บทที่ 5 การเพิ่มประสิทธิภาพสายการผลิตและจัดการลูกค้าองค์กร
เช้าวันรุ่งขึ้น แสงอรุณสาดส่องเข้ามาในห้องพักที่เรียบง่าย ของเสิ่นเยว่ แต่นางตื่นก่อนหน้านั้นนานแล้ว ร่างกายที่ได้รับการฟื้นฟูทำให้นาง้าการพักผ่อนน้อยกว่าคนปกติ และสมองของนางก็กำลังตื่นตัวเต็มที่กับการวางแผน "กลยุทธ์การดำเนินงานสำหรับไตรมาสแรก"
สิ่งที่ทำให้นางตื่นเต้นที่สุดคือฟังก์ชันใหม่ของระบบ: "การวิเคราะห์ข้อมูล"
เมื่อนางเรียกใช้งาน ในหัวก็ปรากฏหน้าจออินเทอร์เฟซเสมือนจริงขึ้นมาทันที มันดูคล้ายกับโปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงที่นางเคยใช้ในโลกเก่า
"ระบบ ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการทำงานของโรงซักล้างย้อนหลังหนึ่งเดือน โดยอ้างอิงจากความทรงจำของร่างเดิมและข้อมูลที่รวบรวมได้เมื่อวานนี้"
[กำลังประมวลผล วิเคราะห์เสร็จสิ้น]
ข้อมูลถูกนำเสนอในรูปแบบของกราฟแท่งและแผนภูมิวงกลมที่เข้าใจง่าย
· ปริมาณงาน: เรือนฮูหยินใหญ่มีปริมาณผ้าส่งซักสูงสุด (35%) ตามมาด้วยเรือนอนุจิน (20%) และเรือนอื่นๆ
· ประเภทผ้า: 70% เป็ผ้าฝ้ายและผ้าป่านธรรมดา 25% เป็ผ้าไหม 5% เป็ผ้าชนิดพิเศษ (ผ้าปัก ผ้าทอจากต่างแคว้น)
· ปัญหาที่พบบ่อย: 1. การส่งมอบล่าช้า (45%) 2. ความสะอาดไม่ถึงมาตรฐาน (30%) 3. ผ้าเสียหายจากการซักผิดวิธี (15%) 4. ของสูญหาย (10%)
"ข้อมูลไม่เคยโกหก" เสิ่นเยว่พึมพำกับตัวเอง "ตัวเลขพวกนี้คือหลักฐานของความล้มเหลวในการบริหารจัดการที่สมบูรณ์แบบ อัตราความผิดพลาดสูงขนาดนี้ ถ้าเป็บริษัทของฉันในชาติก่อน ผู้จัดการแผนกคงถูกไล่ออกไปพร้อมกับค่าชดเชยที่ติดลบแล้ว"
ข้อมูลเหล่านี้คืออาวุธสำคัญของนาง มันเปลี่ยนจากการโต้เถียงด้วยความรู้สึกมาเป็การนำเสนอด้วยข้อเท็จจริง
เมื่อเสิ่นเยว่ไปถึงโรงซักล้างในตอนเช้า บรรยากาศก็แตกต่างไปจากเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง เหล่าบ่าวหญิงต่างกุลีกุจอทำงานของตนเองอย่างแข็งขัน ไม่มีใครกล้าอู้งานหรือจับกลุ่มคุยกันอีก สายตาที่มองมาที่นางแฝงไว้ด้วยความยำเกรงอย่างเห็นได้ชัด
มีเพียงจางเจี่ยที่ยังคงมีท่าทีเ็า แต่ก็ไม่ได้แสดงการต่อต้านอย่างเปิดเผยอีก
"หยุดมือก่อนทุกคน!" เสิ่นเยว่ปรบมือเรียกความสนใจ "วันนี้เราจะมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน"
นางเดินไปที่กลางลาน ชี้ไปยังพื้นที่ต่างๆ "ต่อไปนี้ เราจะทำงานกันแบบ สายการผลิต"
"สาย... การผลิต?" บ่าวคนหนึ่งทวนคำอย่างไม่เข้าใจ
"ใช่" เสิ่นเยว่ยิ้ม "แทนที่ทุกคนจะวิ่งวุ่นทำทุกอย่างั้แ่ต้นจนจบ เราจะแบ่งงานกันตามความถนัด เพื่อเพิ่มความเร็วและลดความผิดพลาด"
นางเริ่มอธิบายแผนการที่วางไว้ทั้งคืน
· สถานีที่ 1: คัดแยกและลงทะเบียน - บ่าวสองคนรับผิดชอบการรับผ้า ตรวจสอบตำหนิ คัดแยกตามประเภทผ้าและสี และลงบันทึกในสมุดบัญชีที่นางออกแบบใหม่
