ร่างสูงใหญ่ที่ทาบทับลงมาทำใหู้เี่อันขยับตัวไปไหนไม่ได้ คำพูดของเขาเมื่อครู่ยังคงก้องอยู่ในสมองเธอ
ป้อนเขาด้วยตัวเธอ...ใช้ตัวเธอ...ป้อนเขา...
สมองของูเี่อันขาวโพลนไปหมดนานทีเดียวกว่าที่จะเรียกสติกลับคืนมาได้ เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากและพูดขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“เอ่อ...ฉันไม่อร่อยหรอกนะแต่ไก่น้ำแดงแล้วก็ปลานึ่งที่ฉันทำอร่อยแน่นอน!”
เธอยังไม่เข้าใจ?
ลู่เป๋าเหยียนไม่พูดไม่จาเขายังคงคร่อมทับตัวเธอพลางจ้องมองมาเหมือนเดิม
ูเี่อันไม่กล้าสบตาเขาตรงๆเธอเบนสายตาหนีเขาตลอดเวลา ผ่านไปสักพัก ดูเหมือนเธอจะเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง
ป้อนเขาด้วยตัวเธอลู่เป๋าเหยียนหมายความว่า...หมายความว่าแบบนั้น...?
“ตาบ้าโรคจิต!”เธอถลึงตาและผลักเขาออก “ออกไปนะ ฉันจะลงไปข้างล่างแล้ว”
ที่จริงแล้วสิ่งทีู่เี่อันกังวลเมื่อครู่เป็เื่จริงโรคกระเพาะของลู่เป๋าเหยียนอาการกำเริบอีกแล้วเพราะเธอใช้มือผลักเขาตรงท้องพอดีกับตำแหน่งของกระเพาะลู่เป๋าเหยียนจึงขมวดคิ้วอย่างเ็ป
เธอใ“นายเป็อะไรไป”
ลู่เป๋าเหยียนจับมือของเธอออกและยิ้มอย่างเ้าเล่ห์
“คุณนายลู่เธอโดนฉันคร่อมทับอยู่แบบนี้ เป็ห่วงตัวเองจะดีกว่า”
ูเี่อันกัดฟันพูดออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“โรคจิตที่สุด!”
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มแล้วจึงปล่อยปีศาจตัวน้อยของเขาให้เป็อิสระเขาเปิดลิ้นชักหัวเตียงและหยิบขวดยาสีขาวที่อยู่ในนั้นจากนั้นจึงเทยาออกมาสองเม็ดและกินเข้าไป ูเี่อันหยิบขวดขึ้นมาดูเป็ยาโรคกระเพาะอย่างที่เธอคิด
ไม่ใช่แค่ยาโรคกระเพาะในลิ้นชักของเขายังมียานอนหลับอยู่ด้วย
“ลู่เป๋าเหยียน”เธอถามอย่างไม่แน่ใจ “นายเป็โรคนอนไม่หลับ?”
