“นี่รั่วปิน เล่าให้ฉันฟังหน่อยสิว่าหลายปีมานี้เธอเป็ยังไงบ้าง—”
ฉินหลางมองข้าม ‘แมลงหวี่แมลงวัน’ที่อยู่ทางด้านขวาของตัวเอง สนใจเพียงสารทุกข์สุกดิบของรั่วปินเท่านั้น ทว่าการมองข้ามของฉินหลางจะทำให้ชายดังกล่าวยิ่งได้ใจ เ้าหมอนี่ได้ทีแล้วเอาใหญ่ “นักเรียนที่เพิ่งย้ายมาใหม่! แกเพิ่งจะทำลายชีวิตของโจวหลิงหลิง นำโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไปติดให้เธอ ทำให้เธอต้องคิดสั้นะโตึกตาย—”
“แม่ม! ไช่เว้ยตง! แกทั้งบ้านต่างหากที่เป็โรคนั่น!”
จู่ๆ จ้าวเหว่ยที่ไปนั่งแถวแรกแล้วก็ลุกพรวดขึ้น เขวี้ยงหนังสือทิ้งแล้วพุ่งมาถึงกะจะปะทะกับไช่เว้ยตงทันที
แต่จ้าวเหว่ยเพิ่งพุ่งมาถึง ก็ถูกฉินหลางรั้งเอาไว้ซะก่อน
เพราะฉินหลางเป็ห่วงว่าจ้าวเหว่ยจะเสียเปรียบ ไช่เว้ยตง เ้าหมอนี่สูงราวๆ 192 เิเ สูงกว่าฉินหลางอีกตั้งสิบกว่าเซ็น เป็นักกีฬาของห้อง และเป็นักกองหน้าทีมบาสเกตบอลของโรงเรียน และยังดูเหมือนว่าแบ็กเ้าหมอนี่จะดีมากด้วย เพราะเหตุนี้ ทำให้เขาเปรียบเสมือนมือวางอันดับหนึ่งของโรงเรียน ครั้งก่อนไช่เว้ยตงก็เป็คนที่ยุให้จ้าวกวงมาข่มขู่ฉินหลาง
เดิมทีฉินหลางี้เีจะสนใจ คนที่มีบทบาทเล็กๆ อย่างเขา แต่คิดไม่ถึงว่าการกระทำของเขาจะทำให้เ้าหมอนี่จะยิ่งกำเริบเสิบสานมากขึ้น
หลังจากที่รั้งจ้าวเหว่ยที่กำลังเดือดพล่านไว้แล้ว ฉินหลางพูดกับจ้าวเหว่ยว่า “ช่างเถอะจ้าวเหว่ย นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน”
“ฉันจะสู้กับมัน!” จ้าวเหว่ยโมโหจนควันออกหู ไม่ว่ายังไงโจวหลิงหลิงก็เป็คนที่จ้าวเหว่ยเคยแอบรักมานาน ต่อให้เธอจะจากโลกนี้ไปแล้ว เขาก็จะไม่ยอมให้ใครมาว่าร้ายให้เธอต้องเสียหายแน่นอน
“อยากสู้นักเหรอ แน่จริงก็มาสิ!” ไช่เว้ยตงกวักมือทำท่าท้าทายจ้าวเหว่ย แล้วก็มองหน้าฉินหลางพลางกล่าวด้วยความไม่สบอารมณ์ “แกมันเป็ตัวซวย แถมยังเป็ตัวซวยที่ไม่มีน้ำยาด้วย—”
“เพี๊ยะ!”
ไช่เว้ยตงยังพูดไม่ทันจบ ก็โดนตบหน้าอย่างกะทันหัน
ตบนี้เป็ฝีมือของฉินหลางนั้นเอง ถึงแม้เขาจะไม่ได้ตบแรงมากนัก แต่มันก็ยังทิ้งทั้งห้านิ้วของฉินหลางไว้บนหน้าเขาได้อย่างชัดเจนอยู่ดี
เสียงตบที่ดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้องทำเอาทั้งห้องเงียบสงัดทันที เพราะไม่มีใครคิดมาก่อนว่าจะมีคนกล้าตบหน้าไช่เว้ยตงในที่สาธารณะแบบนี้ด้วย
“แกกล้าตบหน้าฉันเหรอ?” ไช่เว้ยตงโมโหจนปากสั่นระริกๆ จริงอยู่ในห้องเรียนต่อหน้าคนทั้งห้องเรียนแบบนี้ เขาไม่คิดว่าฉินหลางจะกล้าลงมือกับเขาจริงๆ
“ทำไม มองไม่ชัดเหรอ?” ฉินหลางสบถเสียงเย็นเยือก ก่อนจะตบหลังแหวนซ้ำเข้าไปอีกที
“เพี๊ยะ!”
