เสื้อผ้าของกู้ชิงฮั่นเริ่มเปียกไปหมด เหมือนกับคนที่เพิ่งลงน้ำมา ทั่วทั้งตัวร้อนไปหมด ร่างกายร้อนราวกับไฟลุก นางเป็ผู้ที่มีประสบการณ์อยู่แล้ว ต่อให้ไม่มีควันไห่ถัง ร่างกายของนางก็อ่อนไหวง่ายอยู่แล้ว ตอนนี้โดนควันไห่ถังเข้าไป ร่างกายของนางก็แทบจะทนไม่ไหว
ฤทธิ์ของควันไห่ถังรุนแรงนัก สามารถทำให้คนที่อดทนสูงเหมือนเหล็กกลายเป็พวกเดนสวะได้ในพริบตาเดียว สามารถทำให้กุลสตรีกลายเป็หญิงงามเมืองได้ภายในเสี้ยววินาทีเดียว ทำให้ขาดสติ ในสมองคิดแต่เื่เสพสังวาสเท่านั้น
ตอนแรกกู้ชิงฮั่นยังพอมีสติอยู่บ้าง แต่เมื่อหยางหนิงเข้าใกล้นางเพื่อช่วยปิดจมูกให้ กลิ่นกายของหยางหนิงทำให้ฤทธิ์ของยานั้นรุนแรงขึ้น
ทั้งสองคนไม่มีใครรู้เลยว่า เมื่อสูดเอาควันไห่ถังเข้าสู่ร่างกาย เมื่อได้กลิ่นกายของเพศตรงข้าม ก็จะทำให้ฤทธิ์ยารุนแรงขึ้น หยางหนิงได้กลิ่นหอมจากตัวของกู้ชิงฮั่น แทบทนไม่ไหว อีกทั้งกู้ชิงฮั่นเองก็ยังสูดกลิ่นกายของเขาเข้าไปอีก สติของกู้ชิงฮั่นจึงหลุดไปอย่างรวดเร็ว
กำหนัดของคนเรา เป็สิ่งที่แก้ยากมากที่สุด เมื่อครู่หยางหนิงกอดนางเอาไว้ นางก็รู้สึกสบายใจมาก เมื่อหยางหนิงผลักนางออก ตัวนางก็ร้อนจนทนไม่ไหว ในสมองก็มึนงงไม่รู้สึกตัวอีก คิดแต่อยากจะอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายอีก
หยางหนิงใช้มีดสั้นวิเศษของเขาขุดกำแพง มันเป็อาวุธที่วิเศษมากจริงๆ มันสามารถทะลุกำแพงเข้าไปโดยง่าย
เขารู้สึกดีใจนัก พยายามไม่ฟังที่กู้ชิงฮั่นพร่ำเพ้อ พยายามอดกลั้นร่างกายของตัวเองไว้ แล้วพยายามขุดหินที่กำแพงให้เป็รูเรื่อยๆ
ด้านนอกมีเสียงของสุนัขดังเป็ระยะๆ หยางหนิงก็ไม่ได้ไปสนใจ ระหว่างนั้น เขาก็ขุดเจาะเอาก้อนหินจากกำแพงลงมาได้เรื่อยๆ ตอนนี้มันเริ่มเป็รูโหว่ ตามความเร็วของการขุด ไม่นานจะต้องเป็รูขนาดใหญ่ที่สามารถรอดออกไปได้
ทันใดนั้นเองก็เหมือนที่ขามีอะไรแน่นๆ มาเกาะ มือข้างหนึ่งกำลังััมาที่ขาของเขา หยางหนิงก็พลันใ รู้สึกเหมือนมีกลิ่นหอมๆ กำลังพุ่งเข้ามาหาตัวเขา ร่างกายอันร้อนระอุกำลังแนบชิดอยู่ที่ร่างกายของเขา กลิ่นหอมบนตัวของกู้ชิงฮั่นมันลอยเข้ามาในจมูกของเขา มันเป็กลิ่นเฉพาะที่มีเพียงม่ายสาวคนนี้เท่านั้นที่จะมี มันดึงดูดิญญาของเขาไป ทำให้ร่างกายของหยางหนิงสั่นไปทั้งตัว แทบอยากจะพุ่งเข้าไปกอดนางเสียเดี๋ยวนี้เลย
