หลินหวั่นชิวกับเจียงหงหย่วนไปคำนับสุราด้วยกัน
นาทีที่พวกเขาปรากฏตัว สายตาหลัวจินซานมองไปที่เจียงหงหย่วน สีหน้าแข็งชะงักเมื่อเห็นหยกแขวนบนเอว
เขาสังเกตรูปร่างหน้าตาเจียงหงหย่วน…อดตัวสั่นเทิ้มขึ้นมาไม่ได้
บุรุษผู้นี้
ต้องเป็โจรเป็แน่!
เป็โจรที่ปล้นฆ่าเขา!
แม้วันนั้นจะเห็นไม่ชัดเพราะต้องหนีเอาชีวิตรอด อีกทั้งพวกโจรก็สวมผ้าปิดหน้า
แต่ด้วยหน้าตาและขนาดตัวของอีกฝ่าย…บวกกับสิ่งที่ห้อยบนเอว ไม่ใช่โจรสิแปลก!
เขาควรทำเช่นไรดี?
คนบ้านเจียงกับบ้านสวีเป็พวกเดียวกันหรือไม่…
หลัวจินซานพยายามสงบสติ เขาจำเป็ต้องคิดหาวิธีรับมือให้ดี
หลัวจินซานเดินทางค้าขายมาทั่วเหนือใต้ออกตก สงบสติตัวเองได้อย่างรวดเร็ว คอยสังเกตพวกเจียงหงหย่วนกับสวีเต๋อเซิ่งเงียบๆ
“เหล่าต้าบ้านเจียง เ้าเยี่ยมยอดมาก ดูบ้านหลังนี้สิ โอ่อ่ายิ่งนัก!”
“ใช่ บ้านเ้าโอ่อ่าที่สุดในหมู่บ้านเราแล้ว!”
“เหล่าเอ้อร์บ้านเ้าดูจะหายดีแล้วเช่นกัน วันหน้าความเป็อยู่มีแต่จะดีขึ้น ข้าคิดไว้อยู่แล้วว่าเ้าต้องได้เป็เ้าของที่ดินรายใหญ่เข้าสักวัน”
เจียงหงหย่วนกับหลินหวั่นชิวไปคำนับสุรา บรรดาชาวบ้านพากันประจบ สีหน้าเจียงหงหย่วนยังคงไร้อารมณ์ดังเดิม ทำให้ชาวบ้านไม่รู้จะชมอย่างไรต่อ
หันไปชมหลินหวั่นชิวแทน “หวั่นชิว เ้าช่างวาสนา มาอยู่กับนายพรานแล้วสุขสบาย”
“ไอ๊หยา บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้…คงต้องมีวาสนาเช่นเ้าจึงจะอยู่ได้…”
“หวั่นชิว ร่างกายเ้ามีความเคลื่อนไหวบ้างหรือไม่? เมื่อไรจะคลอดทายาทตัวอ้วนจ้ำม่ำให้นายพรานเจียงเล่า?”
บรรดาสตรีสาวใหญ่ผลัดกันพูดคนละประโยค รอยยิ้มบนหน้าหลินหวั่นชิวแข็งทื่อ
“ทั้งหมดเป็สมบัติที่หย่วนเกอแลกด้วยชีวิตเพื่อหามา ข้าโชคดีที่แต่งเข้าบ้านเจียงแล้วได้เสวยสุขทันที ส่วนเื่ลูก…หย่วนเกอบอกว่าข้ายังอายุน้อย ก่อนหน้านี้ก็ทำงานที่บ้านแม่จนสุขภาพไม่ดี ให้ข้าฟื้นฟูร่างกายสักสองปีก่อนค่อยมี”
“ไอ๊หยา นายพรานเจียงต้องรักภรรยาขนาดไหนกัน…” คำชมชุดใหม่หลั่งไหลเข้ามา
ห่างออกไปไม่ไกล หลัวจินซานกำลังเงี่ยหูฟัง เขาไม่ได้สนใจประโยคอื่น สนใจแค่คำว่า ‘สมบัติที่แลกด้วยชีวิตเพื่อหามา’ นี่มันโจรไม่ใช่หรือ!
