ในที่สุดหวางทงเป่าก็หาช่างก่อปูนสร้างบ้านได้ครบแล้ว อิฐก็สั่งแล้วเช่นกัน กำหนดวันส่งมาที่หมู่บ้านเรียบร้อย
เขาโล่งใจไป ครั้งนี้เขาทำตามที่เจียงหงหย่วนสอน เพิ่มค่าแรงขึ้นนิดหน่อย แต่คนงานต้องทำสัญญา ผู้ใดไม่มาต้องจ่ายเงินชดเชย
มีสัญญาเป็ปึก เขาไม่กังวลแล้วว่าคนเหล่านี้จะทิ้งงาน
เจียงหงหย่วนขับรถล่อกลับมารับเจียงหงป๋อ จ้าวสุ่ยเซิงเห็นรถเขาวิ่งเข้ามาในหมู่บ้านก็รีบวิ่งไปบ้านตระกูลเจียง ดึงเจียงหงหย่วนออกมาคุยด้วย “หย่วนเกอ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนสวีเทาถูกสวีฝูเรียกตัวไปพบ ตอนออกมาสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไร ทั้งยังกระทืบหญ้าด้วยความโมโห วันนี้ข้าเห็นสวีเทากลับเข้าตำบลั้แ่ฟ้ายังไม่สาง”
“อืม ทำได้ดีมาก เ้าคอยจับตาดูคนตระกูลสวีกับตระกูลหลินไว้ ไม่ต้องเสียดายเงินที่ข้าให้เ้า มีเงินจะได้ทำงานง่าย”
“โอ้…ข้าเข้าใจแล้วหย่วนเกอ”
“วันหลังเรียกข้าว่าเกอก็พอ อย่าเรียกว่าหย่วนเกอ” เมื่อก่อนเขาไม่เคยสนใจว่าจ้าวสุ่ยเซิงกับหวางฟู่กุ้ยจะเรียกตัวเองว่ากระไร แต่ตอนนี้คำว่าหย่วนเกอเป็ของภรรยาตัวน้อย
“ได้ขอรับ” จ้าวสุ่ยเซิงตอบด้วยความดีใจ อยู่กับเจียงหงหย่วน ทั้งได้หาเงิน ทั้งมีเนื้อกิน จะให้เขาเรียกว่ากระไรย่อมได้ทั้งนั้น
หวางฟู่กุ้ยกับจ้าวสุ่ยเซิง คนหนึ่งมีฝีมือด้านการช่าง ไม่ต้องกังวลว่าจะมีเงินกินข้าวหรือไม่ อีกคนกลับไม่มีฝีมือใด ได้แต่ทำไร่ทำนา ถึงกระนั้นก็มีความฉลาดเฉลียวปรับตัวเก่ง เก็บความลับได้ดี ด้วยเหตุนี้ เจียงหงหย่วนจึงมอบหน้าที่จับตาดูคนให้จ้าวสุ่ยเซิง บอกเขาว่าจะให้เงินเดือน เดือนละครึ่งตำลึง หากเขาทำได้ดีจะขึ้นเงินให้
งานนี้ทั้งสบาย ทั้งไม่รบกวนเวลาทำสวน จ้าวสุ่ยเซิงดีใจจนไม่รู้จะดีใจอย่างไรที่ได้งานนี้
“หงหย่วนกลับมาแล้วหรือ? โอ้ สุ่ยเซิงก็อยู่ด้วย?” หวางทงเป่ามาแล้ว ผลักประตูออกมาเห็นจ้าวสุ่ยเซิงก็ทักทายด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็เข้ามานั่งคุยเื่สร้างบ้านกับเจียงหงหย่วน
