บุตรสาวคนเล็กของสกุลหลี่มองหน้าบิดาชราของตนที่ถอนใจยาว ดวงตาหญิงสาวแดงก่ำ ร้องออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย “ท่านพ่อ…”
นายท่านผู้เฒ่าหลี่กวักมือ “พ่ออยู่นี่แล้ว”
“สะใภ้เล็ก ข้าทำเช่นนี้เพื่อน้องสาวเ้า นาง… ถึงอย่างไรนางก็กำลังตั้งท้องเืเนื้อเชื้อไขของสกุลโจว อีกหน่อยเมื่อเด็กคนนี้โตขึ้นแล้วรู้ว่าพวกเราสกุลหลี่จัดการกับพ่อแท้ๆ และครอบครัวของพ่อตนเอง เขาจะมองน้องสาวกับพวกเราสกุลหลี่อย่างไร?” เมื่อนายท่านผู้เฒ่าหลี่พูดจบก็ราวกับแก่ลงไปอีกหลายสิบปี
อีกสิ่งหนึ่งที่เขาไม่กล้าพูด เขาไม่อาจปล่อยให้บุตรของเจียโหรวโตขึ้นมาอย่างเกลียดชังครอบครัวมารดาตนเองและต้องแก้แค้นครอบครัวบิดา เขาจะทนได้อย่างไร?
ได้ยินคำกล่าวของพ่อสามี หลี่ฮูหยินก็หยุดพูดต่อ สีหน้ายังคงย่ำแย่
นายท่านผู้เฒ่ามองนาง ก่อนจะพูดด้วยสีหน้ายินดี “ปีใหม่ปีนี้เ้ากับเ้าเล็กก็กลับบ้านปีใหม่ด้วยเถอะ” ลองคิดๆ ดูอีกหน่อยก็พูดต่อ “ส่วนแม่นางหลิน ข้าพอจะรู้จักอยู่บ้างจากทางจดหมายของเ้าเล็กกับอี้เอ๋อร์ เด็กคนนี้อยู่กับเ้า พวกเ้าสามีภรรยาก็ควรดูแลนางให้ดี พอกลับไปแล้วข้าจะให้หลงจู๊เตรียมตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึง เ้านำไปมอบให้นางเสีย”
“ท่านพ่อ…” หลี่ฮูหยินรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เื่ของเงิน ให้นายท่านผู้เฒ่าหลี่ตอบแทนหลินฟู่อินเช่นนี้นางกลับรู้สึกว่าไร้มนุษยธรรมเกินไป
“ข้ารู้ว่าเ้าจะพูดอะไร ในอนาคตยังมีหนทางตอบแทนนางอีกมาก” หลี่ฮูหยินมองนายท่านผู้เฒ่าหลี่แล้วเงียบไป ให้ชายชรากล่าวต่อ “เจียโหรว พ่อรู้ลูกคิดอะไร ในเมื่อเ้าไม่อยากกลับไปอยู่บ้านเดิมกับพ่อและพี่ๆ เช่นนั้นพ่อจะให้เ้าไปอยู่เมืองชิงหยางกับพี่เล็กและพี่สะใภ้เล็กเป็อย่างไร?”
หลี่ฮูหยินชะงักไปครู่ใหญ่ ไม่คิดว่านายท่านผู้เฒ่าหลี่จะยอมปล่อยให้บุตรสาวคนเล็กสุดที่รักมาอยู่กับนางและสามี นางไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจไปพักหนึ่ง
หลี่ซื่อเองก็อึ้งไป ด้วยคิดว่าหลังจากบอกความคิดของตนให้บิดาฟังแล้ว คนจะหาสถานที่ห่างไกลให้นางกับลูก ไม่คิดว่ากลับจัดให้นางไปอยู่กับพี่ชาย
จะได้อย่างไร?
