พิษของกูเฟยเยี่ยนมีไว้เพื่อต่อกรกับคนอย่างไป๋หลี่ิชวนที่เชี่ยวชาญในการถอนพิษเป็พิเศษ! ดังนั้นพิษนี้จึงไม่มียาถอนพิษ ทางเดียวที่ทำได้คือทำเื่นั้นเพื่อกำจัดความเป็พิษออก!
นางวางแผนการไว้อย่างดิบดี แต่ใครจะไปทราบว่าจู่ๆ เถ้าแก่จะโผล่ออกมากลางคันกัน?
ในขณะนี้นางมองไปที่แววตาโกรธเคืองและท่าทางเดือดดาลเป็อย่างยิ่งของเถ้าแก่ด้วยความกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร ถ้าให้พูดตามตรงก็คือไม่ใช่ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร แต่เป็เพราะไม่รู้ว่าหลังจากที่เถ้าแก่รับรู้ความจริงแล้วจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไร!
เดิมทีนิสัยของเถ้าแก่ก็ไม่ค่อยจะดีนัก เมื่อถูกพิษเข้าไปเขาก็ยิ่งฉุนเฉียวมากยิ่งขึ้น เขารู้สึกว่าความแสบร้อนกระสับกระส่ายลุกลามจากบริเวณขาไปยังทุกส่วนบนร่างกายอย่างรวดเร็วจนทำให้เขาร้อนแผดเผาไปทั่วร่างกายและไม่สบายตัวมาก ประดุจว่าทุกส่วนบนร่างกายมีอะไรบางอย่างทำการเคลื่อนไหวอยู่
เมื่อเห็นว่ากูเฟยเยี่ยนไม่ส่งเสียงออกมาเขาจึงโกรธมากกว่าเดิม “อีนังหนู ยาถอนพิษล่ะ! ยังไม่รีบนำออกมาอีก! ”
กูเฟยเยี่ยนเม้มริมฝีปากแน่น ใบหน้าวิจิตรตระการตาเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย เพราะไม่กล้าปริปากพูดออกมา
ในส่วนของจวินจิ่วเฉินนั้นคิดแค่ว่านางมีแผนที่จะต่อรองกับเถ้าแก่ ดังนั้นเขาจึงเงียบชั่วขณะ
ทันทีที่ไป๋หลี่ิชวนได้กลิ่นพิษเหล่านี้ก็เกิดความสงสัย แต่เมื่อใบหน้าของเถ้าแก่ค่อยๆ แดงก่ำขึ้นมา เขาก็รู้ได้ในทันที
เดิมทีเขาควรจะโกรธมากเพราะพิษของกูเฟยเยี่ยนนั้นจัดเตรียมไว้สำหรับเขา
ทว่าเมื่อเขาเห็นใบหน้าสับสนวุ่นวายของกูเฟยเยี่ยนแล้วเขาก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้เพราะมีความสุขมากจริงๆ
เขาไม่พูดแต่หัวเราะคิกคักแล้วมองหาที่นั่งด้านข้าง เขาจะรอดูว่าสาวน้อยคนนี้จะจัดการอย่างไร!
ในขณะนี้เถ้าแก่คลุ้มคลั่งแล้ว “อีนังหนู ตกลงว่าเ้าจะมอบยาถอนพิษหรือไม่! ถ้าไม่ให้ก็ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้! ”
จวินจิ่วเฉินตระหนักได้ถึงความผิดปกติเช่นกัน เขาจึงกระซิบแ่เบา “ยาถอนพิษล่ะ? ”
“ยาถอนพิษ…ยาถอนพิษ…”
ใบหน้าของกูเฟยเยี่ยนมีความเศร้าหมอง นางอยากจะร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก ท้ายที่สุดจึงทำได้เพียงเดินไปกระซิบอธิบายถึงคุณสมบัติของพิษกับวิธีการถอนพิษอย่ารวบรัดที่ข้างใบหูของเถ้าแก่
หลังจากที่เข้าใจสถานการณ์แล้ว เถ้าแก่ถึงกับตกตะลึงตาค้าง ร่างกายแข็งทื่อไปทั้งตัว
เมื่อไป๋หลี่ิชวนเห็นเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
จวินจิ่วเฉินจึงกระซิบแ่เบาถามกูเฟยเยี่ยน “เกิดอะไรขึ้น?”
จวินจิ่วเฉินเพิ่งจะถามจบเถ้าแก่ก็ได้สติกลับมาแล้วด่าสาดเสียเทเสียยกใหญ่ “อีนังหนู เ้า เ้า เ้า…เ้าเป็ผู้หญิงนะ เ้าเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง! เ้าไปเอาของลามกอนาจารแบบนี้มาจากที่ไหน? เ้า เ้า เ้า…เ้าเป็สาวเป็แส้ไม่เรียนรู้ในเื่ดี กลับมาเรียนรู้วิธีการชั่วร้ายอย่างสิ่งของมั่วโลกีย์เนี่ยนะ! เ้าหน้าไม่อาย! เ้ายังเป็เด็กผู้หญิงอยู่หรือไม่? เ้า เ้า เ้า…จิ๊ จิ๊ จิ๊ ทั้งชีวิตของข้าได้พบเจอคนมากมายแต่ไม่นึกเลยว่าจะมองธาตุแท้ของเ้าไม่ออก…เสียดายใบหน้าไร้เดียงสานี้เสียจริง! วันนี้เ้าทำให้ข้าได้ความรู้เพิ่มมากขึ้นแล้ว!”
