หานอวิ๋นซีที่กำลังฟังคำพูดของหานอวี้ฉียู่ข้างๆ ไม่แปลกใจเลยที่ฮูหยินสวี่จะพูดเช่นนั้นกับนางในวันอภิเษก คำพูดเหล่านี้มันช่างไม่น่าฟังและหยิ่งยโสเสียเหลือเกิน
ไม่ว่าอย่างไร หานอวิ๋นซีก็ไม่สามารถเป็หงส์ได้แม้ว่าจะบินอยู่บนกิ่งไม้ก็ตาม สตรีชั้นต่ำก็คือสตรีชั้นต่ำอยู่วันยังค่ำ
ไม่ว่าอย่างไร ที่หานอวิ๋นซีอภิเษกกับฉินอ๋องเพราะนางอยากจะเป็คางคกที่อยากกินเนื้อหงส์[1]
และไม่ว่าจะพูดอย่างไรแล้ว หากเป็คนอื่นคงเอาหัวโขกกำแพงตายไปนานแล้ว มีแค่นางที่หน้าหนา ถึงได้กล้าขึ้นเกี้ยวเ้าสาว
แม้ว่าในวันนั้นจะเป็อี้ไท่เฟยที่บอกให้ซีผอพาไปผิดทาง แต่ฮูหยินสวี่เองก็สั่งให้ซีผอทำมิดีมิร้ายอยู่หลายครั้งเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็ชุดอภิเษก เครื่องประทินผิวหรือเครื่องประดับ ทั้งหมดต่างถูกแทรกแซง แม้กระทั่งยักยอกสินสอดทองหมั้นของนาง ให้นางนำกล่องเสื้อผ้าเก่าที่น้องสาวไม่้าไปออกเรือน
หานอวิ๋นซีรู้เื่ทั้งหมดนี้ วันนี้ที่นางล้างแค้นให้เสี่ยวอี้เอ๋อร์ ก็เป็การล้างแค้นให้ตัวเองเช่นกัน!
เมื่อเห็นว่าหานอวี้ฉีไม่ขยับ หานอวิ๋นซีก็สั่งอย่างเ็าว่า “ทหาร พาคุณชายใหญ่ออกไปเฆี่ยน เฆี่ยนให้แรงด้วยล่ะ!”
แม้ว่าคนรับใช้ที่นางพามาจะมีเพียงเสี่ยวเฉินเซียง แต่ไม่มีคนรับใช้คนใดในตระกูลหานที่กล้าขัดคำสั่ง ดังนั้นพวกเขาจึงรีบเข้ามาพาหานอวี้ฉีออกไป
“ปล่อยข้า...ปล่อย!”
“ฉินหวังเฟย ข้าขอร้อง ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย! ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!”
“ข้าไม่กล้าแล้ว ข้าไม่กล้าอีกต่อไปแล้ว...”
…
ไม่ว่าหานอวี้ฉีจะขอร้องอะไร หานอวิ๋นซีก็เมินเฉย ในเมื่อได้ทำเื่ในวันนี้ให้มันใหญ่โตแล้ว นางก็จะทำให้มันใหญ่ขึ้นไปอีกแล้วกัน เพื่อให้ทุกคนในตระกูลหานเห็นได้ชัดว่า บุตรสาวที่แต่งงานแล้วอย่างนางไม่ใช่คนที่จะมายั่วยุได้ง่ายๆ
ทันทีที่หานอวี้ฉีถูกพาตัวออกไป ผู้คนที่อยู่ด้านนอกทั้งหมดก็เปิดทางให้ สองข้างทางซ้ายขวาเต็มไปด้วยผู้คนรายล้อม
หานอวี้ฉีถูกวางบนม้านั่งยาว แต่จะให้นอนคว่ำหน้าอย่างสบายใจได้ที่ไหนกัน เมื่อกำลังจะนอนลงไป หานอวิ๋นซีก็พูดอย่างเ็าว่า “มัดเขาไว้ที่ม้านั่ง! มัดให้แน่น!”
