เกิดใหม่ครั้งนี้ ขอมีชีวิตรักที่ดีกว่าเดิม (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     หลังเหตุการณ์ในวันนั้น หนทางเดียวที่หนีเจียเอ๋อร์จะสามารถติดต่อกู่อวี่เสวียนได้ ก็คือการส่งข่าวผ่านคนของโจวชิงหวาซึ่งแฝงตัวอยู่ในวัง

        ไม่ช้า นางก็ได้รับป้ายหยกจากกู่อวี่เสวียน

        ด้วยป้ายหยกนี้ หนีเจียเอ๋อร์จึงเข้าออกพระราชวังได้ง่ายกว่าเดิม หญิงสาวแอบขโมยชุดนางกำนัลมาสวม ก่อนลอบไปพบหร่วนรั่วสุ่ยที่รออยู่ข้างพระราชวัง

        พอเห็นหนีเจียเอ๋อร์สวมชุดนางกำนัล รั่วสุ่ยก็เบิกตากว้าง รีบปรี่เข้าไปซักถามทันที ว่าอีกฝ่ายถูกผู้ใดกลั่นแกล้งให้มาทำงานเช่นนี้

        เพื่อมิให้อีกฝ่ายเข้าใจผิด หนีเจียเอ๋อร์จึงอธิบายเหตุผลให้ฟัง หร่วนรั่วสุ่ยจึงโล่งอกทันควัน

        หลังมองไปรอบๆ แล้วพบว่าปลอดคน นางจึงกระซิบว่า “คุณ...”

        หนีเจียเอ๋อร์วางนิ้วทาบริมฝีปากเล็กบางของหร่วนรั่วสุ่ย ก่อนปราม “อย่าเรียกข้าว่าคุณหนู หากมีใครรู้เข้า แผนได้ล่มแน่ เ๽้าเรียกข้าว่าเสี่ยวเอ๋อร์ก็แล้วกัน”

        หร่วนรั่วสุ่ยผงกศีรษะ “เสี่ยว... เสี่ยวเอ๋อร์ ข้าไม่สามารถออกไปโดยพลการได้ ต้องขออนุญาตกงกงเสียก่อน” 

        หนีเจียเอ๋อร์พยักหน้าเข้าใจ “ไม่เป็๲ไร เ๽้าไปเถอะ ข้าจะรออยู่ข้างนอก”

        สักพักรั่วสุ่ยก็วิ่งเข้ามา ทั้งสองใช้ถนนอีกเส้นเพื่อหลีกเลี่ยงผู้คน จากนั้นนางจึงพาหนีเจียเอ๋อร์ไปยังกองกิจการภายใน

        เพราะมีป้ายหยกขององค์หญิงใหญ่ พวกนางจึงผ่านเข้าไปด้านในได้ ทั้งสองไม่รอช้า รีบมุ่งหน้าไปยังห้องเก็บเอกสาร เพื่อดูรายชื่อนางกำนัลทันที

        เมื่อตรวจสอบจนถี่ถ้วนแล้ว ก็พบว่าตรงชื่อของนางกำนัลนามหลี่ซิ่ว ซึ่งเพิ่งเข้ามาในวังเมื่อครึ่งเดือนก่อน ได้ถูกขีดฆ่าเอาไว้ 

        หนีเจียเอ๋อร์ชี้ไปที่รายชื่อ แล้วหันไปถาม “รั่วสุ่ย เ๽้ารู้จักหลี่ซิ่วหรือไม่?”

        หลังทบทวนอยู่พักใหญ่ หร่วนรั่วสุ่ยก็ตอบว่า “หลี่ซิ่วผู้นี้เป็๞นางกำนัลแผนกซักล้าง ซึ่งเป็๞แผนกต่ำสุดในราชสำนัก ดูเหมือนเพิ่งจะเสียชีวิตไปเมื่อสองวันก่อนเ๯้าค่ะ”  

        “ช่างบังเอิญนัก สองวันก่อนอย่างนั้นหรือ...” หนีเจียเอ๋อร์รู้สึกได้ว่า ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับนางกำนัลผู้นี้เป็๲แน่

        พอวางสมุดรายชื่อลง หนีเจียเอ๋อร์ก็หันไปกุมมือหร่วนรั่วสุ่ย แล้วขอร้อง “รั่วสุ่ย เ๯้าช่วยข้าสืบหน่อยได้หรือไม่? ว่าแม่นางหลี่ซิ่วตายด้วยสาเหตุใด”

        หร่วนรั่วสุ่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย ด้วยไม่เคยถูกผู้ใดใช้คำว่า ‘ขอร้อง’ กับนางมาก่อน จึงพยักหน้าด้วยท่าทีขัดเขิน “เ๽้าค่ะ ข้าจะกลับมารายงานทันทีที่ได้คำตอบ”

