สายฝนโปรยปรายลงมาไม่หยุดหย่อน กระทบใบไม้ที่เขียวขจี ดังแว่วก้องไปทั่วหุบเขา เมฆหมอกขาวโพลนโอบล้อมยอดเขาเป็ชั้นๆกลิ่นดินชื้นและกลิ่นใบไม้เน่าลอยปะปนอยู่ในอากาศ มีเสียงหนึ่งร้องแหวกความเงียบสงบขึ้นมา
“อุแว้ๆๆ!!”
ชายชราวัยหกสิบใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น แต่แววตายังเปี่ยมไปด้วยความเมตตา เดินตามเสียงที่ได้ยิน“อยู่ที่นี่มานานทำไมถึงมีเสียงเด็กมาร้องอยู่กลางป่าแบบนี้”
“อุแว้ววๆ!!”
“โอ๋ๆ!หยุดร้องก่อน”ชายชราอุ้มเอาเด็กทารกเพศหญิงที่ร้องไห้จนตัวแดง ขึ้นมาจากข้างกอไผ่
“ดูเหมือนเพิ่งคลอดได้ไม่นาน ไม่น่าจะเกินสองชั่วยาม(สี่ชั่วโมง)เมื่อคืนฝนตก ป่าก็เดินลำบากแสดงว่าเพิ่งจะวาง เด็กทารกนี้ลงไม่นานมานี้”
“ใครกันน่ะที่้าฆ่าเด็กทารกคนนี้แต่อุ้มมาเสียไกลเลย”ชายชราอุ้มทารกกลับมาที่กระท่อม
“ทารกน้อยคงจะหิวและหนาว นอนอยู่ตรงนี้ก่อน ปู่จะไปเก็บผลน้ำนมมาให้กิน”ชายชราวางทารกที่ห่อผ้าเพิ่มไว้กลางห้อง แล้วรีบออกไปผลน้ำนมในป่า
ทารกน้อยเหมือนจะรู้หยุดร้องนอนนิ่งรอชายชรา
“มาแล้วผลน้ำนม เ้ากินสิ่งนี้แทนน้ำนมแม่ไปจนโต ดูผ้าที่ห่อตัวมาเนื้อดีราคาแพง น่าจะมาจากคนที่มีฐานะ ถึงกับจะฆ่าเด็กแรกเกิดคงไม่ใช่ตระกูลที่ดีนัก”
“ โอ้!ดูเหมือนเด็กน้อยไม่มีพลังธาตุ คงจะกลัวเสียหน้าหรืออับอายจึงเอาทารกมาทิ้งเสีย จะให้มีพลังธาตุได้ยังไงถูกพิษั้แ่อยู่ในท้องมารดา”
“ ถ้าเดาไม่ผิดมารดาของเ้าทารกนี่ คงเสียชีวิตไปแล้วตอนคลอดเป็แน่ คนที่วางยาพิษคงคำนวณไว้เป็อย่างดีแล้วเพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าตายเพราะพิษ แต่เสียชีวิตเพราะคลอดลูก”
“ คงเป็วาสนาของทารกน้อยที่มาเจอข้า พวกที่เอามาทิ้งคงไม่คิดเลยสิว่า ยังมีคนอาศัยอยู่แถวนี้ ทั้งที่เอามาทิ้งไกลแบบนี้ น่าจะเป็เพราะว่าถ้าเกิดมีสัตว์กินเด็กไป สัตว์นั้นต้องตายเพราะพิษ กลัวเื่จะแดงขึ้นมาเลยให้อุ้มเอามาทิ้งไว้ในป่าไผ่นี้ หรือคนที่เอามาทิ้ง้าให้ทรมานทีละน้อยก่อนตาย”
“ปู่จะดูแลเ้าเอง ถึงแม้มันจะยากลำบากเพราะตัวเ้ามีพิษติดตัวมา แถมพลังธาตุไม่มี ต้องใช้ชีวิตอย่างลำบากกว่าคนทั่วไปเป็แน่”