· สถานีที่ 2: จัดการคราบเบื้องต้น - บ่าวอีกสองคนที่มีความละเอียดอ่อน จะรับผิดชอบการจัดการคราบสกปรกฝังแน่นโดยใช้วิธีพิเศษที่นางจะสอนให้ เหมือนกับที่นางจัดการคราบไวน์เมื่อวาน
· สถานีที่ 3: ซักล้าง - แบ่งเป็สองส่วน "ซักหนัก" สำหรับผ้าธรรมดา และ "ซักเบา" สำหรับผ้าไหมและผ้าเนื้อบาง โดยมีบ่าวที่แข็งแรงที่สุดรับผิดชอบส่วนซักหนัก
· สถานีที่ 4: ตากและอบแห้ง - จัดการนำผ้าไปตากในบริเวณที่เหมาะสม ผ้าสีต้องตากในที่ร่มลมโกรกเพื่อป้องกันสีซีด ส่วนผ้าขาวสามารถตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคได้
· สถานีที่ 5: พับและรีด - ใช้เตารีดถ่านแบบโบราณ แต่ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมกับเนื้อผ้าแต่ละชนิด
· สถานีที่ 6: ตรวจสอบคุณภาพ (QC) และส่งมอบ - นี่คือหน้าที่ของนางและผู้ช่วยที่นางจะเลือกในอนาคต เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนส่งคืนให้แต่ละเรือน
นี่คือหลักการ "Assembly Line" ของเฮนรี่ ฟอร์ด ที่ปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมมาแล้ว!
"วิธีนี้จะทำให้พวกเ้าแต่ละคนเป็ผู้เชี่ยวชาญในหน้าที่ของตัวเอง ทำงานได้เร็วขึ้น เหนื่อยน้อยลง และที่สำคัญ ความผิดพลาดจะลดลง" เสิ่นเยว่กล่าวสรุป "ใครมีความเห็นอะไรหรือไม่?"
เหล่าบ่าวต่างมองหน้ากันไปมา แผนการนี้ดูซับซ้อนแต่ก็ฟังดูมีเหตุผลอย่างน่าประหลาด
"แล้วถ้า ถ้าทำผิดพลาดในหน้าที่ของตัวเองล่ะเ้าคะ?" บ่าวคนหนึ่งถามขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ
"คำถามดีมาก" เสิ่นเยว่พยักหน้า "นั่นคือเหตุผลที่เรามีระบบบัญชี หากเกิดความผิดพลาดขึ้นที่สถานีไหน เราจะสามารถระบุตัวผู้รับผิดชอบได้ทันที นี่คือความรับผิดชอบส่วนบุคคล ทุกคนต้องรับผิดชอบต่องานของตัวเอง"
จางเจี่ยเบ้ปาก "ยุ่งยากเสียจริง"
"ความยุ่งยากในตอนเริ่มต้น จะนำมาซึ่งความสะดวกสบายในระยะยาว" เสิ่นเยว่ตอบกลับอย่างเฉียบคม "หรือท่านพี่จางมีวิธีที่ดีกว่านี้จะเสนอหรือไม่? หากมี ข้ายินดีรับฟัง"
จางเจี่ยถึงกับพูดไม่ออก นางจะเอาปัญญาที่ไหนไปคิดแผนการที่ซับซ้อนแต่ดูมีหลักการเช่นนี้ได้
เมื่อไม่มีใครคัดค้าน "สายการผลิตแห่งจวนเวยหย่วน" ก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็ทางการ ่แรกเป็ไปอย่างทุลักทุเล แต่ด้วยการควบคุมและสั่งการที่ชัดเจนของเสิ่นเยว่ ทุกอย่างก็ค่อยๆ เข้าที่เข้าทาง ความเร็วในการทำงานเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดใน่บ่ายวันนั้นเอง
แต่การปฏิรูปยังไม่จบแค่นั้น ปัญหาต่อมาคือวัตถุดิบ
"ระบบ ช่วยวิเคราะห์ส่วนประกอบของสบู่ถั่ว ที่ใช้กันอยู่ที่นี่"
[กำลังวิเคราะห์ สบู่ถั่ว ที่ใช้อยู่ มีสารซาโปนิน (Saponin) ซึ่งเป็สารลดแรงตึงผิวตามธรรมชาติอยู่ 7% มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดระดับต่ำ และทิ้งคราบเมือกไว้บนเนื้อผ้า]
"ประสิทธิภาพต่ำตามคาด" เสิ่นเยว่คิด "ต้องอัปเกรดผลิตภัณฑ์"
นางเรียกบ่าวคนหนึ่งมาสั่งการ "ไปที่โรงครัว บอกพ่อครัวว่าข้าขอขี้เถ้าจากเตาไฟ กับรำข้าวละเอียดมาอย่างละหนึ่งถัง"
