ถึงจะได้อันดับหนึ่งของงานแล้ว แต่พิธีปิดงานก็กินเวลาอยู่นาน กว่าจะเสร็จพิธีทั้งหมดก็ถึงเวลาเที่ยงเสียแล้ว
ผู้คนในเมืองอวิ๋นหลิวล้วนจากไปด้วยความพอใจ ไม่เพียงได้เห็นอัจฉริยะของตระกูลถัง ‘ถังเหล่ย’ ในวันนี้ ทั้งยังได้เห็นตระกูลตงฟางกับตระกูลถังปะทะกันอีกด้วย ต่อไปทั้งสองตระกูลต้องแก้แค้นกันแน่
“ผู้นำถัง คืนนี้ท่านระวังตัวด้วย ข้ากังวลว่าทูตเยียนคนนี้จะ...”
ขณะที่คนบริเวณรอบๆ กำลังค่อยๆ ทยอยออกไป เยว่มู่จือที่ยืนอยู่ข้างถังจงเวยและกำลังมองไปด้านหน้ากล่าวออกมา
ต่อให้เขาไม่ได้พูดต่อ ถังจงเวยก็เข้าใจแจ่มแจ้ง
“ค่อยแก้ไขไปตามสถานการณ์ เ้าเมืองเยว่ไม่ต้องกังวล!”
ถึงถังจงเวยจะพูดเช่นนี้ แต่ในใจกลับไม่มั่นใจเลยสักนิด
อีกฝ่ายเป็ถึงยอดฝีมือระดับยอดยุทธ์ อีกทั้งยังมีเฮยฉานฉู่ที่อยู่ในเงามืดอีกคน ต่อให้มีอวิ๋นเมิ่งคอยคุ้มกัน ตระกูลถังก็ยังตกอยู่ในอันตรายอยู่ดี
ส่วนถังเหล่ยกลับไปที่ตระกูลถังนานแล้ว หลังจากกลับไป ศิษย์ตระกูลถังล้วนเข้ามาแสดงความยินดี แต่ยามนี้ถังเหล่ยไม่มีเวลามาสนใจพวกเขา เขาปิดประตูขังตัวเองอยู่ในห้อง
ตอนที่ถังเหล่ยทะลวงระดับผู้ชำนาญยุทธ์ ิญญายุทธ์ในร่างอาจเปิดเผยไปเสี้ยววิ แม้คนส่วนใหญ่จะรับรู้ไม่ได้ แต่เยียนหลิงซานยอดฝีมือระดับยอดยุทธ์ต้องััถึงความแข็งแกร่งของิญญายุทธ์ในร่างถังเหล่ยได้แน่
ที่อีกฝ่ายเชิญเขาไปงานเลี้ยงตอนกลางคืน เกรงว่าจะเกิดเื่แล้ว
เขานั่งลงบนเตียง แล้วตรวจดูจุดตันเถียนของตัวเอง พลังสีทองสายหนึ่งโผล่ออกมาจากจุดตันเถียนของถังเหล่ย ก่อนจะวนรอบร่างกายถังเหล่ยสักครู่ แล้วกลับมาในจุดตันเทียนอีกครั้ง
เหมือนร่างของัคชสารสีทองในจุดตันเถียนจะใหญ่ขึ้นมาบ้าง
“ในที่สุดก็ทะลวงระดับผู้ชำนาญยุทธ์ได้แล้ว แต่เหมือนิญญายุทธ์จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเป็พิเศษ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ถังเหล่ยไม่เข้าใจ โดยปกติหลังจากที่ผู้ฝึกตนทะลวงระดับ ิญญายุทธ์จะเกิดการเปลี่ยนแปลง
ยามที่คนปกติทะลวงระดับผู้ชำนาญยุทธ์ได้แล้วนั้น ิญญายุทธ์จะเกิดการวิวัฒนาการในระดับหนึ่งจนแข็งแกร่งมากขึ้น ถึงแม้ระดับไม่เพิ่มขึ้น แต่พลังอาจเพิ่มขึ้นมากกว่าเก่า
แต่ิญญายุทธ์ัคชสารในร่างของถังเหล่ยเพียงแค่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย
ถังเหล่ยดึงสติกลับมาจากการตรวจสอบภายใน ยามนี้หาใช่เวลามาสนใจิญญายุทธ์ เื่สำคัญกว่าคือ เขาจะจัดการกับงานเลี้ยงหงเหมินอย่างไรดี
หากเยียนหลิงซานเตรียมตัวลงจะมือกับถังเหล่ยตอนกลางคืน เกรงว่าเฮยฉานฉู่กับตระกูลตงฟางคงจะลงมือในเวลาเดียวกันแน่
“ถึงพลังของข้าจะมีถึงสี่หมื่นจินแล้ว แต่จะให้สู้กับยอดฝีมือระดับยอดยุทธ์ยังอีกห่างไกล”
ถังเหล่ยส่ายหัว ความแตกต่างของระดับพลังห่างกันเกินไป โดยเฉพาะระดับยอดยุทธ์
ความแตกต่างระหว่างระดับผู้ทรงยุทธ์กับระดับยอดยุทธ์ไม่ใช่แค่เล็กน้อย หลังจากที่ิญญายุทธ์เกิดสติปัญญาแล้ว ผู้ฝึกตนไม่เพียงสามารถใช้ความสามารถของิญญายุทธ์ได้ แต่ยังใช้ิญญายุทธ์ร่วมต่อสู้กับเ้านายได้ด้วย พลังต่อสู้ล้วนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ถ้าถังเหล่ยต้องจัดการกับยอดฝีมือระดับยอดยุทธ์ เขาก็รู้สึกไม่มั่นใจแม้แต่น้อย
หากถังเหล่ยทุ่มสุดกำลังอาจจะสามารถสู้กับยอดฝีมือระดับผู้ทรงยุทธ์ขั้นต้นได้ แต่ถ้าเจอกับยอดฝีมือระดับยอดยุทธ์คงจะไม่ไหวจริงๆ
“หรือว่าต้องดูดซับแก่นอสูรอีกเม็ดหนึ่ง?”
