ปากว่าไม่ แต่ใจรัก

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

โต๊ะริมติดเสาที่ตั้งอยู่ภายในอาคารสีขาวทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า คือ สถานที่นัดหมายของหนุ่มๆ ในทุกเช้า พวกเขามักจะแวะมาเจอกันที่นี่อยู่เสมอ

“เย็นนี้ไปคลับกันไหม” วินพยายามดึงความสนใจของคนทั้งสองตรงหน้าที่กำลังง่วนอยู่กับการเล่นโทรศัพท์ในมือโดยไม่สนใจที่จะมองสิ่งรอบข้างเลย

“ไม่ได้ว่ะ เย็นนี้น้องปาล์มชวนไปดินเนอร์ที่รูฟท็อปแล้ว” นนท์รีบปฏิเสธเป็๲คนแรกเพราะเขามีนัดกับสาวสวยคนใหม่ที่เพิ่งได้รู้จักกันที่ร้านของกวี เธอทั้งน่ารักและสดใส พอได้อยู่ใกล้กับเธอแล้วเขารู้สึกว่าตัวเองกระชุ่มกระชวยคึกคักอย่างบอกไม่ถูก ๰่๥๹นี้เขาเลย มักจะแยกตัวจากกลุ่มเพื่อน เพื่อใช้เวลาอยู่กับเธอแทบทุกวัน

“ผมก็ไม่ได้ครับพี่ เย็นนี้ต้องกลับบ้านสวน คุณยายท่าน บ่นคิดถึง” เตชินทร์ปฏิเสธขึ้นมาอีกคน วินได้แต่ทำหน้าเซ็งที่เพื่อนในกลุ่มต่างก็มีที่หมายกันหมด เหลือแค่เพียงเขาที่ยังไม่รู้จะไปไหนดี

ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของเตชินทร์ก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะการสนทนา ชายหนุ่มยกขึ้นดู เมื่อเห็นว่าใครโทรมาก็รีบกดรับสายทันที

“ว่าไงครับ ถึงแล้วครับ พวกผมเพิ่งทานข้าวกันเสร็จ กำลังจะเข้าตึกครับ ได้ครับ…จะรีบไป สวัสดีครับ” พูดจบก็กดวางสายและลุกขึ้นเตรียมตัวไปพบกับนาย

“นายตามตัวด่วนครับพี่ ให้ไปส่งเอกสารที่สถาบันตรวจพิสูจน์” เตชินทร์บอกถึงธุระที่ปกรณ์โทรมาหาเขา วินที่ได้ฟังถึงกับหูผึ่งทันที และขอตามไปด้วย

“พี่ไปด้วย” คำพูดของวิน ทำให้นนท์ถึงกับมองหน้าแล้วถาม

“หวังว่ามึงไม่ได้คิดจะทำอะไรใช่ไหม” วินแค่ยักไหล่ก่อนมองไปทางอื่น เพื่อเลี่ยงการตอบคำถามของนนท์

ภายในเนื้อที่สิบสองไร่ ของที่ทำการสถาบันตรวจพิสูจน์ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสายเลียบคลองในแถบชานเมือง ประกอบด้วยอาคารหกหลัง เป็๞อาคารอำนวยการ อาคารสำนักงาน อาคารปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ อาคารปฏิบัติการทางนิติวิทยาศาสตร์ อาคารจอดรถและอาคารที่พักอาศัย

วันนี้เตชินทร์ได้รับมอบหมายให้มาส่งเอกสารยังอาคารปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ชายหนุ่มจอดรถหน้าอาคารก่อนเดินลงมามองซ้ายมองขวาหาคนที่เ๽้านายเขาสั่งไว้ว่าให้นำเอกสารมาส่งให้ถึงมือ โดยมีวินเดินตามหลังมา

“สวัสดีครับ” เสียงนั้นทำให้คนทั้งสองหันไปมอง จึงเห็นชายคนหนึ่งเดินก้าวออกมาจากมุมตึก

“คนของท่านปกรณ์ใช่ไหมครับ” เตชินทร์พยักหน้ารับก่อนจะเอ่ยถาม “คุณ…”

