เสิ่นม่านรีบะโลงจากรถม้าและผลักประตูออก จากนั้นมองเห็นชายร่างใหญ่สิบกว่าคนนอนสลบเหมือดอยู่กลางลานบ้าน
หนิงโม่ยืนอยู่ใจกลางลานบ้าน ใบหน้ายังคงไร้ความรู้สึก ท่วงท่าของเขาพลิ้วไหวดั่งสายลมทว่าทรงพลัง
พลังการต่อสู้นี้ ไม่เลวเลย
เสิ่นม่านเคยเห็นฝีไม้ลายมือของเ้าหนุ่มคนนี้มาบ้าง เขามีวิชาตัวเบาสามารถเหาะเหิน ทั้งยังสามารถหลบพ้นกรงเล็บมารของนางได้ ซึ่งหนิงโม่คือคนแรกและคนเดียว
ภาพเหตุการณ์นี้ นางอดไม่ได้ที่จะชูนิ้วโป้งให้
“ญาติผู้พี่ไม่เลวเลย ่นี้คงกินเนื้อบำรุงร่างกายใช้ได้ทีเดียว ระหว่างทางมาข้ายังเป็ห่วงว่าเ้าจะสู้คนเหล่านี้ไม่ไหว”
หนิงโม่ได้ยินคำพูดนางก็พยายามข่มกลั้นคำหยาบเอาไว้เสียจนเข็ดฟัน “เ้าไปก่อเื่อะไรมาอีก? พวกเขาถึงได้มาขอสูตรเต้าฮวยกับข้า?!”
เสิ่นม่านยักไหล่อย่างไร้เดียงสา “ขอโทษด้วยสหาย หากข้าไม่ยกเ้ามาอ้าง วันนี้คนที่ตายคงเป็ข้า”
ทันทีที่สิ้นเสียงเสิ่นม่าน ก็มีเสียงอ่อนแรงของชายหนุ่มที่พ่ายแพ้ดังขึ้นจากมุมหนึ่ง
“พวกเ้า... พวกคนชั่วช้า! ช่างกล้านัก รู้หรือไม่ว่าข้าคือใคร? ข้าจะบอกพี่ชายข้ามาจับพวกเ้าเข้าคุกให้หมด!”
คนผู้นี้ก็คือเฉียนซานเจียงฟันทอง
เสิ่นม่านมองไปที่ชายคนนั้น เบ้าตาสองข้างกลายเป็หมีแพนด้า ขณะนี้กำลังติดอยู่ในเล้าไก่ตรงมุมทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน ในนั้นยังมีไก่ที่เสิ่นม่านเพิ่งเลี้ยงไม่กี่วันก่อน
ขณะนี้ไก่ด้านในใจนะโร้องกะต๊ากๆ อยู่ในเล้า ขนไก่ปลิวว่อนไปทั่ว
เฉียนซานเจียงสำลักขนไก่และฝุ่นจนไอโขลกๆ ทั้งยังมีเศษขี้ไก่ที่ติดอยู่ตามเส้นผม แขนขาทั้งสี่บนร่างอ้วนของเขาบัดนี้กำลังปัดป่ายสะเปะสะปะ ตะเกียกตะกายดิ้นรนอยู่กลางอากาศอย่างโง่งมมาสักพักแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถหลุดออกมาได้
เขาโกรธจนใบหน้าแดงก่ำ พาลด่ากราดลูกน้องที่พามาด้วย
“เ้าพวกขยะ! เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ แค่คนเดียวก็สู้ไม่ไหว! รีบมาพยุงข้าเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะให้พวกเ้าได้เห็นดี!”
น่าเสียดายที่คำพูดนี้ออกมา แต่กลับมีเพียงไม่กี่คนที่ตอบสนอง
ชายร่างใหญ่กำยำล้มกองเต็มพื้นลานบ้าน แต่ละคนล้วนมีความาเ็ที่ต่างออกไป ทั้งยังมีหลายคนที่สลบเหมือดไปแล้ว
สุดท้ายก็มีชายร่างใหญ่ที่าเ็น้อยที่สุดเดินโซซัดโซเซไปพยุงเขา เฉียนซานเจียงเช็ดขี้ไก่บนหน้าผากและโมโหเป็ฟืนเป็ไฟ
“เ้า เ้าพวกคนถ่อย ดี ดีเหลือเกิน! รอก่อนเถิด ข้าจะเรียกพี่ชาย...”
“เ้าจะเรียกพี่ชายมาทำอะไร? รังแกชาวบ้านตาดำๆ หรือ?”
ทันใดนั้นเสียงชายหนุ่มสุขุมก็ดังขึ้นจากด้านนอกประตู ร่างชุดสีน้ำเงินก้าวเท้าเข้ามาในประตูบ้าน เฉียนซานเจียงหรี่ตามองผู้มาเยือน ฉับพลันก็ราวกับเห็นเทพแห่งหายนะอย่างไรอย่างนั้น
คนของตระกูลจางมาที่นี่ได้อย่างไร?
