เพราะว่าตัวหม้อปรุงยานั้นไม่ได้ถูกวางลงกับกองไฟแต่ใช้เพียงมวลพลังของหลินลั่วหรานเป็แรงกระตุ้นดังนั้นเธอจึงกลั่นสมุนไพรมาจนถึง่เช้าตรู่
คนในบ้านนั้นต่างก็รู้ว่าเธอ้าจะทำยาเมื่อเห็นว่าประตูห้องใต้ดินถูกปิดสนิทเอาไว้ ก็ไม่มีใครเข้ามารบกวนเธอ
หลินลั่วหรานใช้ดวงตาอันเฉียบคมของเธอคอยดูสถานการณ์ด้านในตัวหม้อเอาไว้ พร้อมกับปล่อยมวลพลังออกมาหากว่าไม่ใช่เพราะมีไข่มุกที่สามารถคอยดูดซึมพลังได้ตลอดเวลาด้วยระดับพื้นฐานที่เพิ่งจะเริ่มต้น และยังไม่ถึงขึ้นกลางของเธอเพียงอย่างเดียวหากว่าไม่มีเปลวไฟและหินวิเศษอะไรช่วย แค่ขั้นตอนการสกัดสมุนไพรก็น่าจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตของเธอแล้ว
ห่อสิ่วโอว โป่งรากสนสมุนไพรยู่หยิง...พวกมันต่างก็ถูกกลั่นเป็ยาสีน้ำตาลอยู่ในช่องของตัวเองแม้ว่ามวลพลังจะกระจายไปทั่ว แต่ว่าสำหรับการผสมยาแล้วก็ยังคงมีส่วนที่เสียอยู่มาก
หลินลั่วหรานเม้มปากแน่นท่าทางกายร่ายเวทของเธอเปลี่ยนไปอีกครั้ง ในตอนที่แสงสว่างประกายออกมานั้นตัวยาก็ถูกสกัดให้บริสุทธิ์ขึ้นอยู่ในหลุมเล็ก
ตัวยาที่ในตอนแรกมีอยู่เต็มช่องเมื่อผ่านการสกัดไปเก้าครั้ง ก็เหลือเพียงชั้นใสๆ เพียงชั้นเดียวหลินลั่วหรานรวบรวมสมาธิเข้าด้วยกัน ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้วตอนนี้เธอไม่สามารถจะทำให้จิตใจว่อกแว่กได้ดังนั้นจึงไม่ได้มีเวลาว่างไปสนใจเื่เวลา
เมื่อผ่านการกลั่น สกัด มาแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็ถือได้ว่าเป็ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดแล้ว อัดยา
อัตราการผสมยาได้สำเร็จนั้นเป็อะไรที่ต้องว่ากันไปตามชะตา์จริงๆเพราะแม้ว่าจะใช้สมุนไพรที่มีอายุเท่ากัน สภาพแวดล้อมเดียวกัน และใช้วิธีการทำยาที่เหมือนกันแต่ก็อาจจะมีผลลัพธ์ที่ต่างกันได้อยู่ดี และเมื่อคนบนโลกไม่เข้าใจถึงสาเหตุดังนั้นก็คิดว่ามันเป็เื่ของ์ลิขิตแล้ว
ความจริงแล้ว เื่ของศาสตร์ยานั้นสิ่งที่สำคัญสิ่งหนึ่งก็คือ เื่ของอัตราส่วน
ทำอย่างไรจึงจะสามารถทำให้คุณภาพของยาดีขึ้น? สกัดหลายๆ รอบเหรอใครจะสามารถทนอยู่กับหม้อปรุงยาแสนน่าเบื่อแบบนี้ได้เป็ปีๆ...ในระหว่างที่ตัวยาอยู่ในหม้อนั้นพวกมันก็จะรวมเข้าด้วยกัน และในตอนที่เหล่าพลังรวมตัวกันเข้าพอดีนั้นก็คือ่เวลาอัดยาที่ดีที่สุด
อย่างเช่นหลินลั่วหรานในตอนนี้เธอกำลังถูกความสวยงามของตัวยาสีอำพันที่เปล่งประกายส่งมวลพลังไปทั่วทำเอาลุ่มหลงเธอมักจะรู้สึกว่าพวกมันละลายลงไปในชั้นที่ลึกกว่านี้ได้อีกแต่กลับลืมระดับของหม้อปรุงยาและระดับการฝึกศาสตร์ของตัวเองไป และในชั่วพริบตานั้นตัวยาก็เริ่มแตกออกจากกัน
หลินลั่วหรานรีบร่ายเวทอัดยาขึ้นมาทันทีฝาของหม้อปรุงยาขยับสั่นไหวแสงที่หม้อปรุงยาปล่อยออกมาผสานรวมกับพลังที่หลินลั่วหรานร่ายขึ้นหม้อปรุงยาระดับสองนี่ กำลังช่วยเธอบีบอัดยา!
