กู้เฟิงโบกมือ แล้วหันหลังเดินจากไป
ฉู่อี้เข้าใจ ที่กู้เฟิงไม่พูดว่า 'ลาก่อน' เพราะเขาคิดว่าพวกขาจะไม่ได้เจอกันอีก ฉู่อี้ไม่พูดอะไร เพียงเฝ้ามองลึกเข้าไปยังแผ่นหลังอันสงบนิ่งของกู้เฟิง ก่อนจะหันหลังจากไปอย่างไม่แยแส
ก็แค่คนพิเศษที่ผ่านเข้ามาคนหนึ่ง! พวกเขาต่างคิดเช่นนั้นในตอนนี้
เมื่อเดินตามผู้ช่วยไปจนถึงหน้าประตู ก็เห็นผู้ช่วยยื่นธบัตรสองใบที่กู้เฟิงให้มาแก่คนขับแท็กซี่ที่รออยู่แล้ว ฉู่อี้ถึงเพิ่งรู้ว่ากู้เฟิงออกค่าโดสารให้เขาก่อน ฉู่อี้หันกลับไปมองโดยไม่ตั้งใจ และเห็นไนต์คลับที่กำลังหลับใหลใต้แสงอาทิตย์ แต่อย่างน้อยฉู่อี้ก็จำชื่อของไนท์คลับนี้ขึ้นใจ 'Super Moment' ย่อออกมาเป็คำว่า SM
ฉู่อี้เข้าไปในรถแล้วกระแทกประตูปิด บอกที่อยู่แก่คนขับรถ และจากไปโดยไม่หันกลับมามองที่แห่งนี้อีก
ฉู่อี้คิดว่าเขาจะไม่มีวันข้องเกี่ยวกับกู้เฟิง หรือร้านแบบนี้อีก ความทรงจำที่เกี่วกับกู้เฟิงเ่าั้จะเป็เพียงภาพอันแปลกแยกในความทรงจำของเขา แม้แต่รอยประทับที่กู้เฟิงฝากไว้บนร่างกายของเขา เขาสามารถลบมันทิ้งอย่างง่ายดายเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงขอยืมโทรศัพท์มือถือของคนขับรถ เพื่อโทรหาผู้ช่วยพิเศษของเขา ขอให้นำเสื้อผ้าของตนไปรอที่โรงจอดรถใต้ดินของบริษัท
เมื่อฉู่อี้มาถึง เฉิงเยว่ผู้ช่วยพิเศษของเขาก็ถือชุดสูทของเขายืนรอในช่องจอดรถของเขาอยู่แล้ว จากนั้นเฉิงเยว่ก็เห็นซีอีโอของเขาก้าวลงจากรถในเสื้อผ้าแปลกประหลาดที่ดูไม่พอดีตัว แต่สีหน้าเรียบเฉยเป็ปกติ
"ท่านประธาน" เฉิงเยว่รีบตรงเข้าไปหาฉู่อี้ที่ก้าวลงมาจากรถแล้ว เขาจึงช่วยปิดประตูรถให้เท่านั้น
"ท่านประธาน หลายวันนี้..." เฉิงเยว่ใช้กุญแจเปิดประตูรถ ฉู่อี้เข้าไปนั่งที่เบาะด้านหลัง
"่นี้บริษัทเป็ไงบ้าง" ฉู่อี้รับเสื้อผ้าที่เฉิงเยว่ส่งให้ และเริ่มเปลี่ยนชุดทันที