“พ่ะ...พ่ะย่ะค่ะ...” คนรับใช้ตัวสั่นเทา ทว่าก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเชื่อฟัง
ฮูหยินสวี่ที่ตามออกมา ก็ยืนพิงกำแพงเพื่อที่จะทำให้ตัวเองยืนได้อย่างมั่นคง นางไม่กล้าแม้แต่จะมองไปที่บุตรชายของตนเอง เมื่อมองไปที่หานอวิ๋นซี ความเกลียดชังก็ะเิออกมาจากดวงตาของนาง เกลียดจนอยากให้สตรีผู้นี้ตายเสียเดี๋ยวนี้!
หานอวิ๋นซี ทางที่ดีเ้าอย่าได้ตกมาอยู่ในมือของข้าเข้าสักวันก็แล้วกัน ข้าคนนี้จะฉีกเ้าเป็ชิ้นๆ แน่นอน!
ในไม่ช้า หานอวี้ฉีก็ถูกมัดแน่นกับเก้าอี้ คนรับใช้สองคน คนหนึ่งอยู่ทางซ้ายและอีกคนอยู่ทางขวา กำลังถือไม้กระดานขนาดใหญ่
“ห้าสิบครั้ง ห้ามเฆี่ยนเบาเด็ดขาด! เฆี่ยนเดี๋ยวนี้!” หานอวิ๋นซีสั่งอย่างเ็า
ทันทีที่สิ้นเสียง “เพียะ!” ไม้กระดานถูกฟาดลงไป แค่ได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่าไม่ได้ใช้แรงมากมาย
“หยุด!” หานอวิ๋นซีมองคนรับใช้อย่างเ็า “ทำไม เ้าหิวหรือไร? เช่นนั้นข้าให้เ้ากินไม้กระดานด้วยดีหรือไม่?”
คนรับใช้ตัวน้อยใกลัว ไม่รอให้หานอวิ๋นซีพูดไปมากกว่านี้ เขาก็รีบฟาดไม้กระดานลงบนก้นของหานอวี้ฉีอย่างแรง พร้อมกับเสียงดัง “เพียะ” !
ในขณะเดียวกัน หานอวี้ฉีก็ร้องออกมาว่า “โอ๊ย...”
ความล้มเหลวของคนรุ่นเก่าย่อมเป็กระจกเงาของคนรุ่นหลัง คนรับใช้อีกคนจะไปกล้านิ่งเฉยได้อย่างไร เขาเองก็รีบฟาดไม้กระดานลงไปอย่างแรง
“โอ๊ย...” เสียงร้องของหานอวี้ฉีช่างน่าสมเพชยิ่งนัก
การเฆี่ยนห้าสิบครั้ง แต่ละครั้งที่ฟาดลงไปต่างรุนแรงเป็อย่างมาก หัวใจของทุกคนที่อยู่บริเวณรอบก็เต้นแรงเช่นกัน ฮูหยินสวี่ปิดปากและพิงกำแพง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่กล้าที่จะมองไป
ในลานบ้านที่เงียบสงัด นอกจากเสียงไม้กระดานแล้ว ก็มีเพียงเสียงกรีดร้องของหานอวี้ฉี “อ๊าาาา!”
สุดท้าย การเฆี่ยนห้าสิบครั้งก็สิ้นสุดลง มือของคนรับใช้ทั้งสองชาไปหมด บั้นท้ายของหานอวี้ฉีก็เต็มไปด้วยเืที่ดูน่าสยดสยอง ส่วนเขานั้นสลบไปนานแล้ว
ฮูหยินสวี่รีบวิ่งเข้าไป เมื่อเห็นสิ่งนี้ ก็รู้สึกเป็ปวดใจมากจนแทบจะเป็ลม นางรีบะโว่า “หมอ ใครก็ได้ไปตามหมอมา!”
