“เิไท่? ปล่อยเยว่เหยาเสีย!” หลี่เหว่ยถลึงตา และะโใส่อีกฝ่ายอย่างโกรธเกรี้ยว
ค่ายกลในลานประลอง ดูเหมือนจะกลายเป็อาวุธของเิไท่ไปแล้ว เชือกแสงสีแดงสะบัดไปมากลางอากาศราวกับแส้ ไม่มีใครเข้าใกล้เขาได้แม้แต่คนเดียว
หลี่เหว่ยที่ปรากฏตัวบนท้องฟ้า จ้องมองเิไท่อย่างตื่นตะลึง
“หลี่เหว่ย! เ้ามาแล้วหรือ?” เหมิ่งไท่เงยหน้ามอง พร้อมยิ้มเหี้ยม
เมื่อเยว่เหยาเห็นหลี่เหว่ย ดวงตาของนางก็มืดมัวไร้แววไปพักใหญ่ ก่อนเอ่ยปาก “พี่หลี่เหว่ย! ข้าเป็ผู้หญิงของพี่หลี่เหว่ย มีนามว่าเยว่เหยา!”
หลี่เหว่ยหน้าเปลี่ยนสีทันที
“เิไท่! เ้าออกมาได้อย่างไร? มิใช่ว่าเ้าไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะไปแล้วหรอกหรือ?” หลี่เหว่ยถาม ด้วยความประหลาดใจ
“ข้าหนีออกมาได้อย่างไรเช่นนั้นหรือ? ยี่สิบปีแล้ว... ฮ่าๆๆๆ! ศิษย์น้องที่รักเอ๋ย หลังจากอาจารย์จากไป เป็ข้าที่ดูแลพวกเ้า การฝึกพลังของเ้า ล้วนเป็ข้าที่สอนให้.. ยี่สิบปี? ยี่สิบปี!” เหมิ่งไท่แผดเสียงใส่อีกฝ่ายอย่างดุดัน
เยว่เหยาที่อยู่ด้านข้าง ตัวสั่นเทาด้วยความพรั่นพรึง
“ปล่อยเยว่เหยาเสีย... ปล่อยนาง!” หลี่เหว่ยกล่าวอย่างร้อนรน
“รู้สึกกลัวขึ้นมาแล้วหรือ? เยว่เหยานี่โชคดีจริงๆ ถูกข้าสังหารไปแล้วครั้งหนึ่ง กลับยังมีชีวิตอยู่ แม้จะไม่ต่างจากศพเดินได้ แต่เ้าก็ยังหลงใหลนางหัวปักหัวปำ” เิไท่กล่าว พร้อมยิ้มเย็น
หลี่เหว่ยค่อยๆ เหาะเข้าไปในลานประลอง
เวลานี้เชือกแสงสีแดง กลับมิได้ขัดขวางเขา
หลี่เหว่ยจ้องเิไท่ด้วยสีหน้าเ็ป พลางกล่าว “เิไท่ ใช่! เป็เ้าที่ดูแลพวกเรามา แต่… แต่ก็ใช้เราหาหินิญญาให้มิใช่หรือ? ที่ให้ข้าอยู่ที่พรรคต้าเฟิงนี่ ก็เพื่อหาเงินให้เ้ามิใช่หรือ? เ้าเห็นข้าเป็เพียงเครื่องมือหาเงิน มิใช่หรือไรกัน?!”
“เครื่องมือหรือ? ข้าเลี้ยงดูพวกเ้าจนเติบใหญ่ถึงเพียงนี้ ข้ามอบหลายสิ่งอย่าง ทั้งยังให้ชีวิตที่มั่นคง แต่พวกเ้ากลับไม่พอใจ?
ในตอนนั้น เยว่เหยาไม่ชอบใจ แต่เ้าเล่า เหตุใดถึงไม่พึงใจไปด้วย? ตอนนั้นช่วยข้าหาหินิญญา แล้วตอนนี้ล่ะ มิใช่ว่าช่วยนางเฒ่าติงรุ่ยหาหินิญญาหรอกหรือ?