"่สองสามวันแรกไม่มีปปัญหาอะไรครับ แต่เมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อนข่าวการหายตัวของท่านก็หลุดออกไปได้ยังไงก็ไม่ทราบ สื่อหลายสิบเ้าเลยมาล้อมหน้าบริษัท แถมมีพนักงานปากสว่างบางคน..." ฉู่อี้มีผู้ช่วยพิเศษ 3 คน เลขาลับ 2 คนและทีมเลขานุการอีก 1 ทีม แม้เฉิงเยว่จะไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดในหมู่พวกเขา แต่เป็คนที่ถ่อมตัว เก็บเนื้อเก็บตัว และเป็คนที่ฉู่อี้เชื่อใจมากที่สุด ดังนั้นเฉิงเยว่จึงไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็คนขับรถสำรองให้กับฉู่อี้เป็ครั้งคราว แต่ยังมีกุญแจรถสำรอง และกุญแจสำรองห้องพักส่วนตัวของฉู่อี้ที่ชั้นบนสุดของบริษัทอีกด้วย
"ทุกคนอู่ที่นั่นหรือเปล่า" ฉู่อี้ถามถึงผู้ช่วยพิเศษและเลขาลับของเขา
"พี่ฉีกับเสียวิ่กำลังผลัดเวรกันอยู่ครับ" ฉู่อี้เปลี่ยนไปใส่ชุดสูทและรองเท้าเต็มยศเรียบร้อย เฉิงเยว่จึงเปปิดประตูให้เขา
"เรียกกลับมาซะ แล้วจัดประชุมทีมฉุกเฉินในอีกหนึ่งชั่วโมง ในระหว่างหนึ่งชั่วโมงนี้พวกคุณไปเตรียมเื่ที่ต้องรายงาน กับงานที่ต้องจัดการเร่งด่วนให้เสร็จเรียบร้อย แล้วจัดประชุมผู้ถือหุ้นกับงานแถลงข่าวโดยเร็วที่สุด" ฉู่อี้ลงจากรถ นอกจากผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงนิดหน่อย สภาพโดยรวมของเขาดูสง่างามเหมือนกติแล้ว
"รับทราบครับ" ขณะที่ทั้งสองเดินไปยังลิฟต์พิเศษ เฉิงเยว่ก็รายงานกลับไปด้วย "เื่งานแถลงข่าว วันนี้่บ่ายจะมีงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สำนักงานใหญ่ ท่านจะ..."
"ฉันจะไป ช่วยจัดการให้ที แล้วก็ช่วยหาข้ออ้างเหมาะๆ ที่ผมหายไป่นี้ด้วย"
พูดอีกอย่างก็คือ เขาจะไม่บอกใครว่าเขาไปที่ไหนใน่หลายวันที่ผ่านมา เฉิงเยว่ครุ่นคิด เมื่อลิฟท์ขึ้นมาถึงชั้นบนสุด เฉิงเยว่ก็ตอบกลับ "ถ้างั้นผมขอให้หมอจางออกใบรับรองแพทย์ว่าท่านเข้าพักในโรงพยาบาลสิบห้าวัน และรายงานการรักษาโรคเืออกในกระเพาะอาหารฉับพลันทั้งหมดของท่านดีไหมครับ?"
"ส่งมาก่อน่บ่าย" หมอจางไม่ใช่แค่แพทย์ประจำตัวของฉู่อี้ แต่ยังเป็เ้าของคลินิกส่วนตัวของเขาอีกด้วย
"ครับ" ทุกอย่างถูกจัดการเสร็จสรรพเมื่อประตูลิฟท์เปิดออก
...
