“เนื่องจากเหล่าศิษย์อี้เทียนเก๋อไม่สนใจ เช่นนั้นพวกเราทุกคน ล้วนมีโอกาสเป็ผู้ต้นท้อร้อยปี”
“เหตุใดต้องเป็เ้ากู่ไห่นั่นด้วย?”
“ทัพอสูรเมฆของมันร้ายกาจก็จริง แต่อย่างไร เราก็มีกำลังคนมากกว่า”
“มัน้าทำลายต้นท้อร้อยปี ฉะนั้น ก็ไม่สมควรได้ต้นท้อไป พี่น้องทุกท่าน เราเข้าโจมตีพร้อมกัน และทำลายกองทัพของมันให้สิ้นเถอะ”
“ถูกต้อง! ข้าจะล้างแค้นให้ศิษย์พี่ และทำลายกองทัพของมันให้สิ้นซาก”
“ผู้ใดชิงมาได้ ก็เป็ของคนผู้นั้น”
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
เสียงโห่ร้องดังกึกก้องไปทั่ว ในบัดดล อสูรเมฆานับหมื่นที่บินวนอยู่รอบค่ายกล ส่งเสียงคำราม และปราดเข้าไปในกลุ่มเมฆพร้อมกัน
โฮกๆๆ!
เสียงคำรามของอสูรเมฆานับหมื่นดังก้องฟ้า ดุเดือดยิ่งกว่าการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนถึงสิบเท่า เหล่าอสูรเมฆาพุ่งเข้าใส่กลุ่มเมฆทันที
“ฆ่า!” เสียงะโของทหารหลายพันคน ดังกระหึ่มออกมาจากกลุ่มเมฆ ไอสังหารแพร่กระจายไปทุกทิศทาง
ตูม!
อสูรเมฆาหลายหมื่นตัว ทะยานไปข้างหน้า และพุ่งเข้าสู่กลุ่มเมฆ ก่อนจะเกิดเสียงดังสนั่น สะท้อนออกมาจากกลุ่มเมฆ
ผู้ฝึกตนด้านนอกค่ายกล ที่ยังรอดูท่าทีอยู่ในตอนแรก บัดนี้ไม่อาจนิ่งเฉยได้แล้ว พากันบุกเข้าค่ายกลทันที จำนวนผู้ฝึกตนที่พุ่งเข้าไปในค่ายกลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่
“ฆ่าๆๆ!”
โฮก!
ปัง! ตูม! ปัง!
การต่อสู้อันดุเดือดเกิดขึ้นบนท้องฟ้า ค่ายกลใหญ่กำลังปั่นป่วนอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้ฝึกตนที่อยู่ด้านนอก ไม่อาจมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่ได้ยิน มีเพียงเสียงของการต่อสู้อันรุนแรง ที่เกิดขึ้นภายในค่ายกล
กองทัพอาชา และอสูรเมฆานับหมื่น ทั้งสองฝ่ายต่างกำลังเผชิญหน้ากัน
…
คุณชายเก้าหรี่ตา พลางจ้องมองสนามรบบนฟากฟ้า
“คุณชายเก้า การต่อสู้บนท้องฟ้าค่อนข้างรุนแรง บางทีอสูรเมฆาจำนวนมากนั่น อาจจะทำลายค่ายกลของกู่ไห่ได้ในไม่ช้า และยึดต้นท้อร้อยปีได้สำเร็จกระมัง”
“ใช่แล้วขอรับ คุณชายเก้า เราจะทำอย่างไร หากต้นท้อร้อยปีเสียหาย?”
กลุ่มชายชุดดำเริ่มวิตกกังวล
“แจ้งทุกคน รอฟังคำสั่งข้า เมื่อเหล่าคนนอกจำนวนมากเข้าไปในสมรภูมิ จนทำให้สนามรบปั่นป่วน เราจะบุกโจมตีทันที!” คุณชายเก้าสั่ง น้ำเสียงเข้ม
“ขอรับ!”
…
ในหุบเขา บนูเาลูกหนึ่ง
เิไท่มองกลุ่มศิษย์หออี้ผิน ด้วยสายตาเ็า
“ท่านหัวหน้า เราจะบุกเข้าไปหรือไม่ขอรับ?” ศิษย์หออี้ผินถามอย่างกังวล
เิไท่หรี่ตาลง พลางกล่าว “กู่ไห่ผู้นี้ ไม่อาจดูแคลนได้ ค่ายกลใหญ่นั่น ไม่ควรพังง่ายเช่นนั้น!”
“แต่...”