หลินลั่วหรานรู้ตัวว่าได้พลาด่เวลาที่ดีที่สุดในการอัดยาไปแล้วเธอจึงเริ่มร่ายเวทออกมา ในใจนั้นเต็มไปด้วยความกังวลราวกับมีมือที่มองไม่เห็นกำลังค่อยๆ ทำให้ตัวยาที่บริสุทธิ์เ่าั้หมุนวนไปมาก่อนจะค่อยๆ รวมกันกลายเป็ก้อนกลมเล็กๆ
ในใจของหลินลั่วหรานดีใจขึ้นมาก่อนที่จะร่ายเวทสุดท้าย
ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะได้ยามาไม่น้อยเลย...
ในตอนที่รอยยิ้มเพิ่งจะปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเธอนั้นเสียงเบาๆ ก็ดังขึ้นมาจากด้านในของตัวหม้อ
เอ๋ นี่มัน...
หลินลั่วหรานจัดการกับจิตใจของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะเปิดบานประตูที่ถูกปิดแน่นมากว่าสองวันของห้องใต้ดินออกเมื่อเห็นว่าผู้เป็แม่เดินเข้ามาหาด้วยความเป็ห่วง เธอก็รวบรวมสติขึ้นมา
“เป็ยังไงบ้าง?” ตอนนี้เป่าเจียนั้นฝักใฝ่ในเื่การฝึกศาสตร์มาก เธอรู้ดีว่าที่หลินลั่วหรานลงมือทำยาโดยส่วนมากแล้วก็เพื่อตัวเธอและผู้เป็พ่อ ดังนั้นจึงถามขึ้นมาด้วยความเป็ห่วง
ผู้เป็แม่ยังคงเป็คนที่รู้และเข้าใจลูกสาวดีเมื่อเห็นท่าทางเหนื่อยล้าและผิดหวังที่ยากจะซ่อนได้มิดของหลินลั่วหรานแล้วเธอก็ดึงตัวของเป่าเจียเอาไว้ หลินลั่วหรานสังเกตได้ถึงท่าทางเล็กๆ น้อยๆของผู้เป็แม่ ด้วยความเป็ห่วงเป็ใยของแม่ทำให้เธอััได้ถึงความอบอุ่นใส่ใจขึ้นมา จึงตั้งสติขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“หนูทำยาหม้อนี้พังแล้วล่ะ...”
ใช่แล้วถึงแม้ว่าจะรู้ตัวมาตลอดเวลาตัวเองไม่ใช่คนที่มีพร์ดีอะไรแต่ว่าใครบ้างที่ไม่เคยวาดฝันว่า ตัวเองจะสามารถเป็คนที่ทำได้ทุกอย่าง? อีกทั้งยังใช้เวลากับมันอยู่ตั้งสองวันสองวันที่คอยส่งมวลพลังออกไปไม่ขาด และมันก็ทำให้เหนื่อยล้าเกินทนแต่กลับพังลงในตอนสุดท้าย! ดังนั้นเธอจึงรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
แต่ว่าตอนนี้ สิ่งที่พวกแม่ให้มาก็คือแววตาที่เต็มไปด้วยกำลังใจ แม้แต่หลินลั่วตงก็ยังรู้จักที่จะปลอบใจคนอื่นแล้ว “พี่สาวตอนที่ผมเพิ่งเริ่มไปโรงเรียนแรกๆ ก็มักจะสอบไม่ผ่านอยู่บ่อยๆ แต่ว่าตอนนี้ได้ร้อยเต็มมาสองครั้งแล้วนะ!” เด็กชายรู้สึกไม่ค่อยดีขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าการที่บอกว่าตัวเองได้เต็มร้อยมาสองครั้งแล้วดูเป็การโอ้อวดมากจนเกินไป
หลินลั่วหรานลูบหัวของเขาลงเบาๆ ก่อนจะยิ้มออกมา “นั่นสินะทำไมฉันถึงคิดไม่ได้ หม้อนี้เสียไปแล้ว พักสักหน่อย แล้วก็ค่อยทำใหม่ก็ได้”
ผู้เป็แม่รีบพยักหน้าลง “เข้าไปอยู่ในนั้นสองวันแล้วจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ไปหาอะไรกิน พักผ่อนเสียหน่อยก่อนแล้วค่อยว่ากัน!” เมื่อพูดเสร็จ เธอกับเป่าเจียก็ช่วยกันลากหลินลั่วหรานไป
หลินลั่วตงที่ใบหน้าเริ่มจะคมคายขึ้นมายังคงยืนอยู่ตรงนั้น ก่อนจะบ่นพึมพำขึ้น “ไม่ใช่เด็กๆ แล้วสักหน่อยลูบหัวกันอยู่ได้...”
