากกว่าคนธรรมดา 4 เท่า บวกกับหมัดพยัคฆ์คำรนขั้นกลางเขาสามารถะเิพลังมากกว่าคนธรรมดา 6เท่าความเร็วของเขาก็มากกว่าคนธรรมดาถึง 1.4เท่า
ตอนนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับเฒ่าเฟิงอีกครั้งฉินเฟิงมีพลังพอที่จะชนะเขา!
“ฮึ่ม...ไอ้หนูข้าไม่เคยคิดเลยว่าแกจะตายยากตายเย็นอย่างนี้” ฉินเฟิงยืนขึ้นราวกับไม่เป็อะไรนอกจากเสื้อผ้าที่ไหม้เกรียม เขาดูเหมือนไม่ได้รับาเ็
ลึกๆแล้วเฒ่าเฟิงรู้สึกถึงเศษเสี้ยวความกลัวและไม่อาจยอมรับความรู้สึกนี้มันรอดมาได้แถมยังดูสบายดี แน่นอนว่าเขาเก็บความกลัวไว้ในใจไม่ยอมเปิดเผยออกมา
ั์ตาของเฒ่าเฟิงบนใบหน้าเหี่ยวย่นฉายแววเ็าออกมาขณะพูดอย่างดุดัน“แล้วไง? พ่อไม่ใส่ใจหรอกที่จะฆ่าแกอีกสักหลายๆ ครั้งข้าอยากรู้จริงๆ ว่าแกจะมีสักกี่ชีวิตกัน?”
ทันใดนั้นร่างกายของเฒ่าเฟิงก็ะเิออกมาด้วยความกดดันที่แข็งแกร่งกว่าแม้แต่คนดูบนชั้นสองก็สามารถเห็นอากาศกระเพื่อมได้ร่างกายของเฒ่าเฟิงพุ่งออกไปไวมากจนเป็ภาพเบลอและมองด้วยตาเปล่าไม่ทัน
มันเหมือนกับเฒ่าเฟิงหายตัวไปทันใดนั้นเขาก็มาถึงตรงหน้าฉินเฟิงและหมุนตัวพร้อมจะเตะไปที่หัวของฉินเฟิง
“เฮอะ...ไอ้หนูครั้งนี้พ่อจะเตะหัวแกให้เละไปเลย ดูซิว่าแกจะยังยืนขึ้นได้อีกไหม”ขณะที่เฒ่าเฟิงคำรามออกมา เสียงขาแหวกอากาศก็ดังออกมาให้ได้ยินทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงอย่างมาก
ฉินเฟิงยิ้มออกมาทันที หลังจากเข้าสู่ขั้นที่สองร่างกายของเขาก็ยกระดับขึ้น เขาพบว่าชายแก่ตรงหน้าดูไม่เร็วนัก อย่างน้อยสายตาของฉินเฟิงก็สามารถตามความเคลื่อนไหวทัน
ทันใดนั้นฉิงเฟิงก็เอี้ยวตัวหลบลูกเตะที่รุนแรงของเฒ่าเฟิงแล้วหมุนตัวปล่อยหมัดออกไป
ร่างของเฒ่าเฟิงที่ยังหมุนอยู่กลางอากาศเพราะเตะไม่โดนก็ถูกส่งกระเด็นไปโดยหมัดของฉินเฟิง
ไม่ใช่แค่เรียบง่ายและว่องไว แต่ยังรุนแรงและทรงพลังนั่นเป็ความประทับใจที่ฉินเฟิงทิ้งไว้ในใจของทุกคน
เหล่าคนดูใกันอย่างยาวนานและไม่สามารถแสดงออกมาเป็คำพูดได้พวกเขาไม่เข้าใจว่าฉินเฟิงที่ดูป้องกันตัวเองไม่ได้ในตอนแรกจะแข็งแกร่งขึ้นกะทันหันแบบนี้ได้อย่างไร
เฒ่าเฟิงกุมท้องและกระอักเืออกมา เขาพยายามจะยืนตรงและเมื่อมองไปที่ฉินเฟิงอีกครั้ง ความกลัวก็โผล่ขึ้นในดวงตาแต่มันก็ยังมีความโกรธที่มากกว่าเขารู้สึกเหมือนโดนหยามที่ถูกส่งปลิวไปโดยนายน้อยเ้าสำอางที่มีข่าวลือว่าไม่มีแรงแม้แต่บีบไก่ตาย
บรรยากาศรอบตัวของเขารุนแรงขึ้นและมองไปที่ฉินเฟิงราวกับว่ามันเป็ศพไปแล้วตอนแรกเขาไม่ได้เอาจริง ทว่าตอนนี้ไม่เหมือนกัน เขาพุ่งไปหาฉินเฟิงเตรียมจะใช้วิชาทั้งหมดสู้กับเขาให้ตาย
เฒ่าเฟิงเหมือนกับปีศาจเขาพุ่งไปหาฉินเฟิงด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อครั้งนี้ฉินเฟิงพบว่ามันยากที่จะตามความเร็วทันเขาคิดว่าเฒ่าเฟิงนี่แม่งโคตรเร็วเลยจริงๆและตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่านี่คือความเร็วที่แท้จริงของเขา
