ชายฉกรรจ์ผู้โชคร้ายร้องโหยหวนไม่เป็ภาษาคนเมื่อถูกเสี่ยวหงจับแขนพลิกสะบัดจนเสียงดังกรุบกรับล้มลงไปกองกับพื้น
หึ! ข้าเคยเรียนวิชาป้องกันตัวมาบ้างแถมยังชกต่อยกับคู่อริเป็งานอดิเรก เ้าอยากมายั่วโมโหข้าก่อนทำไมกัน
ชายฉกรรจ์อีกคนพุ่งเข้ามาทางเสี่ยวหงแต่ก็ถูกนางจัดการจนสลบเหมือด คนอื่นๆ ได้แต่หันหน้ามองกันไปมาอย่างลังเล
"ใครจะเข้ามาอีกก็เชิญ หากไม่อยากพิการแบบสหายของพวกเ้าก็เข้ามา"
หยางซูจวิ้นที่ยืนหลบอยู่ด้านหลังได้แต่ยืนอ้าปากค้างมองเสี่ยวหงสลับกับชายฉกรรจ์ที่สลบเหมือดอยู่ตรงหน้า ั้แ่เขาเกิดมาไม่เคยเห็นสตรีที่ไหนดุดันเท่านางมาก่อนเลย
"ใครกล้าล่วงเกินองค์ชายรองจับตัวมันไปให้หมด!!!"
เสี่ยวหงละสายตาจากกลุ่มชายฉกรรจ์ตรงหน้า ก่อนจะหันไปมองที่มาของเสียงและได้พบกับใครบางคนที่นางอยากพบเขามาหลายวัน
อวิ๋นหลัวซี
ความจริงเสี่ยวหงคิดอยากจะทำของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ไปเยี่ยมฮูหยินจวนโหวที่กำลังป่วย แต่คิดไปคิดมาก็ดูจะไม่เหมาะเท่าใดนัก นางกับเขาเพิ่งพบกันเพียงครั้งเดียวที่งานเทศกาลแข่งขันว่าวประจำปี ถึงเขาจะเคยบอกนางว่าหาก้าความช่วยเหลือให้ไปหาเขาที่จวนโหวได้ก็ตาม
แต่นางจะไปขอความช่วยเหลืออะไรจากเขากันเล่า? ขอให้เขารับรักดีหรือไม่
มู่มู่ลอบบิดเบ้มุมปากตน นายหญิงของมันอาการคลั่งรักกำเริบใช่รึไม่?
"ถวายพระพรองค์ชายรอง ขออภัยที่กระหม่อมมาช้าไปพ่ะย่ะค่ะ"
"ไม่เป็ไรๆ นางเป็คนช่วยข้าไว้"
หยางซูจวิ้นชี้มือมาที่เสี่ยวหงก่อนจะหันไปมองอวิ๋นหลัวซีอย่างกล้าๆ กลัวๆ
อวิ๋นหลัวซีเป็สหายสนิทของหยางเส้าเฉินพี่ชายของเขา เขานับถืออวิ๋นหลัวซีเหมือนพี่ชายร่วมสายเืด้วยซ้ำ พี่ชายผู้นี้ยามใจดีก็ดียิ่งนัก ยามใจร้ายก็ทำเขากลัวจนตัวสั่น ดูสายตาที่มองเขาตอนนี้นั้นมันมีทั้งคำตำหนิและด่าว่าไม่น้อย
เขาก็แค่หนีออกมาเที่ยวเล่นเพียงครู่เดียวเท่านั้นใครจะคิดว่าจะถูกพวกอันธพาลนี่ทุบตีกันเล่า
อวิ๋นหลัวซีมองตามมือของหยางซูจวิ้นก่อนจะมีสีหน้าประหลาดใจไม่น้อย
"แม่นางเสี่ยวหง"
กรี๊ด!!! เขาจำชื่อข้าได้
"คารวะซื่อจื่อเ้าค่ะ"
"เ้าคือผู้ที่ช่วยองค์ชายรองไว้"
เสี่ยวหงที่มัวแต่สนใจในความหล่อของอวิ๋นหลัวซีจนลืมหยางซูจวิ้นไปจนหมดสิ้น ตอนนี้นางได้สติแล้วจึงหันไปมองหยางซูจวิ้นด้วยสายตามึนงง
"เ้าเป็องค์ชาย?"
