บทที่ 8 ทำด้วยหัวใจ
ชีวิตภายใต้ร่มเงาของตระกูลเว่ยนั้นราวกับ์บนดินเมื่อเทียบกับกระท่อมผุพังท้ายหมู่บ้าน ลู่เมิ่งและอาเป่าไม่ต้องกังวลเื่ปากท้องหรือความปลอดภัยอีกต่อไป ป้าจางและลุงหลี่ดูแลพวกเขาราวกับเป็นายน้อยคุณหนูจริงๆ อาเป่าได้เรียนหนังสือกับอาจารย์ที่เว่ยจิ้งส่งมาให้ ทำให้เด็กชายร่าเริงและมีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน
แต่สำหรับลู่เมิ่ง... นี่ไม่ใช่การพักผ่อน แต่เป็การเข้าสู่สมรภูมิรบรูปแบบใหม่ที่ใหญ่และซับซ้อนกว่าเดิม
เว่ยจิ้งทำตามสัญญาอย่างไม่มีบิดพลิ้ว เขาจัดหาพื้นที่หลังเรือนพักให้กลายเป็โรงงานขนาดย่อมของนาง มีหม้อทองแดงขนาดใหญ่ เตาหลอมที่ควบคุมความร้อนได้ดีกว่าเดิม และวัตถุดิบทุกอย่างที่นาง้า ไม่ว่าจะเป็ไขมันสุกรบริสุทธิ์ ขี้เถ้าจากไม้เนื้อดี หรือแม้แต่ดอกไม้นานาพันธุ์ที่หาได้ยากในตลาดทั่วไป
"นี่คืออาณาจักรของเ้า" เว่ยจิ้งกล่าวในวันที่โรงงานสร้างเสร็จ "จงสร้างสรรค์ปาฏิหาริย์ของเ้าให้ข้าเห็น"
ลู่เมิ่งไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง นางทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้กับการผลิต "ไข่มุก์" ล็อตแรกจำนวนหนึ่งร้อยก้อนเพื่อส่งให้ร้านหงจวงเก๋อตามสัญญา นางปรับปรุงสูตรของนางให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศที่หาได้
[วิเคราะห์... ไขมันสุกรจากฟาร์มหลวงมีจุดหลอมเหลวคงที่ ทำให้ควบคุมปฏิกิริยาสะพอนิฟิเคชันได้ง่ายขึ้น ค่า pH ของสบู่ล็อตใหม่คงที่อยู่ที่ 8.2... การสกัดกลิ่นหอมด้วยไขมันจากดอกมะลิหลวงให้ความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยสูงกว่าดอกไม้ป่า 23.4%]
ผลลัพธ์ที่ได้คือ ไข่มุก์รุ่นพรีเมี่ยม ที่มีเนื้อสบู่เนียนละเอียดดุจน้ำนม ฟองนุ่มละมุนราวกับปุยเมฆและกลิ่นหอมของดอกมะลิที่บริสุทธิ์และติดทนนานยิ่ง กว่าเดิม นางยังออกแบบตราประทับเล็กๆ เป็รูปดอกบัวแรกแย้ม ประทับลงบนสบู่ทุกก้อนเพื่อเป็เครื่องหมายการค้า
เมื่อเถ้าแก่เนี้ยแห่งร้านหงจวงเก๋อได้รับสินค้า นางถึงกับตกตะลึงในคุณภาพที่เหนือกว่าก้อนตัวอย่างที่เคยเห็นเป็สิบเท่า!
"์! นี่ไม่ใช่สบู่แล้ว! นี่มันคืองานศิลปะ!" นางอุทานอย่างตื่นเต้น
นางไม่รอช้า จัดงานเลี้ยงน้ำชาเชิญเหล่าฮูหยินและคุณหนูจากตระกูลใหญ่ๆ มาที่ร้าน เพื่อเปิดตัวไข่มุก์ อย่างยิ่งใหญ่ และมันก็ได้สร้างปรากฏการณ์สั่นะเื วงการสตรีชั้นสูงในเมืองเจียงหนานทันที! สบู่หนึ่งร้อยก้อนถูกขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่ถึงสองชั่วยาม! ยอดสั่งจองล็อตต่อไปยาวเหยียดจนเถ้าแก่เนี้ยต้องรีบส่งคนมาแจ้งข่าวดีกับลู่เมิ่งแทบ ไม่ทัน
ชื่อเสียงของ ไข่มุก์ และเถ้าแก่เนี้ยน้อยอาลู่ ผู้คิดค้นสูตรลับ กลายเป็หัวข้อสนทนาที่ร้อนแรงที่สุดในแวดวงสตรีชั้นสูง
ทว่า...ท่ามกลางความสำเร็จอันหอมหวาน...เงามืดของอดีตก็ยังคงตามหลอกหลอน นางอยู่เงียบๆ
วันหนึ่ง ขณะที่ลู่เมิ่งกำลังทดลองสกัดกลิ่นจากดอกกุหลาบในโรงงานของนาง อาเฉียง องครักษ์หน้าตายของเว่ยจิ้ง ก็เดินเข้ามาพร้อมกับข่าวบางอย่าง
"คุณหนูอาลู่ คุณชายสามให้ข้านำของมาให้" เขาวางกล่องไม้เล็กๆ ลงบนโต๊ะ
เมื่อลู่เมิ่งเปิดออกดู ก็พบว่าข้างในคือปิ่นปักผมเงินอันเล็กๆ ที่หักครึ่ง และเศษผ้าสีมอๆ ที่มีรอยไหม้เกรียม
หัวใจของนางหล่นวูบ "นี่มัน...อะไร?"
