เดิมทีฉินอวี่ก็ไม่คิดจะเปิดเบื้องลึกของตนเองเร็วเกินไป แต่นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้จะก้าวพลาด เพียงทันทีที่มาถึงเมืองเทียนโหมวชั้นนอกก็ต้องมาพบกับคนของตระกูลเหลยของตี้หวัง ฉินอวี่จึงจำเป็ต้องอาศัยบารมีของผู้เฒ่าร้องไห้
เมื่อรู้สึกถึงสายตาของทุกคนที่จ้องมองมา ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ฉินอวี่รู้สึกพอใจกับผลที่เกิดขึ้นเป็อย่างยิ่ง แม้ว่าผู้าุโนั้นจะมอบปัญหายากให้กับตนเอง แต่เงาของชื่อเขานั้น ในแดนต้าโหมวเทียนแล้วดุร้ายไม่ต่างไปจากเต้าจวินเลยทีเดียว เมื่อมีสถานะเป็ศิษย์ของผู้เฒ่าร้องไห้ ก็คงเพียงพอจะอาละวาดต้าโหมวเทียนได้ทั้งเมือง
“ฮ่าๆ ฮ่าๆ คนผู้นี้เขาเสียสติไปแล้วหรือ? เ้าเป็ศิษย์ของผู้เฒ่าร้องไห้... ข้าก็คงเป็ผู้สืบทอดของต้าหลัวเต้าจวินแล้วล่ะ”
“ผู้เฒ่าร้องไห้... ช่างน่าขำจริงๆ หลายปีมานี้ มีคนจำนวนมากที่ตายด้วยในมือของผู้เฒ่าร้องไห้ แต่ไม่เห็นเคยได้ยินว่าผู้เฒ่าร้องไห้รับใครเป็ศิษย์”
“เ้าหนุ่มน้อย หากเ้าบอกทุกคนว่าเป็ศิษย์ของเต้าจวิน ข้าว่ายังพอมีคนเชื่อ แต่อ้างชื่อผู้เฒ่าร้องไห้... ช่างเป็เื่ที่โง่เง่าจริงๆ”
“หลี่โหยว่ฉาย ฮ่าๆ มีพร์สมชื่อจริงๆ ช่างกล้านักที่ใช้ชื่อของผู้เฒ่าร้องไห้มาหลอกลวงผู้คน ช่างกล้าจริงๆ”
เมื่อได้ยินเสียงพูดเยาะเย้ย ต่อว่า ประชดประชันจากรอบด้าน ฉินอวี่ก็ได้แต่ยิ้มแต่ไม่พูดอะไร และคิดในใจ ในเวลานี้ หลิวเจ๋อควรจะพูดอะไรสักหน่อยหรือไม่?
เป็อย่างที่คิดไว้ หลิวเจ๋อจำต้องกัดฟัน และะโเสียงดัง “พวกเ้าอย่าเพิ่งไม่เชื่อ พี่หลี่เป็ศิษย์ของผู้เฒ่าร้องไห้ พี่หลี่ได้ตอบคำถามของผู้เฒ่าร้องไห้ถึงสองคำถาม ข้าหวังจงและยังมีชิงเยว่หวังล้วนแต่เห็นด้วยตาตนเองว่าผู้เฒ่าร้องไห้พาพี่หลี่เข้าไปในแดนที่สยดสยองนั่น ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าร้องไห้ยังได้มอบเืหยาจื้อและเสวียนอู่ให้พี่หลี่ด้วย หากพวกเ้าไม่เชื่อ ก็ลองไปถามชิงเยว่หวังดูก็ได้ เพราะชิงเยว่หวังก็รับพี่หลี่เป็อสูรอารักขาแล้วด้วย!”
คำพูดของหลิวเจ๋อ ทำให้ทั่วบริเวณนั้นเงียบสนิทลงอีกครั้ง ผู้ฝึกตนจำนวนมากต่างมองมาทางหลิวเจ๋ออย่างประหลาดใจ จากนั้นจึงมองไปทางฉินอวี่ด้วยท่าทางที่สงบ แต่หัวใจของแต่ละคนเริ่มว้าวุ่นดั่งคลื่นพายุ
“ชิงเยว่หวัง? หรือจะเป็ชิงเยว่หวัง หลานทวดของต้าหลัวเต้าจวิน หนึ่งในเจ็ดสิบสองอสูรธรณี?”
“ถ้า... ถ้าแม้แต่ชิงเยว่หวังยังรับคนผู้นี้เป็อสูรอารักขา...”
“เป็ไปได้อย่างไรกัน? ผู้เฒ่าร้องไห้รับศิษย์จริงหรือ? คนผู้นี้เป็ศิษย์ของผู้เฒ่าร้องไห้จริงหรือ?”