“ไม่มีแต่ ก่อนหน้านี้เราประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ เ้ายังมิได้เรียนรู้จากบทเรียนครานั้นหรือ? สติปัญญาของกู่ไห่ลึกล้ำมาก เขากล้าใช้ค่ายกล ย่อมต้องมีแผนการบางอย่างแน่ ศิษย์หออี้ผินทุกคนตามข้ามา พวกเราจะไม่โจมตี แต่จะค่อยๆ หาจุดอ่อนของเขา” เิไท่สั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ขอรับ!” เหล่าศิษย์หออี้ผินตอบพร้อมกัน
…
บนยอดเขาลูกหนึ่ง
จักรพรรดิเซียนต้าิถือคทาห้าสี และมองดูการต่อสู้อันดุเดือดที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้าเงียบๆ กลุ่มชายชุดดำซึ่งมีตราพระอาทิตย์บนอกยืนอยู่ด้านหลังเขา
“จักรพรรดิเซียนต้าิ ท่านสามารถมองเห็นได้ทุกสรรพสิ่ง คงสามารถมองทะลุกลุ่มเมฆนั่นได้ ไม่ทราบว่าเกิดสิ่งใดขึ้นในค่ายกลหรือขอรับ?” ชายชุดดำถามด้วยความสงสัย
“ช่างยอดเยี่ยมยิ่ง ดูเหมือนกู่ไห่จะเข้าใจวิธีการรวบรวมพลังฟ้าดินแล้ว หึๆ น่าสนใจนัก!” ชายถือคทากล่าว พร้อมหัวเราะเบาๆ
“แล้วจักรพรรดินีหนี่วาล่ะขอรับ? ยังปลอดภัยดีหรือไม่?” ชายชุดดำผู้นั้นเอ่ยถามด้วยท่าทีกังวล
“นางไม่เป็ไร! จักรพรรดินีหนี่วาในครานี้ ยังเยาว์วัยนัก!” จักรพรรดิเซียนต้าิกล่าวเสียงเรียบ
“ดียิ่ง!” กลุ่มชายชุดดำกล่าวออกมาพร้อมยกยิ้ม
“นำโลงมา!” จักรพรรดิเซียนต้าิสั่ง
“ขอรับ!”
กลุ่มชายชุดดำที่อยู่ตรงกลางรีบยกโลงศพขนาดใหญ่ขึ้นมา วางไว้ทางด้านหลังจักรพรรดิเซียนต้าิ กลุ่มชายชุดดำที่ยืนอยู่ทางฝั่งซ้ายและขวาทำความเคารพ แล้วเฝ้าปกป้องโลงศพนั้นไว้
“โอ้! ฟื้นคืนชีพ?” ทันใดนั้น ดวงตาของชายถือคทาก็เปล่งประกาย ขณะมองท้องฟ้า
...
ภายในกลุ่มเมฆ
ตูม!
กองทัพทั้งสองกำลังเผชิญหน้ากัน
สัตว์อสูรเมฆากลุ่มใหญ่พุ่งเข้าไปในค่ายกล และต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามทันที สัตว์อสูรอันดุดันทะยานเข้าใส่กลุ่มทหารเมฆาทันที จำนวนสัตว์อสูรนั้นมากกว่าเหล่าทหารเมฆามาก แต่พลังในการรบโดยรวมของกองทหารนั้น กลับแข็งแกร่งกว่าเหล่าสัตว์อสูรมาก
“ฆ่าๆๆๆ!” ทหารเมฆาะโออกมาซ้ำๆ ขณะจู่โจมกลุ่มสัตว์อสูรอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ดาบยาวของพวกเขา
ปัง!
เมื่อทหารครึ่งม้าะเิ สัตว์อสูรเมฆาที่อยู่ด้านหลังก็พุ่งไปข้างหน้าทันที
ตูม!
อ๊าก!
คนนอกผู้หนึ่งร่วงดิ่งลงพื้น จากระดับความสูงหมื่นจั้ง เมื่ออสูรเมฆาของเขาสลายไป
ทั้งสองฝ่ายต่างาเ็ล้มตาย ขณะที่การต่อสู้ดำเนินต่อไป สนามรบก็ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ
กู่ไห่ เกาเซียนจือ เฉินเทียนซาน และเสี่ยวโหรว ซึ่งครองตำแหน่งแม่ทัพทั้งสี่ ยืนอยู่ด้านในสุด พวกเขามองเห็นการต่อสู้ด้านนอกได้ชัดเจน
สายตาของพวกเขา กลายเป็เย็นเยียบ เมื่อกองทัพที่ด้านนอกโจมตีผู้รุกราน
“โจมตี! รีบโจมตีเร็ว จำนวนทหารของกู่ไห่ลดลงเรื่อยๆ แล้ว”
“โจมตีเข้าไป! กองทัพอาชาของกู่ไห่กำลังลดลง กำลังทหารของเขาสู้เราไม่ได้แล้ว... บุกเข้าไป!”
