เดิมเย่เฟิงตั้งใจทำให้หลงหว่านเอ๋อร์าเ็จนไล่ตามเขาไม่ได้อีก แต่สถานการณ์ตอนนี้ถือว่าดีกว่าแผนที่เขาคิดไว้มาก กระโปรงของเธอมีรอยขาดวิ่นมากมายจนแทบไม่เหลือช่องว่าง หากเธอยังวิ่งไล่เขาต่อไป ผิวขาวเนียนสวยของเธอต้องดึงดูดสายตาของผู้พบเห็นแน่ ชัดเจนว่าหญิงสาวไม่น่าจะทนเื่แบบนี้ได้
เมื่อเห็นร่างของเย่เฟิงค่อยๆ หายไปหลงหว่านเอ๋อร์ก็กระทืบเท้าอย่างขมขื่น เวลานี้เธอพยายามใช้แขนข้างหนึ่งปิดหน้าอกขาวเนียน และอีกข้างปิด่ล่าง จากนั้นมองรอบๆ หญิงสาวกัดฟันคิดวิธีแก้ปัญหา จะให้เธอปล่อยเย่เฟิงไปง่ายๆ แบบนี้หรือ?
ฝันไปเถอะ!
…………
เย่เฟิงยังคงวิ่งไปเรื่อยๆ ไม่นานนักก็มาถึงถนนใหญ่ เขาเก็บหน้ากากและแหวนกระบี่ัโบราณ จากนั้นเรียกแท็กซี่ไปส่งโรงพยาบาลรัฐ ชายหนุ่มรู้เพียงว่าซูเมิ่งหานให้คนของแก๊งอสรพิษ์พาญาติของเธอไปส่งโรงพยาบาลรัฐ แต่ไม่รู้ว่าเกิดเื่อะไรขึ้น น้ำเสียงร้อนรนของเธอเกือบทำให้เขาถูกจับแล้ว โชคดีที่หลงหว่านเอ๋อร์ไม่ไล่ตามเขาต่อ ดูท่าเธอก็มีน้ำใจเหมือนกัน
เขาลงจากแท็กซี่หน้าทางเข้าโรงพยาบาลรัฐ คิดสักพักก่อนเข้าร้านขายเสื้อเพื่อเปลี่ยนชุดจากนั้นเดินเข้าโรงพยาบาล แล้วโทรหาซูเมิ่งหาน “สรุปเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”
“พวกเขาเริ่มทะเลาะกันอีกครั้งแล้ว ต้าเกินเริ่มอยากยาอีกเเล้ว นายรีบมาเร็วเข้า…” ซูเมิ่งหานรับโทรศัพท์ทันทีแล้วตอบด้วยน้ำเสียงร้อนรน เมื่อได้ยินเช่นนี้เย่เฟิงก็วางสายและเร่งฝีเท้า ในไม่ช้าก็มาถึงแผนกที่ซูเมิ่งหานและคนอื่นๆ อยู่
เมื่อมองไปรอบๆ เย่เฟิงพบทั้งสองฝ่ายที่ประตูแผนกกำลังโต้เถียงกัน นั่นก็คือแก๊งอสรพิษ์และพ่อแม่ของต้าเกิน ขณะที่ซูเมิงหานถูกจับไว้ตรงกลางและพยายามไกล่เกลี่ยความวุ่นวาย การทะเลาะกันระหว่างสองฝ่ายดึงดูดความสนใจของผู้คนแถวนั้นมาก
“พวกแกทำให้ลูกชายของฉันต้องมีสถาพแบบนี้ พวกแกต้องรับผิดชอบ!” แม่ของต้าเกินพูดหยาบคายด้วยความโมโห ั้แ่ที่รู้ว่าแก๊งอสรพิษ์ไม่กล้าทำอะไรตนแล้ว
“จะให้รับผิดชอบยังไง?” ชายแว่นดำถามขณะพยายามข่มความโกรธของตัวเอง
“พวกแกต้องจ่ายค่าเสียหายมา ไม่งั้นเื่ไม่จบแน่?” แม่ของต้าเกินมองชายแว่นดำอย่างเอาเื่ โดยอาศัยซูเมิ่งหานที่อยู่ข้างๆ เพราะรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามไม่กล้าทำอะไรเธอ