“ท่านพ่อ ข้าไม่อยากรบกวนท่านพี่กับพี่สะใภ้เ้าค่ะ ในบ้านยังมีเด็กผู้หญิงอีกสองคน! ท่านก็รู้ว่าหากมีคนรู้เื่นี้เข้า ข่าวลือจะออกมาเลวร้ายเพียงใด…” แน่นอนว่าหลี่ซื่อไม่อยากทำอะไรที่กระทบไปถึงหลานๆ จึงรีบเอ่ยค้านทันที
คราวแรกหลี่ฮูหยินได้ยินแล้วก็รู้สึกกลัวอยู่บ้าง อย่างไรนางก็เป็มารดา ไม่มีมารดาคนไหนอยากเห็นว่าบุตรสาวตนเองโดนผลจากข่าวลือจนส่งผลถึงการแต่งงานเป็แน่
แต่ในที่สุดนางก็ได้รับการยอมรับจากนายท่านผู้เฒ่าหลี่ แล้วนางก็รู้สึกเสียใจกับน้องสาวสามีคนนี้ด้วย ตอนนี้คนก็ลำบากมากอยู่แล้ว ยื่นมือไปช่วยก็คือการช่วยเหลือบ้านของตนเองไม่ใช่หรือ?
ลองคิดดูแล้ว หากนางปฏิเสธเกรงว่าจะเป็การทำให้สามีผิดหวังตอนกลับไป… หรือกระทั่งลูกๆ ก็อาจจะผิดหวังในตัวนางด้วย
หลี่ฮูหยินกำหมัด ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
“เจียโหรวไม่ต้องกังวล เ้ามาอยู่กับเราเถอะ อาหารให้สองแม่ลูกแค่นี้จวนพวกข้าจะดูแลไม่ไหวเลยหรือไร?”
ได้ยินลูกสะใภ้พูดเช่นนี้ นายท่านผู้เฒ่าหลี่ก็ยินดียิ่งนัก ไม่คิดว่าสะใภ้คนเล็กที่เขาไม่อยากจะยอมรับ แท้จริงแล้วจิตใจกว้างขวางยิ่งนัก
แต่เมื่อคิดถึงบุตรสาวคนเล็ก แน่นอนว่าต้องคิดถึงบุตรชายคนเล็กด้วย
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะหาที่ดินดีๆ ที่หมู่บ้านรอบเมืองชิงหยางสักร้อยหมู่ ให้เจียโหรวอยู่กับลูกที่นั่น เ้าเล็กกับสะใภ้เล็กไปหาตอนมีเวลา ช่วยดูแลสองแม่ลูกสักหน่อย” นายท่านผู้เฒ่าหลี่อธิบายสิ่งที่ตนเตรียมจะทำอย่างชัดเจน
ในใจของหลี่ซื่อจึงคลายลง เกิดเป็ความรู้สึกโหยหาอยู่บ้าง
นางหันไปมองหลี่ฮูหยิน
หลี่ฮูหยินขมวดคิ้วเล็กน้อย
เห็นพี่สะใภ้ขมวดคิ้วอีกแล้ว สีหน้าของนางพลันกลายเป็สีเทาขึ้นมา บางทีพี่สะใภ้อาจจะกังวลเื่ที่นางซึ่งทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเข้าไปอยู่ใกล้ๆ…
“นายท่านผู้เฒ่า สะใภ้เห็นว่าให้เจียโหรวอยู่ในตัวเมืองชิงหยางจะดีกว่าอยู่หมู่บ้านนอกเมืองเ้าค่ะ ถนนหนทางล้วนแต่ไกลนัก หากแม่ลูกเป็อะไรไป พวกเราจะทำอะไรได้ไม่ทันการณ์” หลี่ฮูหยินเห็นว่าในเมื่อจะซื้อบ้านที่ชิงหยางแล้ว เหตุใดจะต้องอยู่ห่างไกลจากบ้านญาติด้วย?