ผู้ที่มาหาใช่ใครอื่น เขาก็คือจางหงเหวิน หัวหน้าตระกูลจาง!
เฉียนซานเจียงลูบสะโพกที่ปวดช้ำของตน สีหน้าของเขาเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีดเผือด จากนั้นะโเสียงดัง
“จางหงเหวิน? หมู่บ้านโม๋ผานไม่มีกิจการของตระกูลจาง! เ้าอย่ามายุ่งไม่เข้าเื่”
“หืม? เช่นนั้นหรือ?”
จางหงเหวินเดินเข้ามาช้าๆ เหลือบมองสถานที่เกิดเหตุในลานบ้าน สุดท้ายก็หยุดสายตาที่เฉียนซานเจียงและแสยะยิ้ม
“เหล่าเฉียน ลูกน้องของเ้าไม่ได้บอกเ้าหรือว่าเต้าฮวยสกุลเสิ่นนั้นถูกดูแลคุ้มครองโดยตระกูลจาง?”
เฮือก! ผู้อยู่เื้ัสาวชาวบ้านตัวดีคนนี้คือตระกูลจางหรือ?
ในที่สุดเฉียนซานเจียงก็รู้จักหวาดกลัว
พี่ชายของเขาไม่กล้าล่วงเกินจางหงอี้เช่นไร เขาเองก็ไม่สามารถล่วงเกินจางหงเหวินเช่นนั้น
ยามปกติ่เทศกาลต่างๆ เขายังต้องแบกหน้าไปมอบของขวัญให้ตระกูลจางด้วยซ้ำ กระนั้นอีกฝ่ายก็ยังชักสีหน้าใส่พวกเขาอยู่บ่อยครั้งไป
บ้าจริง วันนี้กลับติดกับดักจากผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้หรือ?
หลอกให้พวกเขามาที่หมู่บ้าน ส่วนตนเองแอบวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากตระกูลจาง? ความแค้นนี้จะต้องหาทางชำระกับนางในภายหลังให้ได้!
จางหงเหวินรอให้บ่าวที่มาด้วยนำเก้าอี้มาให้และนั่งลงอย่างสุขุม จากนั้นเอ่ยขึ้นช้าๆ
“เฉียนซานเจียง ตำแหน่งกุนซือของพี่ชายเ้า เกรงว่าคงนั่งสบายมานานเกินไปกระมัง ถึงได้ปล่อยให้น้องชายแท้ๆ เช่นเ้ามาบุกอาละวาดรังแกชาวบ้าน แล้วยังคิดจะแย่งสูตรลับจากผู้อื่น? พวกเ้าสองพี่น้องช่างกล้าหาญนัก!”
น้ำเสียงเคร่งขรึมและน่าเกรงขามของจางหงเหวินทำให้เฉียนซานเจียงใจนกลั้นหายใจ
“ข้า... นายท่านจาง นี่คือการเข้าใจผิด!”
เฉียนซานเจียงที่เดิมทีโมโหไม่สนหน้าใคร บัดนี้กลับเค้นรอยยิ้มยับย่นอย่างขลาดๆ
“หากรู้ว่าเสิ่นม่านเหนียงคือคนของตระกูลจาง ต่อให้ข้ามีความกล้ามากมายเพียงใดก็ไม่กล้าล่วงเกินนาง นี่เป็เื่เข้าใจผิด… ข้าหลงใหลในทรัพย์เกินไป คนค้าขายต่างก็ยากลำบากกันทั้งนั้น ส่วนแผงเต้าฮวยในตำบลก็ปล่อยให้นางตั้งต่อไปเถิด วันนี้ถือเสียว่าท่านไม่เคยเห็นข้ามาที่นี่ เป็อย่างไร?”
“ไม่ได้มาที่นี่หรือ?” จางหงเหวินเลิกคิ้วขึ้นและเยาะเย้ยอย่างเ็า “บ้านเรือนดีๆ ถูกพวกพ้องของเ้าทำลายจนเละเทะ เ้าให้ข้าคิดว่าไม่เคยมาหรือ?”
“ข้าเข้าใจ! รู้แล้ว!”
เฉียนซานเจียงยิ้มอย่างอดกลั้นความเ็ป จากนั้นควักเงินห้าสิบตำลึงออกมาโยนให้เสิ่นม่าน สีหน้าของเขาไม่ได้แย่เหมือนตอนแรก จากนั้นรีบเอ่ยด้วยน้ำเสียงแ่เบา
“เ้าเอาเงินนี้ไปซ่อมบ้านใหม่เสีย วันนี้ถือว่าข้าไม่เคยปรากฏตัวที่นี่มาก่อน ข้าขอตัวล่ะ”
เสิ่นม่านหลุดขำและเยาะเย้ยเขา “นายท่านเฉียน ไม่้าสูตรเต้าฮวยแล้วหรือ?”
