ฉุยจูทำหน้าทะเล้นตอนนี้ถึงได้ดึงสายตากลับมา โบกมือให้คนยกเสลี่ยงออกไป
หงโต่วที่อยู่ไกลออกไปมองเสลี่ยงจากไปด้วยแววตาหม่นหมองเล็กน้อย
“ชีวิตคนเรามีแห่งหนใดบ้างที่จะไร้วิวทิวทัศน์ในเมื่อแรกเริ่มเลือกที่จะยอมแพ้แล้ว เช่นนั้นย่อมต้องใจแข็ง” เฉินเนี้ยนหรานว่าหงโต่วมองตานางอย่างไม่มีความนัยลึกซึ้งอื่น
“แต่หวังว่าครั้งนี้พวกเราติดตามเ้านายได้ถูกต้องไม่เช่นนั้น เกรงว่าปีหน้าหงโต่วคงมาประมูลตนเองอีก เฮ้อ…พูดไปแล้วชีวิตของข้าช่างอาภัพเสียจริงนะ”
หงโต่วถอนหายใจออกมาอย่างที่คนกล่าวกันว่าหญิงงามขมวดคิ้ว วีรบุรุษร่ำไห้
ทว่าที่อยู่ตรงข้ามนางไม่ใช่วีรบุรุษแต่เป็สตรีที่เหมือนอันธพาลท่านหนึ่ง ดังนั้นนางไม่มีทางร่ำไห้ไม่มีทางถูกดึงดูดก็ช่างมันเถิด กลับกันอีกฝ่ายยังตบบ่าของนางอย่างเ้าเล่ห์
“เอ้อั้แ่วันนี้ไป เ้าคือ…บอดี้การ์ดของข้า บอดี้การ์ดคืออะไรอย่างนั้นหรือ? บอดี้การ์ดก็คือองครักษ์อย่างที่พวกเ้าพูดกันตำแหน่งรักษาความปลอดภัยเ้าเข้าใจใช่หรือไม่? คือรักษาความปลอดภัยของข้าและบางครั้งอาจต้องทำงานจิปาถะ เื่นี้เ้าเข้าใจใช่หรือไม่?”
หงโต่วทำหน้าจริงจัง“หงโต่วเข้าใจเ้าค่ะ นายหญิง”
เอาเถอะเป็แม่นางน้อยที่รู้เื่รู้ราวมาก ทั้งๆ ที่อายุดูแล้วยังเด็กกว่าตนเองแต่กลับเอาตนเองออกมาประมูลขายในยุทธภพอยู่ตลอดห้าปี
ทุกปีเกิดเื่เช่นนี้ออกมาทำไปเพื่ออะไรกัน?
เฉินเนี้ยนหรานมองแม่นางน้อยตรงหน้าอย่างชื่นชมนางค่อนข้างจะชอบแม่นางน้อยคนนี้
นางมีดวงตาที่ใสสะอาดยิ่งมีคิ้วที่มีเสน่ห์งดงาม แต่เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนี้กลับมีกลิ่นอายสูงส่งห่างไกลปล่อยออกมาดึงดูดสายตาคนทั้งๆ ที่เป็แม่นางน้อยที่สมปรารถนาคนหนึ่ง…
“เ้าคงไม่ได้ถือโอกาสในตอนที่ข้าไม่ทันระวังหนีออกไปอีกใช่หรือไม่? หากเป็เช่นนั้นจริงๆข้าแนะนำให้เ้าไปตอนนี้เลย อย่างน้อยหนึ่งร้อยก้วนนี้ ข้าจะถือว่าเทเงินทิ้งไป”
เฉินเนี้ยนหรานหัวเราะเสียงใสแล้วพูดเื่สำคัญออกมา
แต่กลับทำให้หงโต่วโกรธจนคิ้วขมวดเข้าหากันแล้วมองนางด้วยความโกรธสุดขีด
“นายหญิงท่านจะต้องระวังเื่หนึ่ง แม้หงโต่วจะประมูลตนเองมาตลอดห้าปีแต่พูดจากหัวใจที่ดีงามแล้ว ที่เป็เช่นนี้เพราะเ้านายเก่าไม่คิดว่าหงโต่วงดงามต้องใจมีฐานะน่าสงสาร มีค่าพอให้เห็นใจ จึงยอมปล่อยข้าไป”