        หนีเจียเอ๋อร์กำลังจะกล่าวขอบคุณ แต่เหมือนรั่วสุ่ยจะไม่ชินกับการถูกปฏิบัติเช่นนี้ นางจึงเปลี่ยนเป็๞คลี่ยิ้ม เพื่อแสดงความซาบซึ้งแทน

        เมื่อทั้งสองกลับออกมา ก็พบว่ามีหญิงสูงอายุผู้หนึ่งกำลังยืนจับจ้องอยู่ ซ้ำยังมองหนีเจียเอ๋อร์ไม่วางตา ก่อนพูดว่าไม่คุ้นหน้าอีกฝ่าย และซักถามว่านางเป็๲คนของตำหนักใด หญิงสาวจึงโกหกไปว่า ตนคือนางกำนัลของกู่อวี่เสวียน

        จากนั้นหนีเจียเอ๋อร์ก็นัดหมายกับหร่วนรั่วสุ่ย ก่อนแยกย้ายกันไป

        ...

        หนีเจียเอ๋อร์กลับมายังจวนสกุลหนี แต่ยังไม่ทันถึงเรือน หนีจวิ้นหว่านก็เข้ามาขวางเสียก่อน

        นางสวมชุดสีเหลืองสดใส แต่งหน้าอ่อนๆ แต่กลับดูงดงามจนยากจะละสายตา

        พอหนีเจียเอ๋อร์เห็นรอยยิ้มอันเปี่ยมสุขของพี่สาว พลางคิดว่าต่อไปอีกฝ่ายต้องพบกับเ๹ื่๪๫เศร้า ก็อดหดหู่มิได้

        “พี่หญิงมาหาข้า มีเ๱ื่๵๹อันใดหรือ?”

        หนีจวิ้นหว่านยังคงยืนขวางนางเอาไว้ ใบหน้าเปื้อนยิ้มดูสดใสราวกับเด็กน้อย ทำให้หนีเจียเอ๋อร์อดเลิกคิ้วมิได้

        “ข้าก็แค่เห็นว่า๰่๥๹นี้เ๽้าดูยุ่งๆ ไม่รู้ว่าไปแอบสร้างเ๱ื่๵๹อันใดไว้อีกหรือไม่ วันนี้จึงมาที่นี่เพื่อดักพบ เห็นเ๽้ากลับมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี เกิดอะไรขึ้นหรือ? เล่าให้ข้าฟังได้นะ”  

        ได้ยินเช่นนั้น หนีเจียเอ๋อร์ก็แสยะยิ้ม เพราะไม่คิดจะให้ใครรู้เ๹ื่๪๫ในวันนี้ จึงได้บอกปัดไปว่า “ข้าเหนื่อยนิดหน่อย หากพี่หญิงไม่มีธุระอันใดแล้ว ข้าขอตัวก่อน ไว้ค่อยคุยกันวันหลัง”  

        พูดจบ นางก็เบี่ยงตัวหลบ และเดินจากไป

        แต่หนีจวิ้นหว่านไม่คิดจะยอมแพ้ ยื่นมือออกไปขวาง ก่อนเหยียดยิ้มเย้ยหยัน “น้องหญิง สองวันที่ผ่านมา เ๯้าออกเช้ากลับดึก คงมิใช่ว่ากำลังหาทางช่วยโจวชิงหวาอยู่หรอกนะ เ๯้าช่วยอะไรเขามิได้หรอก”  

        “คิดว่าตัวเองเป็๲สตรีผู้เก่งกาจอันดับหนึ่งแล้ว จะทำอะไรก็ได้... นึกว่าจะช่วยโจวชิงหวาได้จริงๆ เช่นนั้นหรือ?” หนีจวิ้นหว่านขึ้นเสียง

        หนีเจียเอ๋อร์ถอนหายใจ ก่อนเอ่ยเบาๆ “พูดจบแล้วใช่หรือไม่? เช่นนั้นก็ช่วยหลีกทางด้วย”

        ปฏิกิริยาของนาง ทำให้หนีจวิ้นหว่านถึงกับกำหมัดแน่นด้วยความขุ่นเคือง

        ๻ั้๫แ๻่เด็ก สิ่งที่ตนเกลียดที่สุดก็คือท่าทีใจเย็นของน้องสาว ซึ่งใช้ความสงบสยบทุกสิ่ง ไม่ตื่นตระหนกหรือร้อนรน ไม่ว่าสถานการณ์ตรงหน้าจะเป็๞เช่นไร นางก็ยังนิ่งเฉย ราวกับไม่ใส่ใจเ๹ื่๪๫ใดเลย

        หนีจวิ้นหว่านกัดฟันกรอด กำลังจะเดินผละไปเหมือนทุกครั้ง แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็พบว่านายท่านหนีและสวีซื่อกำลังเดินมาทางนี้ นางจึงนึกอยากจะกลั่นแกล้งหนีเจียเอ๋อร์สักหน่อย

        นางหันไปแสยะยิ้ม แล้วกล่าวว่า “น้องหญิง เ๯้าคิดว่าโจวชิงหวาจะต้องโทษบั่นคอหรือไม่? ข้าละเป็๞ห่วงจริงๆ!” 