"ของพวกนี้ถูกพบในกองขี้เถ้าที่ตรอกซึ่งเ้าถูกทำร้ายในวันนั้น" อาเฉียงตอบเสียงเรียบ"คุณชายให้คนไปสืบมา...คนที่ไล่ตามเ้าในวันนั้นไม่ใช่ลูกสมุนธรรมดา แต่เป็นักเลงรับจ้างที่หัวหมู่จ้าวของเ้าไปจ้างวานมาอีกที พวกมันไม่ได้มีจุดประสงค์แค่ชิงสูตรลับ... แต่ได้รับคำสั่งให้ กำจัด เ้ากับน้องชายหลังจากได้สูตรมาแล้ว เพื่อตัดปัญหาในระยะยาว"
ความเย็นเยียบแล่นไปทั่วสรรพางค์กายของลู่เมิ่ง นางไม่เคยรู้เลยว่าตนเองเข้าใกล้ความตายมากขนาดนั้น!
"หลังจากที่พวกมันทำงานพลาดและถูกเ้าเล่นงานจนตาเกือบบอด พวกมันก็กลัวความผิดจึงหนีออกจากเมืองไปแล้ว" อาเฉียงเล่าต่อ "ส่วนหัวหมู่จ้าว... เมื่อแผนการล้มเหลว มันก็เก็บตัวเงียบอยู่ในหมู่บ้าน ไม่กล้าทำอะไรผลีผลามอีก... อย่างน้อยก็ในตอนนี้"
ลู่เมิ่งกำเศษผ้าที่ไหม้เกรียมนั้นไว้แน่นจนข้อนิ้วขาวซีด ความแค้นที่เคยสงบนิ่งอยู่ก้นบึ้งของหัวใจปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
"ข้า... ข้าเป็หนี้บุญคุณคุณชายสามอีกแล้ว"
"คุณชายบอกว่านี่ไม่ใช่การให้เปล่า... แต่เป็การลงทุนเพื่อปกป้อง ทรัพย์สิน ของเขา" อาเฉียงกล่าวตามที่ได้รับคำสั่งมาทุกคำพูด ก่อนจะโค้งคำนับแล้วเดินจากไป ทิ้งให้นางจมอยู่กับความคิดและความรู้สึกที่ซับซ้อน
คำพูดของอาเฉียงตอกย้ำสถานะของนางอย่างชัดเจน... นางคือทรัพย์สินของเว่ยจิ้ง ความปลอดภัยที่นางได้รับมานั้นมีราคาที่ต้องจ่าย คืออิสรภาพที่ค่อยๆ ถูกริดรอนไปทีละน้อย
ความรู้สึกอึดอัดนี้ทำให้นางหวนนึกถึงชีวิตในโลกเก่า แม้จะทำงานหนัก แต่ก็เป็นายของตัวเอง มีอิสระที่จะไปไหนทำอะไรก็ได้ แต่นางก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไปอย่างรวดเร็ว... เพราะในโลกนี้ นางไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไป นางมีอาเป่า... น้องชายที่นางต้องปกป้อง
เย็นวันนั้นลู่เมิ่งนำเงินส่วนแบ่งก้อนแรกที่ได้จากการขายสบู่ไปซื้อของขวัญให้น้อง ชาย มันคือพู่กันอย่างดีและแท่นฝนหมึกที่ทำจากหินชั้นเลิศ
"พี่หญิง! ของพวกนี้ต้องแพงมากแน่ๆ!" อาเป่าอุทานอย่างดีใจ แต่ก็แฝงด้วยความเกรงใจ
"ไม่แพงเลยสำหรับนักปราชญ์น้อยของพี่" ลู่เมิ่งกล่าวพลางจัดเสื้อผ้าให้น้องชาย "ตั้งใจเรียนให้ดี ในอนาคตเ้าจะต้องเป็ขุนนางใหญ่ให้ได้นะ"
"ข้าไม่อยากเป็ขุนนางหรอกขอรับ" อาเป่าตอบซื่อๆ "ข้าอยากเป็เหมือนพี่หญิง... สร้างของวิเศษที่ทำให้ทุกคนมีความสุข"
คำพูดของน้องชายทำเอาลู่เมิ่งน้ำตาซึม นางดึงเขาเข้ามากอดไว้แน่น "เ้าเป็เด็กดีจริงๆ อาเป่า"
บรรยากาศอันอบอุ่นของสองพี่น้องถูกขัดจังหวะโดยการมาเยือนของเว่ยจิ้ง เขาเดินเข้ามาในเรือนพักอย่างเงียบเชียบโดยไม่มีใครรู้ตัวล่วงหน้า
