ฉินอวี่ขมวดคิ้ว
เื่ของปัญหาที่อันดับสองพูดถึง ฉินอวี่เคยนึกถึงมาก่อนแล้ว ั้แ่ได้รู้สถานะของอันดับห้า ว่าเป็หลานของผู้นำฝ่ายวานรยุทธ์ เขาจึงมีสถานะที่สูงส่ง แม้ว่าตนเองจะมีชีวิตออกไปจากหอคอยขัดเกลา แต่ผู้นำฝ่ายวานรยุทธ์คงไม่ปล่อยตนเองไปโดยง่ายอย่างแน่นอน
แต่ฉินอวี่ก็ไม่ได้เป็กังวลมากนัก เขาได้รู้เื่เกี่ยวกับสัญญาไท่กู่มาจากเสี่ยหยวนแล้ว ยอดฝีมือของหยาจื้อสิบสามฝ่ายไม่สามารถลงมือทำร้ายศิษย์วัยหนุ่มสาวของสำนักยุทธ์ว่านจ้งได้ ไม่เช่นนั้น จะเป็การละเมิดสัญญาไท่กู่!
อย่างไรก็ตาม ฉินอวี่ได้เห็นมาแล้วในตอนที่เอาชนะเ้าสิบเอ็ด ว่าวานรยุทธ์ที่น่าสะพรึงตัวนั้น้าจะสังหารตนเอง แต่เป็เพราะใบไม้ที่ร่วงหล่นลงมาจึงทำให้การโจมตียุติลง จากจุดนี้ ฉินอวี่จึงได้ข้อสรุปว่าสัญญาไท่กู่คือสิ่งจำเป็ที่ต้องคงอยู่ต่อไป อีกทั้ง ยังคอยเป็สิ่งใช้ปราบปรามกลุ่มของหยาจื้อสิบสามฝ่าย
เพียงแต่ฉินอวี่ก็ไม่กล้าประมาท และยังต้องระวังตัวจากฝ่ายวานรยุทธ์ให้มากขึ้น
เสี่ยหยวนนิ่งไปเป็เวลานาน ก่อนจะส่งเสียงออกมา “ก็มีสัญญาไท่กู่อยู่มิใช่หรือ?”
เมื่ออันดับสองเห็นดังนี้ เขาก็พูดขึ้นอีกครั้ง “เ้าคิดว่า สัญญาไท่กู่นั่นจะปกป้องชีวิตของเขาได้หรือ? เ้าอย่าลืมสิ สัญญาไท่กู่มีข้อจำกัดของมันอยู่ หากพบเื่ใดที่ไม่อาจแก้ไขได้ สามารถเชิญผู้พิทักษ์สัญญามาทำการพิจารณาได้ ผู้เป็ฝ่ายผิดจะต้องถูกลงโทษในเหวลึก เ้าคิดว่าผู้นำฝ่ายวานรยุทธ์จะไม่เชิญผู้พิทักษ์สัญญามาทำการตัดสินเื่นี้หรือ? อีกอย่างเ้าเด็กคนนี้ลงมือสังหารอันดับห้า วันข้างหน้า เขาต้องถูกส่งไปยังเหวลึกแน่นอน”
เสี่ยหยวนร่างกายสั่นเทาอย่างรุนแรง ในใจของเขาพยายามนึกทบทวนสัญญาไท่กู่ดูอย่างละเอียด เป็เพราะเขาเข้ามายังหอคอยขัดเกลาั้แ่ยังเล็ก ความเข้าใจเื่ของสัญญาไท่กู่จึงหยุดลงเพียง่ที่เขายังเป็เด็กเท่านั้น และเมื่อผ่านมานานหลายปี เขาจึงลืมเลือนไปหลายเื่ แต่ตอนนี้เมื่อได้ฟังคำพูดของอันดับสอง เสี่ยหยวนจึงนึกขึ้นมาได้ว่ามีเงื่อนไขดังกล่าวระบุไว้ในสัญญา!