เสียงของกู้ชิงฮั่นที่ยั่วยวนเอ่ยขึ้นว่า “กอดข้า... กอดข้าที...!” นางใช้มือของนางกอดคอของหยางหนิงเอาไว้ หายใจรุนแรงยิ่งนัก อีกมือหนึ่งของนางก็ลูบไล้ไปตามร่างกายของเขา
หยางหนิงกลืนน้ำลาย เหงื่อไหลเป็สายฝน เดิมทีเขาก็ทรมานอยู่แล้ว ตอนนี้กู้ชิงฮั่นร่างกายของนางช่างยั่วยวนใจยิ่งนัก ร่างกายของคนทั้งสองแนบชิดกันจนยากจะแยก มันทำให้เขาแทบจะทนไม่ไหวแล้วในตอนนี้ ในสมองของเขาเริ่มเลือนราง คิดอยากแต่จะกดทับร่างกายนั้นเอาไว้ แต่ในสมองก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นมาว่า “หยางหนิง นางถูกยาพิษนะ เ้าไม่อยากช่วยนางออกไปให้เร็วที่สุดหรือ ยังจะมาคิดไม่ดีกับนางอีก จะฉวยโอกาสกับคนที่ตกยากเช่นนี้ มันจะต่างอะไรกับสัตว์ป่าเล่า?”
เขารู้ว่าตอนนี้กู้ชิงฮั่นน่าจะทรมานมากกว่าตัวเขาแน่นอน หากเป็อย่างนี้ต่อไป เมื่อไหร่ที่ตัวเขาเองขาดสติ เขาก็น่าจะทนไม่ไหว เพราะมีม่ายสาวพราวเสน่ห์อยู่ตรงนี้ เขาตัดสินใจพยายามกดตัวกู้ชิงฮั่นลง แล้วพูดว่า “ซานเหนียง ขอโทษด้วย!” จากนั้นเขาก็ใช้สันมือสับไปที่หลังคอของกู้ชิงฮั่น กู้ชิงฮั่นทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว ไม่ขยับตัว เพราะเขาทำให้นางหมดสติไป
เขาคุ้นเคยจุดต่างๆ ในร่างกายดี อีกทั้งยังเคยเรียนการต่อสู้มา จะทำให้ใครหมดสติ ไม่ใช่เื่ยากอะไร
เขาวางมีดสั้นลง แอบคิดว่ากู้ชิงฮั่นอยู่ข้างๆ เขา ถึงแม้นางไม่เคลื่อนไหว แต่ว่าตัวเขาก็อาจจะทนไม่ไหวก็ได้ คิดอยากจะอุ้มนางไปไว้อีกด้านหนึ่ง เพื่อเว้นระยะ เขาใช้มือทั้งสองข้างช้อนตัวกู้ชิงฮั่นขึ้นมา แล้วอุ้มไปไว้ข้างๆ ก่อนที่จะวางลง เขาก็รู้สึกหวั่นไหวขึ้นมา แต่ก็พยายามกัดฟันเอาไว้ หลังจากวางกู้ชิงฮั่นลง ก็ไปขุดกำแพงต่อ
ในเวลานี้เองก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอก “นั่นใคร? ไปดูเร็ว ใช่ท่านผู้พิพากษาหรือไม่?”
หยางหนิงได้ยินอย่างชัดเจน รู้ว่าด้านนอกน่าจะเจอใครเข้า เขาได้ยินพวกนั้นเรียกว่า “ผู้พิพากษา” ในใจก็รู้สึกแปลกใจ แอบคิดในใจว่าหัวหน้าของพวกมันชื่อ “ผู้พิพากษา?” แล้วไอ้เ้าผู้พิพากษานี่เป็ใครกันเล่า?