“นายท่านนายท่านสามารถถอดเกราะับินออกได้นะ มันจะลดน้ำหนักบนตัวของนายท่านในทันทีมันจะทำให้นายท่านตัวเบาเหมือนปุยเมฆและสร้างผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง”เ้าหมูน้อยเตือนเขา
จู่ๆ ฉินเฟิงก็นึกถึงคำอธิบายของเกราะับินขึ้นมาได้เขารีบถอดเกราะับิน 500ชั่งทันที
มีบางอย่างแปลกประหลาดเกิดขึ้น
ฉินเฟิงที่ใส่เกราะับินหนัก 500 ชั่งมาหลายวันแม้กระทั่งยามหลับ ตอนนี้น้ำหนักหายไปกะทันหันเขารู้สึกว่าทั้งตัวเบามาก เหมือนกับภูตผี
เขามองเฒ่าเฟิงและพบว่าตอนนี้ดูช้าลงมากฉินเฟิงโยกหัวหลบเล็กน้อยขณะที่หมัดของเฒ่าเฟิงพุ่งไปยังใบหน้าของเขาทำให้หลบได้อย่างง่ายๆ
ครั้งนี้ฉินเฟิงไม่รีบสวนกลับความรู้สึกมหัศจรรย์นี้ทำให้เขาตื่นเต้นมาก หลังจากถอดเกราะับินออกไม่ใช่แค่ความเร็วของเขาที่เพิ่มขึ้นแต่การตอบสนองและการรับรู้ยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ฉากนี้แน่นอนว่าเหมือนกับหนังกำลังภายในที่พระเอกสามารถเห็นการโจมตีของคู่ต่อสู้แบบภาพช้า
เฒ่าเฟิงโกรธจนแทบบ้าหลังจากที่ต่อยไปด้วยความมั่นใจเต็มที่ว่าต้องโดนฉินเฟิงแน่นอนแต่เมื่อเห็นฉินเฟิงหลบหมัดของเขาอย่างง่ายดายเฒ่าเฟิงก็ทั้งต่อยและเตะมากมายนับไม่ถ้วนด้วยความโกรธทว่าฉินเฟิงก็ดูเหมือนจะไวขึ้นและไวขึ้น การหลบการโจมตีของแต่ละครั้งได้ใช้การเคลื่อนไหวที่น้อยที่สุด
นั่นทำให้เฒ่าเฟิงโกรธเต็มที่เหมือนกับว่าฉินเฟิงกำลังหยอกล้อเขาเมื่อเฒ่าเฟิงกำลังจะกระอักเืด้วยความโกรธ ฉินเฟิงดูเวลาและพบกว่ามันเกือบจะ 10 นาทีแล้ว
“เอาล่ะฉันไม่เล่นกับแกอีกต่อไปแล้ว ไปตายซะ!” เมื่อเขาพูดจบ เขาเหวี่ยงฝ่ามือที่ทิ้งภาพติดตาไว้ข้างหลัง
ฝ่ามือนี้ดูเหมือนจะธรรมดา แต่มันเต็มไปด้วยพละกำลังและมอบความรู้สึกถึงความตายแก่เฒ่าเฟิง มันกระแทกเข้าที่หน้าอกของเฒ่าเฟิงทำให้เกิดะเิขนาดใหญ่
เฒ่าเฟิงกระเด็นไปปะทะกับกรงเหล็กจนยุบร่างของเขายังคาอยู่ในกรงที่ยุบ ขณะที่ไฟฟ้าได้ไหลผ่านทั่วร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง
มันเหมือนกับฉากในหนังไซไฟ
คนที่มาดูและพนันต่างได้เห็นฉากที่สุดยอดในค่ำคืนนี้พวกเขาเห็นการต่อสู้ที่เข้มข้นและลุ้นระทึก และยังเห็นคนโดนไฟช็อตจนเกรียม
“ติ๊ง...ขอแสดงความยินดีแก่โฮสต์ฉินเฟิงที่เอาชนะเฒ่าเฟิงได้คุณได้รับแต้มสำราญ 500 แต้มเป็รางวัล”
“ติ๊ง...ระบบราชันเ้าสำราญมีภารกิจ: ก้าวข้ามขีดจำกัดสู่ขั้นที่ 3!”
“ระยะเวลาภารกิจ: 3 เดือน”
“เมื่อภารกิจลุล่วงจะได้รับแต้มสำราญ1,000 แต้มเป็รางวัล หากล้มเหลวโฮสต์จะสูญเสียหมัดพยัคฆ์คำรนขั้นกลางและจะไม่สามารถเรียนวิชาหมัดพยัคฆ์คำรนได้อีกตลอดไป”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้