"ดูเหมือนกิจการของเ้าจะไปได้ดีกว่าที่ข้าคาดไว้อีกนะ" เขากล่าวพลางมองไปที่สองพี่น้องด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
"ทั้งหมดนี้ก็เพราะความเมตตาของคุณชาย" ลู่เมิ่งรีบทำความเคารพ
"ข้าบอกแล้วว่าไม่ใช่ความเมตตา... แต่เป็การลงทุน" เขาย้ำอีกครั้ง ก่อนจะยื่นม้วนกระดาษให้นาง "ข้ามีงานใหม่ให้เ้าทำ"
ลู่เมิ่งคลี่ม้วนกระดาษออกดู มันคือรายชื่อของขวัญที่จะส่งไปยังวังหลวง เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันประสูติขององค์ไทเฮา (พระพันปีหลวง) ในอีกสองเดือนข้างหน้า ตระกูลใหญ่ทุกตระกูลจะต้องส่งของขวัญที่ดีที่สุดของตนเอง เข้าไปถวายเพื่อแสดงความจงรักภักดี
และในรายการของตระกูลเว่ยปีนี้... นอกจากแพรไหมชั้นเลิศและหยกมงคลแล้ว เว่ยจิ้งยังเพิ่มรายการใหม่เข้าไปหนึ่งอย่าง...
"ชุดเครื่องประทินผิว ไข่มุก์ รุ่นพิเศษ... จำนวน 1 ชุด"
ลู่เมิ่งถึงกับมือสั่น! "คุณชาย! นี่... นี่มัน..."
"ใช่...ข้าจะให้เ้าสร้างสรรค์ของขวัญที่ดีที่สุดเพื่อถวายแด่องค์ไทเฮาในนามของ ตระกูลเว่ย" เว่ยจิ้งกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่แฝงด้วยความกดดันมหาศาล "นี่คือโอกาสที่เ้าจะได้พิสูจน์ตัวเอง... และเป็โอกาสที่ ไข่มุก์ ของเ้าจะได้เป็ที่รู้จักไปทั่วทั้งแผ่นดิน"
[ภารกิจใหม่ สร้างสรรค์ชุดของขวัญถวายองค์ไทเฮา... ระดับความยาก SSS... รางวัล ชื่อเสียงและบารมี... ความเสี่ยง หากล้มเหลวจะถูกลงโทษสถานหนัก อาจมีโทษถึงปะาชีวิต!]
เสียงของเทียนฉี่ดังเตือนในหัวราวกับเสียงระฆังแห่งความตาย!
นี่ไม่ใช่แค่การค้าขายอีกต่อไปแล้ว! แต่มันคือการนำชีวิตของนางและน้องชายไปผูกไว้กับการเมืองในราชสำนักอันน่า สะพรึงกลัว! การถวายของแด่เชื้อพระวงศ์นั้นไม่ใช่เื่ล้อเล่น หากของนั้นไม่เป็ที่พอพระทัยหรือเกิดข้อผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย โทษทัณฑ์ที่ตามมานั้นเกินกว่าที่นางจะจินตนาการได้!
"ข้า...ข้า..." นางพยายามจะปฏิเสธ แต่คำพูดกลับจุกอยู่ที่ลำคอ
เว่ยจิ้งมองนางด้วยสายตาที่เ็า "เ้าไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ... เถ้าแก่เนี้ยน้อย"
เขากำลังบอกนางเป็นัยว่าชีวิตของนางเป็ของเขา เขาจะมอบโอกาสให้นางโบยบินสูงเทียมฟ้าก็ได้ หรือจะผลักนางให้ตกลงมาแหลกสลายกับพื้นก็ได้เช่นกัน
ความกดดันมหาศาลถาโถมเข้าใส่นางจนแทบหายใจไม่ออก นางมองหน้าเว่ยจิ้ง มองหน้าน้องชายที่ยังไร้เดียงสา แล้วก้มลงมองมือของตัวเองที่กำลังสั่นเทา...
นางไม่มีทางเลือกอื่น... นอกจากจะต้องทำให้สำเร็จ!