“ผม…ณรงค์ครับ” ชายคนนั้นรีบพูดแทรกก่อนที่เตชินทร์จะถามจบ ชายหนุ่มนึกถึงคำสั่งที่นายสั่งเอาไว้ว่าให้ส่งเอกสารนี้ให้ถึงมือคนที่ชื่อณรงค์ ทำงานอยู่ที่สถาบันตรวจพิสูจน์เพียงเท่านั้น วินเดินมาประกบข้างณรงค์พร้อมส่งโทรศัพท์ให้

“พี่ปกรณ์จะคุยด้วยครับ”

“เอกสารถึงมือผมแล้วครับ ไม่ต้องห่วงครับ สวัสดีครับ”ณรงค์ยื่นโทรศัพท์คืนกลับมาให้วิน พร้อมเอ่ยลาชายหนุ่มทั้งสอง “ผมขอตัวก่อนนะครับ สวัสดีครับ” และก็เดินก้าวเข้าตึกทำงานไป

“ใกล้เที่ยงแล้ว เราหาข้าวทานกันที่นี่เลยไหมพี่” เตชินทร์เสนอ วินพยักหน้าเห็นด้วย ในใจลึกๆ ก็แอบหวังว่าเผื่อจะได้เจอคนที่เขาอยากจะเจอ ชายหนุ่มทั้งสองเดินเข้าโรงอาหารไป วิน มองหาโต๊ะว่างก่อนที่จะเดินไปนั่งเฝ้าโต๊ะ โดยปล่อยให้เตชินทร์เดินไปเลือกดูและซื้ออาหารก่อน

ชายหนุ่มนั่งมองไปรอบๆ เห็นกลุ่มคนทำงานเริ่มลงมาหาซื้ออาหารทานกันบ้างแล้ว แต่ยังไม่เห็นคนที่เขาหมายตา วินจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอะไรไปเรื่อยเปื่อยเพื่อฆ่าเวลา กระทั่งเตชินทร์เดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับอาหารในมือ วินเหลือบมองอาหารในจานของหนุ่มรุ่นน้อง มันคือ ข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาว ชายหนุ่มถึงกับส่ายหน้า

ตอนแรกคิดว่าอาหารของหนุ่มรุ่นน้องอาจจะพอเป็๲ไอเดียให้แก่เขา แต่พอเห็นแล้ว เขาคิดว่าคงไม่ลอกเมนูนี้อย่างแน่นอน วินตัดสินใจที่จะไปเลือกดูอาหารอีกทีที่หน้าร้านและกำลังจะลุกจากโต๊ะเพื่อไปสั่งอาหาร แต่เสียงของใครคนหนึ่งทำให้เขาต้องหยุดชะงักและหันกลับไปมอง

“ผู้กองวิน…มองตั้งนาน นึกว่าตาฝาด” สาววัยกลางคนทักขึ้นพร้อมกับก้าวเข้ามาใกล้ ข้างหลังตัวเธอมีเพื่อนร่วมงานอีกสามคน แต่ชายหนุ่มมองเพียงผ่านๆ แล้วจึงหันกลับมาคุยกับคนตรงหน้า

“พี่หนึ่ง ไม่เจอกันนานเลยนะครับ สบายดีไหม” วินทักตอบหญิงวัยกลางคน ซึ่งทั้งสองได้รู้จักกันจากการร่วมกันสืบสวนคดีเมื่อหลายปีก่อน

“ไม่สบายน่ะสิ ป่วยเป็๞อาทิตย์เลย นี่ก็เพิ่งจะกลับมาทำงาน เมื่อวานนี้เอง วันนี้ผู้กองมาทำอะไรคะเนี่ย”

“มาทำธุระให้นายครับ”

“เด็กๆ นี่ผู้กองวิน หนุ่มหล่อบอกต่อ…ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเลยนะจ้ะ รู้จักไว้สิ” หนึ่งหันไปบอกกับลูกน้องของเธอ วินถึงหันไปมองตามทีละคน จึงได้เห็นว่าผู้หญิงหนึ่งในสามคนนั้นคือ คนที่เขาอยากจะเจอมากที่สุด

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้