ไม่นานนัก ก็ได้ยินเสียงของคนข้างนอกอีกว่า “ไม่ใช่ท่านผู้พิพากษา เป็... เป็คนบ้า พวกเราตามเขาไม่ทันหรอก เขาวิ่งเร็วมาก”
“คนบ้าอย่างนั้นหรือ?” เขาพูดเสียงเบาๆ ว่า “คนบ้าคนเดียวก็ตามไม่ได้ ที่นี่ระยะทางก็ห่างไกลนัก ท่านผู้พิพากษาก็ยังไม่มา คนอื่นจะมาที่นี่ได้อย่างไรกัน? พวกเ้าตามไป อาจเป็คนที่ฉีหนิงพามา อย่าให้มันรอดชีวิตไปได้”
หยางหนิงคิดในใจว่า “พวกเขาบอกว่าคนบ้านั่นวิ่งเร็วมาก หรือว่าเ้าอัปลักษณ์อย่างนั้นหรือ?” ได้ยินคนข้างนอกคุยกันว่าห้ามไว้ชีวิตมัน ในใจก็คิดว่า คนพวกนี้เหี้ยมโหดนัก เ้าอัปลักษณ์ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย พวกเขายังคิดจะลงมือ แต่ก็คิดว่าหากเป็เ้าอัปลักษณ์จริง เขาวิ่งเร็วปานนั้น คนพวกนี้อาจจะตามไม่ทันก็ได้
เขาก็ไม่ได้สนใจเื่อื่น แล้วกลับไปที่กำแพง ขุดกำแพงต่อไป ไม่นานนัก ก็ได้ยินเสียงมาจากข้างนอกอีกว่า “เ้านั่นมันหายไปแล้ว มืดแบบนี้มองไม่เห็นเลย ไม่รู้ว่ามันไปไหนแล้ว”
ตอนนี้หยางหนิงรู้สึกมึนหัวมาก ในใจแอบคิดว่ายานี่ฤทธิ์แรงเหลือเกิน ขึงรีบเร่งมือให้เร็วขึ้น ทันใดนั้นเองมือก็รู้สึกเบาหวิว ที่แท้ก็เป็เพราะมีดสั้นสามารถทะลุผ่านกำแพงได้แล้ว เขาดีใจเป็อันมาก ข้อมือของเขาก็หมุนให้เป็วงกลม ทำให้กำแพงเป็รู ได้ยินเสียงน้ำไหล ด้านหลังไม่เกินห้าหกก้าวนั่นก็คือแม่น้ำหงซา
เขารีบเร่งมือ เจาะก้อนหินข้างๆ กำแพงอีก เขาทำอย่างระมัดระวังมาก เพื่อไม่ให้มีเสียง อีกฝ่ายไม่มีทางคิดถึงแน่นอนว่าในมือของหยางหนิงจะมีอาวุธวิเศษขนาดนี้ ด้านหลังคลังไม่มีคนเฝ้าอยู่ หลังจากใช้เวลาอยู่พักหนึ่ง กำแพงก็กลายเป็รูขนาดใหญ่ อากาศบริสุทธิ์ลอยเข้ามา หยางหนิงสูดหายใจเข้าลึกๆ แต่ว่าร่างกายที่เร่าร้อนนั้นทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแรงไปมาก
เขาลับขอบรูให้เรียบ เพื่อไม่ให้หินบาดกู้ชิงฮั่นเอาได้ ในตอนนี้เอง พลันได้ยินเสียงข้างนอกดังขึ้นมาว่า “ท่านผู้พิพากษามาแล้ว!”
หยางหนิงขมวดคิ้ว รีบเก็บมีดสั้น ไปอุ้มกู้ชิงฮั่นมา กู้ชิงฮั่นยังคงสลบอยู่ เมื่อมาถึงปากรู ได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอก “สถานการณ์ด้านในเป็อย่างไรบ้าง? ควันไห่ถังปล่อยไปแล้วใช่หรือไม่?” เสียงนั้นเบามาก หยางหนิงฟังแล้วก็เหมือนนึกอะไรได้ เขารู้สึกว่านี่มันเสียงของท่านจ้าวที่อยู่ห้องบัญชีที่จวนเก่านี่นา
“ปล่อยไปแล้วเกือบครึ่งชั่วยาม” มีคนตอบขึ้นมาว่า “ท่านผู้พิพากษา เราควรจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”
หยางหนิงแอบคิดว่าเพราะเหตุใดจ้าวยวนถึงถูกเรียกว่าผู้พิพากษาเล่า คนพวกนี้เป็ใครกัน?
