ฉีอวี้ทราบอย่างแน่นอนว่าองค์หญิงหวายหนิงทรง้าทำอะไร “ดำเนินการอย่างเฉียบขาดแล้วค่อยรายงานทีหลัง” ทว่าสิ่งที่ต้องเผชิญหน้าด้วยนั้นคือจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เขาจึงยังคงเกิดความลังเลเล็กน้อย
แต่องค์หญิงหวายหนิงกลับไม่รอให้เขารับคำ นางรีบเอ่ยถามอย่างกระชั้นชิดว่า “ใต้เท้าเจียง เ้าได้จับกุมผู้ที่เคยััห่อย่าวซ่านทั้งหมด แต่ไม่จับกุมกูเฟยเยี่ยนเพียงคนเดียว มีเจตนาอะไร? ”
กูเฟยเยี่ยนได้กลิ่นถึงการย้อนกลับมาแว้งกัด แล้วใส่ร้ายป้ายสีในทันที นางมองไปที่องค์หญิงหวายหนิง เพียงแต่ว่าไม่ได้กล่าวอะไรออกมา มีเพียงแค่คิ้วขมวดกันเล็กน้อยราวกับว่ากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
เซี่ยเสี่ยวหม่านเกิดโทสะ จากนั้นแย่งขึ้นมาอธิบายก่อนใต้เท้าเจียงด้วยความเอาจริงเอาจัง “เรียนองค์หญิง แพทย์หญิงกูอยู่ในฐานะของแพทย์หญิงจิ้งหวางฝู่และคอยควบคุมดูแลงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับศิลาโอสถของจิ้งหวางฝู่ ในค่ำคืนนี้ได้รับคำสั่งให้ติดตามข้าพเ้ามาช่วยเหลือในการตรวจสอบ! ข้าน้อยไม่ปิดบังองค์หญิง ห่อยาย่าวซ่านที่มีปัญหานี้ เป็แพทย์หญิงกูที่เป็ผู้ตรวจพบ แพทย์หญิงกูไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยอย่างแน่นอน! ”
“อะไรนะ? เป็นางที่ตรวจพบ? ”
ฉีอวี้คิดไม่ถึงว่ากูเฟยเยี่ยนจะมีความสามารถเช่นนี้ องค์หญิงหวายหนิงก็ประหลาดใจเช่นกัน ทว่านางรีบร้อนโยนความผิดจึงไม่สนใจในเื่นั้น
“นางตรวจพบแล้วอย่างไรล่ะ? ใครจะไปรู้ว่านางจะไม่ใช่ผู้ที่สร้างความสับสนตบตาผู้คนเพื่อหนีความผิดล่ะ? ั้แ่การจัดเตรียมยาไปจนถึงการรับยาก็มีเพียงแค่นางเพียงผู้เดียวที่มีโอกาสััห่อย่าวซ่านเพียงลำพังใช่หรือไม่? ”
“นี่…”
เซี่ยเสี่ยวหม่านเงียบงันพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ถึงแม้ว่าเขาจะมั่นใจเต็มร้อยว่ากูเฟยเยี่ยนไม่มีความน่าสงสัย แต่ว่าชั่วขณะนั้นเขาไม่สามารถหาเหตุผลมาหักล้างองค์หญิงหวายหนิงได้ เขาไม่สามารถพูดถึงเื่ของจิ้งจอกเฒ่าได้ และยิ่งไม่สามารถพูดถึงเื่ที่ เมื่อไม่กี่วันก่อนกูเฟยเยี่ยนได้ช่วยชีวิตจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไว้ได้ด้วย
ทำอย่างไรดี?