จากนั้นนางก็สั่งให้บ่าวอีกกลุ่มไปเก็บดอกกุ้ยฮวา (Osmanthus) และใบมินต์ที่ปลูกไว้ในสวนหลังจวนมาจำนวนหนึ่ง
เมื่อได้ส่วนผสมมาครบ นางก็นำขี้เถ้ามาผสมกับน้ำเล็กน้อย กรองเอาแต่น้ำด่างใสๆ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็เบส (Alkaline) ช่วยขจัดคราบไขมันได้ดีเยี่ยม จากนั้นนำน้ำด่างไปผสมกับสบู่ถั่วที่บดละเอียด รำข้าว (ช่วยในการขัดถูและบำรุงเนื้อผ้า) และดอกไม้สมุนไพรสับละเอียดเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม
ผลลัพธ์ที่ได้คือ "ผงซักฟอกสูตรพิเศษฉบับเสิ่นเยว่" ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมหลายเท่าและยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ติดทนนาน
ใน่บ่าย ขณะที่ทุกคนกำลังปรับตัวเข้ากับระบบใหม่ บ่าวหญิงาุโหน้าตาเ็าคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในโรงซักล้าง นางคือ ชิงเหมย หัวหน้าบ่าวรับใช้จากเรือน "พิรุณโปรยปราย" ของ อนุหลัน
อนุหลันผู้นี้แตกต่างจากอนุคนอื่นๆ นางมาจากตระกูลบัณฑิต มีนิสัยรักสงบ ละเอียดอ่อน พิถีพิถัน และที่สำคัญที่สุดคือนางเป็โรคภูมิแพ้ ไม่สามารถทนต่อกลิ่นฉุนหรือสารเคมีรุนแรงได้ เสื้อผ้าของนางจึงต้องได้รับการดูแลเป็พิเศษเสมอมา และเป็งานที่สร้างความปวดหัวให้โรงซักล้างยุคหลิวมามามากที่สุด
"ผู้ดูแลเสิ่นอยู่หรือไม่?" ชิงเหมยถามเสียงเรียบ
"ข้าเอง มีอะไรให้รับใช้รึเ้าคะ?" เสิ่นเยว่เดินออกมาต้อนรับ
ชิงเหมยมองสภาพโรงซักล้างที่เปลี่ยนไป ด้วยแววตาประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนจะยื่นห่อผ้าไหมในมือให้นาง "อนุหลันมีคำสั่งให้นำเสื้อคลุมไหมหิมะตัวนี้มาให้เ้าจัดการ"
เสิ่นเยว่รับห่อผ้ามาเปิดดู เป็เสื้อคลุมสีขาวบริสุทธิ์ที่ทอจากไหมชั้นเลิศ เนื้อผ้าบางเบาราวกับเมฆหมอก แต่ปัญหาก็คือ มันไม่ได้มีคราบสกปรก แต่กลับมีกลิ่นอับของยาต้มสมุนไพรติดอยู่จางๆ
"อนุของข้าไม่สบายเล็กน้อย่สองสามวันที่ผ่านมา และกลิ่นยาที่ติดเสื้อผ้าทำให้นางนอนไม่หลับ" ชิงเหมยอธิบาย "ข้าลองให้คนนำไปผึ่งลมแล้ว แต่กลิ่นก็ยังไม่หายไป พวกเ้าช่วยจัดการให้กลิ่นหายไปให้หมด โดยห้ามใช้น้ำด่างหรือเครื่องหอมแรงๆ เด็ดขาด เพราะจะทำให้อนุของข้าอาการกำเริบได้"
นี่คือโจทย์ที่ยากที่สุด! เป็การทดสอบจาก "ลูกค้าองค์กร" ระดับ VIP ที่มีข้อจำกัดมากมาย
บ่าวคนอื่นๆ ต่างหน้าซีดเผือด แค่ได้ยินชื่ออนุหลันก็หนาวแล้ว นี่เป็งานที่ไม่มีใครอยากแตะต้อง
แต่เสิ่นเยว่กลับยิ้มออกมา "เป็กรณีที่น่าสนใจดีเ้าค่ะ วางใจได้ ข้าจะจัดการให้เรียบร้อย ขอเวลารับประกันผลงานภายในเย็นนี้"
ความมั่นใจของนางทำให้ชิงเหมยเลิกคิ้ว "ดี ข้าจะรอ"
เมื่อชิงเหมยจากไป จางเจี่ยก็พูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ "เ้าบ้าไปแล้วรึไง! งานของเรือนอนุหลันน่ะ มีแต่เท่าทุนกับขาดทุน ทำให้ดีก็เสมอตัว แต่ถ้าพลาดแม้แต่นิดเดียวล่ะก็..."
