เขาคิดว่าตนเองที่มีพลังฝีมือที่แข็งแกร่งเช่นนี้ที่สามารถยึดกุมชะตาชีวิตของทุกคนที่อยู่ในที่นี้ได้ จะทำให้คนของเขตปกครองเทพาหวาดกลัวจนต้องคุกเข่าอ้อนวอนร้องของชีวิตอยู่ต่อหน้าตนเอง แต่ไม่คาดคิดว่าสิ่งที่ได้ยินกลับกลายเป็เสียงพูดเย้ยหยันและการด่าทออย่างดูถูกเหยียดหยาม...
ดังนั้นเขาจึงบ้าคลั่งขึ้นอย่างโกรธแค้นเดือดดาล ไม่สนใจต่อสิ่งใดๆ อีกต่อไปแล้ว
การตายของบิดาและอาจารย์ การมีชีวิตราวกับสุนัขที่หลบๆ ซ่อนๆ อารมณ์ที่ต้องอัดอั้นฝืนข่มไว้ในตอนนี้ถูกะเิปลดปล่อยออกมาทั้งหด
อยู่ต่อหน้าเส่วอู๋เหินทีราวกรับสุนัขเพศผู้ที่บ้าคลั่งเช่นนี้ อิ่นซาหดตัวลงในทันที หมันก้านถอยหลังกลับไปสองก้าว คนของเผ่าปีศาจเผ่าคนเถื่อน และเกาะเร้นลับล้านไม่มีผู้ใดกล้าส่งเสียงออกมาแม้แต่น้อย พวกเขารู้ดีว่าเสว่อู๋เหินในตอนนี้อันตรายที่สุด หากไม่ระวังอาจจะถูกเขาที่กำลังบ้าคลั่งอยู่ในตอนนี้เด็ดชีวิตลงไปอย่างไม่ทันรู้ตัว!
เย่เชียงกลัดกลุ้มเป็อย่างมาก!
ครั้งนี้เขาแบกรับความหวังของเย่เทียนหลง เย่ชิงหนิว เย่ไป๋หู่ และรวมไปถึงของผู้คนในตระกูลเย่ทั้งหมดเข้ามาภายในูเาสุสานทวยเทพเพื่อตามหาเย่ชิงหานกลับออกไป เพียงแต่ถึงตอนนี้เย่ชิงหานยังหาไม่พบกลับปรากฏเสว่อู๋เหินออกมาอีกเช่นนี้
เขาเข้าใจดีว่าในเมื่อเสว่อู๋เหินสามารถสังหารเยาจีและถูเฮยรวมไปถึงยอดฝีมือคนอื่นๆ ได้ในพริบตา เช่นนี้แล้วต่อให้เขาต่อต้านเช่นไรก็ไม่มีประโยชน์ เขารู้เป็อย่างดีเกี่ยวกับแมลงของตระกูลเสว่ ไม่ต้องรอให้เขาต่อต้านหรือหนีเอาชีวิตรอดก็จะถูกแมลงฆ่าตายเสียก่อน วันนี้พวกเขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
เขาตายไม่เป็ไรเพราะอย่างไรเขาก็คิดมาตลอดว่าเส้นทางของผู้ฝึกยุทธ์ไม่ช้าก็เร็วจะต้องพบเจอกับสิ่งเหล่านี้เข้าสักวัน
เพียงแต่เย่ชิงอู่และเย่ชิงอวี่ตายไม่ได้ ยังมีเยว่ชิงเฉิงรวมไปถึงเหล่าผู้เป็อนาคตของตระกูลทั้งหลายที่ตายไม่ได้ มิฉะนั้นละก็เขาคงจะต้องกลายเป็คนบาปของตระกูลเย่ เป็คนบาปของเขตปกครองเทพสงคราอย่างแน่นอน ดังนั้นหลังจากผ่านไปไม่นานภายในใจของเขาจึงตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่างขึ้น...