เ้าตรองดูสิ ว่ามันต่างกันตรงไหน? หากไม่มีข้าคุ้มกะลาหัว เ้าจะทำสิ่งใดได้บ้าง?” เิไท่ตอกกลับทันที
“ไม่ว่าเ้าจะบอกสิ่งใด ข้าล้วนเชื่อฟัง สิ่งใดที่เ้า้าให้ข้าทำ ข้าก็ทำ ไม่เคยโต้แย้ง
แต่... แต่เ้าก็รู้ทั้งรู้ ว่าเยว่เหยาเป็คู่หมั้นของข้า และเรากำลังจะแต่งงานกัน ทว่าเ้ากลับสังหารนาง!” หลี่เหว่ยกล่าว ั์ตาแดงก่ำ
“เป็นางที่ทำตัวเอง! เฟิงหลิงอยู่ที่ไหน? เ้าขังนางไว้ที่ใด?” เิไท่ถาม พร้อมถลึงตามองฝ่ายตรงข้าม
“เ้ารู้หรือไม่ ว่าข้าตาบอดได้อย่างไร?” หลี่เหว่ยชี้ไปที่ผ้าปิดตาของตัวเอง ด้วยแววตาเจ็บแค้น “ข้าควักมันออกมาเอง!”
“ตอนที่ข้าเห็นศพของเยว่เหยา ข้าก็ควักมันออกมา ที่ตาข้าบอดเช่นนี้ เป็เพราะฟังคำเ้า! ที่ตาข้าบอด เพราะทำตามคำสั่งของเ้า! ที่ตาข้าบอด เพราะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ว่าสิ่งที่เห็นจะเป็ความจริง ว่าศิษย์พี่ใหญ่ที่ข้าชื่นชมที่สุด ฆ่าคู่หมั้นของข้า
ั้แ่วินาทีที่เห็นศพของเยว่เหยา ข้าก็บอกตัวเอง ว่านางต้องไม่ตายเปล่า ข้าจะล้างแค้นให้เยว่เหยา ดวงตาที่ไม่อาจแยกแยะถูกผิดได้นี่ ข้าจึงควักมันออกมาด้วยตัวเอง
ตอนนี้เมื่อเห็นทุกอย่างชัดเจนแล้ว ข้าจึงแก้แค้นเ้า ้าทรมานให้อยู่มิสู้ตาย!” หลี่เหว่ยะโใส่เิไท่อย่างคลุ้มคลั่ง
ใบหน้าของเิไท่ดำคล้ำทันที เมื่อเห็นสภาพบ้าคลั่งของหลี่เหว่ย เขาสูดหายใจ ก่อนกล่าว “ที่เยว่เหยาถูกฆ่านั่น หาใช่ความผิดของข้า แต่หลังจากทรมานข้าทุกวันมาหลายปี เ้าควรพอใจแล้วกระมัง คืนเฟิงหลิงมา คืนนางมาให้ข้า จากนี้ไปเ้ากับข้า ก็ถือว่าเลิกแล้วต่อกัน!”
“เลิกแล้วต่อกัน? เลิกแล้วต่อกันหรือ? แล้วเยว่เหยาล่ะ? แล้วเื่ของเยว่เหยาล่ะ?” หลี่เหว่ยถาม ดวงตาแดงก่ำ
เิไท่มองเยว่เหยาที่อยู่ข้างๆ บัดนี้นางดูไร้สติสัมปชัญญะ ไม่มีชีวิตชีวาเหมือนเช่นเมื่อยี่สิบปีก่อน คงเพราะจิตเหลือเพียงดวงเดียว จึงทำให้นางโง่งมด้อยปัญญา
“หลี่เหว่ย ข้าไม่อยากทุ่มเถียงกับเ้า... ตอบมา! เฟิงหลิงอยู่ที่ไหน?” เิไท่คำรามออกมา
“หึๆๆ! เฟิงหลิง? เฟิงหลิงตายไปแล้ว ในเมื่อเ้าฆ่าเยว่เหยาของข้า ข้าย่อมต้องฆ่าเฟิงหลิงของเ้าเช่นกัน มันก็ยุติธรรมแล้วมิใช่หรือ?” หลี่เหว่ยกล่าว พร้อมยิ้มขื่น
“ไม่… ไม่จริง! เ้าบอกว่า… เ้าเคยบอกว่าเฟิงหลิงยังมีชีวิตอยู่ ตอนที่ข้าเพิ่งถูกขัง เ้าเคยพูดตอนที่ทรมานข้า ว่าหากข้าตาย เ้าจะสังหารเฟิงหลิง กล่าวว่าตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ เฟิงหลิงก็จะยังมีชีวิตอยู่เช่นกัน” เิไท่จ้องหลี่เหว่ยเขม็ง
ภายนอกลานประลอง ถูกคนของพรรคต้าเฟิงจำนวนมากล้อมเอาไว้ แต่เวลานี้ กลับไม่มีผู้ใดกล้าขยับ แต่ละคนต่างเบิ่งตาโต ด้วยไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“ตายแล้ว! ศิษย์พี่เฟิงหลิงตายไปแล้ว… นางตายไปแล้ว… ตายไปนานแล้ว!” หลี่เหว่ยส่ายหน้า
ั์ตาของเิไท่ปรากฏแววบ้าคลั่ง แต่กลับสงบลงอย่างรวดเร็ว
“ไม่! หากเ้าเกลียดข้ามาก เ้าจะไม่ฆ่าเฟิงหลิง นางยังมีชีวิตอยู่ ต้องมีชีวิตอยู่แน่... ปล่อยเฟิงหลิง มิเช่นนั้นข้าจะสังหารเยว่เหยาเสีย!” เิไท่จับตัวเยว่เหยาเอาไว้ ด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม
“อ๊า!” เยว่เหยาพลันส่งเสียงร้องอย่างเ็ป
“เ้าฆ่านางไปแล้วครั้งหนึ่ง ข้าบอกแล้วไง ว่าเฟิงหลิงตายไปนานแล้ว ปล่อยเยว่เหยาของข้าเสีย ปล่อยนาง... และข้าจะให้ทุกอย่างที่เ้า้า” หลี่เหว่ยกล่าว สีหน้าเป็กังวล
“คุกเข่าลง!” เิไท่ตวาดเสียงดัง พลางจ้องอีกฝ่ายเขม็ง
หลี่เหว่ยมองเยว่เหยาที่ดูทรมานมาก หลังจากที่ถูกเิไท่จับตัวเอาไว้ แววตาอ่อนลง และค่อยๆ คุกเข่า ขณะที่เหม่อมองไปทางหญิงสาว “เยว่เหยาที่รัก... ไม่เป็ไรๆ!”
บางทีการปลอบโยนของหลี่เหว่ยอาจได้ผล เยว่เหยาที่กำลังตื่นตระหนกค่อยๆ ผ่อนคลาย และเริ่มพึมพำกับตัวเอง พร้อมจ้องหลี่เหว่ย “พี่หลี่เหว่ย ข้าเป็ผู้หญิงของท่าน เยว่เหยา!”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายคุกเข่าลง เิไท่ก็มีสีหน้าพอใจ
“ดี! ตอนนี้บอกข้ามา ว่าเฟิงหลิงอยู่ที่ไหน?” เิไท่จ้องหลี่เหว่ย
“เฟิงหลิงตายแล้ว นางสิ้นชีพไปแล้วจริงๆ” หลี่เหว่ยตอบเสียงขื่น
“เ้าคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่าเยว่เหยาอีกครั้งกระนั้นหรือ?” เิไท่ถาม ท่าทางเคืองแค้น
“ศิษย์พี่ใหญ่ ได้โปรดปล่อยเยว่เหยา ข้าขอร้อง!” จู่ๆ หลี่เหว่ยก็ร้องไห้อ้อนวอนอีกฝ่าย
“หึ! เ้าคิดว่าข้าไม่กล้าทำใช่หรือไม่? เ้าไม่ปล่อยเฟิงหลิง เช่นนั้นข้าก็จะจัดการเยว่เหยาเสีย!” เิไท่ร้องะโ
พูดพลาง เิไท่ก็ยื่นมือออกไปเปิดค่ายกล
ม่านพลังสีฟ้าปรากฏขึ้นเหนือลานประลอง ปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดของลานเอาไว้ หากหน้ากากบนใบหน้าของเยว่เหยา ััเข้ากับม่านพลัง มันก็จะะเิทันที
“อย่า... ศิษย์พี่ใหญ่... อย่า!” หลี่เหว่ยรีบร้องห้ามทันที
เพียะ!
เขาฟาดฝ่ามือลงไปบนอุปกรณ์ชิ้นหนึ่ง ทำให้มันแตกออกเป็เสี่ยงๆ
เิไท่กล่าว พร้อมยิ้มเหี้ยมเกรียม “เ้าเห็นหรือไม่? ข้าทำลายอุปกรณ์ควบคุม จนแตกเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้ว ไม่นานม่านแสงสีฟ้าก็จะบีบเข้ามาหาพวกเรา โดยไม่มีใครหยุดมันได้ รอจนม่านแสงััเข้ากับหน้ากากบนใบหน้าเยว่เหยาที่รักของเ้า... คงรู้ผลลัพธ์ดีใช่หรือไม่?!”
หลี่เหว่ยตาเบิกโตด้วยความใ
“ตูม!”
เิไท่เลียนแบบเสียงะเิอันน่ากลัว
สีหน้าของหลี่เหว่ย ดูหวาดหวั่นขึ้นมาทันที
“ข้า้าตัวเฟิงหลิง มิเช่นนั้น ศีรษะของเยว่เหยาจะะเิ รู้ใช่หรือไม่ ว่าเ้าเป็คนบังคับให้ข้าต้องทำแบบนี้ เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว!” เิไท่จ้องมองหลี่เหว่ย
“ศิษย์พี่ใหญ่ เฟิงหลิงตายไปแล้ว นางตายไปแล้วจริงๆ ได้โปรด... ปล่อยเยว่เหยา!” หลี่เหว่ยตะเบ็งเสียงอย่างร้อนรน
“ข้าไม่เชื่อ!” เิไท่คำราม
...
ในมุมที่ห่างไกลออกไป ใบหน้าของกู่ไห่พลันดำคล้ำทันที “ข้าไม่อาจพึ่งพาเิไท่ได้จริงๆ เขาไม่เคยคิดจะช่วยข้าถอดหน้ากาก เพียง้าต่อรอง เพื่อเอาตัวเฟิงหลิงคืนเท่านั้น... หึ!”
...
“พี่หลี่เหว่ยข้ากลัว!” เยว่เหยาพยายามพุ่งเข้าหาหลี่เหว่ย
ดูเหมือนศีรษะของนาง ใกล้จะชนกับม่านแสงแล้ว
“ไม่!” หลี่เหว่ยร้องอย่างตื่นตระหนก
ใบหน้าของเิไท่เปลี่ยนเป็บ้าคลั่ง เขากระชากตัวนางกลับไป หากเยว่เหยาตาย ก็หมดทางจะช่วยเฟิงหลิง
แควก!
ขณะที่เิไท่กระชากตัวหญิงสาวกลับมา แขนเสื้อของนางก็ขาดออก
ทันใดนั้น ปานรูปลูกท้อที่แขนขวาของเยว่เหยา ก็ปรากฏออกมาให้เห็น
เิไท่พลันตะลึงลาน ก่อนขยี้ตาตัวเอง “เป็ไปได้อย่างไร? เหตุใดเยว่เหยาจึงมีปานแบบเดียวกับเฟิงหลิง?”
หลี่เหว่ยพลันมีสีหน้าเ็ปทันที
ฟึ่บ!
