ที่จริงไม่ต้องคุยกันอีกคำตอบก็ชัดเจนอยู่แล้วแต่ลู่เป๋าเหยียนพูดถูกที่ว่าเธอกำลังโกรธเธอยังไม่อยากให้อภัยลู่เป๋าเหยียนง่ายๆแบบนี้!
ูเี่อันปรายตามองมือของลู่เป๋าเหยียน
“ที่ต้องพูดนายก็พูดหมดแล้วตอนนี้ไปจัดการ...แผลของนายก่อนดีกว่านะ”
ลู่เป๋าเหยียนมองฝ่ามือตัวเองแม้จะมีคราบเืติดอยู่บ้างแต่แผลก็แห้งแล้ว
“เธอไม่ถามหน่อยเหรอว่าฉันได้แผลมายังไง”
“.......”ูเี่อันมองลู่เป๋าเหยียนอย่างสงสัยแต่ไม่ได้พูดอะไร
เธอไม่ถามหรอก!
“เพราะช่วยเธอฉันเลยาเ็”ลู่เป๋าเหยียนพูดพลางมองสำรวจแผลอย่างละเอียด “ฉันโดนหนามแหลมๆตามต้นไม้เกี่ยวจนเป็แผล”
“นาย...”ูเี่อันนิ่งอึ้ง ก่อนจะถามอย่างไม่แน่ใจ “นายเป็คนหาฉันเจองั้นเหรอ?”
“ฉันหาเธอเจอแถมยังแบกเธอลงจากเขาเองด้วยนะ” ลู่เป๋าเหยียนพูดอย่างไม่ปิดบัง
ูเี่อันอดใจเต้นไม่ได้แต่เธอพยายามไม่แสดงออกและไม่กล้าสบตาเขา
“ทำไมนายต้องบอกฉันด้วยไม่ใช่ว่าชอบปิดบังฉันนักหรือไง”
ลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้ว“ที่เมื่อก่อนฉันปิดบังเธอ เพราะกลัวว่าเธอจะกดดัน”
“แล้วตอนนี้นายไม่กลัวแล้วเหรอ” ูเี่อันถามอย่างข้องใจ
“ฉันบอกทุกอย่างกับเธอไปหมดแล้วยังจะกลัวอะไรอีกล่ะ” ลู่เป๋าเหยียนทำหน้าเหมือนตัวเองพร้อมทุ่มทุกอย่าง“ฉันอยู่มา30กว่าปีเพิ่งเคยสารภาพรักเป็ครั้งแรกเธอจะไม่ตอบฉันหน่อยเหรอ”
เขากำลังรอรอใหู้เี่อันพูดคำนั้นกับเขา
แตู่เี่อันกลับเบือนหน้าหนีและเอ่ยเตือนเขาว่า
“นายยังไม่ได้ทำแผลเลย”
ลู่เป๋าเหยียนกดปุ่มบนหัวเตียงไม่ช้าพยาบาลก็เดินเข้ามา เมื่อเขาบอกถึงความ้า เธอก็อุทานออกมาก่อนจะพูดว่า
“แผลของคุณได้มาั้แ่เมื่อวานแล้วนี่คะทำไมเืถึงไหลอีกล่ะเนี่ย”
ูเี่อันก้มหน้าอย่างรู้สึกผิดลู่เป๋าเหยียนตอบกลับไปว่า
“ผมไม่ระวังไปโดนแผลเข้าให้น่ะครับ”
“งั้นเดี๋ยวรอสักครู่นะคะ”พยาบาลสาวยิ้มอย่างเข้าใจ “ดิฉันจะรีบไปเตรียมอุปกรณ์มาทำแผลให้”
ผ้ากอซและอุปกรณ์ทำแผลต่างๆถูกนำเข้ามาอย่างรวดเร็วลู่เป๋าเหยียนปฏิเสธการช่วยเหลือของนางพยาบาล เขาบอกว่าเขาทำแผลเองได้แต่เมื่อนางพยาบาลออกไป เขากลับยื่นถาดมาไว้ตรงหน้าูเี่อันพลางทำสีหน้าราวกับเป็เื่ปกติ
“เธอทำแผลให้ฉันหน่อย”
“ไม่เอา”ูเี่อันเก็บมือเขาไปในผ้าห่ม “นายเพิ่งบอกพยาบาลว่าทำเองได้ไม่ใช่หรือไงงั้นก็ทำเองสิ”