“อืม ท่านลุงจัดการได้เลย จริงสิ ข้าเช่าบ้านไว้ในอำเภอชั่วคราว วันนี้กลับมาพาหงป๋อไปอยู่ด้วย ท่านลุงทุบบ้านหลังเก่าทิ้งได้เลย”
“ได้เลย!” หวางทงเป่าเอ่ยชม สร้างบ้านทั้งหนวกหูทั้งคนเยอะ จะทิ้งให้สตรีกับหงป๋อที่เป็คนป่วยอยู่บ้านกันตามลำพังคงไม่สะดวกเท่าไร
“ภรรยาข้าบอกว่าหากกุ้ยเซียงมีเวลาว่างวันใดให้ไปอยู่กับนางในอำเภอสักสองวัน เื่ดอกไม้กำมะหยี่ประดับผมที่นางเคยบอกก่อนหน้านี้เริ่มมีเค้าแล้ว” พูดจบก็หันไปคุยกับจ้าวสุ่ยเซิงต่อ “เ้าเองก็ลองไปถามหงฮวา หากนางยินดีก็ไปด้วยกันเสีย”
“อ้อ ได้”
“ได้สิ หวั่นชิวไม่อยู่แค่สองวัน กุ้ยเซียงก็บ่นคิดถึงแล้ว แต่่นี้งานยุ่ง ไว้อีกสองวันฟู่กุ้ยเอาของไปส่ง ข้าค่อยให้เขาพากุ้ยเซียงไป”
อาการของเจียงหงป๋อดีขึ้นทุกวัน ส่วนเจียงหงหย่วนก็เป็คนมีความสามารถหาเงินเก่ง หวางทงเป่ายินดีให้ทั้งสองครอบครัวสนิทกันไว้อยู่แล้ว ต้องไปมาหาสู่กันเข้าไว้
“ต้าเกอ ข้าเก็บของเสร็จแล้วขอรับ” เจียงหงป๋อถือห่อผ้าใบใหญ่ เก็บผ้าห่มและที่นอนเรียบร้อย
“วางไว้ก่อน เดี๋ยวข้าเก็บของเสร็จแล้วค่อยเอาไปพร้อมกัน”
หวางทงเป่ากับจ้าวสุ่ยเซิงเห็นว่าเขากำลังยุ่งก็ไม่รบกวน หลังทั้งคู่กลับไป เจียงหงหย่วนก็เข้าห้องไปเก็บของของเขากับหลินหวั่นชิว
เสื้อผ้ามีรอยปะกับไส้ในฝ้ายขาดๆ ล้วนถูกทิ้งเสียหมด เก็บเอาแต่ของที่ยังสภาพดีเท่านั้น
เพียงแต่…
เจียงหงหย่วนเจอผ้าสีแดงหน้าตาประหลาดสองตัวอยู่ในสิ่งของของหลินหวั่นชิว ตัวหนึ่งเป็เชือกที่ผูกวัตถุหน้าตาคล้ายถ้วยไว้ด้วยกัน จับดูแล้วนุ่มนิ่ม
อีกตัวเป็ทรงสามเหลี่ยม มีสามรู
นี่มันกระไร?
เจียงหงหย่วนไม่เข้าใจ
แต่ลวดลายบนผ้าสองชิ้นนี้ดูสวยมาก เป็ลายฉลุ เนื้อผ้าลื่นเนียน
ตอนแรกเขาคิดว่าเป็เศษผ้า แต่ผ้าเนื้อดีเช่นนี้…เขาไม่กล้าโยนทิ้งโดยพลการ เก็บเข้าห่อผ้าไปด้วย วางแผนว่ากลับไปแล้วค่อยถามภรรยาตัวน้อยว่าคือกระไร
จะว่าไปแล้ว เขารู้สึกห่อเหี่ยวจริงๆ
ภรรยาตัวน้อยแยกห้องนอนกับเขา!