“เร็วๆๆ! กู่ไห่กำลังจะพ่ายแล้ว… เร็วเข้า!”
ยิ่งต่อสู้มากเท่าใด ดวงตาของเหล่าคนนอกก็ยิ่งแดงก่ำขึ้นเท่านั้น เพราะดูเหมือนฝ่ายที่กำลังจะกำชัยคือพวกตน... พวกเขากำลังจะชนะ!
แม้กองทัพของกู่ไห่จะสู้ไม่ถอย แต่จำนวนทหารก็ลดลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็เื่ดีสำหรับพวกเขา ผู้คนพุ่งเข้าหาศูนย์กลางค่ายกล รุกคืบไปใกล้ต้นท้อร้อยปีมากขึ้นเรื่อยๆ
อ๊ากๆ!
จำนวนผู้คนที่ร่วงหล่นจากฟากฟ้ามีมากขึ้นเรื่อยๆ โชคยังดีที่มีคนข้างล่างคอยรับไว้ ผู้ฝึกตนตกลงมาจากท้องฟ้าดั่งห่าฝน แต่ก็ไม่ได้ตกตายแต่อย่างใด นั่นจึงกระตุ้นให้ผู้ฝึกตนที่กำลังลังเลอยู่ด้านหลัง ปราดขึ้นไปด้านหน้าโดยไม่กังวลสิ่งใดอีก
“โจมตีเข้าไป! กองทัพของกู่ไห่หายไปกว่าครึ่งแล้ว รีบบุกฝ่าเข้าไปด้านใน… เร็วเข้า!” ผู้ฝึกตนะโเร่งเร้า น้ำเสียงตื่นเต้น
“ตามข้ามา!” ทันใดนั้น คุณชายเก้าพร้อมทั้งอสูรเมฆาที่ทรงพลังจำนวนมากก็เข้าร่วมการสู้รบ
อสูรเมฆาที่อยู่ด้านหลังคุณชายเก้า เป็กองทัพที่ทรงพลังยิ่ง มันแข็งแกร่งพอที่จะโค่นทุกคนได้ ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดยั้งได้ เมื่อพวกเขาพุ่งเข้าไป ก็สามารถฆ่าทหารของกู่ไห่ได้เกือบร้อยตนในทันที
“กู่ไห่... ฮ่าๆๆ! กองทัพหมื่นอาชาเช่นนั้นหรือ? เ้าลองลิ้มรสกองทัพอันเกรียงไกรของข้าดูบ้างเป็ไร?” คุณชายเก้าควบคุมอสูรเมฆาเก้าเศียร ทะยานไปด้านในค่ายกล พร้อมหัวเราะ
“โจมตีเข้าไป... กุดหัวเ้ากู่ไห่เสีย!” คุณชายเก้าะโสั่ง
โฮก!
เหล่าอสูรเมฆาของเขาส่งเสียงคำรามรับ
เกาเซียนจือ เฉินเทียนซาน และเสี่ยวโหรว มองกู่ไห่ด้วยท่าทีกังวลยิ่ง เพราะกองทัพของคุณชายเก้านั้น ทรงพลังและไร้เทียมทาน ทั้งทำท่าจะรุกคืบเข้ามาในอีกไม่ช้า ทั้งสามรู้สึกได้ถึงพลังอันน่ากลัวของอสูรเมฆาเก้าเศียร
กู่ไห่มองดูคุณชายเก้า ที่บุกเข้ามาอย่างเหิมเกริม พลางคลี่ยิ้มเ็า และกล่าวว่า “คุณชายเก้า ท่านไม่เคยได้ยินหรือ ว่ายิ่งหวังสูง ยิ่งตกลงมาเจ็บ?”
“เอ๊ะ!?” สีหน้าของคุณชายเก้าเปลี่ยนไปทันที
“ดูเหมือนว่าศิษย์อี้เทียนเก๋อ จะอาศัยอยู่ในดินแดนนี้มานานเกินไป ทำให้ความเข้าใจเกี่ยวกับเื่ต่างๆ แย่เสียยิ่งกว่าคนนอกเช่นข้า!” กู่ไห่กล่าว พลางยิ้มหยัน
“หึ! กล่าววาจาไร้สาระโป้ปดผู้คน กองทัพของเ้ากำลังจะถูกทำลายสิ้นแล้ว มาดูกันว่าเ้ายังจะพูดสิ่งใดได้อีก เมื่อข้าทำลายกองทัพของเ้าสำเร็จ!” คุณชายเก้ากล่าว ขณะจ้องไปทางกู่ไห่
โฮก!