ลู่เป๋าเหยียนหรี่ตาพลางมองตรงมาทำเอาูเี่อันรู้สึกเสียวสันหลังวาบ เธอนึกว่าลู่เป๋าเหยียนจะพยายามคิดหาวิธีการที่จะทำให้เธอยอมทำแผลให้เขาทว่าเขากลับเริ่มทำแผลให้ตัวเอง
ลู่เป๋าเหยียนเป็คนถนัดขวาแต่เพราะมือขวาได้รับาเ็จึงค่อนข้างทุลักทุเล แค่จะล้างแผลก็ดูลำบากไปหมด
ูเี่อันก็เป็หมอคนหนึ่งพอเห็นภาพตรงหน้าเธอก็อดไม่ได้ที่จะแย่งอุปกรณ์มาช่วยทำแผลให้อย่างเชี่ยวชาญ โดยไม่ทันสังเกตเลยว่าลู่เป๋าเหยียนกำลังยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
เมื่อคืนเขาก็เป็คนทำแผลที่มือเธอมีเหรอที่เขาจะทำแผลไม่เป็
หลังทำแผลเสร็จูเี่อันก็เก็บอุปกรณ์ให้เข้าที่ เธอตลบผ้าห่มออกก่อนจะพบว่าขาถูกเข้าเฝือกทำให้เดินได้อย่างยากลำบาก
“เธอจะไปไหน”ลู่เป๋าเหยียนถาม
ูเี่อันอายที่จะบอกว่าเธออยากไปเข้าห้องน้ำจึงอ้างไปว่า
“ฉันจะไปเปลี่ยนชุด”เสื้อของเธอเลอะคราบเืของเขาอยู่เล็กน้อย
ลู่เป๋าเหยียนเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเขาอุ้มตัวเธอขึ้นมา
ูเี่อันร้องอุทานอย่างใเพราะตั้งตัวไม่ทัน
“ลู่เป๋าเหยียนนายจะทำอะไร”
ลู่เป๋าเหยียนอุ้มเธอไปที่ห้องน้ำ“เสื้อผ้าชุดใหม่อยู่ในตู้ ถ้าเสร็จแล้วก็เรียกฉัน”
หลังปิดประตูห้องน้ำลงูเี่อันก็เริ่มหน้าแดงเมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จเธอก็ล้างหน้าแปรงฟัน ตอนนั้นเองที่เธอรู้สึกว่าตัวเองปวดร้าวไปทั้งร่าง
เธอรู้สึกปวดหัวหน่วงๆเอวก็เจ็บ และเพราะขาหักไทำให้เธอต้องยืนทรงตัวด้วยขาข้างเดียว พออยู่ท่านี้ไปนานๆเอวของเธอก็ยิ่งเจ็บมากขึ้นจนแทบทรุด
สุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหว“ลู่เป๋าเหยียน ฉันเสร็จแล้ว”
ลู่เป๋าเหยียนเปิดประตูเข้ามาก็เห็นว่าูเี่อันกำลังทำสีหน้าเ็ปจึงรีบตรงเข้ามาอุ้มเธอ
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”เขาเอ่ยพลางขมวดคิ้วมุ่นราวกับตัวเองกำลังเจ็บแทน
“ฉันปวดเอวไปหมดเลย”ูเี่อันตอบพลางพิงกับอกแกร่ง “นายพาฉันไปนอนที่เตียงหน่อย”
“ทนแป๊บนะ”
ลู่เป๋าเหยียนอุ้มูเี่อันกลับไปที่เตียงก่อนจะเดินออกจากห้องไปูเี่อันนอนพักบนนั้นพลางยึดผ้าห่มไว้อย่างอดกลั้น
“ตาบ้าไม่ยอมอยู่เป็เพื่อนฉันเลย” ตอนนี้เธอปวดไปหมดทั้งตัว