เขาเริ่มเอ่ยปากพูดขึ้นช้าๆ “เ้าเสว่อู๋เหินสินะ ข้าคิดว่า...ก่อนที่เ้าจะทำเื่ราวใดๆ ควรที่จะคิดเผื่อตระกูลเสว่ของเ้าไว้บ้างก็ดี ถ้าหากเ้าสังหารพวกข้าตายทั้งหมดละก็ ข้าคิดว่าตระกูลเสว่ของเ้าก็คงอยู่ต่อไปได้อีกไม่นานเช่นกัน เื่ที่เกิดขึ้นที่เมืองัสาเหตุมาจากที่เ้าก่อเื่เอาไว้คิดว่าเ้าก็คงพอได้ยินได้ฟังมาแล้วบ้าง ทำให้มวลประชาโกรธแค้นใครก็ช่วยเหลือตระกูลเสว่ของเ้าไม่ได้ดังนั้น... เงื่อนไขของเ้าลดลงมาหน่อย เื่ราวทุกอย่างข้าเย่เชียงจะขอรับผิดชอบเองแต่เพียงผู้เดียว ข้าจะปลิดชีวิตตนเอง! แล้วเ้าปล่อยทุกคนไปเป็อย่างไร?”
เย่เชียงวันนี้ไม่ได้สวมใส่ชุดสีขาว แต่บุคลิกลักษณะที่สุภาพอ่อนโยนของเขาทำให้ผู้คนเคลิบเคลิ้ม คำพูดของเขาทำให้ผู้คนที่อยู่ในที่แห่งนี้สรรเสริญและชื่นชม แม้กระทั่งอิ่นซาเองยังต้องยกนิ้วโป้งขึ้นให้พร้อมกับกล่าวสรรเสริญออกมาเบาๆ “บุรุษที่แท้จริง!”
เพียงแต่...ความใจกว้างและรอยยิ้มของเย่เชียงกลับไม่ได้ทำให้เสว่อู๋เหินซาบซึ้งหรือหวั่นไหวแต่อย่างใด เมื่อได้ฟังกลับยิ่งทำให้เขาเดือดดาลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ดวงตาเปลี่ยนเป็แดงก่ำยิ้มเย้ยหยันพร้อมกับร้องออกมาด้วยความโกรธ “ทั้งบิดาและอาจารย์ที่เป็ดั่งญาติสนิทที่สุดของข้าล้วนถูกพวกเ้าบีบบังคับจนต้องจบชีวิตลง ตระกูลเสว่สำหรับข้าไม่มีสิ่งใดให้ผูกพันอีกต่อไปแล้ว วันนี้ที่ข้ามาก็เพื่อล้างแค้นให้แก่พวกเขาทั้งสอง ข้าไม่อยากพูดจาไร้สาระอีกต่อไป ข้าจะนับถึงห้าถ้าหากพวกเ้ายังไม่ปลิดชีวิตตนเองข้าก็จะลงมือด้วยตนเอง ทูตแห่งเทพทั้งหมดรอฟังคำสั่งจากข้าเตรียมตัวโจมตี!”
“หนึ่ง!”
เย่เชียงทอดถอนใจออกมาอย่างอับจนด้วยปัญญา ต่างมองตากันกับเยว่โหรว เฟิงเซียวเซียว และหลงเฟย ภายในดวงตาปรากฏความตั้งใจที่พร้อมยอมตายขึ้นมา ในเวลาเดียวกันก็ทำการส่งกระแสเสียงไปยังยอดฝีมือของตระกูลตนเองให้เตรียมตัวยื้อเพื่อถ่วงเวลาให้คนส่วนหนึ่งถือโอกาสใน่ที่ชุลมุนทำการหลบหนีไป นำพาเหล่านายน้อยและคุณหนูทั้งหลายที่เป็ความหวังเป็อนาคตของตระกูลหลบหนีเอาชีวิตรอดไปให้ได้
ขอเพียงแค่ออกไปจากเส้นทาง์ได้ก็จะมีพวกเย่เทียนหลงที่รออยู่ภายนอกทุกอย่างก็จะปลอดภัย ส่วนพวกเขาก็คงต้องใช้ชีวิตเข้าแลกเพื่อสร้างโอกาสให้เกิดขึ้นมากที่สุด...
“สอง!”