ถังเหล่ยรู้สึกกังวล มูลค่าของแก่นอสูรที่บรรจุของเหลวเลี้ยงิญญาเอาไว้นั้นสูงมาก ถึงที่ถังเหล่ยเพิ่งทะลวงระดับผู้ชำนาญยุทธ์จะดูดซับแก่นอสูรเพิ่มพลังได้มากขึ้น แต่การกระทำนี้ฟุ่มเฟือยเกินไป
ขณะที่ถังเหล่ยกำลังลังเลใจ ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากข้างหน้า
“เ้าห้ามเข้าไป คุณชายสั่งแล้ว ไม่อนุญาตให้ใครไปรบกวน!”
เสียงของจื่อเจวียนฟังดูร้อนรนมาก
“ข้าอยากจะไปไหน ถังเหล่ยก็ขวางข้าไม่ได้!”
หลินเนี่ยน!
เมื่อถังเหล่ยได้ยินเสียงก็เปิดประตูออกมา
จื่อเจวียนมีสีหน้ารู้สึกผิดที่นางหยุดเด็กสาวคนนี้ไม่ได้
“อาจารย์ให้ข้ามาเรียกเ้า ท่านบอกว่ามีเื่จะปรึกษา!”
หลินเนี่ยนมองถังเหล่ยพร้อมเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าสีจริงจัง ก่อนจะหันหน้าจากไป
ถังเหล่ยคิดว่าอวิ๋นเมิ่งต้องรู้ว่าเยียนหลิงซานอาจจะลงมือคืนนี้ ดังนั้นจึงเรียกตัวเขาไป
เมื่อปลอบใจจื่อเจวียนเล็กน้อยแล้ว ถังเหล่ยก็ตามหลังหลินเนี่ยนไป
ในห้องโถงตระกูลถัง เหมือนอวิ๋นเมิ่งกำลังพูดคุยกับถังจงเวยอยู่ก่อนแล้ว ใบหน้าของถังจงเวยเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ถึงแม้ถังเหล่ยจะได้อันดับหนึ่งมา แต่อันตรายของตระกูลถังไม่ได้ลดลงสักนิด
เมื่อถังจงเวยเห็นถังเหล่ย ก็รีบถามขึ้นทันที
“เหล่ยเอ๋อร์มาแล้ว การโจมตีของตงฟางป้าเทียนในวันนี้ทำเ้าาเ็หรือไม่?”
ถังจงเวยยังห่วงใยถังเหล่ยที่สุด
“ข้าไม่เป็ไรท่านปู่ ตงฟางป้าเทียนถูกท่านปู่ตัดแขนไปข้างหนึ่งแล้ว พลังก็มีไม่ถึงเจ็ดส่วน มันทำอะไรข้าไม่ได้หรอก!”
ถังเหล่ยกล่าวด้วยท่าทียิ้มแย้ม ทำให้ถังจงเวยวางใจ แล้วถังเหล่ยก็หันมองไปทางอวิ๋นเมิ่ง
“ผู้าุโอวิ๋นเมิ่ง วันนี้เยียนหลิงซานเชิญข้ากับท่านปู่ไปงานเลี้ยงที่จวนเ้าเมืองด้วย ข้าเกรงว่ามันเป็งานเลี้ยงหงเหมิน แต่พวกเราไม่ไปไม่ได้ ผู้าุโมีวิธีรับมือหรือไม่?”