หยางซูจวิ้นพยักหน้าพร้อมกับยิ้มอย่างเก้ๆ กังๆ
"ช่างทำตัวไม่สมกับการเป็องค์ชายยิ่งนัก เ้าอายุเพียงเท่านี้ก็ติดการพนัน ดื่มสุราเมานารีแล้วหรือ?"
หยางซูจวิ้นเบ้ปากน้อยๆ แล้วใครกันเล่าเป็คนลากเขากลับมาที่นี่ ซ้ำยังชวนเขาเล่นการพนันนั่นด้วย ชิ!
"แม่นางเ้าอย่าได้กล่าววาจาล่วงเกินองค์ชาย มิเช่นนั้นจะถูกลงโทษสถานหนักรู้หรือไม่"
"ท่านรองแม่ทัพอวิ๋นช่างเถิดๆ นางเป็สหายของข้าเองอย่าถือสาหาความกับนางเลย"
"ข้าเป็สหายเ้าเมื่อใดกันพ่อหนุ่มน้อย"
หยางซูจวิ้นถลึงตาใส่เสี่ยวหงก่อนจะเดินเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของนาง
"เ้าอยากถูกโบยงั้นรึ! เสด็จแม่ของข้าเป็ถึงฮองเฮา ดุมากด้วย"
"อ้อ!! ไอ้ต้าวติดแม่"
"ห้ามว่าข้านะ!!! แล้วเ้าพูดภาษาอะไรน่ะ ประหลาดจริงเชียว"
"หากข้าประหลาดเ้าก็ไม่ต้องมาเป็สหายข้าสิ"
"ไม่ได้!!! ไว้คราวหน้าข้าจะพกตำลึงมาเยอะๆ เราจะได้มาเล่นด้วยกันอีกดีหรือไม่ เ้าคือเทพธิดานำโชคของข้าเชียวนา โอ๊ย!!!"
เสี่ยวหงฟาดฝ่ามือไปที่กลางศีรษะของหยางซูจวิ้นอย่างเต็มแรง
"คราวหน้าต้องเอาตำลึงมาให้มากกว่านี้เข้าใจรึไม่ คิกๆ"
"คิกๆ เข้าใจๆ"
อวิ๋นหลัวซีมองคนทั้งสองที่สนทนาไปพลางทุบตีกันไปพลางก่อนจะขมวดคิ้วแน่น
นางกับองค์ชายรองสนิทกันถึงเพียงนี้เชียวหรือ เหตุใดเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าหยางซูจวิ้นมีสหายสนิทเป็สตรี
"เสี่ยวหง ข้าขอเตือนเ้าด้วยความหวังดี การกระทำของเ้าเป็การล่วงเกินองค์ชาย ครั้งนี้ข้าจะปล่อยเ้าไปเพราะเห็นแก่องค์ชายรอง หากมีครั้งหน้าข้าคงไม่สามารถละเว้นเ้าได้"
จุ๊ๆๆๆ!!! ท่านรองแม่ทัพรูปงามผู้นี้กำลังข่มขู่นางเช่นนั้นหรือ
"ที่ซื่อจื่อกล่าวมาข้าเข้าใจดีเ้าค่ะ เช่นนั้นข้ามีเื่อยากถามซื่อจื่อสักหน่อย"
"ว่ามา"
"หากท่านไม่ให้ข้าล่วงเกินองค์ชายรอง เช่นนั้นข้าล่วงเกินท่านแทนได้หรือไม่เ้าคะ"
"เ้าหมายความว่าเช่นไร?"