ตบนี้ได้ฝากรอยนิ้วมืออีกห้านิ้ว ไว้ที่แก้มอีกข้างของไช่เว้ยตง
ฉินหลางอยากจะตบสั่งสอนไช่เว้ยตงตั้งนานแล้ว ทั้งเื่ที่เ้าหมอนี่ยุให้จ้าวกวงมาหาเื่เขาั้แ่วันแรกที่ย้ายมา หลังจากนั้นตอนที่โจวหลิงหลิงะโตึก เ้าหมอนี่ก็ยังหาคนไปปล่อยข่าวลือทำร้ายฉินหลางอีก ั้แ่ฉินหลางรู้เื่นี้ก็อยากจะสั่งสอนเขาตั้งนานแล้ว คิดไม่ถึงว่าวันนี้เ้าหมอนี่จะวิ่งเข้ามาหาเื่เจ็บตัวเอง
“เชี่ย! ฉันจะฆ่าแก—”
จู่ๆ ไช่เว่ยตงก็คว้าเก้าอี้ขึ้น ้าจะฟาดใส่ฉินหลาง เ้าหมอนี่โเี้ไม่น้อยเลย ทันทีที่ลงมือก็้าให้เฉินหลางเืตกยางออกแล้ว ทว่าฉินหลางเป็คนแบบไหนมีหรือจะให้เขาทำสำเร็จได้ ฉินหลางยื่นมือไปรับเก้าอี้ตัวนั้น ก่อนจะออกแรงดึง ไม่ว่าไช่เว้ยตงจะพยายามดึงสุดกำลังแค่ไหนเก้าอี้ก็ไม่มีขยับแม้แต่น้อย จากนั้นฉินหลางเหวี่ยงมือตบหน้าไช่เว้ยตงอีกหนึ่งที
ครั้งนี้ฉินหลางใช้แรงมากกว่าเดิมนิดหน่อย ด้วยความที่ฉินหลางเป็คนที่แรงเยอะอยู่แล้ว ดังนั้นไช่เว้ยตงจึงเสียหลัก หมุนไปตามแรงตบอยู่กับที่สองรอบก่อนจะล้มลง
ั้แ่เกิดออกมาจากท้องแม่ ไช่เว้ยตงก็ไม่เคยเสียเปรียบใครอย่างนี้มาก่อน แล้วที่สำคัญยังเสียเปรียบต่อหน้าคนเยอะขนาดนี้อีก!
แม้ว่าสามตบของฉินหลางจะทำให้ไช่เว้ยตงเริ่มมึนๆ อยู่บ้าง แต่นั่นยิ่งเหมือนเป็การปลุกความดุร้ายในตัวของเ้าหมอนี่ให้ออกมามากขึ้น เขาควักมีดพับออกมาจากกระเป๋ากางเกง เปิดมันออกและถือมันไว้มนมือ หัวเราะอย่างสะใจพลางพูดขึ้นกับฉินหลาง “วันนี้ฉันจะฆ่าไอ้ปัญญาอ่อนอย่างแกซะ!”
เห็นไช่เว้ยตงใช้มีด ในห้องมีเสียงดังระงมขึ้นมาทันที ผู้หญิงบางคนที่ค่อนข้างขวัญอ่อนกรี๊ดเสียงดังลั่น
เวลานี้เอง รั่วปินะโขึ้น “ไช่เว้ยตง! นายบ้าไปแล้วเหรอ! ถึงจะมีเื่ชกต่อยกับเพื่อน นายก็ไม่ควรใช้มีด! นายอยากเข้าไปนอนในคุกหรือไง?”
