เส้นแสงนั้นสามารถล่องลอยไปมาได้หรือไม่?
ในตอนสมัยเด็กหลินลั่วหรานพบว่า เส้นแสงเองก็สามารถล่องลอยได้เช่นกัน ในตอนนั้นบ้านของเธอเป็บ้านที่มุงด้วยแผ่นกระเื้ัคาจึงทำให้มีแผ่นกระเบื้องบางแผ่นแตกออกโดยไม่ได้ตั้งใจ ถ้าหากว่าแตกมากๆก็จะทำให้น้ำฝนรั่วซึมเข้ามาได้
ดังนั้นผู้เป็พ่อของเธอจึงมักจะเลือกวันที่ท้องฟ้าสดใสปีนบันไดไม้ไผ่ขึ้นไป้าบ้าน หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จเรียบร้อยและนำกระเบื้องแผ่นใหม่ขึ้นไปเปลี่ยนทดแทน มันเรียกว่า การ “อุดบ้าน” ที่ผู้ชายในบ้านนอกต่างก็สามารถทำได้ทุกคน
แต่สิ่งที่หลินลั่วหรานให้ความสนใจนั้นไม่ใช่การ “อุดบ้าน” แต่เป็ตอนที่พ่อของเธอเปิดแผ่นกระเบื้องเ่าั้ออกแสงตะวันก็จะสามารถสาดส่องลงมาได้...พวกมันล่องลอยไปมาอย่างอิสระและประกายงดงามในสายตาของหลินลั่วหราน
แสงนั้นสามารถล่องลอยไปมาได้ หลินลั่วหรานในวัยเจ็ดแปดปีคิดแบบนั้นเธอรู้สึกราวกับว่าตนเองได้ค้นพบความลับบางอย่าง และก็ไม่ได้บอกมันกลับใครคนอื่นความจริงแล้ว บ้านของหลินลั่วหรานนั้นเป็คนนามสกุลอื่น ดังนั้นเด็กที่อายุเท่าๆกันกับเธอในหมู่บ้านหลี่ จึงไม่ได้เห็นค่าของเธอเท่าที่ควรหลินลั่วหรานจึงไม่รู้จะพูดออกไปทำไม
หลังจากนั้นเมื่อเริ่มไปโรงเรียนแล้ว หลินลั่วหรานก็เพิ่งจะได้รู้ว่าความจริงแล้ว แสงที่เธอคิดว่ามันล่องลอยลงมานั้นเป็เพียงการขยับลอยไปมาของเศษฝุ่นเล็กๆที่ลอยไปมาในอากาศอยู่ในบริเวณที่แสงส่องลงมาจึงทำให้ดูเหมือนว่าลำแสงกำลังล่องลอยเคลื่อนไหว
ที่แท้สิ่งที่ล่องลอยอยู่ ก็เป็เพียงเศษฝุ่นเด็กผู้หญิงที่เป็คนแก้กระจ่างความเข้าใจผิดนี้ของหลินลั่วหรานคือน้องสาวคนที่สิบจากบ้านของพี่หลี่ปาในตอนนั้นความเป็อยู่ของบ้านหลินไม่ได้ดีนัก เธอไม่เคยได้สวมเสื้อผ้าใหม่ๆรวมเข้ากลับเรือนผมที่ไม่ได้รับการดูแล และผิวสีเหลืองของเธอในตอนประถมจึงไม่ได้มีใครเข้ามาชอบเธอ ดังนั้นการที่น้องหลี่สือมาอธิบายภาพฝันในวัยเด็กของเธอก็ทำให้คนทั้งชั้นเรียนต่างพากันหัวเราะเยาะ
เสียงหัวเราะเยาะนั้น ฝังลงในส่วนลึกของจิตใจ แม้เวลาจะหมุนผ่านเลยไปแต่เธอก็ไม่เคยลืมเลือนมันเลย
เดิมทีเธอนั้นเป็คนเบิกบานและชอบพูด แต่ก็ค่อยๆ ถูกความกดดันเหล่านี้ทำให้ค่อยๆ กลายเป็คนนิ่งๆ เงียบๆ อย่างช้าๆ