ชายชราเลี้ยงดูเด็กน้อยแต่เพียงผู้เดียวอยู่ในกลางป่าแห่งนั้น จนผ่านมาสามปี ถึงแม้จะมียาแก้พิษให้กินและสมุนไพรแต่เด็กน้อยก็ยังเจ็บป่วยอยู่เป็ประจำ และมีร่างกายที่อ่อนแอ
วันนี้ชายขราออกไปหาสมุนไพรในป่า ทิ้งเด็กน้อยที่กำลังป่วยไว้ผู้เดียวที่กระท่อม เด็กน้อยตื่นมาไม่เจอชายชราก็รีบร้อนเดินตามหา พร้อมร้องเรียกอยู่แถวหน้ากระท่อม
ทีแรกเดินตามหารอบกระท่อม และเดินห่างออกไปเรื่อยๆ จนเท้าไปสะดุดกับเถาวัลย์ หน้าคะมำลงกับพื้น หัวไปกระแทกกับต้นไม้ จนเด็กน้อยสลบไป
“ห้ะ! หลานปู่เด็กน้อยหายไปไหนแล้ว ไม่ใช่ว่านอนป่วยอยู่ในห้องนี้รึ จะว่าสัตว์ร้ายเข้ามาก็ไม่น่าจะเป็ไปได้ หรือว่าตื่นมาไม่เจอใครเลยออกไปตาม ปู่เห็นอยู่ว่านอนหลับตลอดเลยไม่ได้บอก” ชายชราคิดได้ดังนั้นจึงวิ่งออกตามหาเด็กน้อย
“ โอ๊ะ!หลานปู่หัวเ้ากระแทกกับต้นไม้ เืออกไหลอาบสลบไปอย่างงั้นหรือ ชีพจรยังเต้นอยู่ทำไมถึงไม่นอนอยู่ในห้องล่ะออกมาตามทำไม” ชาชราพูดแล้วก็อุ้มเด็กน้อยกลับไปยังกระท่อม
“จู๋จื่อเ้าพื้นแล้วเด็กน้อย ออกไปตามหาปู่ใช่ไหม ปู่แค่เข้าไปหาสมุนไพรเท่านั้น ไม่คิดว่าจะนานจนเ้าต้องร้อนใจออกไปตามหา”
“ ถ้าเ้ามีพลังธาตุเหมือนผู้อื่น ล้มแค่นี้จะไม่เจ็บ อาจารย์กำลังหาพิธีช่วยให้เ้ามีพลังธาตุเหมือนกับผู้อื่น จะได้ออกไปอยู่นอกป่าได้”
“ ทำไมเ้าถึงมองปู่ยังงั้นล่ะ หรือว่าเ้ายังเจ็บตรงไหนอยู่”
“ท่านปู่ข้าขอโทษเ้าค่ะ ที่ทำให้ท่านใ ข้าไม่ได้เป็อะไรแล้ว ”
“ โอ้!เด็กน้อยหลานปู่ ทำไมเ้าพูดชัดถ้อยชัดคำเหมือนผู้ใหญ่กันล่ะ เ้าไม่ใช่มีิญญามาสวมรอยใช่หรือไม่ แต่เ้าไม่ได้ตายิญญาก็ไม่น่าจะมาสวมรอยได้”
“ ไม่ใช่แบบนั้นหรอกท่านปู่ ข้าเพียงแต่รู้สึกแปลกประหลาด ทำไมมีความจำหลั่งไหลเข้ามาในหัว ที่ไม่เหมือนกันผุดขึ้นมาในหัวก็ไม่รู้”
“ เป็ความจำอะไรอย่างงั้นรึ ที่ทำให้เ้าสามารถพูดได้ชัดและเก่งแบบนี้”
“ ครั้งหนึ่งคือหลานเคยเป็จอมยุทธ์หญิงผู้หนึ่ง ที่อยู่มานานแล้วถูกทรยศหักหลัง จากคนรักและเพื่อนจนเสียชีวิต อย่างน่าอนาถ ถูกแทงเข้าที่อกซ้ายจากทั้งสองคนหญิงชายคู่นั้น แต่ได้จำทุกเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่ได้ว่าเกินอะไรขึ้นบ้างเ้าค่ะ”