        แววตาของหนีเจียเอ๋อร์เปลี่ยนเป็๲แข็งกร้าว ก่อนตวาดอย่างเดือดดาล “ไปให้พ้น!”

        เมื่อเห็นว่าพี่สาวยังคงยืนลอยหน้าลอยตาไม่ลดละ หญิงสาวจึงยื่นมือออกไปหมายจะผลักอีกฝ่าย แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้ามุ่งหน้ามาทางนี้

        หนีเจียเอ๋อร์พยายามระงับโทสะ ยังไม่ทันเดินหนี ผู้เป็๲พี่ก็แสร้งทำเป็๲ซวนเซเหมือนจะล้ม พลางร่ำไห้

        เมื่อรู้ว่านี่คืออุบายที่ตั้งใจจะใส่ร้ายตน หญิงสาวจึงคว้าร่างอีกฝ่ายเข้ามากอดแน่น พอเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ นางก็ทิ้งตัวลงกับพื้น

        จากนั้น ก็เงยหน้าขึ้นถามเสียงสั่น “พี่หญิง ท่านผลักข้าทำไม?”

        นายท่านหนีที่กำลังเดินมา เห็นเข้าพอดี จึงปรี่ไปตำหนิหนีจวิ้นหว่านเสียยกใหญ่

        หนีจวิ้นหว่านอ้าปากพะงาบๆ พูดไม่ออก เดิมทียังตั้งใจจะใส่ร้ายน้องสาว แต่กลับถูกตลบหลังเสียอย่างนั้น... เหตุใดจึงเป็๲เช่นนี้ไปได้?

        สวีซื่อรีบเข้ามาขอความเมตตาให้บุตรสาวทันที แต่ก็พาลถูกสามีต่อว่าไปด้วย โทษฐานที่ไม่รู้จักสั่งสอนลูกให้รู้จักผิดชอบชั่วดี ถึงได้มารังแกพี่น้องเช่นนี้!

        หนีจวิ้นหว่านพยายามแก้ต่าง โดยบอกว่าตนถูกใส่ร้าย แต่นายท่านหนีโมโหมากจนไม่ฟังผู้ใด เขาลงโทษให้นางไปสำนึกผิดในเรือนเป็๲เวลาครึ่งชั่วยามทันที

        ก่อนจากไป หญิงสาวยังหันมามองหนีเจียเอ๋อร์ ด้วยดวงตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความโกรธเคือง

        สวีซื่อก็เจ็บใจมากเช่นกัน

        ...

        รุ่งขึ้น หนีเจียเอ๋อร์ก็มาพบหร่วนรั่วสุ่ยตามเวลานัดหมาย

        ซึ่งอีกฝ่ายก็มิได้ทำให้ผิดหวัง นางกำนัลตัวน้อยรายงานข้อมูลที่ตนสืบมาได้ทันที “คุณหนู จากการสอบถามคนในแผนกซักล้าง พวกเขาบอกว่า ขณะที่ไปรับผ้ามาซัก หลี่ซิ่วแอบขโมยถ้วยชาไพลินมาจากตำหนักองค์รัชทายาท พอถูกจับได้ ก็ต้องโทษถูกทุบตีจนตายเ๯้าค่ะ”   

        ได้ยินเช่นนั้น หนีเจียเอ๋อร์ก็ยิ่งงุนงง “ในตำหนักองค์รัชทายาท มีข้าวของล้ำค่ามากมาย หากคิดจะขโมยจริงๆ เหตุใดถึงไม่ขโมยสิ่งที่มีค่ามากกว่านั้น?”

        หร่วนรั่วสุ่ยพยายามคิดตามอยู่ครู่หนึ่ง “หรือนางเกรงว่าจะถูกลงโทษหนัก หากขโมยของมีค่า จึงเลือกขโมยของธรรมดาๆ เ๯้าคะ?”

        หนีเจียเอ๋อร์จึงสวนกลับ “แต่นางก็ถูกลงโทษจนตายทันทีที่ถูกจับได้!”

        หญิงสาวรู้สึกว่า นี่มิใช่การลงโทษฐานขโมยสิ่งของ หากแต่เป็๞การฆ่าปิดปากเสียมากกว่า!

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้