ใบหน้าของฉินอวี่ดูมืดมนไปในทันที เขานึกไม่ถึงว่าในสัญญาไท่กู่จะมีเงื่อนไขเช่นนี้ระบุเอาไว้ และตนเองยังได้สังหารผู้เป็หลานของผู้นำฝ่ายวานรยุทธ์ เขาจะไม่มีวันยอมหยุดเื่นี้ และจะต้องหาหนทางสังหารตนเองแน่นอน เมื่อพิจารณาจากสัญญาไท่กู่แล้ว เขาจะไม่ลงมือด้วยตนเองแน่นอน แต่จะต้องยอมแลกทุกวิถีทางเพื่อส่งตนเองไปยังเหวลึก!
อย่างที่อันดับสองได้พูดมา นับั้แ่ตนเองสังหารอันดับห้าไป ทุกสิ่งก็ถูกกำหนดไว้แล้ว? จู่ๆ ฉินอวี่ดูเหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ เขาเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว และมองไปทางอันดับหนึ่งด้วยดวงตาที่แฝงความชั่วร้าย และดูเหมือนอันดับหนึ่งจะเข้าใจสิ่งนี้ ดังนั้น เขาจึงไม่ได้ลงมือั้แ่ต้น แต่กลับคิดจะใช้ประโยชน์ตนเองเพื่อเข้าสู่ชั้นที่เจ็ดของหอคอยขัดเกลา
แต่สิ่งที่ฉินอวี่ยังไม่เข้าใจคือ หากอันดับหนึ่งเองก็ยังไม่มั่นใจว่าจะได้เืหยาจื้อเช่นกัน แล้วทำไมเขาจะต้องเสียเวลาวางแผนกำจัดตนเองด้วย ดูเหมือนว่า เขาจะต้องมั่นใจอย่างแน่นอนว่าจะต้องได้มันมา
หากว่าเป็ไปตามนี้ เช่นนั้นแล้ว พวกฉือเซียวทั้งเจ็ดคนคงเป็ประการแรกที่อันดับหนึ่งนำมาใช้บีบบังคับตนเอง และประการที่สองคือเื่เหวลึก หากตนเองได้รับเืของหยาจื้อ อันดับหนึ่งจะต้องเปิดไพ่ประลองขึ้นมาแน่นอน ถึงเวลานั้น หากตนเองต้องเข้าไปยังเหวลึกจะต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่นอน และท้ายที่สุดจะต้องนำเืของหยาจื้อออกมาแลกเปลี่ยนเพื่อปกป้องตนเอง
ฉินอวี่รู้สึกได้แต่เพียงว่าอันดับหนึ่งได้วางแหตาข่ายฟ้าเอาไว้นานแล้วเพื่อรอให้ตนเองเข้ามาติดกับ และตัดเส้นทางหนีของตนเองไว้อีกด้วย ถ้าไม่ได้คำพูดของอันดับสอง ตอนนี้ตนเองจะต้องตายอย่างไรก็ไม่อาจรู้ได้
“เมื่อเข้าไปยังชั้นที่เจ็ดของหอคอยขัดเกลาจะสามารถเืของหยาจื้อได้ใช่หรือไม่?” ฉินอวี่ถามขึ้นอย่างทันทีทันใด
อันดับสองขมวดคิ้วเล็กน้อย เขานึกไม่ถึงว่าฉินอวี่จะมาคิดถึงเืของหยาจื้อขึ้นมาในเวลานี้ หากเขาไม่เห็นแก่หน้าของเสี่ยหยวน เขาก็คงจะถากถาง
อันดับสองระงับความคิดของเขาเอาไว้ และพูดออกไป “การเข้าสู่ชั้นที่เจ็ดของหอคอยขัดเกลานั่นคือจุดเริ่มต้น เ้าคิดว่าอันดับหนึ่งพาคนมามากมายเช่นนี้เพื่อหกชั้นก่อนหน้าหรือ?”