พอนายท่านผู้เฒ่าหลี่ได้ยินก็ปรากฏรอยยิ้มดีใจบนหน้า เขาพยักหน้าให้หลี่ฮูหยิน ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ “อยู่หมู่บ้านแถบชานเมืองจะรู้สึกสบายกว่า หากเ้าอยากดูนางก็ค่อยไปเจอ”
หลี่ซื่อเห็นว่าตนเข้าใจพี่สะใภ้ผิดก็รู้สึกอับอายขึ้นมาเล็กน้อย
“พี่สะใภ้เล็กเ้าคะ ขอบคุณความใจดีของท่าน แต่ข้าเห็นว่าท่านพ่อจัดการได้ดีแล้วเ้าค่ะ ข้าจะทำตามท่านพ่อว่า” น้ำเสียงของหญิงสาวแ่เบา
ที่จริงหากไม่ใช่กลัวว่าเด็กในท้องจะโดนพวกสกุลโจวที่เหมือนฝูงหมาป่าทำร้ายเอา นางคงเลือกไม่ไปจากสกุลโจว…
หลี่ซื่อรู้สึกปวดท้องขึ้นมา นางกับคุณชายสี่สกุลโจวเป็คู่รักกันมานาน ่เวลาดีๆ ที่มีต่อกันไม่หายไปง่ายๆ แต่อย่างไรเขาก็ไม่ควรไปเกี้ยวพาสตรีอื่นจนมีลูกออกมา ถึงกับ้าให้นางกับลูกตาย!
ดังนั้นเมื่อท่านพ่อผู้ชราของนางเล่าเื่ราวให้ฟัง นางก็ตัดสินใจทำตามคำพูดของบิดาโดยไม่คิดมาก
“เหตุใดสีหน้าน้องสาวดูซีดนัก?” หลี่ฮูหยินอุทานเมื่อเห็นสีหน้าอีกฝ่ายผิดปกติ
นายท่านผู้เฒ่าหลี่กับสะใภ้เล็กต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันโดยไม่รู้ตัว
หลี่ซื่อกุมท้องตนเอง พูดตะกุกตะกักออกมาอย่างยากลำบาก “ปวดท้อง…”
“เกรงว่าจะคลอดแล้ว!” นายท่านผู้เฒ่าหลี่สีหน้าน่าเกลียดขึ้นมาทันที เขายื่นมือออกไปจับชีพจรบุตรสาวคนเล็กของตน ขมวดคิ้วแน่นขณะตรวจดู
“คลอดแล้ว น้ำเดินแล้ว…” หลี่ฮูหยินเคยคลอดบุตรมาก่อน นางรีบวิ่งไปข้างหลี่ซื่อ เห็นกางเกงของอีกฝ่ายเปียกชุ่มก็มั่นใจ
“จะดีได้อย่างไร? สกุลโจวยังไม่ได้เตรียมห้องคลอดให้คุณหนูของบ่าวด้วยซ้ำ!” เจิ้งหมัวมัว สาวใช้คนสนิทของหลี่ซื่อพูดด้วยท่าทางวิตกกังวลทันที
“ตอนนี้ยังจะสนเื่ห้องคลอดอะไรอีก?” หลี่ซื่อตำหนิ จากนั้นหันไปมองเจียงหมัวมัวข้างกายแล้วถาม “แม่นางหลินอยู่ที่ใด? รีบไปหาแม่นางหลิน! น้องสามีข้าคลอดก่อนกำหนด เื่นี้ทำเป็เล่นไม่ได้!”
สิ้นคำก็หันไปคุยกับพ่อสามีของตน “ข้ากับเจิ้งหมัวมัวจะช่วยประคองน้องสาวไปห้องในก่อนเ้าค่ะ”
แม้ว่านายท่านผู้เฒ่าหลี่จะเป็หมอ ทว่าเขาเป็บุรุษ ในต้าเว่ยบุรุษห้ามเข้าห้องคลอด ต่อให้เป็หมอแต่หากเป็บุรุษก็ห้ามเข้า คนจึงทำได้เพียงพยักหน้า
“ร่างกายของเจียโหรวนับว่าใช้ได้ เพียงแต่… ท่าเด็กในท้อง…” นายท่านผู้เฒ่าหลี่มีท่าทีลังเล
หลี่ฮูหยินตอบทันที “แม่นางหลินมาด้วยเ้าค่ะ ห้าหกวันมานี้แม่นางหลินแอบช่วยจัดท่าเด็กในครรภ์ให้น้องสาวอย่างลับๆ ได้ยินจากแม่นางหลินว่าได้ผลแล้ว แต่ไม่รู้ว่านางจะคลอดวันนี้!”