แต่ไม่ถึงสามนาทีลู่เป๋าเหยียนก็กลับมา“หมอบอกว่าเป็เื่ปกติ ถ้าเธอปวดจนทนไม่ไหวล่ะก็ให้กินยาแก้ปวดช่วยระงับอาการ”
ที่แท้เขาเดินออกไปหาคุณหมอมานี่เอง
ูเี่อันได้ยินดังนั้นก็ส่ายหน้าทันที“ไม่เป็ไร ฉันทนไหว”
ลู่เป๋าเหยียนเปิดลิ้นชักเพื่อหยิบยาที่พยาบาลเอาเข้ามาให้
“นอนดีๆ”
“นายจะทำอะไร”ูเี่อันถามอย่างสงสัย แต่ก็ยอมทำตามที่เขาว่า
ลู่เป๋าเหยียนเลิกเสื้อของเธอขึ้นมา
“กรี๊ด!”ูเี่อันกรีดร้องทันทีก่อนจะยกมือขึ้นบังเอวบางที่เผยให้เห็น “ลู่เป๋าเหยียน นายมันโรคจิต!”
“ถ้าจะโรคจิตฉันคงกลับไปโรคจิตกับเธอที่บ้าน” ลู่เป๋าเหยียนฉีกแผ่นยาออกมาให้เธอดู “แปะยาก่อนเลิกเสื้อขึ้นซะ”
ในที่สุดูเี่อันก็เข้าใจว่าเขาจะทำอะไรเธอหน้าแดงพลางบ่นพึมพำ
“แล้วไม่บอกกันก่อนเล่าตาบ้า!”
เธอเลิกเสื้อขึ้นเล็กน้อยลู่เป๋าเหยียนจึงเห็นแผลของเธออย่างชัดเจน
คงเพราะตอนที่กลิ้งตกลงมาเธอไปกระแทกกับอะไรเข้าทำให้่เอวด้านขวามีรอยช้ำขนาดใหญ่ผิวขาวเนียนละเอียดของเธอจึงกลายเป็สีเขียวคล้ำทำให้คนมองอดใจหายไม่ได้
ลู่เป๋าเหยียนรู้สึกสงสารเธอจับใจเมื่อเขาแปะแผ่นยาให้เธอเรียบร้อยจึงถามขึ้นว่า
“เธอตกลงเนินไปได้ยังไง”
“ตอนที่ฉันกำลังเดินลงจากเขาฝนตกหนักมากแถมฟ้ายังมาผ่าอีก ฉันกลัวเลยทรุดลงไปนั่งกับพื้น” ูเี่อันเล่าอย่างน่าสงสาร“ตอนนั้นลมพายุพัดแรงมาก ฉันคว้าอะไรไว้ไม่ทันเลยตกลงไปน่ะ”
ลู่เป๋าเหยียนช่วยดึงเสื้อเธอลงมาตามเดิม“แล้วยังเจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า”
“ไม่มีแล้ว”ูเี่อันเอนตัวนอน พอคิดว่าตัวเองต้องนอนพักอยู่เฉยๆที่นี่อีกหลายวันเธอก็เริ่มรู้สึกอยากจะบ้าตาย
ตอนนั้นเองมือถือของลู่เป๋าเหยียนก็ดังขึ้นเขามองหมายเลขที่โทรเข้ามาก่อนจะส่งมือถือใหู้เี่อัน
“ลั่วเสี่ยวซี”
“เจี่ยนอันเธอเป็ยังไงบ้าง” เสียงของลั่วเสี่ยวซีดูร้อนใจมาก “เจ็บตรงไหนอาการหนักหรือเปล่า ฉันไม่ถ่ายรายการแล้ว จะไปหาเธอเดี๋ยวนี้แหละ”
“ไม่ต้องมานะฉันไม่ได้าเ็มากมาย ก็แค่ขาหัก” ูเี่อันรู้ดีว่ารายการ TopModel สำคัญกับลั่วเสี่ยวซีมากแค่ไหนจึงรีบห้าม“เธอไม่ต้องเป้นห่วงฉันนะ พักอีกแค่ไม่กี่วันก็หายแล้ว รอฉันกลับไปเมือง A เธอค่อยมาหาฉันก็ยังไม่สาย”
“ฉันออกไปข้างนอกแป๊บนึง”พูดจบลู่เป๋าเหยียนก็เดินออกจากห้องไป
ตอนแรกูเี่อันก็ไม่ได้ติดใจอะไรเลยคุยกับลั่วเสี่ยวซีต่ออีกคำสองคำก่อนจะรู้สึกว่ามันแปลกๆ