“ แล้วอีกความจำหนึ่ง ข้าอยู่อีกโลกหนึ่งที่ทันสมัยกว่าที่นี่มาก ข้ามีชื่อว่าปลายฟ้าเป็ลูกสาวของพ่อเลี้ยงคำแสนและแม่เลี้ยงดาวรุ่ง ทำธุรกิจเครื่องประดับอัญมณี อยู่ที่จังหวัดเชียงรายภาคเหนือของประเทศไทย ข้าถูกยิงตายโดยอาวุธปืนจากคนร้ายที่มาปล้นร้านอัญมณี ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตายได้อย่างไรเ้าค่ะ”
“เื่ที่เ้าเล่ามา จากความความจำทั้งชาติสองสถานที่ ต่างกันตามวาระเวลา ปู่ว่ามีทั้งดีหรือไม่อยู่ในตัว เ้าก็เก็บเอาแต่สิ่งดีๆ และมีประโยชน์ไว้ ส่วนสิ่งไหนไม่ดีเ้าก็ไม่ควรจดจำมัน เข้าใจหรือไม่”
“ ข้าเข้าใจแล้วเ้าค่ะท่านปู่ วันเวลาไม่อาจหวนคืน ข้าจะอยู่แต่กับปัจจุบันเท่านั้น แต่ความรู้ความสามารถที่ผุดขึ้นมาในหัวข้าจะเอามาพัฒนาตัวเองเ้าค่ะ”
“ดีแล้วเ้าต้องขยันศึกษาเล่าเรียนวิชาไว้ป้องกันตัว สิ่งที่เ้าจำมาอาจจะมาเตือนย้ำก็ได้ เพราะเ้าเสียชีวิตสองชาติภพที่เ้าเล่าให้ฟัง สาเหตุที่ทำให้เ้าตาย อาจเป็เพราะเ้ายังแข็งแกร่งไม่พอนั่นเอง”
“ รอให้เ้าแข็งแรงดีแล้ว ปู่จะพาเ้าเข้าป่าไปหาสมุนไพร ในเทือกเขาบรรพตที่อยู่ไกลจากที่นี่มาก แต่มันคือความหวังเดียวที่จะช่วยให้เ้ามีพลังธาตุเหมือนผู้อื่น”
“ เ้าค่ะท่านปู่ข้าจะรีบหายและแข็งแรง เพื่อเข้าป่าไปกับท่าน”
“ ่ที่เ้าเจ็บป่วยนี้ ปู่จะสอนหนังสือเพิ่มให้เ้าคือตำราสมุนไพร เวลาเข้าไปในป่าแล้วจะได้ช่วยกันหา”
ชายชราเอาตำราสมุนไพรเล่มใหญ่ออกมา เพื่อที่จะสอนเด็กน้อยปกติสอนแต่ท่องจำอักษรเท่านั้น
“ นี่คือตำราสมุนไพร ที่ให้เ้าอ่านและจดจำเวลาไปหาจะได้จำสมุนไพรได้ อักษรเ้าก็อ่านได้หลายตัวแล้ว ตัวไหนจำไม่ได้ก็มาถามปู่ได้”
“พรึบ! ท่านปู่เ้าคะ ชื่อและสมุนไพรที่อยู่ในตำราเล่มนี้ ข้าอ่านเข้าใจและบางตัวยังรู้จักมันด้วยเ้าค่ะ”
“ห้ะ!จริงรึ เป็แบบนั้นก็ดี คงเป็เพราะความจำที่ปะปนเข้ามาในชาติก่อนของเ้า ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าเป็การทบทวนก็แล้ว”