หยาดเหงื่อเย็นไหลโซมใบหน้างามที่บิดเบี้ยวด้วยความเ็ปของหลี่ซื่อ
เป็เพราะยังมีบิดาชรา มีพี่น้องและญาติๆ จากบ้านเดิมล้วนแต่อยู่กันที่นี่ นางจึงกลั้นเสียงเอาไว้ไม่ร้องออกไป
“พี่สะใภ้เ้าคะ ข้าเจ็บ…” ความเ็ปนี้รุนแรงเสียจนสตรีผู้หนึ่งที่เติบโตมาอย่างไข่ในหินต้องหลั่งน้ำตาด้วยยากจะทานทน
แม้ในใจหลี่ฮูหยินจะกังวลเื่หลินฟู่อิน ปากยังคงพูดออกไป “เจียโหรว สตรีคลอดลูกล้วนต้องทนเจ็บกันทั้งนั้น ขอแค่ผ่านไปให้ได้ก็พอ!”
“ฮูหยิน ฮูหยิน หาตัวแม่นางหลินไม่พบเ้าค่ะ!” เจียงหมัวมัวที่ออกไปตามหาคนเร่งร้อนวิ่งกลับเข้ามา
เห็นเช่นนี้นายท่านผู้เฒ่าหลี่ก็ะโใส่ผู้ติดตามที่พามาด้วย “ไปจวนสกุลโจว หาตัวแม่นางหลิน!”
หากพวกสกุลโจวไม่จงใจให้สตรีในตระกูลไปร้องโหวกเหวกอยู่ในเขตเรือน เจียโหรวจะคลอดเร็วกว่ากำหนดตั้งแปดเก้าวันได้อย่างไร?
นายท่านผู้เฒ่าหลี่โมโห ยามนี้เริ่มเสียใจแล้วที่ยอมตกลงรับข้อเรียกร้องของฮูหยินผู้เฒ่าโจวที่เ้าเล่ห์ไร้ยางอาย หากวันนี้เจียโหรวผ่านไปไม่ได้ เขาไม่มีวันยอมแพ้แน่!
หลินฟู่อินได้กินของอร่อยๆ กับหวงฝู่จินแล้ว ตอนนี้กำลังยืนอยู่บนดาดฟ้าของเรือสำราญร่วมกับเขาเพื่อชมทิวทัศน์
คืนนี้เป็คืนพระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์ทอประกายเย็นสงบ ส่องสะท้อนสว่างไสวบนผืนน้ำงดงามเป็เอกลักษณ์
คืนพระจันทร์เต็มดวงฟ้าสว่างเช่นนี้ทำให้จิตใจสงบ หลินฟู่อินมีเวลาว่างอย่างหาได้ยาก นางตั้งใจจะมีความสุขไปกับความสงบเงียบนี้ให้เต็มที่
แต่ทันใดนั้นนางก็เห็นเหล่าลิ่วรีบร้อนเข้ามา
“นายท่าน คุณหนู ที่สกุลโจวเกิดเื่ขอรับ ได้ยินว่าหลี่ซื่อกำลังจะคลอดแล้ว ทั้งเรือนกำลังวุ่นวายตามหาคุณหนูหลินอยู่ขอรับ”
สิ้นคำเขา สีหน้าหลินฟู่อินก็แข็งทื่อ
“คุณชาย รีบพาข้ากลับจวนสกุลโจว!” หลินฟู่อินรู้สึกว่าตนประมาทเกินไป คิดเอาเองว่าหลี่ซื่อคนนั้นมีคนสกุลหลี่คอยดูแลอยู่หลายคนจึงไม่น่าจะเกิดเื่คลอดก่อนกำหนดได้ แต่กลับกลายเป็เช่นนี้เสียแล้ว
“เหล่าลิ่ว รีบกลับ” หวงฝู่จินสั่งการลูกน้องตนเองทันที