เสี่ยวหงฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี ก่อนจะเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าของอวิ๋นหลัวซี
"ข้าชอบท่าน ท่านคือบุรุษในฝันของข้า หากท่านยังไม่แต่งงาน เช่นนั้นเรามาแต่งงานกันดีหรือไม่?"
อวิ๋นหลัวซียืนเหม่อลอยไม่ได้สติเหมือนคนไร้จิติญญา เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าสตรีที่บอบบาง สดใสอ่อนหวานผู้นี้จะกล้าเกี้ยวพาราสีเขากลางวันแสกๆ ซ้ำยังทำต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้
หยางซูจวิ้นซู้ดปากอย่างอดไม่ไหว เขาคิดไม่ผิดจริงๆ ที่ยอมเป็สหายกับนาง นางช่างเผ็ดร้อนยิ่งนัก
"เ้าระวังคำพูดด้วย เป็สตรีจะเสียเกียรติเอาได้"
อวิ๋นหลัวซีที่ดึงสติกลับมาได้แล้วหันไปมองเสี่ยวหงด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ไม่กล้าสบตานางตรงๆ
"ท่านเขินอายข้าหรือเ้าคะ"
"เ้าพูดจาเหลวไหลอะไรกัน"
"ไม่เป็ไรเ้าค่ะ ท่านเสียเกียรติเพราะข้า ข้าจะรับผิดชอบท่านเอง ข้าจะขอเป็ภรรยาของท่านไปชั่วชีวิต"
"องค์ชายรองเชิญเสด็จกลับวังเถิดพ่ะย่ะค่ะ"
อวิ๋นหลัวซีไม่พูดพร่ำทำเพลงเขาหันหลังเดินจากไปไม่แม้แต่จะรอหยางซูจวิ้นด้วยซ้ำ
หยางซูจวิ้นหันมาโบกมือให้เสี่ยวหงก่อนจะรีบเร่งเดินจากไป
เสี่ยวหงไม่สนใจสายตาของผู้คนรอบข้างที่มองนาง ยุคโบราณเช่นนี้เป็ยุคที่เอาเปรียบสตรียิ่งนัก ทำไมกันล่ะ? สตรีที่เคยถูกถอนหมั้นดูไร้ค่าเช่นนั้นเชียวหรือ
แต่ใครจะสนใจกันเล่าว่าใครจะมองนางเช่นไร นางไม่แคร์เสียหน่อย นางถือคติด้านได้อายอดเชียวนา
"ไม่พบกันเสียนาน ดูเ้าจะเปลี่ยนไปไม่น้อย"
เสี่ยวหงที่กำลังหันหลังเตรียมจะเดินออกไปก็หันกลับไปเจอกับใครบางคนที่นางไม่อยากเจอเข้า
ชินอ๋องหยางเทียนฉี
ความทรงจำของเ้าของร่างเดิมบอกนางว่านี่คือชินอ๋องหยางเทียนฉี
"ถวายพระพรชินอ๋องเพคะ"
"ไม่ต้องมากพิธี"
"หากไม่มีสิ่งใดแล้วหม่อมฉันขอตัวเพคะ"
หยางเทียนฉีขมวดคิ้วแน่นด้วยความไม่พอใจ อะไรกัน! เมื่อครู่เขายังเห็นนางทำท่าทางเกี้ยวพานอวิ๋นหลัวซีอย่างหน้าไม่อาย แต่พอได้เจอกับเขานางกลับทำเหมือนเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น
"เดี๋ยวก่อน"
เสี่ยวหงหลับตาลงด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้ากับหยางเทียนฉีด้วยแววตาเฉยชา
"พระองค์มีสิ่งใดอยากพูดกับหม่อมฉันหรือเพคะ หม่อมฉันมีเื่ให้ต้องสะสางต่อ อีกอย่างชายหญิงมิควรชิดใกล้เพคะ"
หยางเทียนฉียกยิ้มมุมปากอย่างเหยียดหยัน
ชายหญิงมิควรชิดใกล้!