เวลานี้นางยังจะสนใจกุญแจห้องเก็บของในมือของหานอวิ๋นซีเสียที่ไหนกัน ในขณะที่สั่งคนให้พาคุณชายใหญ่กลับไปที่ห้อง นางก็เร่งเร้าหมอไปพลางราวกับว่ากำลังจะเป็บ้าอย่างไรอย่างนั้น
คนรับใช้ทั้งหมดที่ดูอยู่ต่างตกตะลึง พวกเขาไม่เคยเห็นฮูหยินสวี่สติแตกเช่นนี้มาก่อน
หลังจากที่ฮูหยินสวี่และคุณชายใหญ่ออกไป หานอวิ๋นซีก็หันไปมองผู้ชมรอบๆ การมองนี้ทำให้ทุกคนต่างก้มศีรษะและถอยหนีทันที
อี๋เหนียงสามและคุณหนูรองที่ซ่อนตัวอยู่ข้างต้นไม้ใหญ่ ก็ไม่โผล่หน้าออกมาแต่ก็ไม่ได้ไปไหน...
สองแม่ลูกมาที่นี่หลังจากได้ยินว่าหานอวิ๋นซีมีกุญแจห้องเก็บของ แต่ใครจะรู้ว่าจะมาเห็นฉากที่หานอวิ๋นซีกำลังลงโทษคุณชายใหญ่อย่างรุนแรง
ฮูหยินสวี่มีอำนาจเหนือกว่ามานานหลายปีโดยอาศัยอำนาจของตระกูล มันสมควรที่จะมีใครสักคนออกมาสอนบทเรียนให้นางตั้งนานแล้ว เพียงแต่พวกนางไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเป็หานอวิ๋นซีที่จะทำ
ต้องรู้ว่าแม้หานอวิ๋นซีจะเป็คุณหนูใหญ่ของตระกูล แต่นางก็เป็คนที่ใจเสาะและยอมคน ยิ่งกว่านั้นแม้นางจะกลายเป็ฉินหวังเฟยแล้ว แต่อย่างไรมันก็เป็แค่ในนามเท่านั้น
คุณหนูรองหานรั่วเสวี่ยมองไปที่ใบหน้าของหานอวิ๋นซีจากระยะไกล ในแววตาเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา จากนั้นก็พูดเบาๆ ว่า “ท่านแม่ ใบหน้าของนางสวยงามจริงๆ!”
หานรั่วเสวี่ยเป็บุตรสาวที่สวยที่สุดของตระกูลหาน แต่ตอนนี้รอยแผลเป็ที่บนใบหน้าของหานอวิ๋นซีหายไปแล้ว ทั้งยังมีรูปลักษณ์สวยกว่าหานรั่วเสวี่ย ในวันอภิเษกหลายๆ คนในตระกูลหานได้เห็นความงามของหานอวิ๋นซี ในหมู่คนรับใช้เองก็พูดเื่นี้กันมานานแล้ว ทว่าหานรั่วเสวี่ยไม่เคยได้เห็น ดังนั้นนางเลยไม่เชื่อ
แต่ตอนนี้นางได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้ว แม้แต่ตัวนางเองก็ต้องยอมรับมัน
“มีข่าวลือภายนอกว่านางสามารถล้างพิษได้ ทั้งยังช่วยชีวิตแม่ทัพใหญ่ไว้อีก จากที่ข้าดูแล้วมันอาจจะเป็เื่จริงก็ได้” หลี่ซื่อพูดเบาๆ ในแววตาเองก็มีบางอย่างแฝงอยู่
หากไม่เป็เช่นนั้น เหตุใดใต้เท้าโอวหยางเ้าหน้าที่ศาลต้าหลี่ถึงได้หวาดกลัวนางขนาดนั้น แล้วทำไมนางถึงได้กลับมาทำตัวอวดดีที่บ้านแม่ของนางในฐานะหวังเฟยได้ล่ะ?
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา สีหน้าของหานรั่วเสวี่ยก็ซับซ้อนเช่นกัน ทว่าก็กลับมาเป็เช่นเดิมอย่างรวดเร็ว และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านแม่ ท่านไม่ได้บอกว่านางกลับมาเพื่อแย่งชิงของในห้องเก็บของหรอกหรือ?”
หลี่ซื่อพูดอย่างเ็า “ บุตรสาวที่แต่งงานแล้ว แม้ว่าจะกลายเป็ฮองเฮา อย่างไรก็ไม่มีสิทธิ์นั้น”
แม้ว่าหลี่ซื่อจะให้กำเนิดบุตรสาว แต่ก็ไม่ได้ละความพยายามในการบ่มเพาะตนเองในด้านทักษะทางการแพทย์ หากต้องแข่งขันขึ้นมาจริงๆ ถือได้ว่านางเป็ผู้นำในรุ่นของตระกูลหานอย่างแท้จริง
นางกำลังมองหาผู้สมัครที่ดีสำหรับบุตรสาวมาเสมอ และวางแผนที่จะรับสมัครลูกเขย เพื่อให้หานรั่วเสวี่ยมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูล
“ทำไมนางถึงมีกุญแจห้องเก็บของอยู่ในมือได้นะ? ข้าว่าบางทีนางอาจจะแย่งมันมาจากท่านพ่อก็ได้ นางต้องทำอย่างนั้นเป็แน่!” หานรั่วเสวี่ยพูดด้วยความเกลียดชัง
ในแววตาของหลี่ซื่อก็ฉายแววซับซ้อน มองไปที่หานอวิ๋นซีเป็เวลานานก่อนที่จะพูดว่า “เสวี่ยเอ๋อร์ เ้าไม่ได้ไปเยี่ยมคุณหนูใหญ่มู่มานานแล้วใช่หรือไม่?”
หานรั่วเสวี่ยพยักหน้า แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างหานรั่วเสวี่ยและมู่หลิวเยวี่ยจะไม่สนิทเท่ามู่หลิวเยวี่ยและองค์หญิงฉางผิง แต่ก็สามารถเรียกได้ว่าเป็เพื่อนที่ดีที่สุด ต่างเป็พี่สาวน้องสาวที่สนิท หานรั่วเสวี่ยมักจะส่งของขวัญหายากมาให้มู่หลิวเยวี่ยเสมอ และทำให้มู่หลิวเยวี่ยมีความสุขเสมอ
แน่นอนว่าสวี่จือสอนสิ่งเหล่านี้แก่นาง สวี่จือพูดว่าการปีนขึ้นไปอยู่เหนือมู่หลิวเยวี่ยนั้นเทียบเท่ากับการปีนขึ้นไปหาองค์หญิงฉางผิง มีองค์หญิงฉางผิงคอยหนุนหลัง มันดีกว่ารองเสนาบดีกระทรวงขุนนางของตระกูลสวี่มากอยู่แล้ว
นับั้แ่หานอวิ๋นซีอภิเษกเข้าจวนฉินอ๋อง หานรั่วเสวี่ยก็ไม่กล้าที่จะไปหามู่หลิวเยวี่ย ด้วยเพราะกลัวว่าถ้ามู่หลิวเยวี่ยโกรธขึ้นมา แล้วจะโยงมาถึงตัวเอง ท้ายที่สุดแล้วนางก็เป็น้องสาวของหานอวิ๋นซี
“เื่ของจวนแม่ทัพใหญ่ ไหนจะเื่อาการป่วยแปลกๆ ของไท่จื่ออีก ข้าว่าเ้าควรไปถามจากปากมู่หลิวเยว่เสียดีกว่า” หลี่ซื่อพูดเบาๆ
“ข้าจะพยายามทำให้ดีที่สุด” หานรั่วเสวี่ยตอบอย่างจริงจัง เมื่อเห็นมารดาตัวเองกำลังจะออกไป นางก็รีบคว้าไว้ “ท่านแม่ เราจะปล่อยนางไปง่ายๆ แบบนี้หรือ แม้ว่าท่านพ่อจะให้กุญแจแก่นางก็ตาม อย่างไรมันก็ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย นางแต่งงานแล้ว เราควรไปเอามันมา”
หลี่ซื่อหยุดฝีเท้าลง แววตาที่เ็าค่อยๆ เลื่อนขึ้นจากมือของหานรั่วเสวี่ยที่จับนางไว้ และมองไปที่ใบหน้าของหานรั่วเสวี่ย
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หานรั่วเสวี่ยก็ปล่อยมือด้วยความบูดบึ้ง โดยไม่รู้ว่ามารดาของตนกำลังโกรธ
“ฮูหยินสวี่ยังไม่รีบเลย เ้าจะรีบไปทำไม? ถ้าอยากถาม ก็ไม่ควรเป็เราที่ไปถามเื่นี้” น้ำเสียงของหลี่ซื่อเ็าและจริงจัง
ั้แ่เด็กจนโต แม่ของนางเ็ามาโดยตลอด และหานรั่วเสวี่ยคุ้นเคยกับมันแล้ว นางก้มศีรษะลง “เ้าค่ะ ลูกเข้าใจแล้ว”
ภูมิหลังของฮูหยินสวี่นั้นแข็งแกร่ง อีกทั้งคราวนี้หานอวิ๋นซีก็ยังตีหานอวี้ฉีจนเป็เช่นนั้นเพราะหานหยุนอี้ ด้วยนิสัยของฮูหยิสวี่แล้ว จะปล่อยอี๋เหนียงเจ็ดไปแล้วไม่ต่อสู้กับหานอวิ๋นซีได้อย่างไรกัน?
หากพูดว่าเฮ่อเหลียนอี๋เหนียงเจ็ดพยายามอดกลั้นไว้ เช่นนั้นหลี่ซื่อก็คงเป็คนที่ต่ำต้อยที่สุด นางมักจะอยู่เงียบๆ ต่อหน้าผู้คนและนั่งรอผลกำไร
แม่ลูกตระกูลหลี่จากไปโดยไม่มีเสียง หานอวิ๋นซีพาอี๋เหนียงเจ็ดเข้ามาในห้องแล้ว อี้เอ๋อร์ยังคงหลับอยู่ หานอวิ๋นซีแตะหน้าผากของเขา เมื่อแน่ใจว่าเขาไม่มีไข้เนื่องจากการอักเสบของาแ จึงจะรู้สึกโล่งใจ
“ฉินหวังเฟย วันนี้...วันนี้หากไม่มีท่าน ข้าเองก็ไม่รู้ว่า...”
อี๋เหนียงเจ็ดมองไปที่บุตรชายที่ยังคงหลับใหลอยู่บนเตียง จากนั้นก็มองไปที่หานอวิ๋นซี สะอึกสะอื้นอย่างหนักจนพูดไม่ออก
หานอวิ๋นซีมองไปที่อี๋เหนียงเจ็ด ด้วยความรู้สึกหมดหนทาง มารดาที่อ่อนแอและเก็บทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในใจเช่นนี้จะปกป้องอี้เอ๋อร์ได้อย่างไร เกรงว่าเด็กคนนี้จะปกป้องมารดาเสียมากกว่า
ครั้งนี้นางได้เอากุญแจห้องเก็บของออกมา และสอนบทเรียนให้กับหานอวี้ฉี อย่างน้อยใน่เวลาสั้นๆ ฮูหยินสวี่คงไม่กล้าแตะต้องสองแม่ลูกนี้ ทว่าอย่างไรมันก็เป็แค่เพียงชั่วคราวและไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาว
ผู้นำตระกูลคนใหม่ของตระกูลหาน สุดท้ายแล้วจะต้องได้รับการสนับสนุนโดยเร็วที่สุด แม้ว่าอี้เอ๋อร์จะอายุน้อย หากมีสถานะเป็ผู้นำตระกูลอยู่ คนเ่าั้ก็ไม่กล้าที่จะมาก้าวร้าวใส่