หลินลั่วหรานไม่ได้กินข้าวมาสองวันแล้วแม่ของเธอตุ๋นซุปซี่โครง เพื่อให้เธอได้กินเพิ่มสารอาหารเมื่อได้เห็นเธอกินข้าวเข้าไปสองชาม และกินซุปเข้าไปชามใหญ่ถึงได้ปล่อยตัว
เมื่อกลับมาที่ห้องก็เห็นว่าเสี่ยวจินนั้นยื่นหัวเข้ามาทางหน้าต่างสายตาของมันดูละห้อยผิดปกติ ราวกับจะรู้ว่าเธอทำยาล้มเหลวไปแล้วแต่ว่ามันสมองของมันนั้นมีจำกัด ทำให้มันไม่รู้วิธีที่จะปลอบใจเธอ
หลินลั่วหรานขี่เสี่ยวจินขึ้นไปบินเล่นวนอยู่รอบ้าของเขาชิงเฉิงเพื่อที่จะให้ความรู้สึกเล็กๆ มากมายถูกพัดปลิวออกไป ถึงได้กลับมาที่บ้าน
ใช่แล้วเธอไม่ใช่ผู้มีพร์มาั้แ่ไหนแต่ไรแล้ว ทุกอย่างต่างก็ต้องใช้ความพยายามและโชคชะตาที่ผ่านเข้ามาโดยบังเอิญ ลมกลางคืนพัดผ่านไปเมื่อหลินลั่วหรานกลับมาถึงที่บ้าน คืนนี้เธอก็ไม่ได้ฝึกศาสตร์ต่อแต่กลับนอนหลับไปสิบกว่าชั่วโมง ก่อนที่จะตื่นขึ้นมา เมื่อหาอะไรกินเข้าไปแล้วเธอก็กลับเข้าไปที่ห้องใต้ดินอีกครั้ง
มวลพลังในร่างกายของเธอถูกปรับจนเข้าที่จิตใจก็เธอก็สบายดีและที่สำคัญเธอยังมีประสบการณ์จากความล้มเหลวครั้งที่แล้วอีกด้วยการทำยาอีกครั้งในรอบนี้หลินลั่วหรานจึงมีความมั่นใจอยู่ไม่น้อย
เธอยังคงนำเอาวัตถุดิบมากมายใส่ลงไปอีกครั้ง
มือซ้ายของเธอจับลงไปที่ส่วนของตัวสัตว์ที่ถูกสลักเอาไว้พร้อมกับส่งพลังเข้าไปไม่หยุด เมื่อใส่สมุนไพรเข้าไปเรียบร้อยด้วยความรวดเร็วแล้วหลินลั่วหรานก็ปิดฝาหม้อลง แล้วตั้งใจทำยาขึ้นมาอีกครั้ง
สมุนไพรวิเศษต่างถูกกลั่นจนกลายเป็น้ำอีกทั้งยังถูกสกัดจนเหลือเพียงส่วนบริสุทธิ์นั้น ตัวยาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมวลพลังมีความงามที่ทำให้หลินลั่วหรานลุ่มหลง
หลังจากถูกสกัดแล้ว ตัวยาก็ไหลออกจากรูเล็กๆไปยังแท่นฐาน จากหยดเล็กๆ ก็ไหลเข้ามารวมตัวเข้าด้วยกันอยู่ที่ฐานทรงกลมกลางหม้อพวกมันคือส่วนสกัดจากสมุนไพรสิบกว่าชนิด ฤทธิ์ยาที่แตกต่างกัน จำนวนแตกต่างกันแต่กลับรวมกันเข้าเป็หนึ่งอย่างประหลาด
ตอนนี้ล่ะ!
หลินลั่วหรานร่ายเวทอัดยาออกมาอย่างมั่นคงภายใต้แสงที่สลับทับซ้อนกันแล้ว แสงก็ประกายขึ้นมาจากตัวหม้ออีกครั้งหลินลั่วหรานใช้พลังของตัวเองรวมเข้ากับพลังของหม้อก่อนที่ฝาของหม้อปรุงยาจะสั่นไหวขึ้นมาอีกครั้งเหมือนตอนครั้งแรกแม้ว่าจะหลับตาอยู่ แต่เธอก็สามารถััได้ถึงตัวยาที่หมุนเวียนไปก่อนจะก่อตัวเข้าหากัน และกลมขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุด เธอก็ร่ายเวทสุดท้ายออกมา
เธอใช้มวลพลังธาตุไฟไปจนหมดไข่มุกเติมความชุ่มชื้นในกับกลุ่มแนวดาวธาตุไฟที่แห้งเหือดในแหล่งกักเก็บพลังของเธอหลินลั่วหรานจับลงที่หม้อปรุงยาที่สงบลงเรียบร้อยแล้ว เธอรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาแต่ว่ารอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของเธอนั้น กลับคลี่ออกกว้างขึ้นเรื่อยๆ
แม้ว่าจะไม่รู้ว่าอัตราการผสมยาเป็อย่างไรแต่ว่ายาหม้อนี้ สำเร็จแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย
ผู้มีพร์แล้วอย่างไรในเมื่อก็ยังสามารถผิดพลาดได้เช่นกัน คนที่ก้าวเดินไปอย่างสบายใจในทุกๆฝีก้าวต่างหากถึงจะมั่นคง และเดินไปได้ไกลกว่า!