“มีคนสามารถตอบคำถามผู้เฒ่าร้องไห้ได้จริงหรือ...”
พวกผู้ฝึกตนต่างใขึ้นมาทันที สยงถู ชายหนุ่มร่างกำยำ เหลยหย่วนล้วนแต่จ้องไปทางฉินอวี่ด้วยสายตาที่เหลือเชื่อ หากฉินอวี่เป็คนพูดพวกเขาอาจจะไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ เมื่อเอ่ยชื่อของชิงเยว่หวัง จึงทำให้ความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้นทันที...
หากคนที่อยู่ตรงหน้าเป็ศิษย์ของผู้เฒ่าร้องไห้จริง... ทั้งสามคนต่างตัวสั่นเทา แม้แต่เหลยหย่วนยังเป็เช่นนี้ เพราะนั่นคือผู้เฒ่าร้องไห้!
นี่คือสิ่งที่น่ากลัวซึ่งดำรงอยู่นับั้แ่ตั้งแดนต้าโหมวเทียนมา
ลือกันว่า เหลืออีกเพียงก้าวเดียวผู้เฒ่าร้องไห้ก็จะสำเร็จถึงระดับเซียน เป็ผู้แข็งแกร่งระดับชั้นนำเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่ในยุคไท่ชู มีเื่เล่าต่อกันมาว่า หลังจากจอมอสูรถูกสะกดไว้แล้ว เต้าจวินที่ยังมีชีวิตอยู่และโหวเหย่กว่าสิบคนได้ร่วมมือกันโจมตีผู้เฒ่าร้องไห้ แต่ยังไม่ทันบุกถึงแหล่งกบดานของผู้เฒ่าร้องไห้ ทุกคนต่างก็ต้องพบความล้มเหลวเสียก่อน
ใน่เวลาหลายปีมานี้ มีการโจมตีผู้เฒ่าร้องไห้มาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะประสบความสำเร็จได้เลย และด้วยการโจมตีตลอดหลายปีที่ผ่านมานี่เอง จึงทำให้ชื่อของผู้เฒ่าร้องไห้มีความยิ่งใหญ่มากไปกว่าเต้าจวินทั้งสองท่านเสียอีก
และศิษย์ของผู้เฒ่าร้องไห้ ก็เทียบเท่ากับเป็ศิษย์ของตวี้จวินทั้งสอง... แม้ว่าเหลยหย่วนจะเป็คนของตระกูลเหลยของตี้หวัง แต่เขาคงไม่กล้าจะ่ชิงสิ่งของของผู้เป็ศิษย์ผู้เฒ่าร้องไห้อย่างแน่นอน
ส่วนสยงถูนั้นนิ่งเงียบไม่พูดจา เขามีสถานะที่ไม่ธรรมดา เป็ถึงโหวเหย่ แต่เมื่อเทียบกับผู้เป็ศิษย์ของผู้เฒ่าร้องไห้แล้ว... ก็นับว่าห่างไกลกันอย่างมาก มีเพียงผู้เดียวที่สงบนิ่งไม่ไหวติงคือชายหนุ่มผู้กำยำ เขาเอาแต่จ้องตรงไปทางฉินอวี่ ราวกับว่ากำลังชั่งน้ำหนักความน่าเชื่อถือ
เมื่อหลิงเจ๋อเห็นว่าคำพูดของเขาทำให้ทุกคนต่างหวาดกลัว และรู้สึกได้ว่ามีสายตาจำนวนมากกำลังจ้องมองมาทางตนเอง ใบหน้าของหลิวเจ๋อก็เริ่มแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น และยืดเอวขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“เ้ายัง้าอาวุธนี่อีกหรือไม่?” ฉินอวี่หรี่ตาลง และจ้องไปยังเหลยหย่วนด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะพูดอย่างเฉยเมย
เหลยหย่วนมึนงงอย่างมาก นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้ตนเองจะชนตอเข้าให้แล้ว และรู้สึกเสียใจอยู่ภายใน แต่ถ้าเขายอมถอยในตอนนี้ มันจะไม่เป็ที่ตลกของผู้คนเกินไปหรือ? คนของตระกูลเหลยของตี้หวัง กำลังกลัวศิษย์ของผู้เฒ่าร้องไห้? หากเื่นี้แพร่สะพัดออกไป เกรงว่าตระกูลเหลยคงต้องลงโทษเขาอย่างหนัก
ขณะที่เหลยหย่วนกำลังดิ้นรนอยู่ภายในใจ ชายหนุ่มที่โเี้ก็พูดขึ้นอย่างเ็า “ชิงเยว่หวังมีสถานะอย่างไร? จะไปรู้จักคนต่ำต้อยอย่างพวกเ้าได้อย่างไร? หรือว่า พวกเ้าจะเชื่อคำพูดมดตัวเล็กในขั้นเทียนชุ่ย?”