เฉียนซานเจียงแอบด่ามารดาในใจ แต่ใบหน้าคงยังปั้นยิ้มต่อไป
“ไม่... ไม่้าแล้ว”
หลังจากนั้นเขาก็ด่ากราดเรียกลูกน้องมาลากชายร่างใหญ่หลายคนที่ยังสลบอยู่ แล้วพากันออกจากหมู่บ้านไปด้วยสภาพน่าสมเพช
ขณะที่เดินผ่านหน้าบ้านนางจาง นางจางที่เฝ้ารออยู่นานในที่สุดก็ทนไม่ไหวเข้าไปขวางพวกเขาไว้อย่างร้อนใจ
“หลานชายใหญ่! เหตุใดจึงจากไปเช่นนี้? ไหนบอกว่าจะซื้อสูตรเต้าฮวยของนางไม่ใช่หรือ… โอ้! เกิดอะไรขึ้น? ไยจึงถูกทุบตีจนกลายเป็เช่นนี้ได้?”
เฉียนซานเจียงโมโหจนถีบนางจางตกไปยังเถียงนาพร้อมทั้งชี้หน้าด่า
“นางเฒ่าปีศาจ ต่อไปขืนยังกล้ามาพบอนุของข้า ข้าจะพังบ้านรังสุนัขของเ้า!” พูดจบ เขาก็จากไปพร้อมกับเสียงด่าทอและไม่ได้สนใจเสียงโหยหวนของนางจาง
หลี่โก่วเซิ่งคือชายหนุ่มที่ชอบเบ่งอำนาจในหมู่บ้าน ขณะนี้กลับหดหัวอยู่ในห้องไม่กล้าออกมา
ภาพทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของเสิ่นม่าน นางจึงผูกเื่ได้ในทันใด มิน่าเฉียนซานเจียงถึงรู้เื่ค่าสูตรหนึ่งพันตำลึง ที่แท้ก็มีคนปลุกปั่นนี่เอง
นางจางผู้นี้ช่างอยู่ไม่สุขจริงๆ
แววตาของเสิ่นม่านมืดมิด พร้อมทั้งจดบัญชีแค้นนางจางไว้ในใจ
เมื่อกลับเข้าตัวบ้าน จางหงเหวินกำลังชี้นิ้วสั่งบ่าวไพร่ให้ช่วยหนิงโม่และเด็กๆ เก็บกวาดบ้าน
เมื่อครู่หนิงโม่ต่อสู้อยู่ในลานบ้านจึงขังเด็กทั้งสามไว้ในตัวบ้าน ตอนนี้ปล่อยพวกเขาออกมา แต่ละคนจึงรีบมาช่วยกันเก็บกวาด
คนมากพลังยิ่งมาก ครู่เดียวก็เก็บจนหมด เสิ่นม่าน้าแสดงความขอบคุณ จึงขอเลี้ยงอาหารจางหงเหวินหนึ่งมื้อ
เดิมทีจางหงเหวินกําลังจะจากไป แต่บังเอิญได้เจอกับหลี่ต้าหนิวและหลี่ต้าหู่ที่ทำงานเสร็จจากหลังบ้าน พอเอ่ยถาม ถึงได้รู้ว่าเสิ่นม่านกำลังคิดจะเปิดโรงทำเต้าหู้
เต้าหู้นี้คืออันใดกัน?
จางหงเหวินอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับอาหารชนิดใหม่นี้ เดิมทีตั้งใจว่าจะไม่ทานอาหาร แต่พอได้ยินว่าเสิ่นม่านจะทำเต้าหู้เลี้ยงขอบคุณพวกเขาจึงตัดสินใจอยู่ต่อ
หลังมื้ออาหาร ทุกคนรู้สึกว่ามันทั้งสดใหม่ รสชาติก็ยากจะลืมเลือน
นี่เป็หนแรกที่จางหงเหวินทานข้าวบ้านผู้อื่นจนท้องตึง ก่อนจากไปเสิ่นม่านยังมอบเต้าหู้ให้เขาหนึ่งตะกร้า จากนั้นบอกวิธีปรุงอาหารจากเต้าหู้เพื่อให้พ่อครัวทำให้นางเฉินทาน
ทันทีที่เขาก้าวออกจากบ้าน ฉับพลันจางหงเหวินก็เกิดความคิดแวบเข้ามาในหัว เขาหันหลังกลับมา ท่าทางราวกับอยากเอ่ยบางสิ่งแต่แล้วก็หยุดและจ้องมองเสิ่นม่าน
“แม่นางเสิ่น ข้ามีเื่หนึ่งขอร้อง ไม่ทราบว่าเ้าจะตอบตกลงหรือไม่...”
-----