"ข้าน้อย...รับคำสั่งเ้าค่ะ" นางตอบรับด้วยเสียงที่หนักแน่น แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความหวาดหวัน
เว่ยจิ้งพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งะเิเวลาลูกใหญ่ไว้ให้นางแต่เพียงผู้เดียว
คืนนั้น ลู่เมิ่งขังตัวเองอยู่ในโรงงาน นางมองกองวัตถุดิบชั้นเลิศที่อยู่ตรงหน้า แต่ในหัวกลับว่างเปล่า ความกดดันทำให้ความคิดสร้างสรรค์ของนางหยุดชะงัก
"เทียนฉี่... คำนวณความน่าจะเป็ที่ข้าจะทำสำเร็จ"
[กำลังคำนวณ... เนื่องจากมีปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้จำนวนมาก เช่น รสนิยมส่วนพระองค์ขององค์ไทเฮา และการเมืองในราชสำนัก... อัตราความสำเร็จจึงอยู่ที่ 15.3% เท่านั้น]
ตัวเลขนั้นราวกับค้อนปอนด์ที่ทุบลงมาซ้ำเติมจิตใจของนาง
นางทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง น้ำตาเริ่มเอ่อคลอขึ้นมาเป็ครั้งแรกนับั้แ่วันที่รอดชีวิตมาได้ นางรู้สึกโดดเดี่ยว... อ่อนแอ... และไร้ทางสู้...
"พี่หญิง..."
เสียงเล็กๆ ดังขึ้นที่หน้าประตู อาเป่าเดินเข้ามาพร้อมกับถ้วยน้ำชาอุ่นๆ ในมือ เขามองพี่สาวที่นั่งอยู่บนพื้นด้วยแววตาเป็ห่วง
"ข้าเห็นท่านยังไม่นอน เลยชงชามาให้ขอรับ"
ลู่เมิ่งรีบปาดน้ำตาทิ้ง "ขอบใจนะ... พี่แค่...แค่คิดอะไรนิดหน่อย"
อาเป่าเดินเข้ามานั่งข้างๆ วางถ้วยชาลง แล้วหยิบบางอย่างออกมาจากแขนเสื้อ มันคือตุ๊กตาไม้ตัวเก่าที่นางเคยแกะให้เขาในกระท่อมหลังเก่า
เขาบรรจงวางตุ๊กตาไม้ตัวนั้นลงข้างๆ สบู่ไข่มุก์ก้อนหนึ่ง
"พี่หญิง... ท่านจำได้หรือไม่ ตอนที่ข้าป่วยหนัก ท่านบอกข้าว่าท่านจะสร้างของวิเศษขึ้นมา" เด็กชายกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเกินวัย "สำหรับข้า... ไม่ว่าจะเป็ตุ๊กตาไม้ตัวนี้ หรือสบู่หอมๆ ก้อนนี้... ทั้งสองอย่างล้วนเป็ของวิเศษเหมือนกัน... เพราะมันคือสิ่งที่พี่หญิงสร้างขึ้นมาด้วยความรัก"
เขาเงยหน้าขึ้นสบตาพี่สาว "ข้าไม่รู้ว่าท่านกำลังกังวลเื่อะไร... แต่ข้าเชื่อว่า... แค่ท่านทำมันด้วยหัวใจ... มันก็จะเป็ของขวัญที่ดีที่สุดในโลกแล้วขอรับ"
คำพูดที่บริสุทธิ์และจริงใจของน้องชาย... ราวกับแสงสว่างที่สาดส่องเข้ามาในหัวใจที่มืดมิดของลู่เมิ่ง
นางดึงน้องชายเข้ามากอดไว้แน่น ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย "ขอบใจ... ขอบใจนะอาเป่า"
ใช่แล้ว... นางลืมไปได้อย่างไร? นางลืมหัวใจดวงเดิมของนางไปได้อย่างไร? สิ่งที่ทำให้นางประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่ความรู้ทางเคมี... แต่เป็ความปรารถนาที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดเพื่อปกป้องคนที่นางรัก
นางคลายกอดออกจากน้องชาย เช็ดน้ำตาจนแห้งสนิท ดวงตาของนางกลับมาทอประกายแห่งความมุ่งมั่นอีกครั้ง... แต่คราวนี้มันไม่ใช่ประกายไฟแห่งการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด... แต่เป็ประกายไฟแห่งศิลปินผู้พร้อมจะสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอก!
"อาเป่า เ้าพูดถูก" นางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่แท้จริง "ของขวัญชิ้นนี้... ข้าจะทำมันด้วยหัวใจ!"
นางลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตด้วยจิติญญาใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม... จิติญญาของผู้ที่จะสร้างสรรค์ของขวัญแห่งตำนาน...เพื่อถวายแด่สตรีผู้เป็ใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน