หลังจากที่ได้ปรึกษากับหรงซิวเสร็จแล้วเื่ของเสี่ยวมู่อวี่ ใน่เวลาครึ่งเดือนต่อจากนั้นก็ไม่เจอกับพวกบุรุษบ่อยนัก
ทุกครั้งที่อวิ๋นอี้ถาม พ่อบ้านจะตอบว่า องค์ชายออกไปกับองค์ชายต่างเมืองทั้งสองท่าน
หลังจากที่ปิดเื่นี้ไว้ เขายังคงค้นหาต่อไปราวกับว่ามิมีกระไรเกิดขึ้น
อวิ๋นอี้รู้ว่าผลลัพธ์ถูกกำหนดไว้แล้ว
นางอธิบายให้เสี่ยวมู่อวี่ฟังว่าหากเขามิอยากจะถูกส่งกลับไปที่เป่ยิ จะต้องเชื่อฟังแล้วอยู่ในห้องให้ดี
รอให้ผ่านไปสองเดือน องค์ชายทั้งสองจะกลับแคว้นไปแล้ว เขาจะปลอดภัย
นางเตรียมตัวไว้แล้ว ทว่าผู้ใดจะรู้ว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไปกลางคัน
ผ่านไปครึ่งเดือน เผยยวนอี้และเผยหลางเย่กลับบอกว่า ราชวงศ์เป่ยิรีบสั่งให้พวกเขากลับไป
แน่นอนว่าหรงซิวต้องโล่งใจเป็ธรรมดา เขายังทำหน้าที่ได้ดี แสดงท่าทีเสียดายที่พวกเขากลับไป
เผยยวนอี้ได้แต่ส่ายหัวยิ้ม บอกว่า “เกรงว่าท่านพ่อจะมีเื่ให้ข้าไปทำอีกคราจึงขอพักไว้ก่อน รบกวนองค์ชายมาหลายวันแล้ว ต้องขออภัยด้วยจริงๆ”
“ราชวงศ์ของเราเป็บ้านพี่เมืองน้อง ต้าอวี่คือเป่ยิ เป่ยิคือต้าอวี่ มิจำเป็ต้องเกรงใจพ่ะย่ะค่ะ” หรงซิวเอามือไพล่หลังข้างหนึ่ง พูดอย่างใจเย็นพร้อมท่าทีที่สง่างาม
เผยยวนอี้ยกมือขึ้นแสดงความขอบคุณและกล่าวคำอำลาอีกครา
เขารีบจากไปเช่นนี้ ในวังจะต้องมีกระไรแน่ ทว่าหรงซิวรู้ขอบเขต หากถามไปมากกว่านี้ เกรงว่าจะทำให้เขาต้องระวังตัวมากขึ้น
“เช่นนั้นองค์ชายทั้งสองดูแลตัวเองด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ ถึงเป่ยิแล้วช่วยส่งสารมาบอกเราด้วย” หรงซิวหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อ “ข้าจะได้วางใจ”
“ขอบพระทัยมากพ่ะย่ะค่ะ”
เผยยวนอี้พูดอย่างเกรงใจเสร็จพลันขึ้นหลังม้าแล้วทั้งสองก็รีบออกไป ม้าวิ่งฝุ่นตลบ มองเห็นได้ชัดเจนภายใต้อาทิตย์ส่อง
ยังคงมีกลิ่นของการจากลาในบรรยากาศ ท้องถนนเต็มไปด้วยผู้คน อวิ๋นอี้ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “เหตุใดจู่ๆ พวกเขาถึงรีบกลับกันเล่าเพคะ มิใช่ว่าจะต้องอยู่สองเดือนหรือ?”
หรงซิวยักไหล่อย่างเกียจคร้าน ยื่นมือยาวของเขาออกไป วางบนไหล่ของนางแล้วกดน้ำหนักลง
อวิ๋นอี้ผลักไม่ออก ทำได้แค่มองเขาแก้มป่อง เขาฉีกมุมปากแล้วบีบจมูกนางด้วยรอยยิ้ม “จะบอกว่าเ้าโง่ก็มิผิดเลยนะเนี่ย ในวังต้องมีกระไรเกิดขึ้นน่ะสิ”
“เกิดกระไรขึ้นเล่าเพคะ?” นางถามด้วยความสงสัย “มิน่าล่ะ...”
“ข้าก็มิรู้ว่าเกิดกระไรขึ้น” หรงซิววางแขนบนไหล่ลากนางเข้าไปในบ้านแล้วพูดพลางเดินว่า “ข้ารู้เพียงว่าลูกชายของเราหายใจหายคอได้แล้ว”
“ใช่แล้วเพคะ!” อวิ๋นอี้พยักหน้าเห็นด้วย
ใน่ครึ่งเดือนที่ผ่านมา นับั้แ่ที่รู้ว่ามีเผยยวนอี้กับเผยหลางเย่ เสี่ยวมู่อวี่ก็เป็ราวกับนกขี้ใ ระมัดระวังตัวมากไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน
แม้แต่ในเรือนของเขาเอง เขายังมิกล้าส่งเสียงดัง
บางคราที่อวิ๋นอี้ไปหาเขา ก็อดมิได้ที่จะรู้สึกว่าเ้าตัวเล็กน่าช่างสงสารนัก
หลังจากส่งคนที่ชั่วร้ายไปแล้วสองคน อวิ๋นอี้ก็ะโไปบอกข่าวดีนี้กับเสี่ยวมู่อวี่
หลังจากที่เสี่ยวมู่อวี่รู้เื่นี้ เขาะโโลดเต้นด้วยความตื่นเต้น “ว้าว! ท่านแม่ดีกับข้ามาก!หงิงๆๆๆ”
เด็กน้อยออดอ้อนเป็ชุด กอดขาแล้วลูบหน้า จากนั้นต่อด้วยจุ๊บแล้วกอด ชมนางมิได้หยุดอย่างที่มิมีผู้ใดต้านทานได้
อวิ๋นอี้กลัวว่าจะทำเช่นนี้อีกจึงรีบขัดขึ้น “หยุด หยุด! รู้ว่าแม่ดี เช่นนั้นต่อไปก็เชื่อฟังหน่อยนะ”
เด็กน้อยตรงหน้าทำราวกับหัวเป็กลองป๋องแป๋งเสียเช่นนั้นแหละ
“แต่อย่างไรเสีย เ้าจะอยู่ในจวนองค์ชายได้มินาน” อวิ๋นอี้พูดล่วงหน้าราวกับกำลังคิดกระไรบางอย่าง
พลันเห็นเสี่ยวมู่อวี่หน้าซีดลงทันใด น้ำตาคลอเบ้า กำลังจะล้มลงได้ทุกเมื่อ
อวิ๋นอี้ถอนหายใจและพูดว่า “อย่าร้องไห้สิ ฟังแม่ก่อน”
นางพยายามใช้น้ำเสียงนุ่มนวลที่สุด ดึงเด็กน้อยขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ เอามือใหญ่โอบรอบมือเล็กๆ ของเขาแล้วลูบเบาๆ
“เ้าเป็องค์หญิงน้อยของเป่ยิ วันหนึ่งเ้าจะต้องกลับไป เพราะนั่นเป็ที่ที่เ้าเกิดและโต ตัวตนของเ้าถูกกำหนดให้ต้องแบกรับภาระมากมายแม้ว่าบางอย่างจะยากที่จะรับได้สำหรับเ้า จวนองค์ชายเป็ที่หลบภัยของเ้า ทว่าคนเรามิสามารถหลบหนีไปได้ตลอดชีวิต เ้าจะหลบซ่อนอยู่เช่นนี้มิได้ ถึงเวลาของเ้า เ้าจะหนีอย่างไรก็ไม่พ้น ในเมื่อเป็เช่นนี้ เหตุใดเ้ามิสู้อย่างกล้าหาญ มันและเอาชนะมัน ใช้ชีวิตอย่างมั่นคงให้ได้เล่า”
คำพูดของอวิ๋นอี้ค่อนข้างจะซับซ้อน แต่มันเป็สิ่งที่นางอยากจะบอกทั้งหมด
นางรู้ว่าเสี่ยวมู่อวี่อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ทว่าส่วนใหญ่แล้วในตอนที่คนเราตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ทำได้เพียงต้องเพิ่งตนเองในการเดินออกมา
ออกมาได้ก็ราวกับเกิดใหม่
นางกับหรงซิวสามารถช่วยเขาได้ชั่วขณะหนึ่ง มิใช่ตลอดไป
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวตนของเขาถูกกำหนดให้ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้มากเกินไป
อวิ๋นอี้มิรู้ว่าเสี่ยวมู่อวี่จะเข้าใจมากน้อยเพียงใด เห็นเพียงเขาร้องไห้สะอึกสะอื้น “ท่านแม่ไม่้าข้าแล้ว...ท่านแม่ไม่้าข้าแล้ว...”
นางมิมีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขน ปลอบโยนอย่างผู้เป็ที่รัก
มิใช่ว่าข้าไม่้าเ้า มิใช่ว่าข้าไม่รักเ้า ข้าเกรงว่าความรักที่มากเกินไปนี้ จะทำร้ายให้เ้าตายเร็วขึ้นน่ะสิ!