เยว่ชิงเฉิง เย่ชิงอู่ และเย่ชิงอวี่ต่างมองตากัน พวกนางไม่ได้สนใจเสียงนับเลขกระตุ้นของเสว่อู๋เหิน พวกนางเข้าใจดีถึงความคิดของเย่เชียง เพียงแต่พวกนางไม่ได้คิดเตรียมตัวที่จะทำการหลบหนีเอาชีวิตรอด แต่ล้วนส่งสายตามองไปยังประตูใหญ่ของเส้นทาง์คล้ายกับว่ากำลังรอคอยการปรากฏตัวออกมาของชายผู้เป็ที่รักของพวกเขา เหมือนดั่งภาพเหตุการณ์ที่ตีนเขายอดเขาขาดที่ชายผู้เป็ที่รักมาพร้อมกับแสงสว่างสีม่วงราวกับเทพลงมาโปรดช่วยเหลือพวกเขาให้ออกจากสถานการณ์อันตรายที่กำลังเผชิญอยู่
พวกนางไม่อยากที่จะหลบหนีอีกแล้ว ในเมื่อไม่มีเย่ชิงหานพวกนางอยู่ต่อไปชีวิตก็ไม่มีความหมายใดๆ พวกนางล้วนคิดว่าแม้จะไม่ได้ตายพร้อมกันกับเย่ชิงหาน แต่อย่างน้อยได้ตายอยู่ในที่เดียวกันก็นับว่าไม่เลวแล้ว...
“สาม!”
เสียงที่เร่งเอาชีวิตดังขึ้นอีก ทูตแห่งเทพทั้งหมดต่างถืออาวุธเตรียมพร้อมไว้ในมือด้วยลักษณะฮึกเหิมทรงพลัง รอแค่เพียงเสว่อู๋เหินนับถึง “ห้า” ก็จะโจมตีออกไปในทันทีเพื่อทำการสังหารคนของเขตปกครองเทพาให้สิ้น
ส่วนคนของเกาะเร้นลับ เผ่าคนเถื่อน และเผ่าปีศาจล้วนทำการก้าวถอยหลังออกไปหลายก้าวเพื่อป้องกันผลกระทบของการสู้รบที่จะขยายมาถึงตนเอง แต่พวกเขาไม่กล้าทำการหลบหนีไปเพราะเดี๋ยวกลัวว่าเสว่อู๋เหินบ้าคลั่งขึ้นมาอีกอาจจะพาลสังหารพวกเขาไปด้วย ยิ่งตอนนี้สถานการณ์ตึงเครียดจนแทบจะปะทุขึ้นมาแล้ว...
“สี่!”
ดวงตาหยินหยางของเสว่อู๋เหินเริ่มค่อยๆ เ็าขึ้น มุมปากเริ่มปรากฏแววของความโเี้ชั่วร้าย สองมือที่ยกสูงขึ้นกำลังจะเริ่มทำการปล่อยลงมาเพื่อส่งสัญญาณ
...
“หนึ่งสองสามสี่ห้า... ขึ้นเขาไปล่าเสือ แต่เสือไม่อยู่บ้าน เลยไปบ้านเสว่อู๋เหิน ทำไมถึงไปบ้านเสว่อู๋เหิน? เพราะไปxxxมารดามัน! ฮ่าๆ... ทุกท่านไม่เจอกันเสียนาน!”
ในขณะที่เสว่อู๋เหินกำลังจะนับถึงห้าเตรียมตัวจะฆ่าคนอยู่นั้น ภายในห้องโถงใหญ่พลันบังเกิดเสียงร้องหยอกล้อท้าทายดังขึ้นมา เป็เพลงกลอนที่เอาไว้ร้องเล่นสนุกปากเพลงหนึ่งดังก้องขึ้นจนทำให้บรรยากาศที่ตึงเครียดพังทลายลงไปในทันที!
อ่าาา...? อ่ออ...? เอ่ออ...?
เกิดอะไรขึ้น?
อิ่นซางุนงงขึ้น เขาคิดไม่ออกว่าจะมีใครที่มีพร์มีความสามารถในด้านความกระด้างหยาบคายกักขฬะเทียบเท่าเขาได้ถึงเพียงนี้!