ชีวิตที่มีดเปื้อนเืคือชีวิตโจร!
นึกถึงสินค้าจำนวนมหาศาลของตัวเอง นึกถึงบ่าวใช้ที่ถูกฆ่าตายยี่สิบกว่าชีวิต…หนึ่งในนั้นยังมีลูกชายและหลานชายของเขา
หลัวจินซานเคียดแค้นมาก เขาวางมือบนเข่า กำแน่นเป็หมัด ต้องพยายามมากถึงจะไม่ให้เพลิงโทสะะเิ
ในที่สุด เจียงหงหย่วนก็เดินมาถึงโต๊ะพ่อลูกสวีเต๋อเซิ่ง พวกเขาทักทายตามมารยาทแล้วเดินมาทางนี้ด้วยกัน
หลัวจินซานคอยสังเกตสายตาทั้งสองฝ่ายเป็พิเศษ พบว่าแววตาดูห่างเหินมากและเหมือนจะไม่ถูกกัน
เขาครุ่นคิดในใจ รู้สึกว่าควรเปิดโปงเื่นี้ที่นี่จะปลอดภัยกว่า
อาศัยจังหวะที่มีคนเยอะมาเปิดโปงให้กระจ่าง
เช่นนี้แล้ว ต่อให้สวีเต๋อเซิ่งอยากปกป้องบุรุษผู้นี้ย่อมทำไม่ได้!
“เถ้าแก่หลัว ขอแนะนำให้รู้จัก นี่คือนายพรานของหมู่บ้านเรา เ้าของบ้านหลังนี้ เจียงหงหย่วน” สวีเต๋อเซิ่งแนะนำเจียงหงหย่วนให้หลัวจินซานรู้จักด้วยรอยยิ้มเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ
แต่หลัวจินซานกลับชี้หน้าเจียงหงหย่วนตาแดงก่ำ “เขาเป็โจร! เป็โจรที่สังหารคนของข้าไปยี่สิบกว่าชีวิตและปล้นสินค้า! มือปราบสวี ท่านรีบจับกุมเขาเลย!”
โจร?
เจียงหงหย่วนเป็โจร?
เถ้าแก่ร่างอ้วนผู้นี้คือเ้าทุกข์?
บรรดาชาวบ้านตะลึงงันกันหมด
ยังจะกินกระไรอีก ต้องรีบไปดูเื่สนุก!
ทุกคนลุกขึ้นล้อมมาทางพวกเขา
ปฏิกิริยาของหลัวจินซานทำให้สวีเต๋อเซิ่งพึงพอใจมาก ที่เขา้าก็คือผลลัพธ์เช่นนี้ ก่อนหน้านี้ยังคิดอยู่ว่าจะล่อให้หลัวจินซานเจอป้ายหยกได้อย่างไร นึกไม่ถึงว่าเจียงหงหย่วนจะแขวนที่เอว ช่วยลดขั้นตอนให้เขาเยอะ
“เถ้าแก่หลัว อาหารจะทานอย่างไรก็ได้ แต่คำพูดห้ามสุ่มสี่สุ่มห้า!” สวีเต๋อเซิ่งตำหนิด้วยท่าทีจริงจัง “เจียงหงหย่วนเป็นายพรานของหมู่บ้านเรา ไม่ใช่โจร”
“เขาเป็โจร!” หลัวจินซานร้อนใจ ชี้ป้ายหยกบนเอวเจียงหงหย่วน “ป้ายหยกนี้คือของที่ข้าทำหาย หายในการปล้นฆ่าครั้งนั้น! หากเขาไม่ใช่โจร เช่นนั้นป้ายหยกชิ้นนี้มาอยู่กับเขาได้อย่างไร? มือปราบสวี ท่านก็รู้ว่าป้ายหยกนี้อยู่ในหนังสือภาพของโจร เป็ป้ายหยกที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษข้า ราคาหมื่นกว่าตำลึง”
เพราะป้ายหยกชิ้นนี้มีราคาสูง เขาจึงหาคนมาวาดภาพตามพร้อมกับบ่งบอกวัสดุเพื่อส่งไปหยาเหมิน
บรรดาชาวบ้านได้ยินดังนี้ก็แทบตาถลน
์ ป้ายหยกบนเอวเจียงหงหย่วนมีราคาหมื่นกว่าตำลึง…
ต่อให้เอาคนทั้งหมู่บ้านไปขาย ขายบ้านขายที่นาทั้งหมดก็ยังราคาไม่เท่าหยกแค่ชิ้นเดียว!