เิไท่ไล้มือผ่านเส้นผมของเยว่เหยา พลางใช้พลังของเขาโกนผมนาง และแล้วหนังศีรษะก็ปรากฏออกมา...
... บนหนังศีรษะของนาง มีรอยสักคล้ายรูปดอกโบตั๋น
“ไม่ๆๆ!” เิไท่ผงะถอยไปด้านหลัง ราวกับกำลังจะล้ม เขามองรอยสักบนศีรษะของหญิงสาวอย่างงงงัน
จู่ๆ เิไท่ก็สังเกตเห็นรอยแผลเป็ใต้คางของนาง ซึ่งแท้จริงแล้วรอยแผลดังกล่าว ลากยาวจากคางวนล้อมกรอบหน้า
“เฟิงหลิง? เ้าคือเฟิงหลิง?” เิไท่ร้องโพล่งอย่างใ
บัดนี้เยว่เหยาผู้ไร้สตินึกคิด กำลังมองดูหลี่เหว่ย ราวกับ้าจะโผเข้าไปหาเขา
“เ้าคือเฟิงหลิง? หน้า? เหตุใดหน้าของเ้าจึงกลายเป็เยว่เหยา? สับเปลี่ยนใบหน้า? เ้าสับเปลี่ยนใบหน้าของเฟิงหลิง นางคือเฟิงหลิง... นางคือเฟิงหลิงใช่หรือไม่?!” เิไท่ร้องถาม พร้อมจ้องหลี่เหว่ยเขม็ง
วูบ!
ม่านสีฟ้าเคลื่อนเข้ามาใกล้จะถึงแล้ว เมื่อเห็นเช่นนั้น เิไท่พลันเปลี่ยนสีหน้าเป็ตื่นตระหนกทันที
“หลี่เหว่ย นางคือเฟิงหลิงใช่หรือไม่? เร็ว! รีบถอดหน้ากากของนางออก… เร็วเข้า!” เิไท่ดูเหมือนใกล้จะเสียสติแล้ว
หลี่เหว่ยตะเกียกตะกายลุกขึ้น สีหน้าเจือด้วยความขมขื่น
“เยว่เหยา... นางคือเยว่เหยา!” หลี่เหว่ยกล่าว น้ำเสียงมั่นใจยิ่ง
“พี่หลี่เหว่ย!” เมื่อเห็นหลี่เหว่ย เยว่เหยาก็ร้องเรียกออกมา
“ข้าเข้าใจแล้วๆ เ้าให้เฟิงหลิงอยู่ข้างๆ และสับเปลี่ยนใบหน้าของนาง เพื่อทรมานข้าสินะ เยว่เหยาตายไปนานแล้ว ข้าก็นึกสงสัยอยู่ว่าเ้าจะสามารถใช้วิชาคืนชีพคนตายได้อย่างไร
แต่แท้จริงแล้ว เ้ากลับสับเปลี่ยนใบหน้าของเฟิงหลิง และเยว่เหยา เ้าทรมานเฟิงหลิงทุกวัน ้าใช้นางเพื่อทรมานข้าใช่หรือไม่?” เิไท่ซวนเซ คล้ายจะล้มลงได้ทุกเมื่อ
“ข้าบอกว่าเป็เยว่เหยา... นางคือเยว่เหยาต่างหาก!” หลี่เหว่ยะโ ดวงตาแดงก่ำ
“เร็วเข้า! หลี่เหว่ย ศิษย์น้องสาม ขอร้องละ... เ้ารีบช่วยเฟิงหลิงเร็ว… ข้าขอร้อง!” เิไท่มองม่านแสงที่ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ อย่างตื่นตระหนก
อุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมถูกทำลายไปแล้ว ข้าไม่อาจหยุดมันได้ เฟิงหลิงกำลังจะตายเพราะข้า เิไท่อยากจะตีตัวเองให้ตาย... เหตุใดข้าถึงได้ทำอะไรโง่ๆ เช่นนี้!