“ไม่ก็มีคนคิดว่าข้าอยู่ในเรือนไม่ทันระวังก็ก่อเื่ จากนั้นพวกเขาคิดว่า เพื่อความสงบของเรือนทางที่ดีที่สุดคือให้ข้าออกไป คนต่อมาก็คิดว่ายิ่งอยู่กับข้าก็ยิ่งหลงรักข้าดังนั้น เพื่อไม่ให้ตนเองอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก พวกเขาจึงปล่อยข้าออกมา สรุปแล้วห้าปีนี้หงโต่วล้วนถูกคนประมูลไป สุดท้ายกลับถูกพวกเขาส่งออกมาเองข้าไม่มีทางทำเื่เห็นแก่ตัวอย่างการหนีออกมาเอง และแม้นี่จะถือว่าเป็การปฏิบัติกับหงโต่วที่เป็คนต่ำกว่าแม้ฮูหยินจะเป็เ้านายใหม่ของข้า แต่หงโต่วยังต่อต้านวิธีเช่นนี้ของท่านท่านไม่ให้เกียรติหงโต่ว แม้ว่าข้าจะเป็แค่ทาสคนหนึ่งแต่ท่านจะปฏิบัติกับข้าเช่นนี้ไม่ได้”
นางพูดไปก็เชิดคางสูงกลิ่นอายสูงส่งห่างเหินออกมาจากตัวของนางท่าทางเช่นนี้ของหงโต่วทำให้คนเห็นถึงกับหลงใหล
เฉินเนี้ยนหรานยกมือขึ้นไปตบศีรษะของเสี่ยวหลิว“มองอะไร อย่างแม่นางคนนี้น่ะ เ้าชื่นชมไม่ได้หรอก แม่นางประเภทนี้ หากเ้าไม่ทุ่มเททั้งกายใจให้ไปก็ต้องไม่ไปหาเื่นาง ไม่เช่นนั้น สุดท้ายคนที่จะถลำลึกลงไปย่อมเป็ตัวเ้า”
คำพูดนี้ทำให้บนใบหน้าเย่อหยิ่งของหงโต่วมีความประหลาดใจพาดผ่านเ้านายใหม่คนนี้ เหมือนจะไม่เหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา
แต่คิดไปแล้วก็ใช่เ้านายในอดีตล้วนแต่เป็บุรุษที่ซื้อนางไป
แต่คนที่ซื้อในวันนี้กลับเป็ฮูหยินท่านหนึ่งที่ดูไม่ค่อยจะร่ำรวยมากเท่าใด นิสัยก็ไม่ได้เป็สตรีที่ช่างออดอ้อน
เ้านายใหม่เช่นนี้...บางทีก็น่าสนใจอยู่เล็กน้อย
เมื่อคิดเช่นนี้ในใจของหงโต่วจึงมีความรอคอยที่จะเข้าทำงาน แต่หวังว่าครั้งนี้จะยาวนานจริงๆที่ดีที่สุดคือสามารถทำให้ความปรารถนา การรอคอยของนางเป็จริง…
ปรายตาไปมองโจวอ้าวเสวียนที่อยู่ไม่ไกลริมฝีปากของหงโต่วยกน้อยๆ เป็การเย้ยหยัน บุรุษไม่มีสักคนที่เป็คนดี
เสี่ยวหลิวรีบมาขวางอยู่ตรงหน้าของโจวอ้าวเสวียนอย่างระมัดระวังเขาถลึงตามองหงโต่ว “นางปีศาจ ข้าไม่อนุญาตให้เ้าคิดอะไรกับเพื่อนของข้า”
หงโต่วมองไปทางเขาแล้วหัวเราะเสียงเย็น
“ข้าข้าคือเพื่อนของเขา แล้วอย่างไร?” เสี่ยวหลิวรู้ดีว่านางกำลังหัวเราะเยาะตนเองจึงรีบแก้ตัวออกมา
ทว่าการแก้ตัวเช่นนี้ทำได้แค่ให้หงโต่วรู้สึกว่าน่าขันยิ่งกว่าเดิมนางหันไปด้านข้างไม่มองเสี่ยวหลิวอีก
กลับเป็เฉินเนี้ยนหรานที่มองสองคนนั้นตีกันอย่างสนอกสนใจเพียงรู้สึกว่า อนาคตมีพวกคนแปลกพวกนี้ รวมกับแม่นางแปลกประหลาดคนนี้คิดไปแล้วคงจะยิ่งน่าสนใจกว่าเดิม
“ตอนนี้พวกเราจะไปเจอกับพวกอาจารย์ฝาแฝดคนประหลาดกันแล้ว”เฉินเนี้ยนหรานร้องเรียก ทุกคนจึงเดินทางไปรวมตัวกันยังสถานที่ที่มีนักต่อสู้ทุกคน
ที่นั่นมีโรงเตี๊ยมเรียกว่าเจียงหูเสี้ยว ซึ่งเป็สถานที่ที่นัดเจอกับคู่ฝาแฝด
ทว่าตอนที่เดินทางไปตรงนั้นกลับเจอกันคนแปลกคนหนึ่งกำลังปักหญ้าประมูลตนเองอยู่
“เอ๋ในสมัยนี้หลายคนต่างเอาหญ้าใบหนึ่งมาปักบนศีรษะแล้วประมูลขายตนเองหรือ?”