“จากการคาดเดาของข้า เฮยฉานฉู่อาจจะลงมือคืนนี้ ข้าคงต้องเฝ้าอยู่ในตระกูลถัง”
อวิ๋นเมิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เป้าหมายหลักของนางก็คือสังหารเฮยฉานฉู่
“แต่ข้ายอมให้เนี่ยนเอ๋อร์ไปงานเลี้ยงกับเ้าได้ เพราะเยียนหลิงซานที่ไม่รู้จักเนี่ยนเอ๋อร์อาจไม่ระวังตัว หากเขาคิดจะลงมือ นางก็ช่วยเ้ารับมือได้!”
“ทำไมถึงให้ข้าไป? ข้าไม่อยากไป!”
ทั้งสามคนผงะกับคำตอบของหลินเนี่ยน
ถังจงเวยเผยสีหน้าอึดอัด เขาไม่เคยเห็นพลังของหลินเนี่ยนมาก่อน เขาเพียงแต่คาดเดาจากอายุเท่านั้น ดูแล้วหลินเนี่ยนอายุน้อยกว่าถังเหล่ยเสียอีก พลังจะแข็งแกร่งแค่ไหนเชียว?
“อย่างี่เง่า เ้าไปคุ้มครองความปลอดภัยของถังเหล่ยกับผู้นำถังเสีย เดี๋ยวข้ามอบยาิญญาเหมันต์ให้เ้าเม็ดหนึ่ง หากสู้กันขึ้นมาจริงๆ เ้าก็ใช้พลังของยาิญญาเหมันต์สกัดเยียนหลิงซานได้ระยะเวลาหนึ่ง”
อวิ๋นเมิ่งกล่าวตอบโต้ ถึงแม้หลินเนี่ยนจะเป็ระดับผู้ทรงยุทธ์ขั้นที่หก ทว่าการต่อกรกับิญญายุทธ์มีสติปัญญาแล้ว พลังของนางหาใช่อะไรที่ผู้ทรงยุทธ์จะเทียบได้ แต่ถ้ายืมพลังจากยาิญญาเหมันต์สู้กับเยียนหลิงซานที่เป็ระดับยอดยุทธ์ขั้นที่หนึ่ง น่าจะไม่เป็ปัญหา
“เอาเถอะ ใครใช้ให้ข้าเป็คนดีเช่นนี้”
เมื่อหลินเนี่ยนได้ยินว่าจะได้รับยาิญญาเหมันต์ ั์ตานางก็ฉายประกายเล็กน้อย
ถังจงเวยมองไปที่อวิ๋นเมิ่ง ก่อนจะมองไปที่เด็กสาวหลินเนี่ยน เขาอยากจะถามระดับพลังของหลินเนี่ยน แต่คิดว่าทำเช่นนั้นไม่ค่อยมีมารยาท จึงทำได้เพียงเก็บความสงสัยไว้ในใจ
“ถ้าเฮยฉานฉู่ลงมือ เช่นนั้นตระกูลตงฟางก็จะฉวยโอกาสลงมือด้วย ท่านปู่ ท่านต้องให้ศิษย์ตระกูลถังระวังตัวและวางกับดักไว้ก่อน แต่อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น ห้ามให้คนตระกูลตงฟางรู้ตัว”
ถังเหล่ยเอ่ยขึ้น อวิ๋นเมิ่งคงทำได้เพียงจัดการกับเฮยฉานฉู่ ส่วนเื่จัดการกับศิษย์ตระกูลตงฟางคงต้องให้ตระกูลถังลงมือเอง
“ข้าจะวางค่ายกลเหมันต์หมื่นหายนะในตระกูลถัง ถึงเวลานั้นศิษย์ตระกูลถังสามารถใช้ค่ายกลนี้ต่อกรกับตระกูลตงฟางได้”
เพื่อสังหารเฮยฉานฉู่ ครั้งนี้อวิ๋นเมิ่งเอาสมบัติประจำสำนักออกมาด้วย
“เมื่อเป็เช่นนี้ก็ขอบคุณผู้าุโด้วย หากเราผ่านภัยพิบัตินี้ไปได้ ตระกูลถังจะจดจำบุญคุณของท่านเอาไว้ไม่ลืม”
ถังจงเวยกล่าวด้วยความซาบซึ้ง
“หากหนนี้รอดมาได้ ไม่ทราบว่าให้ถังเหล่ยไปกับข้าได้หรือไม่? จากพร์ของเขา เขาไม่ควรมาอยู่ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ เขาควรก้าวไปสู่โลกที่กว้างใหญ่กว่านี้!”
มุมปากของอวิ๋นเมิ่งเหยียดรอยยิ้มจางๆ นางมองไปที่ถังเหล่ยพร้อมกล่าวออกมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้