อสูรเก้าเศียรอ้าปากคำราม ก่อนที่เศียรทั้งแปดของมัน จะกลืนกินทหารของกู่ไห่ลงไปเศียรละตน
บัดนี้ จำนวนทหารในกองทัพอาชากำลังลดลงเรื่อยๆ มีไม่ถึงหนึ่งในสิบที่ยังมีชีวิตอยู่ ในขณะที่เหล่าอสูรเมฆาด้านนอก กำลังปะทะกันอย่างดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ
แต่แทนที่กู่ไห่จะกังวล กลับมีรอยยิ้มเย็นปรากฏบนใบหน้า ก่อนจะกล่าวว่า “ค่ายกลตารางหมากยี่สิบแปดเส้นนี้ มีหรือที่พวกเ้าจะเข้าใจ? หมากของข้าลดลงแล้วอย่างไร? ตราบใดที่ค่ายกลยังคงอยู่ ไม่มีทางที่หมากของข้าจะหมด! เป็อนันต์! ไร้ที่สิ้นสุด!”
ปัง!
ทันใดนั้น ค่ายกลใหญ่ที่ถูกอสูรเมฆาของเหล่าคนนอกโจมตี ก็สั่นะเืขึ้นมา ระหว่างนั้นกลุ่มเมฆพลันปรากฏ
และ ท่ามกลางหมู่เมฆนั้น...
ฮี้ๆ!
เสียงร้องของอาชาดังก้องอย่างต่อเนื่อง จากนั้น ภายใต้สายตาตะลึงลานของเหล่าผู้ฝึกตน ทหารอาชาที่ถูกตัดหัวและะเิจากการโจมตี ได้กำเนิดขึ้นมาใหม่ แล้วพุ่งออกมาจากกลุ่มเมฆอีกครั้ง
“ฆ่า!”
กองทัพอาชาได้รับการฟื้นฟูโดยสมบูรณ์แล้ว! ฟื้นคืนชีพ เกิดใหม่ไม่รู้สิ้น!
“อะไรน่ะ?”
“เป็ไปได้อย่างไร? พวกมันฟื้นคืนชีพแล้ว?”
“ไม่มีทาง! เหตุใดถึงฟื้นคืนชีพกลับมาได้? ข้าไม่เชื่อๆ!”
เหล่าคนนอกถูกทหารของกู่ไห่ล้อมเอาไว้ทันที เพราะพวกเขาเร่งรุกคืบเข้ามา ดังนั้นสถานการณ์จึงสุ่มเสี่ยงยิ่ง เนื่องจากในคราแรก พวกเขาปะทะกับกองทัพที่อยู่ด้านหน้าเพียงอย่างเดียว แต่บัดนี้ กองทัพที่เกิดใหม่ได้กระจายอยู่รอบๆ ทุกคนจึงถูกโอบล้อมโดยสมบูรณ์!
“มีข้าอยู่ อย่าได้กลัว... ฆ่า!”
ฮี้!
อาชาส่งเสียงร้องพร้อมกัน ขณะที่บีบวงโจมตีเข้าไป
ปัง! ตูม! ปัง!
การต่อสู้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผู้ฝึกตนที่เหิมเกริมเมื่อครู่ มาบัดนี้ ต่างรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึง
“ไม่ๆ!... เป็ไปได้อย่างไร?”
“หนีเร็วๆ... อ๊าก!”
“ปล่อยข้าไป... บ้าเอ๊ย... อ๊าก!”
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นระรอกแล้วระรอกเล่า อสูรเมฆาก็ะเิออกตัวแล้วตัวเล่า เหล่าคนนอกต่างทิ้งเม็ดหมากสีทองของพวกเขา และดิ่งลงสู่พื้นเบื้องล่างอย่างต่อเนื่อง
ร่างมนุษย์ที่ตกลงมาจากท้องฟ้าดุจพิรุณโปรยปรายนั้น ทำให้ผู้ฝึกตนที่ยังคงลังเลอยู่ มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
“เกิดเื่อันใดขึ้น?”
“ก่อนหน้านี้ พวกเขามิได้กล่าวว่า จะไปบั่นศีรษะกู่ไห่หรอกหรือ?”
“ทำไมพวกเขาทั้งหมดถึงล้มลง? และร่วงหล่นเร็วกว่าเดิม!”