เฉินเนี้ยนหรานหยุดฝีเท้าลงมองบุรุษที่ประมูลขายตนเองด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เป็บุรุษรูปร่างบึกบึนจริงๆดูจากส่วนสูงแล้วอย่างน้อยก็เกือบร้อยแปดสิบถึงร้อยเก้าสิบได้ แต่รูปหน้านั้น หน้าตาดูชั่วร้ายไปสักหน่อย
นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญจุดที่เป็ประเด็นสำคัญคือหนวดของบุรุษตัวบึกคนนี้เป็สีเหลือง
ดวงตาทั้งสองข้างยังเป็สีเขียวจมูกยังโด่งสูงออกมา
“กรี๊ด…”หลังจากเห็นบุรุษที่ปักหญ้าออกมาประมูลขายตนเองชัดๆ แล้ว เฉินเนี้ยนหรานจึงพุ่งเข้าไปด้วยความตื่นเต้น
“ฮัลโหลสวัสดี ขอถามได้หรือไม่ว่าเ้ามาจากที่ใด…”
ภาษาอังกฤษงูๆปลาๆ ถูกถามออกไป บุรุษคนนั้นดีใจเข้ามาจับมือของนางแน่น
“ฮัลโหลฮัลโหล สวัสดี…สวัสดี…”
จบกันบุรุษตัวล่ำที่ออกมาขายตนเองเป็คนจากต่างแดนจริงๆ
คิดไม่ถึงเลยว่าคนนอกแคว้นหลังจากมาถึงที่นี่จะต้องอยู่ในจุดที่เอาตนเองออกมาขาย
ทั้งสองคนทั้งใช้มือทั้งใช้ภาษาอังกฤษงูๆ ปลาๆ ผสมกับภาษาจีนพูดคุยกัน จนกระทั่งผ่านไปครู่หนึ่งถึงได้พอจะเข้าใจเื่ราวมานิดหน่อย
รอจนความตื่นเต้นของเฉินเนี้ยนหรานกลับมาเป็ปกติถึงได้พบว่ารอบข้างกลับมีคนมาล้อมมองด้วยความประหลาดใจ
ตอนที่ทุกคนมองไปยังนางคนพวกนั้นต่างร้องออกมาก่อนจะพากันหลีกตัวออกไปไกลๆ
“เอ่อหงโต่ว นี่มันเื่อะไรกันหรือ?” มองไปทางหงโต่วที่ทำท่าทางเหมือนเห็นสัตว์ประหลาดเหมือนกันเฉินเนี้ยนหรานกระพริบตาปริบๆ ขอคำอธิบาย
หงโต่วหายใจเข้าลึกๆมองไปยังบุรุษหัวแดงที่อยู่ไม่ไกลตาเขียว
“พวกเรากำลังแปลกใจเหตุใดเ้าถึงได้เข้าใจภาษาแปลกประหลาดนี่ แต่ไรมาคนพวกนี้ล้วนถูกพวกเรามองเป็เหมือนสัตว์ประหลาดไม่เคยคิดเลยว่าท่านจะสามารถพูดคุยกับพวกเขาได้”
เอ่อเอาเถิด ตอนที่คนจากทางยุโรปเข้ามาแรกๆ คนในประเทศหลายคนที่ไม่รู้เื่ราวแน่ชัด ย่อมมองพวกเขาเป็เหมือนสัตว์ประหลาด
“ความจริงแล้วพวกเขาไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่จริงแล้ว แม้แต่เ้า และเสี่ยวหลิวก็ไม่ใช่สัตว์ประหลาด เ้าไม่เห็นหรือว่าบนตัวของเ้าเสี่ยวหลิว มีความแปลกประหลาดที่เหมือนกันหรือ?”