ลู่เป๋าเหยียนปิดลิ้นชักพลางตอบ
“นานๆ ที”
ไม่รอใหู้เี่อันพูดอะไรต่อเขาก็คว้ามือเธอ และเดินลงไปยังห้องอาหาร
ไก่ผัดน้ำแดง ปลานึ่งแกงจืดมะเขือเทศใส่ไข่ กับข้าวสองน้ำแกงหนึ่งที่ส่งไอร้อนๆ อยู่บนโต๊ะอาหารอาหารที่เรียบง่ายดูขัดกับโต๊ะอาหารสุดหรูอยู่บ้าง
ูเี่อันพูดอย่างเกรงใจ“ฉันมีเวลาไม่มาก เลยทำอย่างอื่นไม่ทัน เอ่อ อาหารมื้อนี้ ถือว่าฉันทำเพื่อไถ่โทษแล้วกันนะ”
ความไม่พอใจที่อัดแน่นภายในใจของลู่เป๋าเหยียนหายไปตั้งนานแล้วแต่พอได้รับการปรนนิบัติจากปีศาจน้อยแบบนี้ เขาก็ขอรับไว้แล้วกัน
“ใช่สินายลางานให้ฉันทั้งหมดกี่วัน” ูเี่อันถาม
เธอไม่ได้แตะแฟ้มคดี ไม่ได้เข้าห้องชันสูตรมานานเกือบครึ่งเดือนรู้สึกไม่ชินยังไงก็ไม่รู้
“รอให้งานครบรอบบริษัทผ่านไปก่อนเธอค่อยกลับไปทำงาน” ลู่เป๋าเหยียนตอบ
“งานครบรอบสิบปีของเครือบริษัทลู่?” ูเี่อันคิดตาม
“แต่ว่า...มันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ”
ลู่เป๋าเหยียนมองเธออย่างสนใจ
“ทำไมเธอถึงรู้ว่าเครือลู่ครบรอบสิบปี”
“...” เอ่อเธอจะบอกเขาได้อย่างไรว่า ั้แ่ที่เขาเริ่มก่อตั้งบริษัทเธอก็ติดตามข่าวสารของเครือลู่มาโดยตลอด
แต่ดูเหมือนทางลู่เป๋าเหยียนเองก็ไม่ได้อยากรู้คำตอบนักเขาจ้องหน้าเธอพลางอธิบาย
“เธอคือคุณนายลู่เป็ภรรยาของประธานบริษัท ลองคิดดูแล้วกันว่าเธอเกี่ยวข้องกับงานครบรอบในครั้งนี้ยังไง”
พูดแบบนี้เขาจะบอกว่าเธอคือนางเอกของงาน?
ลู่เป๋าเหยียนที่เริ่มก่อร่างสร้างตัวจากศูนย์กว่าจะมีเครือลู่ในวันนี้ เขาใช้เวลาและความพยายามมากขนาดไหนคนภายนอกคงยากที่จะจินตนาการ เพราะฉะนั้นงานครบรอบสิบปีในครั้งนี้คงเป็วันสำคัญสำหรับเขา
ูเี่อันไม่นึกเลยว่าสองปีของการแต่งงานในครั้งนี้เธอจะมีโอกาสอยู่เคียงข้างเขาในวันสำคัญขนาดนี้
“งั้นมีอะไรให้ฉันช่วยบ้างหรือเปล่าเพราะถึงยังไงฉันก็อยู่บ้านเฉยๆ” เธอถาม
ลั่วเสี่ยวซีก็อยู่ระหว่างเทรนนิ่งถ้าไม่มีอะไรทำ ูเี่อันคงวิ่งไปหาเจียงเส้าข่ายที่โรงพยาบาลแน่นอน
ลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้ว“มะรืนนี้ไปบริษัทกับฉัน”
ก่อนหน้าที่เธอจะแต่งงานกับเขาเธอเคยขับรถผ่านหน้าบริษัทเขามาก็หลายหน เธอมักจะเงยหน้ามองชั้นบนสุดของตึกพลางจินตนาการถึงภาพของลู่เป๋าเหยียนขณะนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ
ที่จริงเธออยากจะเดินเข้าไปหาเขาลู่เป๋าเหยียนอยู่ในนั้นคนที่เธอแอบชอบมานานนับสิบปีอยู่ในตึกแห่งนี้แต่ความคิดดังกล่าว ก็มักพ่ายแพ้ให้กับเหตุผลในโลกแห่งความเป็จริง
มาวันนี้ลู่เป๋าเหยียนให้เธอตามเขาไปที่นั่นเธอพยายามอย่างมากที่จะไม่แสดงท่าทีตื่นเต้นจนออกนอกหน้า ไม่อย่างนั้นลู่เป๋าเหยียนคงมองออกแน่นอน
“โอเค!มะรืนนี้ฉันจะไปกับนาย!”
ลู่เป๋าเหยียนยิ้ม“งั้นกินข้าวเสร็จ อย่าลืมกินยาล่ะ”
“โอเค! ฉัน...”อยูู่เี่อันก็นึกขึ้นมาได้ เธอถลึงตาจ้องหน้าลู่เป๋าเหยียน
“ฮะ?”