“เอ่อคือ…เถ้าแก่หลัว…ท่านโดนปล้นเมื่อไรหรือ?” มีชาวบ้านถาม
“สามเดือนก่อน” หลัวจินซานตอบ
สามเดือนก่อน…
เหมาะเจาะพอดี
จู่ๆ คฤหาสน์บ้านเจียงก็เริ่มสร้างเมื่อสองสามเดือนก่อนไม่ใช่หรือ
“ไอ๊หยา…คงไม่บังเอิญขนาดนั้นกระมัง”
“บ้านเจียงมีเงินสร้างบ้านใหม่อย่างฉับพลัน…ที่แท้ก็เป็เงินที่ไปปล้นมา”
“ข้าก็ว่าอยู่ เมื่อก่อนยากจนข้นแค้นเสียขนาดนั้นแต่จู่ๆ กลับมีเงิน บอกว่าเป็เงินจากการล่าสัตว์ ข้าว่าไม่ใช่เงินจากการล่าสัตว์ดอก ไปเป็โจรปล้นชิงผู้อื่นมาชัดๆ”
“นั่นน่ะสิ บอกว่าล่าเสือได้ก็คือล่าได้หรือ? ไม่มีผู้ใดเห็นสักคน”
บุรุษกเฬวรากในหมู่บ้านพากันพูดพร้อมกับชี้ไม้ชี้มือมาทางเจียงหงหย่วน
เมื่อมีคนเปิดประเด็น หัวข้อนี้ก็หยุดไม่อยู่
ทุกคนยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าใช่ คำพูดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ผายลมบ้านมารดากระไรของเ้า แค่บอกว่าเป็ของเ้าก็เป็ของเ้าแล้วหรือ ถ้าเช่นนั้นข้าก็พูดได้เหมือนกันว่าแหวนทองบนนิ้วเ้าเป็ของข้า” ป้าสองจ้าวะโออกมาด่าคนแรก
หลิวซื่อพูดตาม “เจียงหงหย่วนเป็นายพราน ไม่ใช่โจร บ้านข้ารู้เื่ที่เขาล่าเสือได้ ตอนนั้นยังแบ่งเนื้อเสือมาให้พวกข้าก้อนหนึ่ง หากพวกเ้าไม่เชื่อ ข้าจะกลับบ้านไปเอามาให้ดู จะเชิญท่านหมอจากในตำบลหรืออำเภอมาตรวจสอบก็ได้ พวกเขาแยกเนื้อเสือออก”
“พวกเ้าเป็คนแบบนี้ได้เช่นไร เวลากินของผู้อื่นก็พากันประจบ แต่กินอิ่มแล้วกลับช่วยคนนอกใส่ร้ายเจียงต้าเกอ ยังมียางอายอยู่หรือไม่?” หวางกุ้ยเซียงก้าวออกมาตอบโต้พวกชาวบ้านปากว่างเช่นกัน
สวีฝูเห็นดังนี้ก็เอ่ยปากด้วยสีหน้าจริงจัง “เถ้าแก่หลัว คนหมู่บ้านเรามีจิตใจเมตตาอารีมาโดยตลอด ไม่เคยทำเื่ชั่วร้าย ท่านจำผิดหรือไม่? ป้ายหยก...หาซื้อได้ทุกที่ ท่านลองดูให้ละเอียดอีกทีเถิด อย่าปรักปรำคนดี”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้