“คุณป้าคะ หนูจัดการค่ารักษาให้แล้ว ตอนนี้ต้าเกินก็ไม่เป็อะไรแล้ว เพราะงั้นเื่นี้ก็อย่าโทษกันเลย” ซูเมิ่งหานพยายามโน้มน้าวให้ป้าของเธอเลิกเอาเื่คนเหล่านี้ เธอไม่รู้ว่าเย่เฟิงเกี่ยวข้องอะไรกับคนของแก๊งอสรพิษ์ หากป้าของเธอยัง้าอะไรไปมากกว่านี้ แล้วคนเ่าั้เกิดทนไม่ไหวขึ้นมา สุดท้ายต้องเกิดเื่เลวร้ายขึ้นแน่
“ไม่ได้! พวกแกยังทำให้ต้าเกินติดยา ดังนั้นวันนี้พวกแกต้องจ่ายค่าเสียหายให้ฉันเพื่อรับผิดชอบ!” แม่ของต้าเกินร้องไห้ราวกับว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมจ่ายเงิน
“ต้าเกิน ลูกทนหน่อยนะ… เขาทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ให้เขาก่อนได้ไหม เห็นเขาเป็แบบนี้แล้วฉันปวดใจเหลือเกิน” จากในวอร์ด ได้ยินคำพูดเ็ปของพ่อต้าเกินและต้าเกินที่กำลังทุรนทุราย เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เด็กหนุ่ม้ายามาก พ่อของเขาพยายามกดเขาไว้กับเตียง
“ไม่ได้ ให้เขาเสพอีกไม่ได้…” ซูเมิ่งหานปฏิเสธเด็ดขาด เวลานี้เธออยู่ตรงกลางระหว่างญาติของเธอกับคนของแก๊งอสรพิษ์ มันทำให้เธอรู้สึกอยากจะร้องไห้ ได้แต่ภาวนาให้เย่เฟิงมาถึงที่นี่โดยเร็ว
“ไม่ ไม่ได้! ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขา พวกแกต้องรับผิดชอบ!” แม่ของต้าเกินพูดเสียงดังแล้วจ้องซูเมิ่งหาน พลางดึงชายแว่นดำ "ช่วยเขาด้วย เขา... เขาจะทนไม่ไหวแล้ว…”
“เกิดอะไรขึ้น?” เย่เฟิงเดินมาเห็นแม่ของต้าเกินกำลังฟาดงวงฟาดงา เขามองเข้าไปในวอร์ดเห็นพยาบาลสาวกับพ่อของต้าเกินอยู่ในห้อง ทั้งคู่พยายามกดต้าเกินไว้บนเตียง เส้นเืปูดโปนทั่วร่างของต้าเกิน เด็กหนุ่มอึดอัดอยากกระแทกกำแพงเพื่อฆ่าตัวตาย แต่ก็ทำไม่ได้จึงได้แต่ดิ้นรน
ซูหมิ่งหานและคนของแก๊งอสรพิษ์ดีใจอย่างยิ่งเมื่อเห็นเย่เฟิงมาถึงเสียที เพราะพวกเขาทนแม่ของต้าเกินไม่ไหวแล้ว
โดยไม่ลังเล เย่เฟิงก้าวเข้าไปในวอร์ดแล้วตบหลังหัวของต้าเกินทีหนึ่ง ทันใดนั้นโลกก็เงียบสงบเสียที แค่ตบเบาๆ ก็ทำให้ต้าเกินสลบและหยุดดิ้นรน
“เธอทำอะไรต้าเกิน!” พ่อแม่ของต้าเกินะโออกมาพร้อมกัน
“แค่ทำให้เขานอนเงียบๆ เดี๋ยวก็ตื่น” เย่เฟิงพูดอย่างไม่แยแส
พยาบาลสาวจับต้าเกินแล้วโล่งใจ ในที่สุดผู้ป่วยคนนี้ก็สงบ เธอโชคร้ายที่ต้องมาดูแลคนป่วยคนนี้
เย่เฟิงหันมองซูเมิ่งหานและคนของแก๊งอสรพิษ์ก่อนเอ่ย “ในเมื่อไม่มีอะไรก็กลับได้เเล้ว ซูเมิ่งหาน พวกเราจะกลับกันแล้ว เธอจ่ายค่ารักษาแล้วใช่ไหม?”