เหล่าลิ่วนำทางไป หลินฟู่อินััได้ว่าพื้นอันมั่นคงแต่เดิมของเรือสำราญหายวับไปแล้ว อยู่ๆ นางก็พุ่งไปข้างหน้าดั่งลูกธนูหลุดจากแล่ง
พอนางรีบร้อนเดินเข้าไปในเรือนของหลี่ซื่อ ก็ได้เห็นบุรุษสกุลหลี่ทุกคนที่มารวมตัวกันอยู่ในเรือน
นางไม่สนใจพวกเขา รีบร้อนเข้าไปห้องด้านในทันที
ตอนนี้หลี่ซื่อใบหน้าซีดขาวบิดเบี้ยว นางนอนอยู่บนเตียง หลับตาแน่น หายใจออกด้วยความเ็ป หลี่ฮูหยินนั่งอยู่ข้างๆ ช่วยจับนางเอาไว้ด้วยสองมือ
หลินฟู่อินเห็นสตรีชราสวมชุดสะอาดสะอ้านคนหนึ่ง ก็เดาว่าคงเป็หมอตำแยที่สกุลหลี่หาทางเชิญมา
หมอตำแยมีแต่บอกให้หลี่ซื่อพยายามออกแรงอีก แต่คุณหนูเล็กสกุลหลี่ผู้นี้ดูเหมือนจะไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว
หลินฟู่อินเดินเข้าไปผลักร่างหมอตำแยออก นางมองดูปากช่องคลอดก่อนจะหรี่ตาแล้วหันไปมองหมอตำแย พูดเสียงเย็นะเื “คนแม่แค่เจ็บท้องคลอด ปากช่องคลอดยังไม่เปิดดี เ้าจะให้นางเอาแรงที่ไหนมาใช้ตอนนี้?”
หมอตำแยไม่พอใจทันทีที่ถูกเด็กสาววัยกำดัดเพียงคนหนึ่งตั้งคำถาม คนกวาดสายตาประหนึ่งมีดทิ่มแทงหลินฟู่อิน “ข้าเป็หมอตำแยมาหลายสิบปี นางเด็กน้อยนี่มาจากที่ใดจึงกล้ามาสงสัยข้า?”
“แล้วคนทำคลอดให้คนอื่นมาหลายสิบปีที่ไหนจะให้คนเป็แม่ที่ปากช่องคลอดยังไม่เปิดออกแรงเบ่งลูกกัน?” หลินฟู่อินย้อนถามด้วยน้ำเสียงเสียดสี
ในที่สุดเหมือนหลี่ฮูหยินก็ได้ยินอะไรขึ้นมา
ในตอนที่นางคลอดลูกก็ต้องใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมง กว่าหมอตำแยจะบอกให้นางออกแรงไม่ใช่หรือ?
ก่อนหน้านี้นางคิดว่าเพราะน้องสามีคลอดก่อนกำหนด ช่องคลอดจึงเปิดเร็ว เพราะหมอตำแยคนนี้เองก็มีท่าทีรำคาญเวลาผู้อื่นถามคำถาม นางลองถามไปเพิ่มอีกไม่กี่คำ แม่หมอก็หมดความอดทน หาว่านางไม่ใส่ใจคนกำลังจะคลอดเอาแต่พูดมาก โดนเช่นนี้ไปนางจึงไม่ถามอะไรอีก แต่ยามนี้ดูเหมือนหมอตำแยคนนี้จะผิดปกติเสียแล้ว!
เมื่อหลินฟู่อินมาถึง หลี่ฮูหยินก็มั่นใจมากขึ้น สายตานางเฉียบคม หันไปมองหมอตำแยที่จ้างมา “เ้าออกไปก่อน!”
เห็นสตรีที่ก่อนหน้ายังไม่กล้าล่วงเกินนาง บัดนี้ออกปากไล่นางเสียแล้ว สีหน้าหมอตำแยก็น่าเกลียดทันที นางแค่นเสียง “นายหญิงท่านนี้ ตรงนี้มีสตรีเจ็บท้องใกล้คลอด หากท่านไม่มีข้าเป็หมอตำแย ก็รอดูศพได้เลย!”
“ไปให้พ้นหน้าข้าเดี๋ยวนี้!” ฟังคำอัปมงคลที่พ่นออกมา หลี่ฮูหยินก็โกรธจัด นางเอนกายไปด้านหลัง สั่งการเจียงหมัวมัวด้วยสายตา “ลากนางออกไปหานายท่านผู้เฒ่าแล้วบอกนายท่านให้ชัดเจน!”
เจียงหมัวมัวจัดการผลักหมอตำแยออกไปทันที
สีหน้าหมอตำแยเปลี่ยนไปฉับพลัน อันที่จริงนางได้รับคำใบ้จากนายหญิงใหญ่โจวมานานแล้วว่าครรภ์ของนายหญิงสี่โจวนี้จะคลอดยาก
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็ใครมาเชิญนางไปทำคลอดนายหญิงสี่สกุลโจว ล้วนแต่มีความหมายว่า้ารีบส่งผู้เป็มารดาให้จากไปทั้งสิ้น
นางได้รับเงินหลายร้อยตำลึงจากนายหญิงใหญ่โจว อีกทั้งบุตรชายผีพนันคนเดียวของนางก็อยู่ในมืออีกฝ่ายแล้ว ต่อให้ไม่อยากทำนางก็ต้องทำ
ยามนี้เห็นนายหญิงสี่ปวดท้องจนแทบดิ้นแต่ไร้เรี่ยวแรง แล้วเหตุใดจึงมีเด็กน้อยมาก่อเื่เสียได้ เื่สำคัญล้วนพังเพราะคำพูดไม่กี่คำของนางเท่านั้น…
ในใจนางลอบเกลียดชัง ทว่าทำได้เพียงถูกเจียงหมัวมัวลากตัวออกไปด้านนอกที่เต็มไปด้วยคนเฝ้าเท่านั้น
นางคิดอยากรีบไปหานายหญิงใหญ่โจวเพื่อขอความช่วยเหลือ ทว่ากลับไปไม่ได้ ทำให้ไม่ค่อยสบายใจนัก
“ไปทำบะหมี่ไข่มาให้นายหญิงสี่ถ้วยหนึ่ง” หลินฟู่อินมองสถานการณ์ของคนใกล้คลอดแล้วก็หันไปสั่งเจิ้งหมัวมัวที่มีสีหน้าเป็กังวล
เจิ้งหมัวมัวรับคำสั่งทันที
หลี่ฮูหยินถามเด็กสาวด้วยความวิตก “ฟู่อิน น้องสาวเป็อะไรหรือไม่?”
หลินฟู่อินพยักหน้า “ด้านอื่นสบายดี แต่แรงหมดก่อนเวลา คิดว่าน่าจะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อยครึ่งถึงหนึ่งชั่วยามกว่าปากช่องคลอดจะเปิด ตอนนี้รีบกินอะไรเพิ่มเรี่ยวแรงดีกว่า”
จากนั้นนางลองััครรภ์อีกครั้ง เด็กในท้องยังอยู่ดี แล้วจึงเงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “ข่าวดีคือนายหญิงสี่มีน้ำคร่ำมาก แล้วเด็กก็อยู่ในท่ากลับหัวถูกต้องแล้วเ้าค่ะ น่าประหลาดใจจริงๆ”
“จริงหรือ? เด็กคนนี้เป็เด็กดีจริงๆ!” หลี่ฮูหยินดีอกดีใจ รีบกระซิบกับหลี่ซื่อ “เจียโหรว ได้ยินหรือไม่? ตอนนี้ลูกเ้ากลับหัวแล้วนะ?”
“พี่สะใภ้… ท่าน… ท่านพูดเื่อะไรเ้าคะ?” หลี่ซื่อไม่รู้มาก่อนว่าเด็กในท้องเคยอยู่ผิดท่า พอได้ยินคำพูดของหลี่ฮูหยินก็สับสนงุนงง
หลี่ซื่อรู้สึกขายหน้าขึ้นมา ปากนางเปิดเผยคำโกหกที่เคยพูดเอาไว้เสียแล้ว
หลินฟู่อินยิ้ม มองหน้าซีดขาวของคนใกล้คลอดแล้วกล่าว “นายหญิงสี่ มิใช่ท่านเกรงว่าการคลอดลูกจะไม่ราบรื่นหรือเ้าคะ? ยามนี้ลูกของท่านเชื่อมโยงกับท่านด้วยความสัมพันธ์แม่ลูก และยังกลับตัวได้ด้วยตัวเอง อีกประเดี๋ยวท่านต้องกินบะหมี่ไข่ให้มากๆ พอข้าให้ท่านออกแรง โดยปกติแล้วจะเจ็บมาก แต่ไม่ว่าอย่างไรท่านก็ต้องกัดฟันพยายามไม่ส่งเสียงนะเ้าคะ เก็บพลังงานไว้ใช้ตอนจำเป็เท่านั้น”
คำพูดของหลินฟู่อินกระชับเข้าประเด็น ทำให้หลี่ซื่อเข้าใจทันที
ที่แท้ความกังวลใจของนางเป็จริง หากมิใช่ว่าเด็กรู้ตัวแก้ไขได้ทัน นางคงจะคลอดยากจริงๆ แล้ว!
ทันใดนั้นนางก็นึกถึงสิ่งที่พี่สะใภ้กับแม่นางหลินพูดในวันแรกที่มาถึงได้ แม่นางหลินช่วยััท้องนาง กระตุ้นให้นางออกไปเดินเล่นให้มากหน่อย ทำให้นางเข้าใจ
ที่แท้พี่สะใภ้เล็กกับแม่นางหลินก็รู้มานานแล้วว่าเด็กในท้องอยู่ผิดตำแหน่ง แต่ปิดบังเอาไว้จากนาง หาวิธีช่วยเหลือนาง!
ผ่านการถูกทรยศหักหลังจากสามีและสกุลโจว ยามนี้นางจึงคิดว่าปัญหาคงไม่เรียบง่ายทั่วไป
นางรู้ว่าต้องเป็วิธีการลูบครรภ์ของแม่นางหลินที่ช่วยให้ทารกกลับตัว หาไม่เหตุใดพอใกล้คลอด เด็กจึงกลับตัวเองได้เล่า?
“ขอบคุณแม่นางหลินเ้าค่ะ” พอทราบว่าตนเกือบไม่รอดจากการคลอดยาก ในดวงตาคู่งามก็เต็มไปด้วยประกายดื้อรั้นเพื่อเอาชีวิตรอด
หลินฟู่อินยิ้มพลางพยักหน้า
วิธีลูบท้องเพื่อแก้ไขท่าเด็กในครรภ์ของนางมาจากที่นางนึกถึงวิธีของผู้สูงวัยหลายๆ ท่านในชาติที่แล้วมารวมกันแล้วพัฒนา
นางรู้ว่าต้องมีผลแน่ๆ แต่ก็ขึ้นกับสภาพร่างกายคนเป็แม่และเด็กในครรภ์ด้วย
ตอนนี้ผลออกมาดีมาก
คุณหนูเล็กหลี่กินบะหมี่ไข่เสร็จ ผ่านไปอีกกว่าครึ่งชั่วยาม ในที่สุดปากช่องคลอดก็เปิดเต็มที่ และหลินฟู่อินก็ได้เริ่มการทำคลอดอีกครั้ง
โชคดีที่อีกครึ่งชั่วยามต่อมา เด็กก็คลอดออกมาอย่างราบรื่น
เป็บุตรชาย
หลี่ซื่อหมดเรี่ยวแรง เส้นผมเปียกชุ่ม ก่อนจะได้มองหน้าลูกนางก็หลับตาลงด้วยความวิงเวียน
หลี่ฮูหยินชะงักก่อนจะรีบร้อนเรียกหลินฟู่อิน
เด็กหญิงยิ้มแล้วส่ายหน้า “ไม่เป็ไรเ้าค่ะ นางแค่เหนื่อยเท่านั้น ปล่อยให้นอนหลับไปเถอะ เจิ้งหมัวมัวช่วยทำความสะอาดนายหญิงสี่ด้วยนะเ้าคะ”
เจียงหมัวมัวกำลังเช็ดเนื้อเช็ดตัวเด็กด้วยผ้าสะอาด เดิมทีหลี่ฮูหยินคิดจะให้เจียงหมัวมัวเป็คนอาบน้ำให้เด็ก แต่หลินฟู่อินห้ามนางเอาไว้ก่อน
เด็กแรกคลอด แค่เช็ดตัวก็พอแล้ว หากเอาไปอาบน้ำจะเป็การทำลายชั้นที่เคลือบอยู่บนผิวเด็กซึ่งอันตรายต่อตัวเด็กเป็อย่างยิ่ง
แน่นอนว่าหลี่ฮูหยินฟังคำพูดของหลินฟู่อิน หากเด็กสาวไม่รีบกลับมาวันนี้ น้องสามีกับหลานของนางคงถูกฆ่าเพราะหมอตำแยบัดซบคนนั้นแล้ว
ทันใดนั้นหลี่ฮูหยินก็นึกได้ ก่อนหน้านี้หลินฟู่อินหายไปที่ใดมา?
แต่พอลองคิดดูแล้วเด็กสาวอาจไม่อยากพูดถึง นางจึงปล่อยไป
เจียงหมัวมัวเช็ดตัวเด็กน้อยจนสะอาดสะอ้านก่อนจะห่อด้วยผ้าผืนเล็ก หลี่ฮูหยินยิ้ม กอดเด็กไว้ในอ้อมแขน
เด็กคนนี้น่ารักมาก ตอนคลอดออกมาก็ร้องงอแงอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็หยุดแล้วผล็อยหลับไป
หลี่ฮูหยินมองเ้าตัวเล็กอยู่ครู่หนึ่งก็พูดกับหลินฟู่อิน “ข้าจะพาเด็กไปข้างนอกให้ปู่กับลุงๆ อาๆ ของเขาได้พบเสียหน่อย ประเดี๋ยวค่อยพากลับมา ต้องรบกวนเ้าดูแลน้องสาวด้วย”
หลินฟู่อินพยักหน้าก่อนจะจับข้อมือหลี่ซื่อ ชีพจรมั่นคงมาก ไม่มีอะไรน่าเป็ห่วง
ในใจนางคลายลง ตอนนี้นางจึงได้รู้ตัวว่าที่แท้ก่อนหน้านี้นางเคร่งเครียดมากเพียงใด หลังนางปวดไปหมดแล้ว
หลังจากนั้นนายท่านใหญ่หลี่ก็เข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า สิ่งแรกที่ทำคือมองหน้าหลินฟู่อินที่เต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย ในใจผู้ชราอุทานออกมาว่า น่าอายนัก!
พวกตนศึกษาเื่การแพทย์มาทั้งชีวิตแต่กลับทำอะไรไม่ได้ เด็กน้อยคนนี้อยู่ๆ ก็ปรากฏตัวออกมาที่สกุลโจวแล้วช่วยจัดท่าเด็กในครรภ์ให้ถูกต้องได้ก่อนเวลา แม่ลูกจึงได้ปลอดภัย
“แม่นางหลินใช่หรือไม่? ท่านพ่อให้ข้ามาเชิญท่านไปพักผ่อน ที่นี่ปล่อยให้ข้า…”
ยังไม่ทันสิ้นคำก็ได้ยินเสียงเร่งเร้าลอยมา “พี่ใหญ่รีบเข้าไปแทนแม่นางหลินเร็วเข้า ข้ามีเื่ต้องถามนาง!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้