“ในระยะเวลาหลายปีนับไม่ถ้วนนี้ มีคนจำนวนไม่น้อยที่จับกลุ่มกันเข้าไปยังชั้นที่เจ็ด แต่มีคนจำนวนไม่มากนักที่รอดชีวิตออกมา และในบรรดาผู้ที่ได้รับเืของหยาจื้อไป หมื่นกว่าปีที่ผ่านมาก็มีปู่ของข้าที่ได้รับมันมาแล้ว” อันดับสองพูดอย่างภาคภูมิใจ
“ปู่ของเ้าเคยเล่าเื่เกี่ยวกับชั้นที่เจ็ดให้เ้าฟังบ้างหรือไม่?” ฉินอวี่ยังคงถามต่อไป ปู่ของอันดับสองคือผู้นำของเผ่าหยาจื้อ และยังเป็คนเดียวที่ได้เข้าไปยังชั้นที่เจ็ดและได้สายเืหยาจื้อได้ใน่ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฉะนั้นจึงน่าจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับชั้นที่เจ็ดเป็อย่างดี
ในเมื่ออันดับหนึ่งมีความมั่นใจว่าเขาจะต้องได้เืของหยาจื้อ แสดงว่าเขาต้องมีเหตุผลบางอย่างแน่นอน
“ถึงแม้จะเข้าไปในชั้นที่เจ็ด แต่ต้องจำไว้ว่าอย่าพยายามต่อสู้กับเจตนารมณ์ของสายเืบรรพชน ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าจะต้องพบเจอกับอะไรต่อไป” อันดับสองพูดอย่างหมดความอดทน
“อันดับสอง หากเ้ารู้อะไรเกี่ยวกับชั้นที่เจ็ดก็พูดออกมาให้หมด หวังซิงเฉินไม่ได้้าจะสายเืของหยาจื้อ!” เสี่ยหยวนรู้สึกได้ว่าอันดับสองเริ่มหมดความอดทน จึงส่งสัญญาณเสียงไป หลังจากได้รู้จักสนิทกันใน่หลายเดือนที่ผ่านมา เสี่ยหยวนรู้ดีว่าฉินอวี่ไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ และที่ถามออกไปเช่นนี้ เขาจะต้องมีเหตุผลบางอย่างแน่นอน
ในตอนนี้ ไม่เพียงแต่เื่ที่เกี่ยวกับฉินอวี่ แต่ยังเกี่ยวข้องกับโอกาสในการกวาดล้างตระกูลหยาจื้อของเขาอีกเช่นกัน!
อันดับสองเหลือบมองใบหน้าที่บิดเบี้ยวและน่าเกลียดของเสี่ยหยวน และเริ่มอดทนไม่ไหวอีกแล้ว เสี่ยหยวนเป็เช่นนี้ ก็คงมีเหตุผลของเขาเช่นกัน หลังจากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดอย่างเ็า “ในชั้นที่เจ็ด นอกจากิญญาอัคคีที่แข็งแกร่งว่าหกชั้นก่อนหน้าแล้ว ก็ไม่มีอะไรแตกต่างกัน แต่หาก้าเืของหยาจื้อ ก็จำเป็ต้องเข้าไปยังแดนมรณะ แม้ว่าปู่ของข้าจะไม่เคยกล่าวถึงแดนมรณะ แต่ข้าก็พอจะคาดเดาได้ว่าที่นั่นจะต้องมีััมรณะปกคลุมอยู่อย่างแน่นอน”
ััมรณะ!
อย่างนี้นี่เอง
ฉินอวี่หรี่ตาทั้งสองลง เื่ราวในใจของเขาก็เชื่อมต่อกันทันที
ในตอนที่ตนเองต่อสู้กับอันดับห้านั้น อันดับหนึ่งจะต้องดูออกแน่นอนว่านั่นคือเพลิงมรณะ ดังนั้น อันดับหนึ่งจึงต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อคิดร้ายกับเขาแน่นอน
“เื่นี้จะต้องคิดและทำอย่างรอบคอบ ข้าต้องทำอย่างไรให้เ้าได้สมปรารถนา?” ฉินอวี่เยาะเย้ยอยู่ในใจ เมื่อแน่ใจแล้วว่าอันดับหนึ่งจะต้องอาศัยตนเองเพื่อเืของหยาจื้อ ฉินอวี่จึงไม่เร่งรีบ
ทันใดนั้น ฉินอวี่ก็ถามต่อไป “อันดับสอง ไม่ทราบว่าพละกำลังอย่างเ้าสามารถเข้าไปในเหวลึกได้ลึกมากเพียงใด?”