ลู่เป๋าเหยียนตอบเสียงเนิบ“ฉันบอกว่า อย่าลืมกินยาล่ะ”
ตอนนั้นเองป้าหลิวก็ยกถ้วยยาเข้ามา
“คุณผู้หญิงค่ะยายังร้อนอยู่ รอสักครู่แล้วค่อยดื่มนะคะ”
“ค่ะ”ูเี่อันตอบสีหน้าเศร้า ขณะที่เธอชั่งใจว่าจะแสดงละครฉาก ‘เผลอปัดมือโดนถ้วยยาหล่นแตก’ ดีหรือไม่ ลู่เป๋าเหยียนกลับยื่นมือมายกถ้วยยาของเธอไปไว้กับตัวเอง
เขาใช้ช้อนตักยาน้ำสีดำๆขึ้นมา จากนั้นก็เทกลับลงไปคนในชาม ทำแบบนี้ซ้ำๆ จนไอร้อนค่อยๆ ระเหยออกมาไม่นานยาก็เริ่มเย็นตัวลง
จากนั้นเขาก็เลื่อนถ้วยยามาไว้ตรงหน้าเธอ
“ได้แล้วดื่มซะ”
กลิ่นยาฉุนๆ ลอยเข้าจมูกเธอจนรู้สึกได้ถึงรสขมแหลมติดปลายลิ้นทั้งๆที่ยังไม่ได้ดื่ม
เธอส่ายหน้าพลางมองลู่เป๋าเหยียนด้วยสีหน้าน่าสงสาร
“ไม่กินไม่ได้เหรอ? มะรืนนี้นายจะให้ฉันทำอะไรฉันยอมทุกอย่างเลย!”
ลู่เป๋าเหยียนตอบอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด
“ไม่ได้”
“ลู่เป๋าเหยียน...”เธอส่งเสียงขอร้อง
“ดื่มซะ”
“พี่เป๋าเหยียนคะ...”เธอเริ่มใช้ไม้อ่อน
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มบาง“เด็กดี กินยาซะนะ”
“...”
เห็นเธอทำหน้าเหมือนกำลังจะถูกผลักตกเหวแบบนั้นลู่เป๋าเหยียนจึงปลอบเสียงนุ่ม
“เด็กดีดื่มเข้าไปรวดเดียว ไม่ขมมากหรอก”
ูเี่อันลังเลแล้วลังเลอีกเธอคิดอย่างสิ้นหวังว่าตนเองคงหนีไม่รอดแล้วสุดท้ายจึงทำหน้าสู้ตายและยกมือบีบจมูก เธออ้าปากกว้างๆ เพื่อดื่มยาน้ำสีดำปิ๊ดปี๋ถ้วยนี้ลงไปรวดเดียว
รสชาติขมซึมเข้าไปทั่วลิ้นและไหลลงคอไปอย่างรวดเร็ว เมื่อดื่มหมดน้ำตาเธอแทบไหลเธอมองหน้าลู่เป๋าเหยียนอย่างเคืองๆ
“คนโกหก!”
ลู่เป๋าเหยียนตักแยมหวานๆที่ป้าหลิวเตรียมไว้
“อ้าปาก”
เธออ้าปากสีชมพูระเรื่อของเธอตามที่สั่งลู่เป๋าเหยียนจัดการป้อนแยมให้เธอ รสชาติหวานเจี๊ยบเข้าไปกลบความขมเมื่อครู่จนหมดคิ้วที่ขมวดยุ่งของเธอจึงเริ่มคลายปม
“ฉันขึ้นไปนอนก่อนมีอะไรก็ไปเรียกแล้วกัน” ลู่เป๋าเหยียนลุกขึ้นเตรียมกลับขึ้นข้างบนูเี่อันเรียกเขาไว้ เธออยากถามเขาว่า ยังปวดท้องอยู่หรือเปล่า แต่ก็อ้ำๆ อึ้งๆจนลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้วถาม
“อยากไปนอนด้วย?”
ูเี่อันทำหน้าเซ็ง“รีบๆ ขึ้นไปเลยนายน่ะ!”
ยังโรคจิตใส่เธอได้แบบนี้คงไม่ปวดท้องแล้วสินะ
เธอจัดการนำถ้วยยาและขวดแยมกลับเข้าไปไว้ในครัวจากนั้นจึงเปิดตู้เย็นหาอะไรบางอย่าง
ในเมื่อตอนบ่ายเธอว่าง อย่างนั้นก็อบขนมกินกับน้ำชาฆ่าเวลาดีกว่า
แต่แล้วเธอกลับพบว่าในตู้เย็นมีไอศกรีมหลากหลายรสอยู่เต็มไปหมด
รสสตรอว์เบอร์รี รสวานิลลา...ทั้งหมดใส่ไว้ในถ้วยกระดาษที่ฉลากเป็ภาษาอังกฤษเพื่อให้มั่นใจ ูเี่อันจึงหยิบมันออกมาหนึ่งถ้วยและอ่านทุกตัวอักษรบนนั้น
‘Abel homemade ice cream’
เธอเคยบอกกับลู่เป๋าเหยียนว่าสิ่งที่เธอคิดถึงมากที่สุดในอเมริกาก็คือไอศกรีมของร้านไอศกรีมโฮมเมดหน้ามหาวิทยาลัย โดยเฉพาะรสวานิลลาที่เธอชอบมากที่สุด
เธอบอกเขาก่อนที่เขาจะเดินทางไปทำงานที่นิวยอร์กเขาให้สัญญากับเธอก่อนไปว่า กลับมาแล้วจะมีเซอร์ไพรส์ให้เธอ
แต่ตอนหลังเพราะข่าวฉาวของเขากับหานรั่วซีรวมถึงเื่ที่เธอโดนจับตัวไว้ ทำให้พวกเธอทำาเย็นกันอยู่นานจนเธอนึกว่าเขาคงลืมคำสัญญาที่ให้กับเธอไปแล้ว จึงไม่กล้าถามถึงอีก
แต่การที่จู่ๆ ไอศกรีมโฮมเมดของ Abel ก็มาโผล่ที่บ้านแบบนี้เธอก็อดสงสัยไม่ได้
เมื่อเอาเื่นี้ไปถามลุงสวีจึงได้รับคำตอบ
“เชฟของ Abel เดินทางจากอเมริกาเพื่อมาทำไอศกรีมที่บ้านให้โดยเฉพาะครับ”
ูเี่อันจ้องลุงสวีไม่วางตาและถามต่อ
“เชฟคนนั้นมาที่นี่ตอนไหนคะคุณลุงพอจำได้หรือเปล่า”
“จำได้ครับ”ลุงสวีตอบยิ้มๆ “วันที่ 3 หลังจากที่คุณชายเดินทางกลับมา พูดง่ายๆ คือวันที่คุณผู้หญิงกับคุณชายเดินทางไปที่เมือง G ครับ”
ตามแผนเดิมลู่เป๋าเหยียนจะต้องอยู่อเมริกาเจ็ดวันถ้าไม่ใช่เพราะเขากลับมาก่อน วันนั้นจะเป็วันที่เขาเดินทางกลับประเทศตามตาราง
ไอศกรีมโอมเมดพวกนี้เป็สิ่งที่ลู่เป๋าเหยียน้าเอามาเซอร์ไพรส์เธอ เธอบอกเขาว่าเขาคงไม่สามารถเอาไอศกรีมกลับมาได้สุดท้ายเขาก็เลยพาเชฟกลับมาทำให้เธอกินที่นี่ซะเลย
ว่าแต่ทำไมเขาถึงไม่บอกเธอสักคำ?
“คุณชายสั่งไม่ให้พวกเราบอกคุณผู้หญิงครับ”ลุงสวีถอนหายใจ “่นี้คุณผู้หญิงยังทานไม่ได้คุณชายกลัวว่าคุณผู้หญิงจะอดใจไม่ไหวน่ะครับ”
ูเี่อันถึงกับเซ็งเธอมองไปที่ไอศกรีมตรงหน้า อืม ชักจะอยากกินขึ้นมาแล้วสิหลังจากสู้กับความอยากอาหารไปหนึ่งยก เธอก็กลั้นใจปิดประตูตู้เย็นได้สำเร็จ
เอาเถอะลู่เป๋าเหยียนรู้จักเธอดี ที่เขาปิดเื่นี้กับเธอไว้...นับว่าฉลาด
แต่เธอในตอนนี้ก็อดดีใจอยู่ลึกๆไม่ได้
ไอศกรีมพวกนี้ไม่ได้มีราคาแพงแพคเกจเองก็เรียบง่ายออกแนวรักษ์โลก แต่เพราะเธอเคยพูดว่าชอบกินลู่เป๋าเหยียนถึงกับลงทุนจ้างเชฟให้เดินทางมาทำให้เธอโดยเฉพาะ
เธอรู้มาว่าร้านไอศกรีมเล็กๆแห่งนี้ขายดีมาก แถมเ้าของก็ยังค่อนข้างหัวโบราณ ลู่เป๋าเหยียนเชิญเขามาที่นี่ได้คงลำบากไม่น้อย
เพราะฉะนั้นเธอถึงดีใจเสียยิ่งกว่าได้รับเสื้อผ้าเครื่องประดับราคาแพงเสียอีก
เธอไม่รู้หรอกว่าลู่เป๋าเหยียนคิดอย่างไรกับเธอและไม่แน่ใจด้วยว่าเขาชอบเธอบ้างหรือเปล่า
แต่เธอมั่นใจอยู่อย่างหนึ่งคือลู่เป๋าเหยียนใส่ใจเธอ ดูแลเธอ และหวังดีกับเธอ
จากสิ่งเหล่านี้อธิบายได้ว่าอย่างน้อยลู่เป๋าเหยียนก็ไม่ได้รังเกียจเธอใช่หรือเปล่า
ถ้างั้นเธอจะลองพยายามดูสักตั้งดีไหม?
พยายามโดยไม่นึกถึงเื่การหย่าในอีกสองปีข้างหน้าเขาเองก็บอกว่า สิ่งที่เขาเคยพูดกับหานรั่วซีไม่ใช่คำสัญญาอะไร แบบนี้...เขาก็คง้าภรรยาสักคนในชีวิตถูกไหม?
ถ้าเธอจะขอลองทำให้เขาหลงรักเธอเพื่อให้การแต่งงานครั้งนี้ดำเนินต่อไปพยายามเพื่อให้ตัวเองได้อยู่เคียงข้างเขาไปตลอดจะได้หรือเปล่า
คิดถึงตรงนีู้เี่อันก็พบว่าฝ่ามือเธอเริ่มชื้นเหงื่อ
การตัดสินใจครั้งนี้เธอกำลังท้าทายตัวเอง หลายปีมานี้ เธอไม่เคยคิดจะทำเื่แบบนี้มาก่อนตอนที่ยังไม่ได้แต่งงานกับเขา หรือเคยอยู่ด้วยกันกับเขาตามลำพังสำหรับเธอแล้วความคิดเหล่านี้เป็เพียงเื่ที่ไม่อาจเอื้อม
คนที่เคยแอบชอบเขาอย่างเจียมตัวตอนนี้ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะลองเอาชนะใจเขาดูเธอรู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังในพริบตา
เธอกับเขารู้จักกันมาตั้งเด็กถังอวี้หลันเองรักเธอมาก แถมตอนนี้พวกเธอก็แต่งงานกันแล้วเงื่อนไขทั้งหมดทำให้เธอได้เปรียบ
เพราะฉะนั้นการจีบลู่เป๋าเหยียนสำหรับเธอคงเป็เื่ง่ายกว่าใครๆ
งั้นตกลงตามนี้!
จากวันนี้เป็ต้นไปใครก็ตามที่กล้าเข้าใกล้ลู่เป๋าเหยียน ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย เธอจะกำจัดทิ้งให้หมด!
ในอนาคตหากูเี่อันย้อนคิดถึงเื่ในวันนี้และพบว่าเป็เพราะไอศกรีมแค่หนึ่งแถวที่ทำให้เธอมีพลังและความกล้าหาญมากพอจะเริ่มจีบลู่เป๋าเหยียน เธอคงรู้สึกได้ว่าตัวเองก็เคยผ่าน่วัยรุ่นสุดคึกคะนองมาแล้ว