เมื่อเข้าระดับชั้นมัธยมต้น เธอก็เริ่มเติบโตขึ้นรูปร่างของเธองดงามไร้ที่ติ ใบหน้าคมคายมากเสน่ห์ แต่กลับไร้ซึ่งความมั่นใจตลอดมาจนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย หลี่อันผิงที่อาศัยอยู่หมู่บ้านเดียวกันกับเธออีกทั้งยังสอบเข้ามหาลัยที่เดียวกัน ก็เริ่มรุกเข้าจีบอย่างจริงจังบางครั้งก็ยังเอาดอกกุหลาบที่ซื้อมาจากตลาดมาให้หรือบางทีก็เป็กลอนภาษาอังกฤษที่เขียนขึ้นมาเองเวลาที่ป่วยก็จะคอยดูแลต้มซุปให้...หลี่อันผิงใช้ความใส่ใจของเขาในการเอาชนะเหล่าศัตรูผู้หล่อเหลาและร่ำรวยก่อนที่จะเด็ดดอกไม้แสนสงบดอกนี้ลงมาอย่างทะนุถนอม
หลินลั่วหรานที่ไร้ซึ่งความมั่นใจในตัวเอง คิดว่านี่คือความรักเธอมีความสุขกับการปรากฏตัวเข้ามาของหลี่อันผิงมากแต่กลับไม่เห็นถึงความพยายามอย่างยากลำบากของพวกผู้ชายคนอื่นที่้าโอกาสจากเธอความจริงแล้ว เธอนั้นเป็ดอกลิลลี่อันบริสุทธิ์ที่คอยส่งกลิ่นหอมอย่างเงียบสงบเสมอมา แต่เธอกลับมองว่าตัวเองนั้นเป็เพียงดอกหญ้าที่ไม่ได้มีค่าอะไร
หลังจากนั้น เพราะเพียงแค่เื่ “แสงล่องลอย” เล็กๆ ในสมัยเด็ก แต่กลับสร้างผลกระทบให้กับชีวิตของคนคนหนึ่งไปอย่างมาก…ถ้าหากว่าวันนี้ไม่มีไข่มุกลึกลับ และได้เข้ามาในเส้นทางแห่งการฝึกศาสตร์ตลอดทั้งชีวิตนี้ เธอก็อาจจะเป็เพียงเด็กผู้หญิงที่ไม่มั่นใจในตัวเอง เก็บตัวและคอยอดกลั้นอยู่แบบนั้น
เมื่อเวลาผ่านพ้นไป เธอก็ไม่ใช่เด็กน้อยที่ไม่รู้เื่อะไรอีกต่อไปแล้วแต่ว่าในระหว่างที่เธอกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่นแบบนี้ เธอก็ได้พบกับ “แสงล่องลอย” อีกครั้งลำแสงที่ขยับเคลื่อนไหวล่องลอยไปมาอย่างแท้จริงนี้ เปล่งประกายงดงามะเิออกต่อหน้าของหลินลั่วหราน
เธอถูกถีบลงมายังสระเื ร่างของเธอจมหายไปในพริบตา
เหล่าปีศาจที่มีจำนวนมากกว่าหมื่นๆ ตนเมื่อได้พบกับเืเนื้อสดต่างก็พากันพุ่งตัวเข้ามาแย่งชิงหลินลั่วหรานรู้สึกว่าเนื้อตัวของเธอ ค่อยๆ ถูกกัดกิน ถูกกระชากฉีกออก…ความเ็ปนี้ แผ่กระจายไปทั่วทุกเส้นประสาท ทำเอาอยากจะตายไปซะ
ฆ่าตัวตาย?
แม้แต่แรงจะกัดลิ้นตัวเองยังไม่มี
ดวงตาของหลินลั่วหรานถูกแสงสว่างปกคลุมเอาไว้หรือก็คือลำแสงที่ล่องลอยไปมาเหล่านี้กำลังปกป้องส่วนที่บอบบางที่สุดอย่างดวงตาเอาไว้ เพื่อที่จะไม่ให้ถูกกัดกินเข้าไป
คือดวงตาอันเฉียบคมหรือเปล่า?
แต่ว่าปวดทรมานมากจริงๆ หลินลั่วหรานคิดอยากจะตายไปหลายครั้งหลายหนและทุกๆ ครั้งที่เธอคิดแบบนี้ขึ้นมาเหล่าปีศาจเ่าั้ก็จะยิ่งกัดกินร่างของเธอมากขึ้น
พวกมันเป็พวกรังแกสิ่งอ่อนแอ เกรงผู้เข้มแข็งหรือเปล่า?