จวินจิ่วเฉินไม่โง่ ทันทีที่เขาได้ฟังก็เข้าใจแล้วว่ากูเฟยเยี่ยนใช้ยาพิษชนิดใด
ไม่พูดไม่ได้ว่าระดับขั้นความประหลาดใจของเขาไม่น้อยไปกว่าเถ้าแก่เลย เขาไม่เคยคิดเลยว่ากูเฟยเยี่ยนจะพกยาพิษแบบนี้ติดตัว เขารู้สึกมาโดยตลอดว่าหญิงสาวคนนี้แม้จะอายุสิบแปดปี แต่ที่จริงแล้วยังเป็เด็กน้อยที่ยังไม่โตเต็มวัย
เขามองไปที่กูเฟยเยี่ยนด้วยแววตาลึกลับที่ปรากฏถึงความผิดแปลกจากเดิมโดยไม่พูดอะไรออกมา
กูเฟยเยี่ยนบังเอิญมองไปที่เขาเช่นกัน ทันทีที่เห็นแววตาผิดแปลกไปจากเดิมนางก็ยิ่งอับอายมากยิ่งขึ้น จึงรีบก้มหน้าก้มตาหลีกเลี่ยง
มันจะกลัดกลุ้มเกินไปแล้ว!
นางคิดแต่จะต่อกรกับไป๋หลี่ิชวนและไม่ได้มีความคิดลามกอนาจารเลยนะ! เมื่อถูกเถ้าแก่ด่าทอมาขนาดนี้แล้วนางจะอธิบายอะไรได้อีก?
นางอดคิดไปถึงเื่ราวถ้ำมองที่ชิงหลิวเตี้ยนไม่ได้ หากในตอนนี้นางขุดหลุมฝังตัวเองก็ไร้ประโยชน์แล้วใช่หรือไม่? นางน่าจะเรียกภาพลักษณ์ของตนเองจากจิตใจของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยกลับมาไม่ได้ตลอดกาลแล้ว!
ความร้อนแผดเผาของเถ้าแก่ลุกลามไปบริเวณท้องแล้ว เขาลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก ก่อนจะชี้นิ้วไปที่กูเฟยเยี่ยนด้วยความโกรธจากนั้นจึงเดินเข้ามาทีละก้าว
แม้ว่าจวินจิ่วเฉินจะประหลาดใจ แต่ก็ยังปกป้องกูเฟยเยี่ยนอย่างแ่า เขารีบดึงกูเฟยเยี่ยนไปไว้ด้านหลังแล้วพูดด้วยความจริงจัง “เถ้าแก่ หญิงรับใช้ของข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าคิดว่าท่านไปถอนพิษเสียก่อนเถอะ จะได้ไม่เป็อันตรายต่อร่างกาย”
เื่ที่ยากจะกัดฟันพูดได้เช่นนี้มีเพียงจวินจิ่วเฉินที่สามารถพูดออกมาด้วยความจริงจังได้ สิ่งที่เขาพูดออกมาล้วนเป็ความจริง หากเถ้าแก่ยังไม่ไปหาทางจัดการอีกมันจะอันตรายต่อร่างกายแน่
ทางด้านของเถ้าแก่นั้นทนไม่ไหวแล้วจริงๆ เขาจึงกล่าวเตือนกูเฟยเยี่ยนด้วยความอำมหิต “อีนังหนู ฝากไว้ก่อนเถอะ! รอข้า…รอข้า…รอข้ากลับมาคิดบัญชีกับเ้า! ”
เขาพูดแล้วก็ไม่ลืมกล่าวเตือนจวินจิ่วเฉินกับไป๋หลี่ิชวน “กฎเกณฑ์ของข้าที่นี่คือผู้ที่มาตามหาการรักษาไม่สามารถลงไม้ลงมือได้ ถึงแม้ว่าจะเป็ศัตรูกันก็ตาม หากว่าพวกเ้าลงไม้ลงมือก่อนที่พวกเ้าจะได้พบแพทย์ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่ต้องไปทั้งนั้น! เมื่อได้พบแพทย์แล้ว พวกเ้า…พวกเ้าจะฆ่ากันตาย ข้าก็ไม่สนใจ! ”
หลังจากที่เขาพูดจบก็ล้มลุกคลุกคลานวิ่งออกไป เมื่อไปถึงลานด้านหลังก็ะโเรียกร้องเสียงดังลั่น “ใครก็ได้ ตามฟูเหรินมา เร็ว! เร็วเข้า! ”
“รีบตามฟูเหรินมา เร็วเข้า…”
เมื่อได้ยินเสียงะโเรียกร้องเช่นนี้ ไป๋หลี่ิชวนจึงอดไม่ไหวที่จะกุมหน้าท้องแล้วหัวเราะออกมาดังลั่นอย่างหยุดไม่อยู่