“ส่วนลึกของเหวลึก? เหอๆ คนนับแสนของเผ่าหยาจื้อต่างเข้าไปในเหวลึกได้ไม่มากเท่าใดนัก ส่วนมากแล้วพวกเรามักจะเผชิญหน้ากันตรงจุดที่ทั้งสองฝ่ายมากัน แต่หากเ้า้าเข้าไปยังส่วนลึกจริงๆ ั้แ่โบราณมา ผู้ที่ได้เข้าไปในเหวลึกนั้น มีน้อยคนนักที่จะรอดชีวิตออกมาซึ่งรวมถึงปู่ของเสี่ยหยวนด้วย” อันดับสองพูดอย่างเฉยเมย
ฉินอวี่พยักหน้าอย่างหนักแน่น และเหลือบมองเสี่ยหยวน จึงพบว่าสีหน้าของเขาดูซับซ้อนและเ็ป ฉินอวี่เข้าใจความรู้สึกของเขาเป็อย่างดี หากปู่ของเขาไม่เข้าไปในตอนนั้น เขาก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์อย่างทุกวันนี้
“พละกำลังของจอมปีศาจร้ายนั่นแข็งแกร่งเพียงใดกัน?” ฉินอวี่จำได้ว่าเสี่ยหยวนเคยพูดถึงว่าปู่ของเขาเป็ผู้แข็งแกร่งในระดับสูงสุดของขั้นเขตแดนเต๋า แม้แต่คนระดับนี้ยังไม่สามารถกลับออกมาได้ สิ่งนี้ทำให้ฉินอวี่ใเป็อย่างมาก
“ไม่รู้หรอก แต่หากมองจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสนามรบของเหวลึก จะต้องมีพละกำลังแข็งแกร่งกว่าหยาจื้อสิบสามฝ่ายเป็อย่างมาก”
“ในเมื่อเป็เช่นนี้ ในเมื่อจอมปีศาจสามารถเข้าไปยังสนามรบของเหวลึกได้ แล้วเหตุใดจึงไม่สามารถเข้าถึงเขตของเผ่าหยาจื้อ?” ฉินอวี่พูดอย่างงุนงง หากจะว่าไปตามเหตุผลแล้วจอมปีศาจนั่นจะต้องแข็งแกร่งกว่าหยาจื้อสิบสามฝ่ายอย่างแน่นอน และควรจะออกมาจากเหวลึกได้นานแล้ว
“เ้าคิดว่าค่ายกลพลังเวทที่บรรพชนในตอนนั้นสร้างไว้ จะเป็สิ่งที่พวกเขาทำลายได้โดยง่ายหรือ? ในเหวลึก มีเพียงระดับเขตแดนเต๋าเท่านั้นที่สามารถเดินทางเข้าไปถึงสนามรบของเหวลึกได้ หากสูงขึ้นไปกว่าระดับเขตแดนเต๋า นอกจากจะต้องทำลายค่ายกลพลังเวทเสีย มิเช่นนั้น ก็อย่าได้หวังออกไปจากเหวลึกอีกตลอดชีวิต”
ฉินอวี่หรี่ตาลงมองและพูดขึ้น “หรืออาจบอกได้ว่า หากข้าเข้าไปยังเหวลึก ก็จะเหลือเพียงหนทางแห่งความตายเท่านั้นหรือ?”
“อย่าว่าแต่เ้าเลย แม้ว่าจะเป็ผู้แข็งแกร่งระดับเขตแดนเต๋าของเผ่าหยาจื้อได้เข้าไปก็ต้องตายเช่นกัน เว้นแต่ว่าเ้าจะสามารถแปลงเป็คนของจอมปีศาจได้ ไม่เช่นนั้น จะต้องตาย!” อันดับสองพูดประชดประชัน ตอนนี้รู้จักความกังวลใจแล้วหรือ?