“เสี่ยวซีแค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันต้องออกไปข้างนอกก่อน”
ูเี่อันรีบวางสายก่อนจะหยิบไม้เท้าข้างเตียงช่วยพยุงตัวเองเดินออกไปข้างนอกเมื่อผลักประตูออกไป ก็เห็นลู่เป๋าเหยียนยืนอยู่หน้าห้องตามคาด
มือข้างหนึ่งของเขายันกับกำแพงส่วนอีกข้างกุมท้องเอาไว้แน่น ใบหน้าของเขามีแต่คำว่า “เ็ป”
“นายปวดกระเพาะอีกแล้วใช่ไหม?” ูเี่อันเข้าไปประคองเขา “ยาของนายล่ะ”
“เธอจะออกมาทำไม”ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้ว “กลับไปนอนพักซะ”
ขณะทีู่เี่อันกำลังคิดว่าจะทำยังไงดีเธอก็ถูกลู่เป๋าเหยียนอุ้มกลับเขาไปในห้องอีกครั้ง
“ลู่เป๋าเหยียนปล่อยฉันลงนะ” เพราะเจ็บที่เอวทำให้เธอฝืนดิ้นไม่ไหว
“ฉันเดินเองได้”เขาปวดท้องขนาดนั้นยังจะมาอุ้มเธออีก
ลู่เป๋าเหยียนวางเธอลงบนเตียงแต่เธอก็ลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง “ฉันจำได้ว่านายกินยาตัวไหน บอกให้พี่ฉันซื้อเข้ามาให้ก็ได้”
พูดจบูเี่อันก็คว้าโทรศัพท์เพื่อจะโทรหาซูอี้เฉิงแต่ลู่เป๋าเหยียนกลับรั้งมือเธอเอาไว้
เขาดึงมือถือออกไปก่อนจะโทรหาเสิ่นเยว่ชวนให้เอายามาให้เขา
กระเพาะของเขาไม่ค่อยดีมานานแล้วเสิ่นเยว่ชวนกับผู้ช่วยอีกหลายคนจึงพกยาโรคกระเพาะเอาไว้ตลอดเวลาเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
ูเี่อันเห็นดังนั้นจึงสบายใจขึ้น“นายไปนอนพักที่โซฟาหน่อยไหม”
“ฉันไม่เป็ไร”ลู่เป๋าเหยียนลูบผมูเี่อันเบาๆ “อยู่นิ่งๆสิ เดี๋ยวก็ไปโดนแผลหรอก”
“ยังจะมาห่วงฉันอีก”ูเี่อันเบ้ปากก เธอว่าจะเมินเขาแต่ก็อดเงยหน้าขึ้นมาถามไม่ได้“เมื่อวานนายไม่ได้กินข้าวใช่ไหม”
เธอรู้ดีว่าหากเขากินข้าวไม่ตรงเวลาโรคกระเพาะก็มักจะกำเริบ
“ฟ้าจะมืดอยู่แล้วแต่ยังหาตัวเธอไม่เจอใครจะมีอารมณ์กินข้าวกันล่ะ” ลู่เป๋าเหยียนเอ่ยพลางจ้องหน้าูเี่อัน“เธอกำลังเป็ห่วงฉันงั้นเหรอ”
“นายคิดมากไปแล้ว”ูเี่อันแสร้งทำเป็ไม่ใส่ใจ “ฉันหิวแล้วบอกเสิ่นเยว่ชวนให้ซื้อข้าวเช้าเข้ามาด้วย”
“เจี่ยนอัน”
จู่ๆลู่เป๋าเหยียนก็เรียกชื่อเธอเสียงทุ้มต่ำของเขาราวกับมีพลังพิเศษ ูเี่อันหันไปมองเขาโดยไม่รู้ตัว
ทันใดนั้นเขาก็ประทับเรียวปากลงมาริมฝีปากอุ่นร้อนของเขาััเธออย่างอย่างแ่เบาเขาค่อยๆจูบเธอเพื่อลิ้มรสความอ่อนหวานทีละนิด...