แต่กว่าเขาจะกลับบ้านก็ดึก ให้เคาะประตูปลุกภรรยาตัวน้อยก็ไม่กล้าอีก
หากไม่ใช่เพราะนึกได้ว่าตัวเองก็ทรมานเช่นกันที่ได้กอดภรรยาตัวน้อยนอนทุกคืน มองได้ ลูบได้ แต่แตะต้องไม่ได้ เขาต้องอาละวาดเพื่อหยุดการแยกห้องนอนเป็แน่
เมื่อนึกได้ว่าภรรยาตัวน้อยตัวหอมนุ่มนอนอยู่แค่ห้องข้างๆ ใจเขาก็อ่อนระทวย รู้สึกนอนหลับสบายขึ้นไม่น้อย
เจียงหงหย่วนเก็บของเสร็จอย่างรวดเร็ว ยกของไปวางบนรถล่อ ประคองเจียงหงป๋อขึ้นรถ สองพี่น้องมุ่งหน้าสู่อำเภอ
เจียงหงป๋อตกตะลึงกับบ้านสองลานเช่นเดียวกับเจียงหงหนิง เห็นห้องที่สะอาดสะอ้านเป็ระเบียบเรียบร้อยของตัวเองก็รู้สึกขอบคุณหลินหวั่นชิว
“เื่เล็กน้อย ไม่ต้องขอบคุณ หรือว่าเ้าอยากเป็คนอื่นคนไกลกับพี่สะใภ้?” หลินหวั่นชิวเห็นเจียงหงป๋อสีหน้าดีกว่าเมื่อสองวันก่อนก็อารมณ์ดีตามไปด้วย คิดว่าอีกไม่กี่วันจะให้เขากินโอสถชำระไขกระดูกอีกครั้ง
“ไม่อยากขอรับ” เจียงหงป๋อตอบอย่างเชื่อฟัง เด็กคนนี้เริ่มมีเนื้อมีหนังขึ้นมาแล้ว ใบหน้ามีเืฝาด…เป็เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา
หลินหวั่นชิว “เอาล่ะ เ้าคงเดินทางมาเหนื่อย ไปพักก่อนเถิด ไว้ถึงเวลากินข้าวแล้วข้าจะมาเรียก”
หลินหวั่นชิวเป็คนทำมื้อเที่ยง นางชอบทำอาหาร แต่แน่นอนว่าสาเหตุหลักมาจากการที่หลังจากได้ลองกินอาหารเช้าที่ยายสวีทำ นางตัดสินใจแล้วว่าจะสอนอีกฝ่ายทำอาหาร มิเช่นนั้นวันหน้านางกลับไปอยู่ที่หมู่บ้าน พวกหนุ่มๆ ที่อำเภอคงไม่ได้กินของอร่อยเป็แน่
“ภรรยาจ๋า เที่ยงนี้เหลียงเกอจะมากินข้าวด้วย เ้าช่วยทำให้เยอะหน่อยเถิด” เจียงหงหย่วนผูกล่อไว้ที่ลานด้านหลังเสร็จก็ออกมาพูดกับหลินหวั่นชิว “จะซื้อสิ่งใดก็บอกมาได้เลย ข้าจะไปซื้อให้ประเดี๋ยวนี้”
“ซื้อปลา ผักชี ขึ้นฉ่าย…ช่างเถิด ท่านอย่าไปเลย ให้ยายสวีไปดีกว่า บุรุษไปจ่ายตลาดคงแปลกไม่น้อย” หลินหวั่นชิวเรียกยายสวี กำชับของที่จะซื้อกับนางสองสามรอบเสร็จก็ให้เงินนางไป
“เอาสิ่งของของหงป๋อไปให้เขาที่ห้อง เอาสิ่งของของพวกเรามาด้วย ข้าจะได้เก็บ”
“อืม” เจียงหงหย่วนกำลังจะทำเช่นนั้นอยู่พอดี เขาเอาสิ่งของของหงป๋อไปส่งที่ห้องฝั่งตะวันตก นำของใช้ในห้องครัวที่ได้เก็บมาวางในห้องครัว จากนั้นจึงนำสิ่งของของพวกเขาไปที่ห้องหลินหวั่นชิว
หลินหวั่นเปิดห่อผ้าเก็บของเข้าที่ จัดสิ่งของของเจียงหงหย่วนไว้ด้านข้าง เขาจะได้เอาไปเลย
“ภรรยาจ๋า นี่คือกระไรหรือ?” ขณะที่หลินหวั่นชิวกำลังทำงานก็เห็นเจียงหงหย่วนเอายกทรงนางออกมาส่ายเล่น ทั้งยังเอาขึ้นมาดมที่จมูกด้วยความสงสัย