จวินจิ่วเฉินชำเลืองมองอย่างเ็าโดยไม่คิดว่าเป็เื่ตลก คำกล่าวเตือนของเถ้าแก่ทำให้เขาที่มีใจจะขอร้องผู้อื่นไม่ทำการลงไม้ลงมืออีกครั้ง
ไป๋หลี่ิชวนก็ไม่ได้คิดจะลงไม้ลงมือเช่นกัน เขาชำเลืองตามองกูเฟยเยี่ยนที่ก้มหน้าก้มตามาโดยตลอดแล้วลุกขึ้นอย่างเกียจคร้านพร้อมกับสะบัดพัดเบาๆ เดินไป้า
เขาเดินขึ้นบันไดไปอย่างเชื่องช้าพลางเผยรอยยิ้มชั่วร้ายและคลุมเครือออกมา “จิ้งหวาง หากเ้าไร้โชคในการเสวยสุขแพทย์หญิงน้อยคนนี้ เปิ่นหวงจื่อสามารถจัดการแทนเ้าได้ ฮ่าๆ เ้าลองพิจารณาดู! ”
กูเฟยเยี่ยนรีบเงยหน้าขึ้นมองเขาทันที
ไป๋หลี่ิชวนโปรดปรานท่าทางโกรธแค้นของนาง เขามีความสุขมากจึงหัวเราะคิกคัก “ใช่แล้วจิ้งหวาง พรุ่งนี้เ้าไม่จำเป็ต้องตื่นแต่เช้า หากไม่ถึงพลบค่ำวันพรุ่งนี้ เถ้าแก่ก้าวลงจากเตียงไม่ได้แน่ ยาของแพทย์หญิงน้อยเป็ยาที่รุนแรงที่สุดที่เปิ่นหวงจื่อเคยพบเห็นมาก่อน! จิ๊ จิ๊ จิ๊…จิ๊ จิ๊ จิ๊”
หลังจากที่ไป๋หลี่ิชวนพูดจบก็เดินออกไปอย่างสง่าผ่าเผย ในส่วนของกูเฟยเยี่ยนนั้นไม่รู้ว่าเป็เพราะอับอายหรือโกรธ นอกจากใบหน้ากับใบหูแล้วลำคอก็แดงก่ำเช่นกัน
ไม่ช้าห้องโถงใหญ่ก็เกิดความเงียบ ในตอนนี้เหลือเพียงแค่กูเฟยเยี่ยนกับจวินจิ่วเฉิน
กูเฟยเยี่ยนก้มหน้าก้มตาทำตัวไม่ถูกมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว นางรู้สึกว่าตนเองควรพูดอะไรออกมาแต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี สุดท้ายจึงพูดว่า “เตี้ยนเซี่ย นู๋ปี้…นู๋ปี้กลับห้องก่อนนะเ้าคะ”
นางคว้ากุญแจแล้วขึ้นไปชั้นบน จวินจิ่วเฉินไม่ได้ไล่ถามแต่ตามขึ้นไปอย่างเงียบๆ
ห้องของเขากับกูเฟยเยี่ยนล้วนเป็ห้องที่ดีที่สุดและอยู่ติดกัน เขาเห็นกูเฟยเยี่ยนเข้าไปในห้องแล้ว ตัวเขาเองนั้นไม่ได้เข้าไปแต่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่หน้าประตูแล้วนำดาบพิงกำแพง
ไป๋หลี่ิชวนพักห้องที่ดีที่สุดเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงไม่ไว้วางใจ
เขามองความโกลาหลที่ชั้นล่างด้วยสีหน้าครุ่นคิดไร้ความรู้สึก แต่ไม่รู้ว่าเขาครุ่นคิดอะไร ผ่านไปไม่นานมุมปากเ็าของเขาก็ยิ้มออกมาเบาๆ
ทว่าในขณะนี้เองจู่ๆ ไป๋หลี่ิชวนก็เปิดประตูห้องด้านข้าง
จวินจิ่วเฉินหันไปมองด้วยความแปลกใจ ไป๋หลี่ิชวนก็แปลกใจเช่นกัน เขามองไปที่ห้องด้านข้างแล้วมองกุญแจห้องในมือของจวินจิ่วเฉิน จากนั้นจึงเข้าใจได้ในทันทีว่าห้องของกูเฟยเยี่ยนอยู่ตรงกลางระหว่างห้องของเขากับห้องของจวินจิ่วเฉิน!
เขามีความสุขจึงะโเรียกเด็กในร้านที่อยู่ชั้นล่างให้นำสุราขึ้นมาแล้วเอนกายพิงระเบียงทางเดินด้วยความเกียจคร้าน จากนั้นจึงยิ้มเยาะพูดคุยกับจวินจิ่วเฉิน “ทำไม กลัวว่าเปิ่นหวงจื่อจะแอบกินแพทย์หญิงน้อยของเ้าหรือ? ”