แต่น่าเสียดายที่นางและมู่หลิวเยวี่ยมีข้อตกลงในการเดิมพันเสียก่อน ดังนั้นเลยไม่มีเวลาสู้กับคนเหล่านี้ หากพูดว่าเป็ความคิดของหานฉงอัน หานฉงอันก็ถูกจำคุกไปแล้ว เดาว่าสวี่จือกับหลี่ซื่อคงไม่เห็นด้วย
หานอวิ๋นซีส่งสัญญาณให้อี๋เหนียงเจ็ดนั่งลงก่อน นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดว่า “เสี่ยวเฉินเซียง เ้าอยู่ดูแลคุณชายน้อยเจ็ดที่นี่”
“เพคะ นายหญิงวางใจได้ หม่อมฉันอยู่ที่นี่ ไม่มีใครมารังแกคุณชายน้อยเจ็ดได้เด็ดขาด!” เสี่ยวเฉินเซียงตอบรับคำสั่งทันที สาวน้อยคนนี้นับวันยิ่งฉลาดขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อี๋เหนียงเจ็ดก็รู้สึกยินดีเป็อย่างยิ่ง นางลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและคุกเข่าลงเพื่อขอบคุณ “ขอบคุณหวังเฟย เป็พรสำหรับอี้เอ๋อที่ได้รับการดูแลจากหวังเฟยจริงๆ!”
หานอวิ๋นซีประคองนางขึ้นมาและพูดอย่างจริงจังว่า “อี๋เหนียงเจ็ด ดูแลอี้เอ๋อร์ให้ดีเถอะ บางครั้ง...เวลาที่ควรจะเข้มแข็งก็ต้องเข้มแข็ง ฮูหยินสวี่เองก็ไม่ใช่ฮูหยินเอก แม้ว่าหานอวี้ฉีจะเป็คุณชายใหญ่ แต่เขาก็เป็บุตรชายเหมือนกับอี้เอ๋อร์ ไม่มีอะไรต้องกลัวพวกเขา ต่อจากนี้เสี่ยวเฉินเซียงจะอาศัยอยู่ที่นี่ ไม่ว่ามีเื่อะไรก็บอกนางได้ เข้าใจหรือไม่?”
อี๋เหนียงเจ็ดซาบซึ้งมากจนไม่รู้จะพูดอย่างไรดี พยักหน้าซ้ำๆ น้ำตาเองก็ไหลออกมาเป็สาย
หานอวิ๋นซีกำชับเื่บางอย่างกับเสี่ยวเฉินเซียงก่อนจะออกไป เมื่อเห็นว่าท้องฟ้าใกล้จะมืดแล้ว ทว่าวันนี้นางยังทำธุระไม่เสร็จเลย!
คนรับใช้ที่เฝ้าประตูรออยู่นอกลานยังคงอยู่ในลานตลอด ไม่กล้าที่จะออกไป เมื่อเห็นว่าหานอวิ๋นซีออกมา เขาก็รีบพุ่งเข้ามาข้างหน้า “หวังเฟย กระหม่อมรอท่านอยู่ที่นี่ตลอดเลยพ่ะย่ะค่ะ”
คนรับใช้คนนี้ถือว่าฉลาดเช่นกัน หานอวิ๋นซีพยักหน้า “นำทางไป”
คราวนี้นางมาที่นี่เพื่อห้องเก็บของก็จริง แต่นางไม่้าเอาของในห้องเก็บของ เพียง้าตรวจสอบว่ามีงูพิษสามชนิดที่นางกำลังมองหาอยู่ในห้องเก็บของหรือไม่
ภายใต้การแนะนำของคนรับใช้ ในไม่ช้า หานอวิ๋นซีก็มาถึงห้องเก็บของของตระกูลหาน
---------------------------------------
[1] คางคกที่อยากกินเนื้อหงส์ เป็สำนวนที่หมายถึงคนที่ไม่ประมาณตนเอง ใฝ่ฝันหาสิ่งที่ไม่มีวันได้