"เ้าว่าชายหญิงมิควรชิดใกล้ เช่นนั้นเหตุใดเมื่อครู่เ้าจึงได้เอ่ยปากขอบุรุษแต่งงานได้อย่างไร้ยางอายทั้งที่เพิ่งถูกข้าถอนหมั้นเล่า?"
เสี่ยวหงยกยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน
ทิ้งขว้างไม่ไยดีแล้วยังคิดจะหวงก้างอีกหรือ
"หม่อมฉันน่ะหรือเพคะไร้ยางอาย? หากหม่อมฉันไร้ยางอาย พระองค์คงไม่ไร้ยางอายยิ่งกว่าหรือเพคะ ถอนหมั้นกับหม่อมฉันเพื่อจะได้แต่งงานกับน้องสาวหม่อมฉัน หม่อมฉันทำสิ่งใดผิดหรือเพคะ ตอนนี้พระองค์กับหม่อมฉันเราทั้งคู่ไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกัน หม่อมฉันอยากจะแต่งงานกับผู้ใดก็ไม่ใช่เื่ที่พระองค์ต้องสอดมือเข้ามายุ่ง"
"เสี่ยวหง!!! เ้า เ้ามันก็แค่บุตรบุญธรรม มิใช่พี่สาวสายเืเดียวกับเสี่ยวชิง เป็เพียงเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยงได้เชิดหน้าชูตาก็ถือว่าดีเท่าใดแล้ว ข้าไม่มีทางลดตัวไปแต่งงานกับคนไร้หัวนอนสายเืชนชั้นต่ำเช่นเ้า"
หยางเทียนฉีที่โมโหจัดเพิ่งรู้สึกตัวว่าตนเองพูดสิ่งใดออกไปเขามีสีหน้ารู้สึกผิดไม่น้อย
สายตาคนรอบข้างที่มองเสี่ยวหงเริ่มเปลี่ยนไป คำวิจารณ์ต่างๆ ลอยเข้ามาเป็ระยะๆ ไม่ขาดสาย
"ที่แท้นางก็เป็เด็กที่ท่านเสนาบดีเก็บมาเลี้ยงนี่เองไม่ใช่บุตรสาวสายตรง"
"หากข้าเป็ท่านอ๋องก็คงไม่ยินยอมแต่งกับนาง นางเป็คุณหนูจอมปลอม คุณหนูเสี่ยวชิงต่างหากที่คู่ควรกับท่านอ๋อง"
"ชูคอทำตัวว่าสูงส่งที่แท้ก็เป็เด็กที่ไร้หัวนอนปลายเท้า"
เสี่ยวหงยกยิ้มมุมปากอย่างเ็า หากเป็เ้าของร่างเดิมตอนนี้คงได้ร้องไห้ขี้มูกโป่งวิ่งหนีกลับจวนไปแล้วเป็แน่ แต่ไม่ใช่กับนาง ความจริงก็คือความจริง นางเองก็ไม่ได้อยากจะใช้ชีวิตอยู่ในจวนสัปปะรังเคนั่นตลอดไปอยู่แล้ว
"คงจะพอใจท่านอ๋องแล้วใช่หรือไม่เพคะ เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวก่อน"
"เสี่ยวหง"
เสี่ยวหงไม่แม้แต่จะหันไปมองหยางเทียนฉี นางเดินไปพลางลูบคลำตั๋วเงินหลายร้อยใบที่เหน็บอยู่ข้างเอวอย่างมีความสุข
มีเงินแล้ว คงต้องหาทำเลดีดีเปิดสำนักดูดวงได้แล้วสินะ