ลมหายใจของเขารดบนใบหน้าของเธอจนจั๊กจี้ไปหมดแต่ความรู้สึกนั้นเหมือนมาจากภายในที่เธอไม่อาจจับต้องได้เธอรู้สึกเหมือนถูกเขาสูบพลังไปจนหมด
ลู่เป๋าเหยียนเป็นักล่าชั้นยอดเขารู้จักูเี่อันดีจึงดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด ให้เธอซบกับอกแกร่งของเขาจนลืมที่จะขัดขืนูเี่อันจึงกลายเป็กระต่ายขาวตัวน้อยๆที่ไร้พิษสง
ทำไมเขาถึงไม่เคยรู้มาก่อนนะว่าเวลาเธอโมโห วิธีนี้สามารถเอาชนะเธอได้
ผ่านไปสักพักอาจเป็เพราะขาดอากาศหายใจ หรือไม่ก็เพราะความเขินอายทำให้พวงแก้มใสของูเี่อันเริ่มแดงก่ำเป็ลูกตำลึง
ลู่เป๋าเหยียนยอมผละออกจากเรียวปากบางก่อนจะมองจ้องเธอ
เวลาเขามองตรงไปที่ใครแววตาของเขาราวกับท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่ดูลึกลับน่าค้นหา
ูเี่อันสบตากับเขาเมื่อไรก็ยากที่จะถอนสายตาออกไปได้ดวงตาคู่นั้นเหมือนค่อยๆสูบเธอให้จมลึกลงไปเรื่อยๆ
เธอกำลังหลงอยู่ในวังวนแห่งนั้นถึงจะรู้ตัวดีแต่เธอก็ไม่อาจถอยหลังได้อีกแล้ว
“โชคดีที่เธอไม่เป็อะไร”ลู่เป๋าเหยียนลูบผมเธออย่างแ่เบาพลางเอ่ย
ขนตางอนยาวของูเี่อันสั่นไหวเล็กน้อยตามมาด้วยหัวใจที่เต้นระรัวไม่เป็จังหวะ
ลู่เป๋าเหยียนดีใจที่เธอปลอดภัยไม่รู้ทำไมเธอก็รู้สึกดีใจตามเขาไปด้วย
“ถ้าฉันเป็อะไรขึ้นมานายจะทำยังไง” เธอถาม
“ฉันคงไม่รู้จะมีชีวิตต่อไปได้ยังไง”ลู่เป๋าเหยียนรั้งตัวเธอมากอดอีกครั้ง “เจี่ยนอัน อย่าจากฉันไปไหนอีก”
วินาทีที่เธอลากกระเป๋าออกไปจากบ้านเขารู้สึกเหมือนเป็คนไร้ิญญา หัวใจของเขาว่างเปล่า ทั้งชีวิตของเขาเหลือเพียงแค่เื่งานให้เป็ที่ยึดเหนี่ยวพอหยุดทำงานเมื่อไร ความอ้างว้างเดียวดายก็เข้าครอบงำเขาทันที
“ฉัน......”
ูเี่อันพูดออกไปได้แค่คำเดียวริมฝีปากของเธอก็ถูกลู่เป๋าเหยียนเข้าอีกครั้ง
ในตอนนั้นเองประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกผลักเข้ามา...