สุดท้ายเสี่ยวมู่อวี่ก็หลับไปในอ้อมแขนของนาง
อวิ๋นอี้วางเขาลงบนเตียงอย่างเบามือและระมัดระวัง เมื่อออกมาจากเรือน ก็รู้สึกอ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจ
นางกลับมาที่ห้องพลันเห็นหรงซิวอยู่ที่นั่นด้วย นางถามขณะเดินไปว่า “มิไปห้องหนังสือหรือเพคะ?”
“เพิ่งกลับเข้ามา” เขานั่งบนเก้าอี้ เอนกายริมหน้าต่างแล้วโบกมือให้นาง
คอที่เหนื่อยล้าของอวิ๋นอี้เจ็บ นางเอื้อมมือออกไปนวดเบาๆ “วันนี้ทำงานเสร็จแล้วหรือเพคะ?”
“ข้าคิดถึงเ้า จึงมาหาเ้า” หรงซิวพูดคำหวานที มีวิธีที่ทำให้นางหน้าแดงและต้านทานมิไหว ตีเขาไปเบาๆ หนึ่งที
บุรุษหนุ่มฉวยโอกาส คว้าข้อมือนางแล้วดึงอย่างแรง อวิ๋นอี้ยืนไม่อยู่จึงตกลงไปในอ้อมแขนของเขา
เขากอดนางไว้ในอ้อมแขน “เพิ่งกลับมาจากไปเจอเสี่ยวมู่อวี่หรือ?”
“เพคะ” เมื่อคิดถึงเสี่ยวมู่อวี่ นางก็ไม่สบายใจเล็กน้อยจึงบอกกับเขา “ข้าบอกกับเขาไปอย่างชัดเจนว่า เขาจะต้องกลับไปไม่ช้าก็เร็ว จึงให้เขาเข้าใจและเตรียมตัวเตรียมใจให้ดี”
“ไอ้ตัวเล็กร้องไห้อีกแล้วใช่หรือไม่?” หรงซิวมองออก น้ำเสียงปนด้วยเสียงหัวเราะ
อวิ๋นอี้เอนหัวไปซบเขา พยักหน้า จากนั้นจึงเงยหน้ามองเขาคอแข็ง “เขาต้องกลับไปที่เป่ยิจริงๆ หรือเพคะ? ฝ่าาก็รู้เื่ราชวงศ์เป่ยิ เขายังเล็กอยู่เลย...”
“ข้าจะช่วยเขา แต่ถึงอย่างไรเขาก็ต้องกลับไป" หรงซิวมองลงมา ดวงตาเต็มไปด้วยความจริงจัง “มิใช่เพลานี้ก็ต้องเป็วันใดสักวันในอนาคต พวกเราต้องเชื่อในตัวเขา ว่าเขาจะจัดการได้”
“เพคะ”
ใบหน้าของเขางดงาม สันกรามที่ดูคมคาย ตอนที่เขามองดูนางยิ่งดูน่าเชื่อถือ
อวิ๋นอี้อ้าปาก ราวกับว่าถูกอาคมพูดกระไรไม่ออกสักอย่าง
เื่ของเสี่ยวมู่อวี่จบลงในที่สุด แม้ว่าจะต้องจากไปก็คงอีกสักพัก นางเป็คนมองโลกในแง่ดี จึงทิ้งความทุกข์ไว้เื้ัชั่วคราว
ทั้งสองคุยกันเรื่อยเปื่อย พูดถึงอากาศของ่นี้
เป็เวลาหลายวันที่ลมแรงมาก หน้าต่างส่งเสียงหวีดหวิว ่ไม่กี่วันก่อนกู่ซือฝานได้ส่งคนมาเรียกให้นางไปเล่นว่าว จิตใจของอวิ๋นอี้เต็มไปด้วยเื่ของเสี่ยวมู่อวี่จึงปฏิเสธไป
ตอนนี้สององค์ชายกลับไปแล้ว กว่าจะได้ผ่อนคลายอารมณ์ลง นางจึงพูดกับหรงซิว "ข้าอยากไปเล่นว่าวกับกู่ซือฝาน"
“เล่นกับนางสนุกอย่างไรกัน?” หรงซิวขมวดคิ้วไม่เห็นด้วย “มิให้ไป”
“ฝ่าา!" อวิ๋นอี้ขมวดคิ้วและเรียกชื่อเขา “ฝ่าาจะจำกัดอิสรภาพของข้ามิได้นะเพคะ”
“ไม่อนุญาต” บุรุษหนุ่มโกรธจัด เลิกคิ้วสูงมองนาง “หากจะไปก็ไปกับข้า มิได้อยู่ด้วยกันกับเ้านานแล้ว หากเ้ายังจะเที่ยวเล่นกับนางอีก ข้าจะหึงแล้วนะ!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้