“นั่นสิ... เกือบถูกเ้าสามคนนี้หลอกแล้ว แค่เอ่ยชื่อของผู้เฒ่าร้องไห้ อ้างชื่อของชิงเยว่หวัง และนี่คงคิดจะอ้างชื่อของต้าหลัวเต้าจวินอีกใช่หรือไม่?”
“คนผู้นี้มีอะไรที่ทำให้ผู้เฒ่าร้องไห้รับเขาเป็ศิษย์?”
“ช่างกล้ายิ่งนัก ไม่เพียงกล้าแอบอ้างเป็ศิษย์ของผู้เฒ่าร้องไห้ ยังกล้าทำลายชื่อเสียงของชิงเยว่หวังด้วย!”
“หากคนผู้นี้เป็ศิษย์ของผู้เฒ่าร้องไห้ ข้าก็คงเป็ศิษย์ของต้าหลัวเต้าจวินแล้วล่ะ”
คำพูดของชายหนุ่มที่เหี้ยมโหดปลุกเร้าปฏิกิริยาจากคนจำนวนมาก แต่ปฏิกิริยาเหล่านี้ก็ไร้ซึ่งความโกรธ เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาใกับเื่ที่รับรู้จริงๆ
เมื่อได้ยินเสียงกระโชกโฮกฮาก เสียงเยาะเย้ยของผู้ฝึกตนที่อยู่รอบด้าน ใบหน้าของหลิวเจ๋อก็แดงก่ำ จึงพยายามพูดแก้ต่างออกไป “หากพวกเ้าไม่เชื่อก็ลองไปถามชิงเยว่หวังดู เพราะชิงเยว่หวังเป็คนพาพวกข้าจากเขตจุ้ยโหมวเข้ามาในเมืองเทียนโหมวชั้นนอก”
“เขตจุ้ยโหมว? ผู้เฒ่าร้องไห้อยู่ที่สุสานหรือ? ยังไม่ต้องพูดเื่ที่ว่าชิงเยว่หวางไปที่หลุมฝังศพได้อย่างไร เพราะถึงแม้จะไป แล้วพวกเ้าไปอยู่ที่นั่นได้อย่างไร? หรือว่า พวกเ้าเป็คนขุดหลุมศพในสุสาน?” ชายหนุ่มเืเย็นส่งสายตาคมเข้ามา จ้องมาทางหลิวเจ๋อและถามอย่างเยือกเย็น
“พวกข้าเป็คนขุดหลุมศพ... แต่ข้ากำลังบอกว่า...” หลิวเจ๋อหน้าแดงก่ำ ในใจรู้สึกไม่มั่นใจ ในแดนต้าโหมวเทียน คนขุดหลุมศพนับว่ามีสถานะที่ต่ำต้อยอย่างมาก ซึ่งมีสถานะที่เทียบไม่ได้แม้แต่เสี่ยวเอ้อในโรงเตี๊ยม
“คนขุดหลุมศพสามคนกล้ามาคุยโวว่าเป็ศิษย์ของผู้เฒ่าร้องไห้ เป็อสูรอารักขาของชิงเยว่หวัง ข้าว่าพวกเ้าจะทะเยอทะยานมากไปหน่อย สยงถู พาคนเพ้อฝันสามคนนี้ตามข้าไปด้วย!” ชายหนุ่มเืเย็นส่งเสียงะโดัง ยื่นมือขวาออกไป คล้ายกับจะเอื้อมไปจับไหล่ของฉินอวี่ และเขาไม่เชื่อเื่ที่ฉินอวี่เป็ศิษย์ของผู้เฒ่าร้องไห้เลยแม้แต่น้อย
ผู้เฒ่าร้องไห้จะรับคนขุดหลุมศพมาเป็ศิษย์น่ะหรือ? ล้อเล่นหรือไม่
ฉินอวี่ดูสงบมาก จ้องไปยังชายหนุ่มเืเย็นคนนั้น และพูดอย่างเฉยเมย “หากข้าเป็เ้า อย่างน้อยข้าก็จะยืนยันให้ได้เสียก่อน หากกล้าที่จะแตะต้องข้าแม้เพียงเส้นผม รับรองได้ว่าไม่ตายก็ไม่ยอมเลิกรา!”
ชายหนุ่มเืเย็นใ มองดูฉินอวี่ที่สงบนิ่ง เขาก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที ในใจเริ่มสั่นไหว คนผู้นี้... หากเป็ศิษย์ของผู้เฒ่าร้องไห้จริงๆ...