ทางด้านของกูเฟยเยี่ยนนั้นสงบนิ่งเหนือความคาดหมาย นางแหงนใบหน้าขึ้นมาจ้องมององค์หญิงหวายหนิง จากนั้นจึงพิจารณาอย่างถี่ถ้วน องค์หญิงหวายหนิงมีความรู้สึกราวกับว่าถูกมองอย่างทะลุปรุโปร่งจึงรีบหลบหลีกสายตาของกูเฟยเยี่ยน
นางไม่เชื่อว่ากูเฟยเยี่ยนจะมองออกถึงความจริงอย่างแน่นอน และจะไม่ให้โอกาสกูเฟยเยี่ยนได้รับรู้ความจริงด้วย ทันใดนั้นนางก็ได้ตบลงไปบนโต๊ะอย่างรุนแรงก่อนจะกล่าวด้วยความโกรธว่า “ใต้เท้าเจียง เ้าไม่จับกุมนางและไม่ไต่สวนนาง กลางดึกกลางดื่นยังให้นางมาคอยช่วยเหลือจัดการเื่คดี เ้าเป็เสนาบดีศาลต้าหลี่ได้อย่างไรกัน? เปิ่นกงจู่จะไปพบฟู่หวงเดี๋ยวนี้ แล้วทูลฟู่หวงว่าเ้าร่วมมือกับบุคคลต้องสงสัยใส่ร้ายป้ายสีตระกูลฉีที่มีความซื่อสัตย์และมั่นคง! ”
ใต้เท้าเจียงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะร้องเสียงดัง “ปรักปรำกัน! ข้าน้อยถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ! ”
ตามกฎระเบียบของห้องยาสำนักหมอหลวงแล้ว ั้แ่การเตรียมยาไปจนถึงการตรวจสอบยาล้วนจำเป็ต้องมีสองถึงสามคนคอยตรวจสอบกันและกัน เมื่อสืบหามูลเหตุขึ้นมา มีกูเฟยเยี่ยนเพียงคนเดียวที่ััห่อย่าวซ่านตามลำพังจริงๆ อีกอย่างคือ เดิมทีใต้เท้าเจียงก็มีความสงสัยในกูเฟยเยี่ยนเล็กน้อยอยู่แล้ว เมื่อสักครู่นี้หากว่าไม่ใช่องค์หญิงหวายหนิงและฉีอวี้ที่เข้ามาอย่างกะทันหัน เขาก็คงซักถามข้อสงสัยต่อหม่านกงกงไปตั้งนานแล้ว
การเผชิญหน้ากับข้อสงสัยขององค์หญิงหวายหนิง ขาของใต้เท้าเจียงไม่อ่อนแรงได้หรือ?
เขาใจนพูดตะกุกตะกักไปหมด “องค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยก็เห็นด้วยว่าแพทย์หญิงกูน่าสงสัยมากที่สุด! ในค่ำคืนนี้เดิมทีข้าน้อย้าจะส่งคนไปจับกุมนางที่จิ้งหวางฝู่ แต่ไม่คิดว่าหม่านกงกงจะพานางมา เมื่อสักครู่นี้ข้าน้อย…เมื่อสักครู่นี้กำลังจะนำนางไปคุมขัง แต่ก็…แต่ก็พบเข้ากับพระองค์และท่านชายท่านแม่ทัพฉี ก็เลย ก็เลยเกิดความล่าช้าขึ้น”
แม้ว่าใต้เท้าเจียงจะหวาดกลัว แต่ถึงที่สุดแล้วก็ยังจำได้ว่ากูเฟยเยี่ยนในตอนนี้เป็คนของจิ้งหวางฝู่ เขาหันไปหาเซี่ยเสี่ยวหม่านแล้วอธิบาย “หม่านกงกง ข้อสงสัยขององค์หญิงเป็เช่นเดียวกันกับข้อสงสัยของข้า นอกจากนี้ยาชนิดนั้นไม่ใช่เื่ง่ายที่จะแยกแยะออกได้ แพทย์หญิงกูสามารถตรวจสอบว่าเป็สมุนไพรชนิดนั้นได้อย่างไร ข้าก็สงสัยเป็อย่างยิ่ง เื่นี้โปรดรายงานต่อจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยโดยเร็วที่สุด”
สีหน้าของเซี่ยเสี่ยวหม่านเรียกได้ว่าเกิดความสิ้นหวัง หากไม่ใช่เป็เพราะว่าได้เห็นถึงความสามารถของกูเฟยเยี่ยนมากับตา เขาก็คงไม่เชื่อว่ากูเฟยเยี่ยนจะสามารถตรวจสอบสมุนไพรที่ศาสตราจารย์แพทย์ห้องยาสำนักหมอหลวงยังตรวจสอบไม่พบได้ และไม่ว่าองค์หญิงหวายหนิงจะทำหลักฐานปลอมหรือไม่ การใส่ร้ายป้ายสีนี้ล้วนเป็เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้ว!
เซี่ยเสี่ยวหม่านเกิดความรู้สึกเสียใจในภายหลัง ในครั้งนี้ไม่ควรที่จะพามาจริงๆ !