จู๋จื่อใช้เวลาในการทบทวนความรู้ต่างๆ เพื่อรอให้อาการาเ็ที่ศีรษะหาย จึงได้แต่ทบทวนวิชาที่ท่านผู้เฒ่าสอน จนเวลาผ่านมาสองเดือน อาการาเ็ก็หายสิ้น ทั้งสองจึงพากันออกเดินทางเข้าป่าใหญ่ ไปยังหุบเขาบรรพต
“ ท่านปู่เ้าคะทำไมป่าที่นี่ถึงทึบนัก และต้นไม้ใหญ่ก็สูงเสียดฟ้าเหมือนข้าตัวเท่ามด รากไม้แผ่ปกคลุมพื้นดินไปหมดน่าปีนเล่นจัง มีแสงแดดส่งลอดยอดใบไม้เป็ลำๆลงมาเท่านั้น ดูสวยงามแปลกตามากเ้าค่ะ บนพื้นป่าก็มีแต่ใบไม้แห้งที่ร่วงหล่น ไม่เห็นเหมือนป่าที่กระท่อมเลยล่ะเ้าคะ”
“ ที่พวกเราอาศัยอยู่ ไม่ได้เป็ป่าใหญ่ลึกแบบนี้ ตรงนั้นส่วนมากเป็ป่าไผ่ ยิ่งลึกเข้าไปเ้าจะมองเห็นแสงน้อยลง ตอนนี้ก็เริ่มมองหาสมุนไพรได้แล้ว”
“ท่านปู่!!งูเ้าค่ะ มันอยู่ตรงต้นสมุนไพรตรงนั้น ตัวมันใหญ่มาก”ชายชรารีบเข้ามาหาเด็กน้อย
“ เ้าถอยมาจู๋จื่อ เดี๋ยวปู่จัดการเอง”ชายชราจัดการกับงู ใช้เวลาไม่นานงูก็นอนแน่นิ่ง
“ ท่านปู่เ้าค่ะข้าอยากเก่งแบบท่านปู่จังเลย ใช้เวลาไม่นานก็สังหารงูใหญ่ได้แล้ว ถ้าข้าโตกว่านี้น่าจะดี ตอนที่เห็นงูมีภาพในหัวข้าถือกระบี่แล้วฝันไปที่หัวงู”
“ ค่อยเรียนค่อยศึกษาไป อย่าลืมว่าเ้ายังไม่มีพลังธาตุ สู้พวกมันไม่ได้หรอก ถุงสมุนไพรที่มัดอยู่กับเอวก็อย่าให้หลุดล่ะ มันป้องกันสัตว์มีพิษไม่ให้เข้าใกล้ได้”
“เ้าห้ามเดินห่างจากปู่ ป่าจะยิ่งรกทึบขึ้นเรื่อยๆ สัตว์ป่าก็เยอะขึ้นตามตัว มีดเล็กเก็บไว้อย่าให้ห่างตัว เผื่อเจอสัตว์ร้ายจู่โจมโดยไม่รู้ตัว เ้าก็ใช้ภาพในหัวที่ปรากฏขึ้น จัดการกับมันได้เลย”
“ พวกเราต้องเดินผ่านป่าใหญ่นี้ไปให้ถึงยอดเขาบรรพต แล้วจะหยุดพักอยู่ที่นั่นจนกว่าเ้าจะมีพลังธาตุ แล้วถึงจะกลับไปที่กระท่อมกลางป่าไผ่”
ผู้เฒ่าจื่อโม่ ที่เบื่อหน่ายโลกภายนอก มาหลบซ่อนตัวอยู่ในกลางป่า ชีวิตชราของเขาเปลี่ยนไปั้แ่เจอเด็กทารก ถึงแม้จะเหนื่อยและลำบาก จากการเลี้ยงดูเด็กน้อยผู้เดียว แต่ชีวิตที่เงียบเหงาของเขาก็มีสิ่งมาเติมเต็ม
ทั้งสองปู่หลานเดินทางมายอดเขาบรรพต ที่ผ่านอันตรายจากสัตว์ป่าน้อยใหญ่มา ด้วยฝีมือของผู้เฒ่าจื่อโม่ที่เก่งกาจ ในวันที่สิบของการเดินทาง ทั้งคู่ก็มาอยู่บนยอดเขาบรรพตแล้ว