ฉันจะตายไม่ได้...ถ้าตายไปแล้ว พ่อแม่ที่แสนซื่อลั่วตงที่ยังเด็ก หรือแม้แต่เพื่อนสนิทใกล้ชิดแต่ละคน ยังไม่สามารถทำอะไรได้สำเร็จเลยสักคนนะ! เธอก็ได้แต่คิดแบบนี้ หากไม่อดทนต่อไป ก็มีแต่จะต้องตายเท่านั้น
โลกแห่งการฝึกศาสตร์เหรอ ไม่ใช่ว่าก็ดูสงบรักกันดีเหรอ?
หลินลั่วหรานนอนสงบนิ่งอยู่ที่ใต้สระเืเธออยู่ในอาการกึ่งหลับกึ่งตื่นแบบนี้ตลอดเวลาเืเนื้อของเธอถูกกัดกินจนเหลือน้อยเต็มทีด้วยความเชื่อและศรัทธาว่าจะไม่ยอมตายในใจของเธอ ทำให้พลังในกายค่อยๆเกิดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ดูเหมือนว่าไข่มุกจะยังคงไร้การตอบสนอง แต่ในลมหายใจสุดท้ายของหลินลั่วหรานมันก็ส่งพลังออกมาเพื่อช่วยในการสร้างกระดูกใหม่ให้กับเธอ
ตายหนึ่งครั้ง จากนั้นก็เกิดใหม่ การเกิดนั้นก็เป็เพียงการเริ่มต้นของการตายอีกครั้งเท่านั้นมันคือวัฏจักรที่น่ารังเกียจอย่างหนึ่ง ดูเหมือนว่าพื้นที่ลึกลับจะถูกควบคุมด้วยกฎบางอย่างทำให้มันไม่ให้หลินลั่วหรานเข้าไป แต่กลับส่งพลังออกมาแทน ไม่เพียงเท่านั้น้าของกระท่อมเล็กที่ถูกบาเรียกั้นเอาไว้ ก็ปรากฏร่างนกฟินิกซ์ไฟแสนสง่าและปลาสีเงินอันเย็นะเืขึ้น หากหลินลั่วหรานอยู่ในพื้นที่ลึกลับในตอนนี้เธอจะต้องเข้าใจความลับบางอย่างของพื้นที่ลึกลับได้แน่ อย่างเช่นทำไมปลาตัวนี้ถึงได้ดูเหมือนกับปลาที่อยู่กับหญ้าน้ำแข็งไม่มีผิดเพี้ยน?
มันคือสองการมีอยู่ที่ไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกใดๆความสับสนปรากฏขึ้นในแววตาของพวกมัน เมื่อเห็นหลินลั่วหรานที่อยู่กลางสระเืแววตาของพวกมันก็ปรากฏความสงสารขึ้นมา เพราะความยืนหยัดหนักแน่นในการดิ้นรนเอาชีวิตรอดของเธอ
นอกจากความสงสารแล้ว ก็ยังมีความเคารพอยู่อีกมากมาย
ความหนักแน่นของหลินลั่วหรานทำให้ในที่สุดอารมณ์ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ยากจะมีความรู้สึกของนกฟินิกซ์ไฟและปลาเงิน
ความเ็ปทรมานแบบนี้ บนโลกใบนี้จะมีคนสามารถอดทนกับมันได้สักกี่คน?
หญิงสาวสวมชุดดำเคยผ่านมันมาแล้ว และเพราะว่าในใจของเธอมีความแค้นดังนั้นเธอจึงกลายร่างเป็ปีศาจ
แล้วหลินลั่วหรานล่ะ?
เมื่อได้พบกับ “แสงล่องลอย” อีกครั้ง ในที่สุดเธอก็ขจัดความไม่มั่นใจในตัวเองออกไปได้ในห้องเรียนที่ไม่ได้สว่างนักในวัยเด็กเธอไม่ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะเ่าั้อีกต่อไปแล้ว
เธอคือหลินลั่วหราน คือเด็กสาวที่ตามหาชะตาเทพอยู่ในเมือง
หลินลั่วหรานรู้สึกว่าร่างกายของเธอเ็ปไปหมด จนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแต่ว่าในใจของเธอนั้น กลับไม่เคยสว่างผ่องใสขนาดนี้มาก่อนเลยการฝึกของเธอนั้นมากพอแล้ว จิตใจก็พร้อมรับ ในการเกิดใหม่ของเธอครั้งนี้พลังในกายของเธอค่อยๆ ถูกบีบอัดเข้าด้วยกันอีกทั้งยังมีไข่มุกที่คอยส่งพลังออกมาให้ไม่หยุด แล้วเธอจะยังจำเป็ต้องอาศัยยาระดับพื้นฐานอีกเหรอ?