“ด้านในค่ายกล เกิดสิ่งใดขึ้น?”
ฝูงชนที่อยู่ด้านนอก ลังเลที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า สีหน้าของผู้ฝึกตนที่อยู่บนศีรษะอสูรเมฆาต่างเปลี่ยนไปทันที
ตูม!
คุณชายเก้าพร้อมผู้ติดตาม หลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว กลุ่มอสูรเมฆาของเขา ได้รับความเสียหายอย่างหนัก อสูรเมฆาเก้าเศียรสูญเสียศีรษะไปสามหัว พ่ายแพ้อย่างอเนจอนาถ
“เกิดใหม่ไม่รู้สิ้น! พวกมันสามารถเกิดใหม่ได้อย่างไร?” คุณชายเก้าที่หลบหนีออกมา มีสีหน้าไม่น่าดูนัก เมื่อครู่ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าชัยชนะจะอยู่ในกำมือพวกเขา เพียงพริบตา สถานะของผู้จู่โจมและตั้งรับกลับเปลี่ยนไป
เิไท่ที่อยู่ด้านนอก หนังตากระตุกทันที “เกิดสิ่งใดขึ้น? รีบไปจับตัวผู้ฝึกตนที่ร่วงลงไปนั่น และสอบถามมา ว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้นข้างในนั้น!”
“ขอรับ!” กลุ่มศิษย์หออี้ผินขานรับ
ฟิ้ว!
ที่ด้านนอกนั้น อสูรเมฆาต่างบินวนกลางเวหา ไม่กล้าล่วงล้ำเข้าไปในเขตค่ายกล
เมฆกลุ่มนั้น ไม่ต่างจากดินแดนแห่งความตาย
จริงอยู่ที่หลายคนสามารถหลบหนีไปได้ แต่ก็มีหลายคนเช่นกันที่หนีไม่พ้น และถูกสังหารระหว่างการต่อสู้อันดุเดือด
ฝูงชนต่างมีใบหน้าปั้นยาก ขณะที่จ้องมองกลุ่มเมฆขนาดใหญ่นั้น
การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่อันดุเดือดนี้ ได้มาถึงบทสรุปแล้ว ทุกคนต่างกังวลและสงสัย
ภายในค่ายกล เกาเซียนจือ เฉินเทียซาน และเสี่ยวโหรว ต่างก็รู้สึกตื่นเต้นเป็อย่างยิ่ง
...
บนยอดเขา
จักรพรรดิเซียนต้าิกระชับคทาในมือ พร้อมกล่าว “เกิดใหม่ไม่รู้สิ้นหรือ? เริ่มจะน่าสนใจขึ้นมาแล้วสิ!”
“จักรพรรดิเซียนต้าิ ท่านหมายความว่ากองทัพที่อยู่ข้างในนั้นสามารถเกิดใหม่ได้เรื่อยๆ ไม่รู้จบหรือขอรับ? เช่นนั้น ก็หมายความว่ากู่ไห่อยู่ยงคงกระพัน มิใช่หรือขอรับ?” ชายชุดดำถามด้วยความสงสัย
“อยู่ยงคงกระพันหรือ? ยังหรอก กลหมากตารางยี่สิบแปดเส้นหรือ? น่าสนใจ ข้าไม่ได้เจอค่ายกลเช่นนี้มานานแล้ว พวกเ้าเตรียมโลงศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ต้อนรับจักรพรรดินีหนี่วา
ดูสิว่าข้าจะทำลายมันอย่างไร! ข้าไม่อยากสังหารกู่ไห่ แต่โชคร้ายที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับจักรพรรดินีหนี่วา ล้วนต้องตาย!” จักรพรรดิเซียนต้าิกล่าวเสียงเย็น
ฟิ้ว!
ทันใดนั้น จักรพรรดิเซียนต้าิก็เริ่มลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า โดยไม่มีอสูรเมฆา หรือเครื่องมือวิเศษใดๆ ช่วย ดูเหมือนเขาจะทำมันได้อย่างอิสระ
ด้านหน้าอสูรเมฆาร้อยจั้ง มีชายผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้น เขาผู้นั้นดูตัวเล็กมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อชายผู้นี้ค่อยๆ ลอยขึ้นมา ก็สร้างความประหลาดใจให้กับผู้พบเห็นเป็อย่างมาก
จักรพรรดิเซียนต้าิค่อยๆ ลอยขึ้นไปจนถึงบริเวณค่ายกล
เขาจะทำลายกองทัพอาชานั่น ด้วยตัวคนเดียว!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้