“ ท่านปู่ปล่อยข้าลงจากหลังได้แล้วเ้าค่ะ ถึงยอดเขาแล้ว”จู๋จื่อดิ้นลงจากหลังผู้เฒ่า
“อืมที่ตรงนี้ไม่เลว ปู่จะสร้างที่พักไว้ตรงนี้ เ้าอย่าเดินไปไหนไกลล่ะ ปู่จะตัดไม้แถวนี้มาสร้างกระท่อม”
ทั้งสองพักอยู่บนเขา ออกหาสมุนไพรตามยอดเขา เพื่อมาปรุงโอสถเปิดพลังให้กับเด็กน้อย
“ วันนี้เ้าไม่ต้องออกไปกับปู่ ที่ตรงนั้นมีสัตว์อสูรอยู่ ปู่กลัวว่าเ้าเป็อันตราย ท่องตำราอยู่กับบ้านนี่แหละ”
“เ้าค่ะท่านปู่ ท่านไม่ต้องเป็ห่วง ข้าจะท่องตำราอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น”
“มีอาหารที่ปู่เตรียมไว้ เ้าหิวก็กินได้เลยไม่ต้องรอ”ชายชราเตรียมข้าวของเดินป่า แล้วออกจากบ้านไป
“เฮ้! ท่านปู่ไปแล้ว เ้าก็ออกมาเถอะ มากินผลไม้ที่ข้ากับท่านปลูกเก็บมา”จู๋จื่อเรียกหนูสีดำให้ออกมากินผลไม้
“ ผลไม้ที่เ้าเก็บมามันไม่อร่อย ข้ารู้ว่าผลไม้อร่อยอยู่ที่ไหน แต่เ้าเป็เด็กไปไม่ได้ แถมยังไม่มีพลังอีกข้าจะไปเก็บมาให้ก็ไกล ”
“ มันไกลข้าไปได้ถ้าไม่มีอันตราย ท่านปู่กำลังหาสมุนไพรที่จะมาช่วยให้ข้า มีพลังธาตุเหมือนผู้อื่นอยู่”
“ หาสมุนไพรงั้นรึ ทำไมถึงไม่ไปตรงที่ถ้ำลับ ในเทือกเขาโน้นล่ะ ข้าเคยเข้าไปมีสมบัติตั้งหลายอย่าง น่าจะมีโอสถที่ช่วยให้เ้ามีพลังปราณได้น่ะ”
“ จริงรึ! ไว้รอให้ท่านปู่กลับมาก่อน ข้าค่อยชวนท่านปู่ไป เ้าหายปวดท้องแล้วรึหนูดำ มีอะไรให้กินเ้าก็กินไปก่อนเถอะ”
หนูดำ เด็กน้อยเจอมันอยู่ใต้ต้นไม้ เพราะความตะกละกินอาหารไปเยอะจึงปวดท้อง มันนอนทรมานหมดแรง จนเด็กน้อยที่วิ่งเล่นอยู่ไปเจอเข้า มันที่สื่อสารกับเด็กน้อยได้ จึงได้รับการช่วยเหลือด้วยยาแก้ปวดท้องของมนุษย์
“ ข้าไม่ได้เป็อะไรสักหน่อย แค่กินอาหารไปเยอะเท่านั้นเอง ก็เ้าเล่นเอาเนื้อตากแห้งมาวางทิ้งไว้ ข้าไม่เคยกินของอร่อยแบบนี้ก็เลยกินจนพุงกาง ถึงได้ปวดท้อง”
“ ท่านปู่คิดว่าข้ากิน ถ้ารู้ว่าเป็เ้าต้องถูกฆ่าทิ้งเอามาย่างเป็อาหารแน่”
“ ถ้าปู่เ้าอยู่ข้าก็ไม่มาให้เห็นอยู่แล้ว แต่ข้าอยากพาเ้าไปที่ถ้ำนั้นนะ เพราะว่าถ้าเป็ผู้ใหญ่เข้าไปไม่ได้ ต้องตัวเล็กถึงจะคลานเข้าไปข้างในถ้ำได้”