เมื่อพบว่าเซี่ยเสี่ยวหม่านไม่ตอบอะไรมาสักพัก องค์หญิงหวายหนิงจึงได้เร่งรัดขึ้นมา “เจียงลี่อัน ในเมื่อเ้าก็สงสัยแล้วยังจะช้าอยู่ทำไม? หรือว่า้าให้เปิ่นกงจู่สั่งสอนเ้าว่าควรจัดการคดีอย่างไร? ”
ใต้เท้าเจียงฉวยโอกาสตัดสินใจอย่างเด็ดขาด “ทหาร ควบคุมตัวกูเฟยเยี่ยนบุคคลต้องสงสัยลงไป ตามกฎระเบียบแล้วควบคุมตามลำพัง หากไม่มีคำสั่งจากข้า ไม่ว่าใครก็ตามล้วนไม่อนุญาตให้เข้าใกล้! ”
แทบจะในขณะเดียวกันที่กูเฟยเยี่ยนได้เงยหน้าขึ้นมา นางครุ่นคิดจนเข้าใจคร่าวๆ แล้วว่าหัวใจสำคัญของคดีนี้อยู่ตรงไหน เมื่อสักครู่นี้หากนางไม่ได้คาดการณ์ผิดพลาด ฉีฟู่ฟางมีส่วนร่วมในคดีนี้จริงๆ ส่วนที่องค์หญิงหวายหนิงทำ ก็คือหลักฐานปลอม และจากการที่องค์หญิงหวายหนิงรีบร้อนเช่นนี้มีความเป็ไปได้ว่านางก็มีส่วนพัวพันอยู่ในคดีนี้ด้วย
คนโง่เขลาสองคนนี้แตะต้องห่อย่าวซ่านของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย ก็เป็เพราะ้าใส่ร้ายนางเท่านั้น ไม่ถึงกับ้าทำอันตรายชีวิตของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยและไม่กล้าทำเช่นนี้ด้วย กล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่าพวกนางไม่เพียงแต่ถูกจิ้งจอกเฒ่าหลอกใช้แล้ว แต่จนถึงบัดนี้เกรงว่าก็คงยังไม่ทราบถึงสรรพคุณแท้จริงของลิ่วตันซางลู่
เป้าหมายที่แท้จริงของจิ้งจอกเฒ่าคือตระกูลฉี ฉากสำคัญของเื่นี้…อยู่ในตอนหลังต่างหาก!
ในไม่ช้าหยาเว่ยก็ได้เข้ามา กูเฟยเยี่ยนไม่พูดไม่จาออกมาสักคำ และไม่ได้มีแผนจะแก้ต่างให้ตนเองอีกด้วย นางคาดเดาได้ว่าองค์หญิงหวายหนิงจะต้องเข้ามาทรมานบีบบังคับให้นางสารภาพ จากนั้นจึงดำเนินการอย่างเฉียบขาดแล้วค่อยรายงาน
นาง้าพนันสักตา ไม่ว่าองค์หญิงหวายหนิงจะมีความกล้ามากเพียงใด แต่นางก็ไม่กล้าที่จะสังหารคนของจิ้งหวางฝู่แน่นอน ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วยามนี้ นางเชื่อว่าตนเองพนันไหว เมื่ออดทนให้ผ่านคืนนี้ไป รอคอยเช้าวันพรุ่งนี้ที่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเสด็จกลับมา ฉากสำคัญของจริงก็จะได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!