“ไม่ต้องรีบร้อน” เสียงของจ้าวยวนยังคงนิ่ง หลังจากนั้นก็ได้ยินเขาะโมาว่า “ซื่อจื่อ ไม่รู้ว่าที่นี่เป็สถานที่ดีขนาดไหน? พวกข้าตามหาฮูหยินสามจนทั่วแล้วแต่ไม่เจอเลย แม้แต่ท่านก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ที่จวนเก่าก็ร้อนใจกันมากเลยนะ ยังดีที่ที่จวนเก่ามีหมาอยู่สองตัว ดมกลิ่นได้ ถึงได้พาพวกข้ามาจนถึงที่นี่”
หยางหนิงยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ แอบคิดในใจว่าคำพูดของจ้าวยวนแปลกๆ เหมือนมีอะไรลับลมคมใน จึงไม่ตอบอะไร
“ท่านผู้พิพากษา ที่นี่ไม่มีเสียงอะไรเลย จะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?” คนก่อนหน้านั้นพูดเสียงเบาๆ ว่า “คงไม่ได้เกิดอะไรขึ้นข้างในใช่หรือไม่?”
หยางหนิงไม่มีทางให้พวกเขาเข้ามาข้างในแน่นอน ก็เลยตั้งใจะโออกไปว่า “พวกเ้าเป็ใครกัน? จับข้ามาขังไว้ทำไมที่นี่?”
เมื่อได้ยินเสียงหยางหนิง จ้าวยวนก็หัวเราะขึ้นแล้วพูดว่า “ซื่อจื่อไม่เป็อะไรก็ดีแล้ว ซื่อจื่อท่านวางใจเถอะ อีกเดี๋ยวฉีเฉิงก็จะพาคนมาที่นี่ ไม่นานก็จะมีคนมากมายมาดูท่าน แต่ว่าซื่อจื่อกับฮูหยินสามไม่สนใจเกียรติของบ้านตระกูลฉี แอบหนีมาพลอดรักกันถึงที่นี่ เมื่อพวกเขามาถึง ก็จะเห็นพวกท่านกำลังทำผิดศีลธรรม ไม่รู้ว่าเมื่อถึงตอนนั้นจะเป็อย่างไรบ้าง”
หยางหนิงใ จากนั้นก็เข้าใจขึ้นมาทันที คนพวกนี้เสียเวลาวางแผนหลอกล่อ ก็เพื่อให้ละครฉากนี้เกิดขึ้น
“จ้าวยวน ที่แท้ทุกอย่างนี่เป็แผนของเ้าเองรึ” หยางหนิงพูด
จ้าวยวนยิ้มแล้วพูดว่า “ดูท่าทางซื่อจื่อจะรู้แล้วว่าข้าเป็ใคร ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่าจิ่นอีซื่อจื่อเป็คนสติไม่สมประกอบ แต่ว่าในความเป็จริงเหมือนจะไม่เป็เช่นนั้นเลย ถึงแม้ท่านจะไม่ได้ฉลาดอะไรมากมาย แต่ก็ไม่ได้บ้า วันนี้ในห้องโถง ท่านหยิบมีดออกมา ข้ายังคิดอยู่เลยว่าท่านอาจจะรู้อะไรได้บ้าง หลังจากนั้นถึงได้รู้ว่าท่านรู้จักคำว่าหยั่งเชิงเสียด้วย”
“เื่แปลกๆ ในจวนเก่า ข้าก็ต้องรู้อยู่แล้ว” หยางหนิงจึงเอ่ยเสริม “ฉีเฉิงพ่อบ้านฉีคนนั้น ก็น่าจะไม่ใช่ฉีเฉิงตัวจริง พวกเ้าควบคุมจวนเก่าเอาไว้ ก็เพื่อวางแผนอะไรบางอย่าง ที่ข้าหยิบมีดออกมา ก็แค่จะดูปฏิกิริยาของเ้าเท่านั้น เมื่อฉีเฉิงปรากฏตัว ข้าถึงได้รู้ว่าพวกเ้าร่วมมือกัน ทั่วทั้งจวนเก่าอยู่ในกำมือของพวกเ้าหมดแล้ว”
เขาพูดไปพลางถอดเสื้อนอกออก เขาพยุงกู้ชิงฮั่นขึ้นมา แล้วเอาเสื้อคลุมห่อตัวให้นาง ก่อนหน้านี้กู้ชิงฮั่นร้อนรนจนทนไม่ไหว ฉีกเสื้อผ้าของตัวเองจนขาดหลุดลุ่ยออกมา ตอนนี้เสื้อของนางหลายจุดเห็นเข้าไปถึงเนื้อหนังขาวๆของนาง หยางหนิงไม่มีทางพานางออกไปในสภาพเช่นนั้นแน่นอน
“ดูท่าทางท่านจะฉลาดกว่าที่ข้าคิดไว้มากเลยนะ” จ้าวยวนเอ่ยเสริม “เ้าไม่พูดอะไร หรือว่าเ้าสงสัยอยู่ก่อนแล้วว่าจดหมายฉบับนั้นพวกข้าเป็คนทำ?”