หมันก้านเมื่อได้ยินเสียงนี้มือข้างที่ไม่มีนิ้วกลางนั้นพลันกำหมัดขึ้นในทันที สีหน้าราวกับผู้ที่สูญเสียบิดาไปฉันนั้น เขารู้สึกกลัดกลุ้มใจเป็อย่างมาก ไม่ใช่บอกว่าคนดีจะมีอายุยืนยาว ส่วนคนเลวล้วนอายุสั้นตายไปอย่างรวดเร็วมิใช่รึ? แล้วทำไมไอ้ตัวหายนะนี้ยังมีชีวิตอยู่อีก?
เฟิงจื่อยิ้มขึ้นมา ฮวาเฉ่า หลงสุ่ยหลิวหัวเราะขึ้น ตอนนี้พวกเขากำลังคิดว่าเ้าเด็กหนุ่มนายน้อยคนนี้เรียนแต่งกลอนเป็ั้แ่เมื่อไหร่? โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังมีจังหวะจะโคนไม่เลวเลย? เพียงแต่มารดาของเสว่อู๋เหินแก่ขนาดนั้นแล้วเขายังไม่ละเว้นอีกรึ?
ท่าทางที่สุภาพเรียบร้อยราวกับวิญญูชนของเย่เชียงไม่สุภาพเรียบร้อยอีกต่อไปแล้ว ร่างกายของเขาตื่นเต้นจนสั่นเทิ้มขึ้น ดวงตาของเยว่โหรว ฮวาลิ่ว เฟิงเซียวเซียว และหลงเฟยล้วนเบิกกว้างขึ้นอย่างถึงที่สุด พวกเขาอยากที่จะดูให้ชัดๆ เต็มสองตาว่าเด็กหนุ่มที่เป็ตำนานเล่าขานกันนี้มีสามเศียรหกกรหรืออย่างไร? ทำไมถึงได้ดุดันห้าวหาญถึงเพียงนี้?
เยว่ชิงเฉิงร้องไห้ขึ้น ร้องไห้จนไม่หลงเหลือความงามอยู่ เย่ชิงอู่ร้องไห้น้ำตานองหน้าเช่นกัน หลงไซ้หนานก็ร้องไห้แต่เมื่อรู้สึกว่าไม่เหมาะสมนักจึงอดกลั้นเอาไว้ แต่น้ำตาก็ไหลออกมาเป็บางครั้งอย่างไม่อาจจะฝืนทนได้...
เย่ชิงอวี่ไม่ได้ร้องไห้ ตอนนี้นางรู้สึกแต่เพียงว่าขุนเขาใหญ่ที่เคยช่วยค้ำฟ้าให้นางมาตลอดตอนนี้ได้กลับมาแล้ว นางไม่กลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว นางยิ้มขึ้นแล้วร้องเรียกออกไปเบาๆ ราวกับสาวน้อยที่ยืนรอคอยร้องเรียกหาญาติคนสนิทอยู่ที่หน้าประตูบ้านอย่างอบอุ่นฉันนั้น
“ท่านพี่...”
เสว่อู๋เหินโกรธเป็อย่างมาก เดิมทีฉากการแสดงทุกอย่างในวันนี้ควรจะเป็ของเขาแต่เพียงผู้เดียว และเขาก็จินตนาการมาอย่างเนิ่นนานแล้ว
เพียงแต่เขาไม่เข้าใจว่าในเมื่อตนเองเปิดตัวออกมาได้อย่างยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้แล้วทำไมถึงได้รับการตอบรับเช่นนี้? แต่ทำไมเมื่อเ้าคนนี้แค่เปิดตัวออกมาไม่ทันไรก็แย่งจุดเด่นไปจากเขาทั้งหมดในทันที? แต่ต่อมาเขาคิดได้จึงไม่โกรธอีกต่อไป ดีเหมือนกันเพิ่มมาอีกหนึ่งก็ตายเพิ่มอีกหนึ่ง และพอดีสามารถทำให้แผนการแก้แค้นของตนเองสมบูรณ์ขึ้น เป็เช่นนี้ก็ไม่เลว
ครั้นแล้วเขาจึงยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยนก่อนที่จะพูดขึ้น “เย่ชิงหาน ์มีหนทางเ้าไม่เลือกเดิน นรกไม่มีประตูเ้าก็ยังดันทุรังฝ่าเข้ามา ฮ่าๆ วันนี้เป็โอกาสอันดีที่จะได้ส่งพวกเ้าทั้งหมดไปอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้