หยาเว่ยได้ก้าวเดินเข้ามาใกล้ ในขณะนี้เองเซี่ยเสี่ยวหม่านจู่ๆ ก็ได้ก้าวมากางแขนทั้งสองข้างปกป้องกูเฟยเยี่ยนอยู่ด้านหน้าของนาง “เจียงลี่อัน จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไว้วางใจในตัวแพทย์หญิงกูอย่างแน่นอน! คนของจิ้งหวางฝู่เ้ากล้าจะคุมตัวตามอำเภอใจก็ลองดู! ”
เซี่ยเสี่ยหม่านตัวเล็กกว่ากูเฟยเยี่ยนครึ่งศีรษะ ร่างกายผอมแห้งบอบบางมาก แต่ในเวลานี้แผ่นหลังของเขาดูไม่เหมือนกับผู้ใหญ่อีกต่อไป แต่เป็การดึงดันดื้อรั้นของเด็กผู้ชายตัวน้อย
กูเฟยเยี่ยนทราบดีว่ากระต่ายน้อยตนนี้กำลังปกป้องศักดิ์ศรีของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไม่ใช่ปกป้องนาง แต่ว่าภายในจิตใจของนางก็ยังมีความอบอุ่นขึ้นมา นางกระซิบแ่เบา “วางใจได้ ข้าไม่เป็อะไรหรอก เ้ารีบกลับไปรายงานต่อเตี้ยนเซี่ย บอกว่า…บอกว่าข้ารอพระองค์เสด็จกลับมา”
“ให้มันน้อยๆ หน่อย จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเชียวนะ เ้าจะรอได้อย่างไร? ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านพึมพำอย่างเกิดโทสะ นอกจากเขาจะไม่ออกไปแล้ว แต่ตรงกันข้ามกลับข่มขู่ใต้เท้าเจียงต่อไป “เจียงลี่อัน ข้าพเ้าจะพูดเป็ครั้งสุดท้าย จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทรงไว้วางใจในแพทย์หญิงกูอย่างแน่นอน หากเ้าไม่เชื่อก็ควบคุมตัวข้าพเ้าไปด้วย! รอเตี้ยนเซี่ยเสด็จกลับเข้าเมืองมา เหอะๆ เ้าต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาทีหลังเอง! ”
“นี่…”
คำพูดของใต้เท้าเจียงยังไม่ทันได้ออกมา องค์หญิงหวายหนิงก็ได้ตบลงไปบนโต๊ะอีกครั้ง “สุนัขนู๋ไฉ กล้าดีอย่างไรมาข่มขู่ขุนนางราชสำนัก! เ้ามันเป็เพียงแค่สุนัขเฝ้าประตูของจิ้งหวางฝู่เท่านั้น ยังจะมาคิดเข้าข้างตนเองอีก! ทหาร เซี่ยเสี่ยวหม่านได้กระทำความผิดดังต่อไปนี้คือ ปกป้องผู้ต้องสงสัย ควบคุมตัวทั้งคู่ลงไปให้เปิ่นกงจู่! ”
“องค์หญิงโปรดระงับความโกรธ ระงับความโกรธ องค์หญิง หม่านกงกงก็…”
ใต้เท้าเจียงไม่้าควบคุมตัวเซี่ยเสี่ยวหม่านสักนิด ทว่าองค์หญิงหวายหนิงส่งแววตาดุร้ายมาทางเขา เขาจึงทำได้เพียงโบกมือแสดงเจตนาให้หยาเว่ยทำตามคำสั่ง
เซี่ยเสี่ยวหม่านยังคงปกป้องกูเฟยเยี่ยนไว้ด้านหลังเพื่อไม่ให้หยาเว่ยคุมตัว “ด้านหน้า นำทาง! ”
กูเฟยเยี่ยนรู้สึกว่าเซี่ยเสี่ยวหม่านจงใจถูกจองจำร่วมกับนาง นางไม่เข้าใจว่าเพื่ออะไร จึงทำได้เพียงเงียบไปก่อน
พวกเขาออกมานอกประตูใหญ่ไม่นานก็ปะทะเข้ากับฉีฟู่ฟางที่กำลังมุ่งหน้าเข้ามา ฉีฟู่ฟางมองไปที่พวกเขาก่อนที่จะหันไปมองคนในห้อง ในไม่ช้านางก็ตระหนักได้แล้วว่าแผนการขององค์หญิงหวายหนิงนั้นประสบความสำเร็จแล้ว
นางมีความสุขเป็อย่างยิ่ง จึงได้ตั้งใจหยุดชะงักตรงด้านข้างของกูเฟยเยี่ยนเป็พิเศษ ก่อนจะกระซิบกระซาบว่า “อยากจะสู้กับพวกเราตระกูลฉี เ้ายังมีคุณสมบัติไม่มากพอ! เหอะๆ มีความสามารถมากไม่ใช่หรือ เช่นนั้นก็ให้ชู้ของเ้ามาช่วยเ้าสิ! อุ๊ปส์ ข้าลืมไปได้อย่างไรว่า หากชู้คนนั้นของเ้าได้พบกับองค์หญิงหวายหนิงแล้วยังต้องโน้มกายแสดงความเคารพเลย ฮ่าๆ…”