ในขณะที่ฉู่อี้กลับไปยังบริษัทราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น กู้เฟิงกำลังต่อสู้กับหลิงหลิงในห้องตรวจ
ตอนที่กู้เฟิงเดินเข้าไป เขาไม่ได้เพิกเฉยต่อความประหลาดใจและน้อยใจที่ปรากฎในแววตาของหลิงหลิงทันทีที่เห็นเขา
เมื่อเห็นอาหารเย็นชืดตรงหน้าของหลิงหลิง กู้เฟิงไม่ได้ตั้งคำถามหรือตำหนิเขา เพียงแต่ลูบศีรษะของหลิงหลิง แล้วพูดอย่างอ่อนโยน "ตื่นเล้วเหรอ?" ราวกับว่าเขาไม่ได้ถูกเรียกตัวเข้ามากะทันหัน แต่ตั้งใจจะมาเยี่ยมเขาั้แ่แรก
หลิงหลิงเบิกตาดว้างด้วยความสงสัย มองกู้เฟิงด้วยดวงตาวาววับ แต่ยังคงไม่ปริปากแม้แต่คำเดียว
"เมื่อเช้าฉันมาเยี่ยมนายแล้ว แต่ว่านายหลับอยู่" กู้เฟิงตอบ พลางยกอาหารที่วางตรงหน้าหลิงหลิงขึ้นมาดม "ทำไมล่ะ? ไม่ชอบกินเหรอ? นายชอบกินอะไร? บอกฉันหน่อยได้ไหม?" กู้เฟิงจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของหลิงหลิง และถามอย่างอ่อนโยน
หลิงหลิงกัดริมฝีปากอยู่นาน กว่าจะตอบด้วยเสียงที่แ่เบา "ไม่มีของที่ไม่ชอบกินครับ"
หลิงหลิงกลัวว่ากู้เฟิงจะดุเขาหรือไม่ก็คาดคั้นว่าในเมื่อกินได้ทุกอย่างแล้วทำไมถึงไม่กิน แต่ที่ไหนได้ กู้เฟิงเพียงส่งชามข้าวในมือให้กับผู้ช่วยที่ยืนอยู่ด้านหลัง แล้วเอ่ยถาม "นี่มื้อเช้าหรือมื้อกลางวัน?"
"มื้อเช้าครับ" ผู้ช่วยตอบตามความเป็จริง
"ตอนนี้ไปปเตรียมอาหารกลางวันได้แล้ว" กู้เฟิงพูดแค่ประโยคเดียว ผู้ช่วยก็หันกลับไปเตรียมอาหารชุดใหม่มา
"เป็ยังไงบ้าง? ร่างกายมีตรงไหนไม่สบายบ้างไหม?" กู้เฟิงนั่งลงข้างๆ หลิงหลิงและชวนคุยระหว่างรออาหาร
หลิงหลิงอยากจะจับมือกู้เฟิงแต่ก็ไม่กล้า จึงได้แต่กำผ้าห่มแน่น "ไม่มีครับ"
"วันนี้นายหยุดพักอีกวันก็แล้วกัน ไว้กินข้าวเที่ยงอิ่มแล้วฉันจะพาไปดูรอบๆ พรุ่งนี้เราจะเริ่มบทเรียนกันจริงๆ จังๆ สักที แล้วอีกหนึ่งอาทิตย์จะมีการประเมิน มีคำถามไหม?" กู้เฟิงเฝ้ามองทุกการตอบสนองเล็กๆ น้อยๆ ของหลิงหลิง แต่กลับพบว่าหลิงหลิงเองก็มองเขาตาไม่กระพริบเช่นกัน ราวกับกลัว่าเขาจะหายไปเมื่อไหร่ก็ได้
หลิงหลิงส่ายหน้า และพยักหน้าอีกครั้ง กู้เฟิงเข้าใจ ที่ส่ายหน้าก่อนหมายถึง 'ไม่มีปัญหา' และที่พยักหน้าหมายถึง 'โอเค'
เ้าเด็กนี่พูดน้อยกว่าเขาหรือฉู่อี้อีกเหรอเนี่ย?! กู้เฟิงหัวเราะที่จู่ๆ เขาก็นึกถึงฉู่อี้ขึ้นมาดื้อๆ ก่อนจะลูบศีรษะที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงของหลิงหลิงอีกครั้ง
"กินซะ! กินเสร็จแล้วตอนบ่ายฉันจะพาไปตัดผม" เมื่ออาหารถูกยกมาให้แล้ว กู้เฟิงก็ออกคำสั่ง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหาเวินรื่อโอวที่รออยู่ที่นั่น
"มีปัญหาอะไรไหม?" กู้เฟิงถามเวินรื่อโอว ถ้าไม่ใช่เพราะมีเื่จะคุยกับเขา ส่วนมากเวินรื่อโอวจะออกไปข้างนอกตอนที่เขาเข้ามา
"นี่เป็ผลตรวจของเด็ก ไมมีสารเสพติดในเื แต่ขาดสารอาหารอย่างรุนแรง ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับธาตุอาหารตามมาตรฐาน แถมยังมีร่องรอยของการแตกหักในร่างกายหลายจุด ตามตัวมีแต่าแ แม้แต่..." เวินรื่อโอวมองไปทางหลิงหลิง และลดเสียงลงจากเดิมที่พูดกระซิบให้ได้ยินเพียงสองคนเท่านั้น "แม้แต่ส่วนนั้น" เวินรื่อโอวชี้นิ้วลงข้างล่าง "ทั้งด้านหน้า ด้านหลังเลย"
กู้เฟิงขมวดคิ้ว "ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง?"
"ที่ปากท่อปัสสาวะมีร่องรอยการถูกเจาะ ด้านนอกของถุงอัณฑะมีรอยไหม้คล้ายกับรอยจี้บุหรี่ แต่ยาวถึงหนึ่งเซนฯ รูทวารมีรอยแผลอย่างน้อยสองเซนฯ แต่ไม่มีร่องรอยของการเย็บแผล มีแต่รอยแผลเป็เหวอะหวะ น่าเกลียดมาก" จนกระทั่งท้ายที่สุด เวินรื่อโอวก็ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ "นายจะรับเขาเป็สัตว์เลี้ยงจริงดิ"
ในมุมมองของเวินรื่อโอว กู้เฟิงเป็คนจุกจิกเื่มาก แม้แต่เย่ถานที่มีเสน่ห์ยังไม่ยอมรับด้วยซ้ำ แล้วทำไมเขาถึงอยากได้คนที่ร่างกายแหลกสลายแบบนี้มาเป็สัตว์เลี้ยง?
"ถ้าเขาผ่านการทดสอบของฉันน่ะนะ" กู้เฟิงมองไปยังหลิงหลิง ซึ่งหลิงหลิงเองก็มองเขาอย่างใจจดใจจ่อ แม้ว่าจะกินอาหารอยู่ก็กินแบบไม่รู้รส กู้เฟิงส่งยิ้มบางๆ ให้กับเขา
"นาย..." เวินรื่อโอวังไม่ทันเอ่ปาก กู้เฟิงก็พูดต่อ "ฉันไม่จงใจทดสอบยากๆ หรอก แต่ก็ไม่ปล่อยไหลเหมือนกัน"
"ตอนนั้นนายก็ทดสอบเย่ถานเหมือนกันเหรอ?" ในที่สุดเวินรื่อโอวก็เอ่ยถามออกมาอย่างอดไม่ได้
กู้เฟิงหันขวับไปมองเวินรื่อโอวด้วยสายตาที่บ่งบอกวา 'มันจะเป็ไปได้ยังไง' "เขาเป็เพื่อนฉัน"
"ใช่ เพื่อนที่ขึ้นเตียงด้วยกันได้" ก่อนที่จะมาเปิดร้านเป็ของตัวเอง เป็ที่รู้กันว่าเฟิงจื่อและเย่ถานเป็คู่หูที่ดีที่สุดในวงการ SM ไม่ว่าจะในด้านการแสดงหรือการฝึกอบรม
"ฉันน่าจะรู้ ฉันแทบไม่แตะต้องตัวเขาด้วยซ้ำ" ส่วนใหญ่แล้วเขาใช้แต่อุปกรณ์เท่านั้น
"ใช่ แต่ถ้านายแตะต้องเขา แค่แตะก็พอล่ะ" เวินรื่อโอวมองพื้นที่ปลายรองเท้าของตน เขาไม่รู้ว่าวันนี้ตัวเองเป็อะไร แต่กลับก้าวร้ามผิดปกติ
"งั้นนายก็อวยพรให้คราวนี้ฉันรับสัตว์เลี้ยงสำเร็จไปได้ด้วยดีซะสิ" กู้เฟิงไม่ได้มองเวินรื่อโอว แต่มองข้ามเขาไปทางหลิงหลิง เพราะเขารู้ดีว่ามีเพียงเย่ถานเท่านั้น ที่จะทำให้เวินรื่อโอวเสียอาการได้แบบนี้ เขามองว่าทั้งสองคนเป็เพื่อนของเขา แต่ไม่คิดจะสอดมือเข้าไปยุ่งเื่ระหว่างทั้งคู่