“คุกเข่า!” หลี่เหว่ยตวาด สีหน้าเ็ป
ตึง!
เิไท่คุกเข้าลง อย่างไม่มีท่าทีลังเลแม้แต่น้อย
หลี่เหว่ยเดินเข้าไปหาเขา เิไท่ก็ไม่กล้าหลบ
ผัวะ!
หลี่เหว่ยเตะอีกฝ่ายอย่างไร้ความปรานี จนร่างเขาลอยกระเด็น
ั้แ่แรกก็าเ็สาหัสอยู่แล้ว การเตะครานี้จึงทำให้ขาเขาหักงอผิดรูป ร่างเิไท่กระแทกกำแพงลานประลองเสียงดังลั่น
ฟู่!
เขากระอักเืทันที ทั้งยังหายใจติดขัด แต่ก็พยายามตะเกียกตะกายเกาะกำแพงลุกขึ้น “รีบ... รีบช่วยเฟิงหลิงเร็วเข้า... เร็ว!”
“พี่หลี่เหว่ย!” เยว่เหยามองดูหลี่เหว่ยด้วยสายตาวางเปล่า
หลี่เหว่ยมีสีหน้ากังวล พลางยื่นมือออกไป วางทาบบนหน้ากากของเยว่เหยา
เขารู้สึกเหมือนััโดนบางอย่างที่ลื่นๆ แต่ตอนนี้ ไม่มีเวลาไปคิดใคร่ครวญอะไร เพียงรีบปล่อยพลังออกจากฝ่ามือ
แครก!
หน้ากากหลุดออกแล้ว
ตูม!
หน้ากากถูกโยนทิ้ง ไม่นานนัก ม่านแสงก็เคลื่อนผ่านใบหน้าหญิงสาวไป
“พี่หลี่เหว่ย!” เยว่เหยามองดูหลี่เหว่ยด้วยสีหน้าวางเปล่า
“เยว่เหยา... เยว่เหยาของข้า!” หลี่เหว่ยดึงนางเข้ามากอดทันที ร่างของเขาพลันสั่นระริก
“เฟิงหลิงของข้า นั่นคือเฟิงหลิงของข้า! หลี่เหว่ย เ้าทรมานเฟิงหลิงอย่างไร ถึงทำให้นางเป็เช่นนี้? หลี่เหว่ย!” เิไท่ที่นอนจมกองเื ะโอย่างโกรธแค้น
....
มุมหนึ่งด้านนอกลานประลอง
กู่ไห่กำลังมองดูหน้ากากสำริดที่หลี่เหว่ยโยนทิ้งด้วยั์ตาเป็ประกาย
“จิตสำนึกของเฟิงหลิงถูกเปลี่ยนไป เป็เวลากว่ายี่สิบปีแล้ว ใน่ที่ผ่านมา นางถูกทุกคนล้างสมองมาตลอด ว่านางคือเยว่เหยา จิตใต้สำนึกจึงกลายเป็เยว่เหยาโดยสมบูรณ์ เป็เยว่เหยามายี่สิบปี... ยี่สิบปีเชียวนะ! นานจนลืมไปแล้ว ว่าตนคือเฟิงหลิง รู้เพียงว่าตัวเองคือเยว่เหยาเท่านั้น
ส่วนหลี่เหว่ย... ยี่สิบปีมานี้ เ้าสะกดจิตเฟิงหลิง หรือตัวเองกันแน่? แยกไม่ออกแล้วกระมัง ว่าใครคือเยว่เหยา ใครคือเฟิงหลิง?
เิไท่เอ๋ย... เ้าพลาดแล้ว!” กู่ไห่ส่ายหน้า และไม่ได้อยู่ดูอีก แต่หลบฉากไปทันที
เวลานี้คนในพรรคต้าเฟิงทั้งหมดถูกดึงมาที่นี่ เป็จังหวะเหมาะที่จะพาพวกอาชญากรหลบหนี หากพลาดโอกาสนี้ไป คงไม่มีโอกาสงามๆ เช่นนี้อีกแน่!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้