เมื่อเห็นหงโต่วกับเสี่ยวหลิวต่างกำลังตั้งใจฟังนางถึงได้เริ่มอธิบาย
“บนโลกใบนี้ความจริงแล้วมีคนมากมายหลายประเภทอยู่ พวกเรานี่จะมีผมสีดำมากกว่า แต่ด้านนอกก็มีคนมากมายที่มีผมสีแดงอย่างเช่นบ้านเกิดของโทมัส อย่างสถานที่ที่ดีกว่าของพวกเขา ย่อมจะมีคนผมแดงอยู่ไม่น้อยเ้าไม่เห็นหรือว่าเขาใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความรักมองไปทางเ้าอยู่ตลอดหรือ? นั่นก็เพราะว่าการมีอยู่ของเ้าเช่นนี้ที่บ้านเกิดของเขานั้นพบเจอได้บ่อยมาก และเขาก็ชื่นชอบสตรีที่งดงามเช่นเ้ามากเสี่ยวหลิว ความจริงแล้วเ้าเองก็ไม่ใช่สัตว์ประหลาด”
“ตอนที่เห็นโทมัสข้าพลันคิดได้ถึงเื่นี้ว่า โทมัสสามารถมาปรากฏตัวที่นี่ได้ มารดาของเ้าบางทีคงเป็สตรีที่มาจากนอกแคว้น จากนั้นก็คบกับพ่อของเ้า สุดท้ายจึงคลอดเ้าออกมาผมของเ้าก็สืบทอดจากกรรมพันธุ์ผมสีแดงของนางมา”
เสี่ยวหลิวส่ายหน้าด้วยความใ“ไม่ ไม่ใช่เช่นนั้น แม้มารดาของข้าจะมีเครื่องหน้าโดดเด่นออกมาเหมือนกับคนคนนี้แต่สีผมของนางไม่ใช่สีแดง แต่เป็สีน้ำตาลดำ”
เฉินเนี้ยนหรานยิ้มจริงใจออกมาแล้วยืนยันกับเขาอีกครั้ง
“ไม่เ้าพูดแล้วว่ามารดาของเ้าเป็คนที่มีเครื่องหน้าโดดเด่นออกมา ตัวของนางความเคยชินในการใช้ชีวิตจะต้องไม่เหมือนกับพวกเ้าใช่หรือไม่? เช่นนางชอบดื่มนมวัวบางครั้งก็จะพูดคำพูดสักประโยคสองประโยคเหมือนที่ข้ากับโทมัสพูดออกมาเมื่อครู่ใช่หรือไม่?”
ครั้งนี้เสี่ยวหลิวไม่ได้ปฏิเสธอีกแต่สายตาของเขามีความตื่นเต้น ในแววตาเป็ประกายเป็พิเศษ
หงโต่วมองไปทางเขาแล้วส่ายหน้าถอนหายใจออกมาเบาๆความจริงแล้วไม่ค่อยจะได้สนใจสิ่งที่เฉินเนี้ยนหรานอธิบายเท่าไร
แม้นางจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างดีมากไม่สนใจกับสายตาและท่าทางของคนพวกนั้น ทว่านางก็้าให้ตนเองเปลี่ยนไปเป็เหมือนคนปกติสามารถทำให้คนในโลกนี้ยอมรับ…
ความคิดที่ขัดแย้งมากนี้แต่เพราะรูปลักษณ์ภายนอกของพวกนางไม่เหมือนใครดังนั้นจึงถูกคนด่าว่าเป็ปีศาจอยู่ตลอดเวลา ความคาดหวังนี้เป็จริงที่สุด…
“เป็เช่นนี้สินะเช่นนี้ก็ไม่เลวแล้ว มารดาของเ้ามาที่นี่จะต้องมาคบกับบิดาของเ้าอย่างช่วยไม่ได้ความจริงแล้วนางจะต้องคิดถึงบ้านเกิดของตนเองมากแน่การออกมาอยู่ในสถานที่อื่นเพียงคนเดียว จะต้องปรับตัวเข้ากับคนและเื่แปลกตาความคิดถึงบ้านเกิดของนาง แค่คิดก็รู้”
สีหน้าของเสี่ยวหลิวมีความเสียใจอยู่เล็กน้อยชัดเจนเลยว่าเขากำลังคิดถึงเื่ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตพวกนั้น
“ตอนนี้ข้ามาพูดกับเ้าว่าเหตุใดผมถึงเป็สีแดงข้าเชื่อว่ามารดาของเ้าจะต้องเคยปลอบใจเ้า บอกว่าเ้ามีรูปลักษณ์ปกติ แต่เ้าไม่เชื่อ ถูกคนรังเกียจเ้าในตอนนั้นรู้สึกว่าตนเองเป็การมีอยู่ของสิ่งประหลาดดังนั้นเ้าจึงยอมแพ้ต่อตนเอง นิสัยจึงเปลี่ยนมาประหลาดไป”
“ในความเป็จริงแล้วในใจของเ้ายังไม่เข้าใจและรู้สึกไม่เท่าเทียม เพราะเป็คนเหมือนกัน ทั้งๆที่เ้าเป็บุรุษที่ปกติมาก เหตุใดถึงได้ถูกคนอื่นรังเกียจ? เหตุใดผมถึงได้ไม่เหมือนใครกันยิ่งมองเครื่องหน้าของเ้าอย่างละเอียดก็จะพบว่ามันไม่เหมือนใคร”