เธอพูดถูก ความจริงแล้วเด็กนักเรียนมีเื่ชกต่อยกันในโรงเรียน มันเป็เื่ปกติที่มีอยู่ทั่วไป แต่ถ้ามีการใช้มีด ความรุนแรงมันจะต่างจากเดิมมาก! และที่สำคัญ มีดในมือไช่เว้ยตง เห็นได้ชัดว่ามันเป็มีดที่อยู่ในการควบคุม แค่พกพาอาวุธมีดเข้ามาในที่สาธารณะก็ผิดกฎหมายแล้ว!
การทะเลาะวิวาทอย่างมากก็แค่ผิดกฎของโรงเรียนเท่านั้น แต่ถ้าใช้มีด มันผิดกฎหมายบ้านเมือง
ดังนั้น คำพูดนี้ของรั่วปิน เป็การเตือนไช่เว้ยตง ในขณะเดียวกันก็เพื่อให้เพื่อนๆ ในห้องรู้ว่า ไช่เว้ยตงใช้อาวุธมีดขณะที่มีเื่วิวาทกัน ซึ่งมันเป็การกระทำที่ผิดกฎหมาย เมื่อเทียบกับฉินหลางที่ลงไม้ลงมือกับเพื่อน ก็จะกลายเป็เล็กๆ ไปเลยโดยปริยาย
“แม่ม! ฉันจะแทงแกให้ตาย!” ไช่เว้ยตงกล่าวด้วยเสียงเย็นเยือก
“ไช่เว้ยตง นายใจเย็นๆ หน่อยสิ!” ฉินหลางแสยะยิ้มเย็นะเื “จับมีดดีๆ นะ ระวังเดี๋ยวมีดจะบาดตัวเองนะ!”
ไช่เว้ยตงรู้สึกว่าฉินหลางกำลังพูดเยาะเย้ยเขาอยู่ หุนหันพลันแล่น ใช้มีดแทงไปที่บริเวณหัวไหล่ของฉินหลาง
“รนหาที่ตาย—”
ในเมื่อไช่เว้ยตงรนหาที่ตายดีนัก ฉินหลางก็ี้เีจะเบามือแล้ว ไช่เว้ยตงยังไม่ทันได้จ้วงมีดมาทางฉินหลางเลย ฉินหลางก็ตวัดและตบอีกครั้ง ไช่เว้ยคงก็ลอยออกไปนอกประตูห้องเรียน
“ได้เวลาเรียนแล้ว เสียงดังอะไรกันนักหนาเนี่ย—เอ๊ย! เืออก!”
อาจารย์ประจำชั้น ซุนปอกำลังจะเดินเข้าไปสอนในห้อง ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวาย จึงเตรียมจะเทศนานักเรียนสักหน่อยแต่เมื่อเขามาถึงหน้าห้อง ก็เห็นมีคนรูปร่างสูงใหญ่ลอยออกมาจากในห้อง จากนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนมีอะไรเย็นๆ ที่ขา รู้สึกเหมือนมีมีดปักขาตัวเองอยู่ เขาลองเอามือแตะขึ้นมา เห็นมือของเขาเต็มไปด้วยเื ซุนปอจึงแหกปากร้องครวญครางเหมือนหมูที่กำลังจะโดนเชือดทันที
เกิดความโกลาหลขึ้นภายในห้องเรียน มีนักเรียนโทรเรียกรถฉุกเฉินและแจ้งตำรวจกันจ้าละหวั่น
เมื่อเห็นความวุ่นวายในห้องเรียน รั่วปินถอนหายใจยาวๆ “คิดไม่ถึงเลยว่านายจะยังคงบ้าพลัง และชอบใช้กำลังเหมือนตอนเด็กๆ เลย”
“แต่เธอไม่เหมือนตอนเด็กๆ แล้ว ตอนนี้กลายเป็สาวงามย่อมนำมาซึ่งหายนะ” ฉินหลางยิ้มจางๆ แต่ถึงแม้จะรู้ว่าน้ำแก้วที่วางอยู่ตรงหน้า นั้นจะนำมาซึ่งหายนะ ฉินหลางก็จะดื่มเข้าไปอย่างไม่ลังเล
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? รีบพาไปส่งโรงพยาบาลเร็ว!”