รอยแตกเล็กๆ เริ่มปรากฏขึ้นในพื้นที่กักเก็บพลังเหล่าพลังทั้งหลายต่างพุ่งเข้าไปด้วยความบ้าคลั่งหลินลั่วหรานที่อยู่ในอาการมึนงงตอบสนองขึ้นมาทำไมพลังในร่างถึงตอบรับกลับมาอีกครั้งแล้ว? พลังในกายเคลื่อนที่ไปมาจนกระทั่งด้านในพื้นที่เก็บพลังเริ่มอัดแน่นขึ้นหลินลั่วหรานบังคับพวกมันให้เข้าไปตามความรู้สึกจนสุดท้ายก็สามารถทำลายสิ่งขวางกั้นออกไปได้
ปัง พื้นที่กักเก็บพลังเปิดออก แหล่งพลังสมบูรณ์ในที่สุดเหล่าพลังต่างก็ได้พบที่อยู่ของพวกมัน
พวกมันเป็เหมือนกับกลุ่มดาว พลังสีขาวไร้ซึ่งธาตุกินพื้นที่ไปกว่าครึ่งส่วนพลังธาตุน้ำสีฟ้าใสและพลังธาตุไฟสีแดงเพลิงก็แยกออกเป็กลุ่มดาวเล็กๆอยู่เคียงกันพวกมันกำลังขยับเคลื่อนไหวอยู่ด้านในพื้นที่กักเก็บพลังในกายของหลินลั่วหรานด้วยความเร็วเท่าๆกัน
ทุกๆ ครั้งที่มันหมุนครบรอบ ก็จะมีพลังที่อ่อนแอ กลายเป็พลังที่เข้มแข็งและมีระดับที่สูงขึ้น
ในเวลานี้ เป็่ปีที่สองที่หลินลั่วหรานที่นอนจมอยู่ใต้สระเืนี้แล้ว
ปลายปีที่สองนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง?
่ปลายของปีที่สองที่เธอหายตัวมา ลั่วตงนั้นเรียนจบระดับชั้นประถมศึกษาปีที่สองแล้ว
ลูกสาวตัวน้อยของหวังเมี่ยวเอ๋อสามารถเรียกชื่อคนออกมาอ้อแอ้ได้แล้วแม้ว่าทุกย่างก้าวของเธอจะเต็มไปด้วยความโซเซแต่มันก็มอบความเบาสบายให้กับบรรยากาศที่อึดอัดของบ้านหลิน
ปลายปีที่สองนี้ พ่อของหลินลั่วหรานสามารถนำพลังเข้าสู่ร่างกายได้แล้วหลังจากนั้นเป่าเจียก็เริ่มก้าวเข้ามาอย่างจริงจังพร์นั้นเป็สิ่งที่ต่างก็ทำให้คนอิจฉา
ปลายปีที่สองนี้ คุณชายมู่อาศัยโอกาสที่ได้ออกไปติดต่องานที่ต่างประเทศจ้างทีมทหารจากต่างประเทศเข้ามาช่วยเสาะหาตัวหลินลั่วหรานที่เขาจงชาน
ปลายปีที่สองนี้ หลิ่วเจิงได้พบกับเขาเล็กที่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือและเริ่มการใช้ชีวิตที่ต้องแบกของหนักๆ ทุกวัน
ปลายปีที่สองนี้ ผู้คนส่วนมากในโลกแห่งการฝึกศาสตร์ต่างก็คิดว่าหญิงสาวที่น่าประหลาดใจแห่งบ้านหลินคนนี้ ได้ตายจากไปแล้วพวกเขาเริ่มสงสัยการมีอยู่ของอาจารย์ลึกลับของเธอและเริ่มที่จะวางแผนว่าจะรับตัวเสี่ยวจินมาเลี้ยง หรือหากว่าล้มเหลวร่างของเสี่ยวจินก็อาจจะสามารถใช้แลกเปลี่ยนอะไรได้บ้าง?
ปลายปีที่สองนี้ในราชวังสระเืใต้สุสานซุนยัดเซนในที่สุดหลินลั่วหรานก็ข้ามผ่านความเ็ปทรมานเ่าั้มาได้แล้ว และกลายเป็ระดับพื้นฐาน!