“แสร้งแปลงเป็คนของจอมปีศาจ?” ฉินอวี่ตกตะลึงในใจ และเริ่มคิดอะไรขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะถามออกไป “แล้วพวกเ้าสามารถตัดสินได้อย่างไรว่าเป็คนของฝั่งจอมปีศาจ?”
“ยังจำเป็ต้องตัดสินด้วยหรือ? โดยทั่วไปคนของฝ่ายจอมปีศาจที่หลงเหลือ ล้วนมีรอยผนึกฝ่ามือรอยหนึ่งอยู่บนร่างกาย รอยประทับฝ่ามือนี้เป็สิ่งที่ไม่อาจปกปิดเอาไว้ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้น จอมปีศาจที่หลงเหลืออยู่ก็ไม่้าให้เก็บซ่อนมัน พวกเขามีความภูมิใจในสถานะของตนเองมาก” อันดับสองอธิบาย
ดวงตาส่วนลึกของฉินอวี่เต็มไปด้วยความใ
รอยผนึกฝ่ามือ?
ไม่รู้ว่ารอยผนึกฝ่ามือนั้นเป็อย่างไรกัน หากข้าใช้รอยผนึกฝ่ามือของหมัดข้างขวาแสร้งทำเป็คนของจอมปีศาจ... ไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่
หากเป็ไปได้ดังนี้ เช่นนั้นแล้ว... ไม่เพียงแต่เหวลึกจะไม่ใช่ที่ฝังศพของข้าแล้ว ในทางกลับกันอาจทำให้ข้าได้รับของดีอีกจำนวนไม่น้อย และสามารถได้รอยผนึกฝ่ามืออีกเป็จำนวนมาก!
“ผนึกฝ่ามือของพวกเขาเป็อย่างไรกัน?” ฉินอวี่ระงับความตื่นเต้นไว้ และถามออกไปอีกครั้ง
“รอยผนึกฝ่ามือของพวกเขาแต่ละคนแตกต่างกัน ตำแหน่งก็ต่างกันไป และมักมีสีสันที่แปลกประหลาด” อันดับสองขมวดคิ้วแน่นและกวาดสายตามองฉินอวี่ ไม่รู้ว่าฉินอวี่จะถามละเอียดเช่นนี้ไปเพื่ออะไร เป็ไปได้หรือไม่ว่า... คนผู้นี้จะ้าปลอมไปเป็คนของจอมปีศาจ?”
เหอๆ นี่เ้ามีความปรารถนาอย่างนั้นจริงหรือ?
ด้วยเพราะเห็นแก่เสี่ยหยวน อันดับสองจึงระงับอารมณ์ตนเองไว้ และพูดออกไป “ข้าขอแนะนำว่าเ้าอย่าได้คิดจะแกล้งเข้าไปเป็คนของจอมปีศาจ หลายปีมานี้ ไม่ใช่ว่าเผ่าหยาจื้อของข้าจะไม่เคยลองทำ แต่ไม่มีผู้ใดทำสำเร็จมาก่อน อันดับหนึ่ง้าเพียงเืของหยาจื้อมิใช่หรือ หากเ้าอยากมีชีวิตรอด ก็จะต้องนำเืของหยาจื้อมาให้ได้ และเมื่อมีเืของหยาจื้อมาแลกเปลี่ยน บางทีก็อาจได้รับโอกาสดีในชีวิต”
ฉินอวี่ทำทีว่าพยักหน้า แต่ในใจกลับเยาะเย้ย ในครั้งนี้ เขาจะต้องทำให้อันดับหนึ่งล้มเหลวและสูญเสียสิ่งที่้า
“้าจะอาศัยเพลิงมรณะของข้าเพื่อเข้าสู่แดนมรณะใช่หรือไม่? คิดจะดีดลูกคิดในรางแก้ว ครั้งนี้ข้าจะต้องได้เืของหยาจื้อ และจะอาศัยแดนมรณะยกระดับพลังของเพลิงมรณะ!”
