เรือนร่างบางนอนแผ่หลาตามทางกว้างของเตียงนอน ปล่อยให้เส้นผมสีน้ำตาลยาวไหลสู่พื้นพรมข้างเตียง สองมือเท้ากางออกไร้ทิศทางไม่คิดรักษาภาพลักษณ์ของหญิงงาม
"คุณหนูนอนแบบนี้ไม่ดีนะเ้าคะ" เจียอินเอ่ยเตือนเ้านายสาว กลัวว่าฮูหยินผู้เฒ่ามาเห็นเข้าจะถูกดุเอาได้
"เอาน่า นี่มันเรือนข้า ท่านย่าไปวัดสวดมนต์ ท่านอาไปค่ายทหาร จะมีใครมาว่าข้าได้" เหยี่ยนถิงเพิ่งรู้สึกตัวตื่นเมื่อ่เที่ยง หลังจากนางลุกขึ้นมาทานข้าวเสร็จ จึงตามด้วยนอนแผ่หลาบนเตียงเช่นนี้ ซึ่งนับว่าเป็กิจวัตรประจำในทุกวันของนาง
เมื่อคืนยังดีที่ท่านอาไม่ได้ทำอย่างที่ขู่ไว้ แต่ก็ไม่ได้ถือว่าผ่อนปรนจากเดิมมากนัก เพราะกว่าจะจบบทการลงโทษอันแสนหนักหน่วง ก็ล่วงเข้ายามอิ๋นเข้าไปแล้ว หลังจากนั้นนางก็สลบไม่รู้สึกตัวอีกเลย นางกลับมานอนในห้องได้ ก็คงเป็ท่านอาอุ้มมาส่งอย่างทุกครั้ง เหยี่ยนถิงนอนยกมือเรียวเล่นไปมาฆ่าเวลา วันนี้นางกะจะไม่ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกให้ท่านอาทำโทษนางได้อีก ทว่าการนอนเล่นอยู่ในห้องเฉย ๆ เช่นนี้ ทำให้นางรู้สึกเบื่อไม่น้อยเช่นกัน
"คุณหนูออกไปนั่งที่ศาลาในสวนไหมเ้าคะ วันนี้หิมะไม่ตก อากาศไม่หนาวมาก ทั้งยังมีแสงแดดอ่อน ๆ ด้วย"
"ก็ดี เอานิยายเล่มนั้นไปด้วยเล่า ข้ายังอ่านไม่จบ" เหยี่ยนถิงตอบรับขอเสนอของสาวใช้ ร่างบางลุกขึ้นให้เจียอินช่วยแต่งกายให้เรียบร้อย ก่อนจะสวมทับด้วยเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกที่ท่านอานำมาฝากหลังกลับจากจบศึกทางเหนือ
เจียอินมองคุณหนูของนางด้วยแววตาชื่นชม นางเลือกสวมใส่อาภรณ์ชุดสีม่วงอ่อนให้แก่เรือนร่างบาง สวมทับด้วยเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกสีขาวบริสุทธิ์ เสริมให้หญิงสาวดูอ่อนหวานน่าทะนุถนอม
เส้นผมสีน้ำตาลยาวถูกเกล้าขึ้นสูงโดยปิ่นหยกชิ้นเดียว เครื่องหน้าไร้สิ่งประทินโฉม เผยให้เห็นความงามตามธรรมชาติ ด้วยอากาศยังมีความเย็นอยู่ ทำให้พวงแก้มอวบอิ่มมีเืฝาดอมชมพูให้เห็น ชวนให้รู้สึกน่ารักน่าเอ็นดูเพิ่มขึ้นไปอีก
เจียอินรับรองได้ว่า หากผู้ใดได้พบเห็นคุณหนูของนางในยามนี้แล้วไม่บังเกิดความคิดเช่นเดียวกัน คนนั้นนับว่าเป็คนมีตาแต่ไร้แววอย่างแน่นอน
"คุณหนูจะเอานิยายนั้นไปอ่านนอกห้องหรือเ้าคะ" เจียอินที่กำลังชื่นชมความงามของเ้านายเกิดความรู้สึกขัดใจ เมื่อนึกถึงนิยายประโลมโลกที่หญิงสาวชื่นชอบ
เป็หนังสือที่ไม่เหมาะไม่ควรสำหรับคุณหนูผู้แสนใส่ซื่อบริสุทธิ์เท่าใดนัก
เหยี่ยนถิงแย้มรอยยิ้มหมายว่านาง้าเช่นนั้น ก่อนจะเดินนำหน้าสาวใช้ไปทางศาลากลางสวน โดยไม่คิดรั้งรอสาวใช้อีกสองคนที่ถือของว่างตามนางไปอย่างรีบเร่ง
เรือนร่างบางนั่งลงกลางศาลาในท่าทางผ่อนคลาย ด้วยตอนนี้ทั้งจวนมีเพียงนางอยู่ผู้เดียว จึงไม่ต้องรักษากิริยาให้เรียบร้อยอย่างที่ท่านย่าพร่ำสอน มือเรียวข้างหนึ่งอ่านนิยายประโลมโลกที่เจียอินไม่ใคร่อยากให้อ่าน ส่วนมืออีกข้างหยิบขนมเข้าปากไปพร้อมกัน
เหยี่ยนถิงอ่านถึงบทร่วมรักแสนเร่าร้อนของพระนางในนิยาย ทำให้หัวคิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน ในบทนิยายนั้นบรรยายว่าตัวละครชายได้ปรนเปรอมอบความสุขสมให้กับตัวละครหญิงอย่างไร ทั้งสองต่างมอบความสุขให้แก่กันและกันด้วยความรัก เกี่ยวกระหวัดพัวพันเป็หนึ่งเดียว
หญิงสาวพลันนึกถึงเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนและทุกครั้งที่ผ่านมา นอกจากการสอดใส่แล้ว สิ่งที่นางกับท่านอากระทำกันนั้น ยังห่างไกลกับคำว่า 'ร่วมรัก' อยู่มากนัก
ท่านอาไม่เคยเล้าโลม ไม่เคยใช้เรียวลิ้นมอบความสุขให้นางดั่งตัวละครชาย ไม่เคยจุมพิตดูดดื่ม ไม่เคยนวดเฟ้นทรวงอกให้เสียทรง ไม่เคยฝากรอยรักไว้บนผิวกายให้ดูขัดตา และสิ่งที่สำคัญที่สุด
เขาไม่เคยสอดใส่ช่องทางสวาทนางสักครั้ง
มิผิด สิ่งที่เรียกว่าการ 'ลงโทษ' จากท่านอา เขากระทำกับนางทางช่องทางด้านหลัง ทุกการสอดใส่หาได้ล่วงล้ำเข้าช่องทางสวาท
ไม่มีสิ่งใดเกินเลย
นางยังถือเป็สาวบริสุทธิ์ เส้นพรหมจรรย์ไม่เคยขาดสะบั้น
"เจียอินเ้าเคยร่วมรักไหม"
"คะ คุณหนู ถามอันใดเ้าคะ" เจียอินรีบยัดขนมกุ้ยฮวาใส่ปากเ้านายด้วยความใ พลันลอบมองรอบข้าง ว่ามีคนอื่นได้ยินสิ่งที่คุณหนูเพิ่งถามออกมาหรือไม่
"อืออ ทำอันใดของเ้าเนี้ย"
"คุณหนูถามเช่นนี้ออกมาได้อย่างไรเ้าคะ คนอื่นได้ยินเข้าจะมองคุณหนูว่าอย่างไร"
"นี่มันจวนของเรานะ ใครจะมาได้ยิน แล้วคำตอบเล่า เ้าเคยร่วมรักไหม"
"คะ เคยเ้าค่ะ" เจียอินมองรอบด้านว่าไม่มีผู้ใด ก่อนจะตอบเ้านายสาวเสียงเบาด้วยความเขินอาย
"จริงหรือ ทำไมข้าไม่รู้" เหยี่ยนถิงรีบวางขนมกับนิยายในมือลง รีบหันหน้าเข้าหาสาวใช้ด้วยความสนใจในทันที