"ทุกปัญหามีทางแก้เสมอ" เสิ่นเยว่ตัดบท "และนี่คือโอกาสที่จะสร้างชื่อเสียงแบรนด์ ของเราให้เป็ที่ยอมรับ"
นางเรียกบ่าวคนสนิทมา "ไปเอาถ่านไม้ที่ยังไม่ได้ใช้มาให้ข้า ทุบให้ละเอียดเป็ผง แล้วหาถุงผ้าโปร่งมาใบหนึ่ง"
จากนั้นนางก็สั่งการต่อ "เตรียมน้ำอุ่น ไม่ต้องร้อนจัด แล้วไปเก็บดอกมะลิที่ยังไม่บานมาหนึ่งกำมือ"
นี่คือความรู้ทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ล้วนๆ!
1. การดูดซับกลิ่น: ถ่านมีคุณสมบัติในการดูดซับ (Adsorption) ที่ยอดเยี่ยม มันสามารถดักจับโมเลกุลของกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. การกำจัดกลิ่นด้วยวิธีธรรมชาติ: การแช่ในน้ำอุ่นจะช่วยเปิดใยผ้า และดอกมะลิที่ยังไม่บานจะค่อยๆ คลายกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เป็ธรรมชาติออกมาอย่างช้าๆ ซึ่งไม่รุนแรงเท่าน้ำหอมหรือเครื่องหอมสังเคราะห์
นางนำเสื้อคลุมไปแช่ในน้ำอุ่นก่อน โดยใส่ถุงผ้าที่บรรจุผงถ่านลงไปด้วย ทิ้งไว้ประมาณหนึ่งชั่วยาม จากนั้นจึงนำขึ้นมาล้างในน้ำสะอาดที่ลอยด้วยดอกมะลิอย่างเบามือที่สุด สุดท้ายคือนำไปผึ่งในที่ร่มที่มีลมพัดผ่านตลอดเวลา
เย็นวันนั้น เมื่อชิงเหมยมารับของคืน นางรับเสื้อคลุมไปดมอย่างละเอียดด้วยสีหน้าจริงจัง
แววตาของนางค่อยๆ เปลี่ยนจากความสงสัยเป็ความทึ่ง!
กลิ่นยาอับๆ หายไปจนหมดสิ้น! สิ่งที่มาแทนที่คือกลิ่นหอมสะอาดสดชื่นที่เจือด้วยกลิ่นมะลิอ่อนๆ อย่างเป็ธรรมชาติที่สุด เป็กลิ่นที่บริสุทธิ์และสง่างาม
"เ้า เ้าทำได้อย่างไร?" ชิงเหมยถามออกมาอย่างอดไม่ได้
"เป็เพียงเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ของคนซักผ้าเท่านั้นเ้าค่ะ" เสิ่นเยว่ตอบอย่างถ่อมตน แต่ดวงตากลับฉายแววของผู้ชนะ
ชิงเหมยไม่พูดอะไรอีก นางเพียงแค่พยักหน้าให้นางเล็กน้อย ซึ่งสำหรับคนอย่างนางแล้ว ถือเป็การแสดงความยอมรับขั้นสูงสุด ก่อนจะเดินจากไปอย่างเงียบๆ
คืนนั้นเอง มีขันทีน้อยนำตลับไม้หอมขนาดเล็กมามอบให้เสิ่นเยว่
"อนุหลันพอใจกับงานของเ้ามาก นี่เป็รางวัลที่ท่านประทานให้"
[ติ๊ง! ท่านได้สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าระดับสูง! ได้รับความไว้วางใจจากอนุหลัน! ความคืบหน้าภารกิจ "ปฏิรูปโรงซักล้าง" +25%!]
[ท่านได้รับ 50 แต้มระบบ จากรางวัลพิเศษ!]
เสิ่นเยว่เปิดตลับออกดู ข้างในคือปิ่นเงินเรียบๆ แต่สลักลวดลายเมฆาอย่างงดงาม มันอาจไม่แพงเท่าปิ่นหยกของอนุจิน แต่มันคือสัญลักษณ์ของการยอมรับ จากผู้มีอำนาจอีกคนในจวนแห่งนี้
นางวางปิ่นลงบนโต๊ะ มองดูโรงซักล้าง ที่ตอนนี้นางสามารถเรียกว่าบริษัทของนางได้อย่างเต็มปาก
"การจัดการซัพพลายเชน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า สำเร็จลุล่วงไปอีกขั้น"
าในจวนแม่ทัพยังอีกยาวไกล แต่ CEO เสิ่นเยว่ กำลังสร้างอาณาจักรของนางขึ้นมาทีละก้าว ทีละก้าว อย่างมั่นคงและไม่มีใครหยุดยั้งได้