“อืม…” ซูเมิ่งหานพยักหน้าเล็กน้อยอย่างอึดอัดใจ เพราะเงินสองแสนนี่ไม่ใช่เงินของเธอแต่เป็เงินที่เย่เฟิงให้ยืม คิดไม่ถึงว่าจะใช้หมดไปกับค่ารักษาแถมยังต้องให้แก๊งอสรพิษ์ช่วยออกเพิ่มอีกหน่อยด้วย
ค่าใช้จ่ายพื้นฐานทั้งหมดจ่ายภายในครั้งเดียว เช่น การผ่าตัด การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เป็ต้น สิ่งสำคัญที่สุดคือก้านสมองของต้าเกินได้รับความเสียหาย หากไม่ดูแลให้ดีอาจต้องนอนติดเตียง นอกจากนั้นยังมีอาการติดยาเสพติดอย่างหนักด้วย
“งั้นก็ไปกันเถอะ” เย่เฟิงโบกมือให้ชายแว่นดำและคนอื่นๆ พวกเขาต่างโล่งใจ
ตามปกติหากเจอคนเื่เยอะแบบหญิงวัยกลางคนผู้นี้ พวกเขาคงตบเธอกระเด็นไปนานแล้ว แต่เพราะเย่เฟิงพวกเขาจึงไม่กล้าลงมือ ได้แต่อดทนอยู่เวลานานจนเกือบจะอกแตกตาย
“นี่ อย่าเพิ่งไปสิ ถ้าไม่ชดใช้ ระวังฉันจะฟ้องศาลนะ…” แม่ของต้าเกินรีบพุ่งไปขวางพวกเขา
“ผมขอเตือนคุณนะ!” เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ยอมจบ เย่เฟิงก็หันกลับมาพูดอย่างเ็า “คนเราต้องรู้จักพอ อย่าได้คืบจะเอาศอก ทำตัวมากเื่จนมีปัญหาภายหลังขึ้นมาล่ะก็คุณจะเสียใจ”
ใช่เเล้วคนที่ต่อยคือพวกเขาเอง แต่ต้าเกินติดหนี้พวกเขาอยู่สามแสน พวกเขาถือว่าชดใช้พอแล้ว ซูเมิ่งหานยังช่วยจ่ายค่ารักษาอีก หญิงคนนี้ยังจะเอาอะไรอีก?
ท่าทางดุร้ายของเย่เฟิงทำให้แม่ของต้าเกินชะงักและในที่สุดก็เงียบปาก ซูเมิ่งหานผ่อนลมหายใจ ความจริงเธอก็คิดแบบนั้นเช่นกัน ข้อเรียกร้องของป้าเธอมากเกินไป แต่หญิงสาวไม่กล้าพูดออกมาเหมือนเย่เฟิง เพราะเธอใจดีเกินไป
“จำไว้ เื่นี้จบเเล้ว แม้ต้าเกินจะติดยา แต่ก็เป็เพราะตัวเขาเอง ลองไปหาเหตุผลเองนะว่าทำไมลูกชายถึงติดยา” เย่เฟิงพูดพลางจ้องฝ่ายตรงข้ามด้วยสายตาเยียบเย็น จากนั้นจูงมือซูเมิ่งหานเดินจากไป
แม่ของต้าเกินมองตามหลังของพวกเขาอย่างไม่สำนึก เธอหันไปด่าสามี “ดูหลานสาวของคุณสิ ไม่รู้เื่อะไรสักนิด?”
“ใครกันที่ไม่รู้เื่?” แม้แต่พ่อของต้าเกินก็ทนดูต่อไปไม่ได้ พวกเขาไม่จำเป็ต้องช่วยเราแต่ก็ช่วย ค่ารักษาตั้งสองเเสน พวกเขาก็ช่วยจ่าย ขนาดพี่น้องแท้ๆ ของฉันยังไม่มีใครยอมช่วยเลย
“คุณยังช่วยพูดให้พวกมันอีก!” เเม่ของต้าเกินโมโห
หญิงวัยกลางคนร้องออกมาทันที “คุณดูต้าเกินของพวกเราสิ ตอนนี้ทำยังไงดี ถ้าเกิดเป็อัมพาตขึ้นมาล่ะ หรือต่อให้รักษาหาย เราจะจัดการอาการติดยาของเขายังไง?”
พ่อของต้าเกินยังคงเงียบ เขามองภรรยาและคิดว่าใครกันที่ทำให้เป็แบบนี้ ดุก็ไม่ได้ ตีก็ไม่ได้จนทำให้ลูกเป็แบบนี้ ตอนนี้เป็อย่างไรล่ะ?
…………
ซูเมิ่งหานถูกเย่เฟิงจูงมือเดินมาตลอดทางจนถึงทางออกของโรงพยาบาล เวลานี้ใบหน้าของเธอแดงเรื่อด้วยความเขินอาย อะไรกันเนี่ย หรือว่าเขาอยากคบกับเธอ? หากเป็ก่อนหน้านี้ เธอคงแสดงท่าทีไม่พอใจแล้ว แต่หลังจากมาเมืองหลางฝางและเจอเื่ที่เกิดขึ้นมากมาย หญิงสาวค่อยๆ เริ่มยอมรับเย่เฟิงเข้ามาในหัวใจแล้ว
“เย่เฟิง หยุดเดี๋ยวนี้!” เมื่อพวกเขาเดินมาถึงทางออกของโรงพยาบาล สาวสวยคนหนึ่งพลันปรากฏตัวขึ้น เธอหอบหายใจด้วยความเหนื่อยแต่สุดท้ายก็ไล่ตามเขาทัน เธอคือหลงหว่านเอ๋อร์นั่นเอง!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้