หยางหนิงพูดขึ้นอีกว่า “ถึงแม้ข้าจะไม่มั่นใจ แต่ก็พอจะเดาได้”
“ในเมื่อเป็เช่นนั้น เหตุใดเ้ายังมาตามกับดักนี่อีกเล่า?” จ้าวยวนพูดต่อไปว่า “เ้าคงจะไม่ได้รู้ล่วงหน้าหรอกใช่หรือไม่ว่าเราจะจัดฉากให้เ้าได้ดื่มด่ำกับสาวงามอย่างฮูหยินสามเช่นนี้?”
“ซานเหนียงอยู่ในกำมือพวกเ้า ข้าก็ต้องเห็นแก่ความปลอดภัยของนางมาก่อน อีกทั้งไม่เข้าถ้ำเสือไหนเลยจะได้ลูกเสือ ข้าก็อยากจะเห็นว่าพวกเ้าจะมีแผนอะไร” หยางหนิงห่อตัวให้กู้ชิงฮั่นจนเสร็จ จากนั้นก็เก็บมีดกลับไป ก่อนจะจับกู้ชิงฮั่นไว้ในรูที่ขุดเอาไว้ ส่วนตัวเขาเองก็ลองมุดดู ว่าจะออกไปได้หรือไม่
“ไม่เข้าถ้ำเสือไหนเลยจะได้ลูกเสืออย่างนั้นหรือ น่าสนใจดี” จ้าวยวนเอ่ยเสริมา “แต่ว่าต่อให้ท่านรู้ว่าพวกข้าจะทำอะไร ท่านก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี พวกเขาน่าจะบอกท่านไปแล้ว ควันไห่ถังมีฤทธิ์ร้ายแรง หากพวกท่านยังเสพสังวาสกัน ก็จะต้องตายอยู่ในนี้”
“พวกเ้าใช้วิธีต่ำช้าเช่นนี้ เพื่ออะไรกัน?” หยางหนิงยื่นหัวเข้ามาด้านใน แล้วะโไปที่ประตูว่า “ต่อให้ข้าต้องตายอยู่ในนี้ ก็ไม่มีทางให้พวกเ้าได้สมหวังแน่นอน” เขาแอบคิดในใจว่าอีกเดี๋ยวเขาก็จะหลุดพ้น เดี๋ยวค่อยไปจัดการกับพวกเ้าอีกที มีแค้นต้องชำระ จะไม่ปล่อยไปแม้แต่คนเดียว
จ้าวยวนหัวเราะร่าออกมาแล้วพูดว่า “ไม่ว่าเป็หรือตาย พวกท่านสองคนแอบมามีเสพสังวาสกันที่นี่ก็ไม่มีทางปิดได้ ต่อให้ตายจริง รอพวกเขามาก็จะเห็นพวกท่านสองคนไม่ใส่เสื้อผ้าอะไรเลย บนร่างกายไม่มีาแ อีกทั้งต่อให้เป็หมอฝีมือสูงส่งแค่ไหนก็ไม่มีทางตรวจพบร่องรอยของควันไห่ถัง ถึงตอนนั้นทุกคนก็จะเข้าใจว่าพวกท่านเสพสังวาสกันจนตาย”