"ก็ ก็บ่าวไม่เห็นจำเป็ต้องเล่าเื่แบบนี้ให้คุณหนูทราบนี่เ้าคะ เื่เช่นนี้เล่าให้พูดอื่นฟัง มันน่าอายจะตายไป"
"กับใคร เ้าคบหากับใครอยู่"
"คุณหนูทราบแล้วอย่าบอกใครนะเ้าคะ เป็พี่หย่าเสียนเ้าค่ะ"
เหยี่ยนถิงแทบไม่อยากเชื่อ ว่าคนที่เจียอินคบหาอยู่จะเป็คนนี้ หย่าเสียนเป็บ่าวชายคนสนิทของท่านอา ท่านอาไปไหนหย่าเสียนต้องตามติดไปที่นั่น นางไม่เคยเห็นท่าทีของทั้งสองคนเลยสักนิดว่ามีความสัมพันธ์กัน
หญิงสาวจึงเริ่มซักไซ้จนได้เื่ราวของสาวใช้มาจนครบถ้วน ว่าทั้งสองคนเริ่มสานสัมพันธ์กันั้แ่เมื่อใด
และเื่ที่นางอยากรู้มากที่สุด ก็สามารถเคล้นถามมาได้ด้วยเช่นกัน
เป็อย่างที่นางคิดไว้ ความสัมพันธ์ทางกายระหว่างนางกับท่านอา มิใช่การร่วมรักกันระหว่างบุรุษกับสตรีจริง ๆ
ถ้าเช่นนั้น สิ่งที่เกิดขึ้น มันเรียกว่าเป็การลงโทษจริง ๆ หรือ
หากอยากได้คำตอบ นางจะไปถามผู้ใดได้บ้าง
เรือนร่างบางที่ควรอยู่ในจวนยามนี้ กลับมาโพล่ยังโรงน้ำชาเยว่ชาใจกลางเมือง หญิงสาวมองบนเวทีอย่างนึกเสียดายที่มาไม่ทันการแสดงงิ้วตอนเริ่ม ทำให้อารมณ์นางไม่ค่อยดีนัก ระหว่างเดินตามเสี่ยวเอ้อร์ขึ้นไปชั้นบน
หญิงสาวเลือกนั่งในมุมเดิมทุกครั้งที่มายังโรงน้ำชา เป็มุมที่ทำให้นางสามารถมองเห็นการแสดงบนเวทีได้อย่างชัดเจน โดยไม่มีผู้ใดมาบดบัง
"คุณหนูรับปากกับนายท่านไว้แล้วมิใช่หรือเ้าคะ"
"เอาน่า วันนี้พวกเรากลับให้เร็วหน่อย ท่านอาก็ไม่รู้แล้ว ว่าข้าออกมาข้างนอก อย่าลืมปิดปากทุกคนให้เงียบด้วยเล่า" เหยี่ยนถิงโบกมือไม่ให้สาวใช้ใส่ใจ ก่อนจะนั่งดูงิ้ว้าเวที
หลังจากสอบถามกับเจียอินแล้ว ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่นั้นเรียกว่าการร่วมรักเหมือนดังในนิยายบรรยายไว้ไม่มีผิด และเมื่อคิดถึงสิ่งที่ท่านอากระทำกับนาง ทำให้หญิงสาวคิดไม่ตก หาข้อสรุปในความสัมพันธ์นั้นไม่ได้ นางจึงออกมาข้างนอกเพื่อหาสิ่งเริงรมย์ ให้อารมณ์ที่แปรปรวนได้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง
"เสี่ยวถิง มิใช่หรือ"
"ท่านแม่ทัพหลี่" เหยี่ยนถิงนั่งเก้าอี้ยังไม่ทันก้นร้อน กลับมีบุคคลคุ้นเคยเข้ามาทัก
หญิงสาวลุกขึ้นย่อกายเคารพอีกฝ่ายอย่างรักษามารยาท ใบหน้าหวานแย้มรอยยิ้มให้อย่างเป็มิตร ทว่าภายในใจกลับกำลังรู้สึกร้อนล้นอย่างถึงขีดสุด เมื่อเห็นชายหนุ่มตรงหน้า
ที่ใดมีท่านแม่ทัพหลี่ ที่นั่นย่อมมีท่านกุนซือจางคนสนิทด้วยมิใช่หรือ