“ก่อนหน้านี้ข้าเห็นชิงเยว่หวังขี่พญาอินทรีั์มาหยุดตรงด้านนอกเมือง ดูเหมือนว่าจะมีคนสามคนลงมาจากพญาอินทรีของชิงเยว่หวังจริงๆ” จู่ๆ ก็มีคนพูดขึ้นมาเบาๆ
“ข้าก็เห็นพญาอินทรีของชิงเยว่หวังเหมือนกัน พญาอินทรีนั่นมาหยุดตรงนอกเมืองจริงๆ...” มีผู้ฝึกตนตอบกลับ
คนทั้งสองคนนี้ทำให้ทั่วทั้งบริเวณนี้เงียบสงบขึ้นมาทันที คำพูดของหลิวเจ๋อยังคงก้องอยู่ในหูของเขา
“ชิงเยว่หวังพาพวกข้ามาจากเขตจุ้ยโหมวมาส่งที่แดนเทียนโหมวชั้นนอก”
หรือว่า... คนผู้นี้เป็ศิษย์ของผู้เฒ่าร้องไห้จริงหรือ? และเป็อสูรอารักขาของชิงเยว่หวังด้วยหรือ?
ชั่วขณะหนึ่ง คนที่ไม่เชื่อพวกเขาอยู่แต่เดิมก็เริ่มสั่นเทา พวกเขาเชื่ออย่างไม่อยากเชื่อ หากว่า... คนผู้นี้เป็ศิษย์ของผู้เฒ่าร้องไห้จริงๆ ใครจะกล้ายั่วยุเขา?
ชายหนุ่มเืเย็น สยงถู และเหลยหย่วนต่างยืนนิ่งทื่ออยู่ที่เดิม เริ่มมีความรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจ ใครจะกล้าลงมือกับพวกฉินอวี่ทั้งสามคน?
“คิดได้หรือยัง? อาวุธนั่นเ้ายัง้าอีกหรือไม่?” ฉินอวี่จ้องไปยังเหลยหย่วน และพูดอย่างเ็า
เหลยหย่วนสูดลมหายใจเข้าลึก กล้ามเนื้อบนใบหน้ากระตุกอย่างรุนแรง และพูดขึ้นเบาๆ “ไม่้าแล้วล่ะ”
“ถ้าไม่้าแล้วก็ไสหัวไปเดี๋ยวนี้!” ฉินอวี่ตะเบ็งเสียงใส่ทันที
ใบหน้าของเหลยหย่วนดูดุร้าย แต่เขาก็ไม่ควรจะจากไป หากเขาจากไป สถานะของเขาในตระกูลเหลยของตี้หวังก็จะลดลงอย่างมาก แต่ถ้าไม่ไปก็ไม่ได้ ก็จะกลายเป็เขา้าชิงอาวุธมาจากศิษย์ของผู้เฒ่าร้องไห้... หากไปยั่วโมโหผู้เฒ่าร้องไห้เข้าละก็ เกรงว่าต่อให้เป็ตระกูลเหลยก็คงปกป้องเขาไม่ได้ หลังจากชั่งใจอยู่นาน ในที่สุดเหลยหย่วนก็กัดฟันหันกลับไป
ด้านสยงถูและชายหนุ่มเืเย็นต่างทยอยกันขึ้นขี่อสูรพาหนะของตนเองเพื่อเตรียมจากไป
“ข้าให้พวกเ้าไปแล้วหรือ?” ขณะที่ทั้งสองคนกำลังจะหันหลังกลับออกไป ฉินอวี่ก็พูดขึ้นอย่างขุ่นเคือง
ทั้งสองคนตัวสั่นเทาด้วยความใ
“ทำร้ายเพื่อนข้าสองคนได้รับาเ็ แล้วยังคิดหนีหรือ?” ฉินอวี่พูดอย่างเ็า
ในเมื่ออาศัยบารมีจากชื่อเสียงของผู้เฒ่าร้องไห้อยู่ ฉินอวี่ก็ไม่ได้้าให้เื่ใหญ่กลายเป็เพียงเื่เล็กๆ เท่านั้น แต่กลับกันเขาคิดจะทำให้เื่ยิ่งดูใหญ่โตกว่าเดิม เพื่อทำให้ทุกคนต่างรับรู้ว่าเขาคือศิษย์ของผู้เฒ่าร้องไห้
และด้วยบารมีของผู้เฒ่าร้องไห้ จะทำให้เื่ทุกอย่างในอนาคตดูง่ายมากขึ้น และยิ่งไม่ต้องกังวลว่าตัวตนแท้จริงจะถูกเปิดเผย!
ส่วนเื่ว่าจะมีคนดูออกหรือไม่นั้น ฉินอวี่ไม่เป็กังวลอะไร เพราะคงมีไม่กี่คนที่จะไปหาความจริงมายืนยันได้... รวมถึงหลัวชิงเยว่ก็รับรู้และเชื่อว่าเขาเป็ศิษย์ผู้เฒ่าร้องไห้แล้ว