"ถ้านายรับเขา เย่ถานต้องเสียใจแน่" เวินรื่อโอวขึ้นเสียงอย่างลืมตัว เขาอิจฉากู้เฟิง แต่เขาทนเห็นเย่ถานเสียใจไม่ได้มากกว่า
"เวินโหรว ฉันขอเตือนสตินายไว้ก่อนนะ เย่ถานกับฉันเป็แค่หุ้นส่วนกัน นอกเหนือจากนั้นเราก็เป็แค่เพื่อนและพาร์ทเนอร์กันเท่านั้น เขาไม่ได้เปราะบางขนาดนั้น แล้วก็ไม่ได้รักฉันอยากที่นายคิดด้วย ตอนนั้นที่เขาขอเป็สัตว์เลี้ยงของฉัน ก็เพราะจะหาพาร์ทเนอร์เท่านั้นเอง" กู้เฟิงแทบจนกัดฟันกระซิบพูดกับเวินรื่อโอว "แล้วอีกอย่าง นายมันอ่อนโยนเกินไป นายเคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าทำไมถึงคว้าเย่ถานไม่ได้สักที?"
เวินรื่อโอวอยากจะโพล่งออกไปว่า 'เพราะเขารักนายไงล่ะ' แต่เห็นสีหน้าถมึงทึงของกู้เฟิงแล้ว เขาก็สงสัยว่าถ้าพูดออกไปแบบนั้น กู้เฟิงจะต่อยหน้าเขาหรือเปล่า
"เขา...เขา..." เวินรื่อโอวคิดอยู่นานแต่ก็คิดไม่ออกสักทีว่าเป็เพราะอะไร
"เวินโหรว เย่ถานเป็ M โว้ย!" กู้เฟิงรู้สึกว่าเขาพูดชัดเจนมากพอแล้ว ถ้าเวินรื่อโอวังไม่เข้าใจอีก ก็ปล่อยให้ดักดานในความรักต่อไปจนตายก็แล้วกัน!
"..." เวินรื่อโอวทำหน้าเหมือนเพิ่งตื่นรู้
"ไสหัวไปซะ!" กู้เฟิงถีบหัวส่งทันที
ขณะที่กู้เฟิงและเวินรื่อโอวถกปัญหาเื่เย่ถาน หลิงหลิงก็กินข้าวเสร็จพอดี
"ผะ...ผมอิ่มแล้วครับ" เมื่อเห็นกู้เฟิงเดินมาตรวจดูข้าวที่เหลือ หลิงหลิงก็รีบก้มหน้าลงราวกับเขาทำผิด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอดลอบมองกู้เฟิงไม่ได้
"กินเข้าไปอีก กินจนกว่าจะอยากอ้วกออกมาเลย" กู้เฟิงพูดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า แต่เขาตัดสินใจกับตัวเองแล้วว่าจะขยายกระเพาะของหลิงหลิงสักหน่อย ขนาดแมวยังกินเยอะกว่าเขา เป็เด็กวัยกำลังโตแท้ๆ ทำไมถึงกินแค่นี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้