ขณะนั้นเองเสียงของเถารั่วเซียงดังขึ้นหน้าประตู ความจริงแล้วเวลานี้เธอน่าจะสอนชั้นเรียนอื่นอยู่ แต่เธอได้ยินคนเด็กนักเรียนเขาเม้าท์กันว่าฉินหลางทะเลาะวิวาทกับคนอื่น พวกเขาทะเลาะกันใหญ่โต ดังนั้นเธอจึงรีบมาทางนี้ แต่กลับเห็นซุนปอล้มอยู่บนพื้น ไช่เว้ยตงกำลังทับซุนปออยู่ และเหมือนว่าจะหมดสติไปแล้ว
เถารั่วเซียงจึงเข้าใจว่าทั้งหมดนี้เป็ฝีมือของฉินหลาง เธอให้นักเรียนบางส่วนพาซุนปอกับไช่เว่ยตงไปโรงพยาบาล ในขณะเดียวกันเธอก็หันมาถลึงตาใส่ฉินหลาง ทว่าตอนนั้นเอง เถารั่วเซียงสังเกตเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ข้างฉินหลางคือรั่วปิน ทำให้เธอรู้สึกสับสนขึ้นมา
ในความทรงจำของเถารั่วเซียง รั่วปินเป็ผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีจง ไม่เพียงสอบได้ที่หนึ่งของระดับชั้นตลอดเท่านั้น ยังได้รับหลายรางวัลในการแข่งขันระดับชาติ รั่วปินยังเป็บรรณาธิการของหนังสือพิมพ์โรงเรียน นอกจากนี้ยังว่ากันว่ารั่วปินมีพร์ด้านดนตรีมากและอีกมากมาย...แต่เพราะรั่วปินเป็ผู้หญิงที่โดดเด่นมากจนเกินไป ทำให้รั่วปินค่อนข้างจะมีอีโก้สูงมาก ถึงแม้จะมีผู้ชายจำนวนมากตามจีบเธอ แต่เธอไม่เคยจะสนใจ และเธอก็ไม่เคยยิ้มแย้มแจ่มใสกับใครเลย ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิง เธอชอบสวมชุดวอร์มที่สาวๆ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบ เป็ผู้หญิงที่มีความเป็ตัวของตัวเองสูงมากๆ คนหนึ่ง
แต่ผู้หญิงที่โดดเด่นอย่างนี้ มาหยอกล้อ พูดคุยเฮฮาสนุกสนานกับ ‘เ้ากุ๊ยเด็ก’ ฉินหลางได้ยังไง?
ตอนนี้เถารั่วเซียงรู้สึกสับสนวุ่นวายใจมาก เมื่อเห็นฉินหลางยืนคู่กับรั่วปิน ทำไมเขาถึงรู้สึกหงุดหงิดใจแปลกๆ ไม่สบอารมณ์อย่างไม่มีสาเหตุ
“อย่าบอกนะ...ว่านี่คือความรู้สึกอิจฉา?”
เถารั่วเซียงรู้สึกตื่นใหนักมาก แต่เพียงไม่นานเธอก็เลิกคิด ตอนนี้เองมีนักเรียนถามขึ้น “อาจารย์เถาคะ อาจารย์จะไปดูด้วยไหมคะ?”
“จ้า ฉันไปดูเอง” เถารั่วเซียงตอบอย่างเลื่อนลอย เธอหันกลับไปมองฉินหลางอีกครั้งหนึ่ง
จังหวะนั้นฉินหลางเองก็กำลังมองเถารั่วเซียงอยู่
ทั้งคู่สบตากันโดยบังเอิญ
“แย่แล้ว!”
ฉินหลางะโในใจว่าแย่แล้ว เพราะตอนนี้เขานึกถึงคำคำหนึ่งในหนังสือ ‘ความรักที่แท้จริง’ ซึ่งได้บอกไว้ว่า ‘ถ้าคุณมีความรักที่แท้จริง คุณจะรู้สึกว่ามีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่คุณอยากมอง ผู้หญิงคนอื่นจะไม่มีใครสามารถเข้าไปอยู่ในสายตาของคุณได้อีก!
แต่ตอนนี้ฉินหลางตระหนักได้ว่า ในสายตาของเขานอกจากจะมีเถารั่วเซียงแล้ว เหมือนว่าจะมีคนอื่นอีก
“หรือฉันจะเป็พวกเดรัจฉานจริงๆ?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้