หญิงปักผ้ายี่สิบกว่าคนถูกแยกออกไปอยู่ในเรือนที่ตั้งเป็เอกเทศ ห้าคนต่อหนึ่งห้อง รวมทั้งสิ้นหกห้อง
ขณะที่ถังชิงหรูไปถึงห้องของพวกนาง ก็เห็นสาวปักผ้าแต่ละคนนอนเรียงรายกันอยู่ ถังชิงหรูย่นหัวคิ้ว ก่อนลงมือตรวจชีพจรให้พวกนางทีละคน
"เป็อย่างไรบ้าง" พ่อบ้านเอ่ยถามจากด้านข้าง
"เ้าไม่รู้หรือ ก็ถูกพิษไง" ถังชิงหรูกล่าวเสียงเยาะ "คนวางยาร้ายกาจนัก แม้แต่พิษร้ายกาจขนาดนี้ยังหามาได้ ข้าจะถอนพิษให้พวกนาง แต่แม้ว่าจะถอนพิษออกแล้ว หญิงปักผ้าเหล่านี้ก็ไม่อาจปักผ้าได้อีก อย่าว่าแต่ให้ปักผ้า แค่เข็มสักเล่มเกรงว่ายังหยิบไม่ขึ้นเลย"
"พิษนี้ใช้จัดการกับสาวปักผ้าของที่นี่โดยเฉพาะ ชะรอยคนผู้นั้นคงริษยาการค้าของแม่นาง หาไม่แล้วก็มิอาจเข้าใจการกระทำของเขาได้"
"ก็ไม่แน่หรอก" ถังชิงหรูมองพ่อบ้านปราดหนึ่ง "อาจเป็ศัตรูของเ้านายพวกเ้าก็ได้ เพราะแตะต้องเขาไม่ได้ ก็เลยมาลงกับสาวปักผ้าเหล่านี้แทน"
"เอ้อ..." พ่อบ้านไร้วาจาเอื้อนเอ่ย เ้านายของตนเองก็มีศัตรูมากมายจริงดังว่า นี่ก็มีความเป็ไปได้ แม้นายท่านปิดบังชื่อแซ่ คงไม่มีใครตามพบ แต่สรรพสิ่งล้วนมีข้อยกเว้น ไม่แน่ว่าคนผู้นั้นอาจตามพบที่มั่นของนายท่านแล้ว หลังจากนั้นก็แสร้งทำเป็คู่แข่งทางการค้าลอบโจมตี
"ข้าจะเขียนเทียบยา เ้าไปจัดหาสมุนไพร จะไปเอาที่ร้านขายยาของข้าก็ได้ แต่ต้องจ่ายเงินด้วย"
พ่อบ้านบ่นพึมพำ "แม่นางต่างกับนายท่านของพวกเราตรงไหนกันเนี่ย..."
ถังชิงหรูทำเป็ไม่ได้ยินคำกล่าวของพ่อบ้าน เพราะในบางแง่ นางกับเฟิ่งหยางก็คล้ายคลึงกันจริงๆ
หลังแก้ปัญหาของหญิงปักผ้าได้แล้ว ถังชิงหรูก็ไปห้องตัดเย็บ นางมองอาภรณ์ชั้นในที่เกลื่อนกลาดเต็มพื้น แววตาเผยความรู้สึกปวดใจ
ดูท่าพรุ่งนี้คงต้องปิดร้านเสียแล้ว
ก่อนหน้าที่ความจริงจะกระจ่าง หยุดกิจการไปก่อนจะดีกว่า ไม่ว่าเพื่อหญิงปักผ้าเหล่านี้ หรือเพื่อวางแผนระยะยาว อย่างน้อยก็ต้องรู้แจ้งความจริงก่อน
ใครเป็คนทำกันแน่?
พิษนี้... กลิ่นประหลาดชอบกล
ถังชิงหรูหยิบอาภรณ์ชั้นในที่วางอยู่มาดมกลิ่น
ดอกไม้ชนิดนี้ไม่มีในเมืองชิ่ง น่าจะเป็พรรณไม้ที่อื่น บางทีควรจะเริ่มตรวจสอบจากดอกไม้ชนิดนี้ก่อน
แอ๊ด... มีคนผลักประตูเข้ามา
คนผู้นั้นมองถังชิงหรูดมอาภรณ์ชั้นในราวกับสุนัข ครานี้กลับไม่นึกเหยียดหยันนาง แต่เอ่ยถามอย่างใจเย็นอย่างยิ่ง "ตรวจสอบได้อะไรบ้าง"
"พิษนี้มีองค์ประกอบสำคัญเป็บุปผาพิษชนิดหนึ่ง ข้าแน่ใจว่าพิษชนิดนี้เติบโตไม่ได้ในเมืองชิ่ง" ถังชิงหรูคุยกับบุรุษที่หน้าประตูอย่างไม่นำพา "ท่านหาใช่คนเมืองชิ่ง คงรู้จักดอกไม้พิษชนิดนี้กระมัง มันมีชื่อว่าหยกทองม่วง กลีบดอกเป็สีม่วง เกสรเป็สีทอง เปล่งประกายประดุจหยก สวยสดงดงามยิ่ง หากคนไม่รู้จักอาจหลงใหลไปกับความเย้ายวนของมันได้โดยง่าย"
"ไม่ต้องตรวจสอบแล้ว ข้ารู้ว่าเป็ฝีมือใคร" เฟิ่งหยางกำหมัดแน่น กล่าวเสียงเย็น "คนผู้นั้น... ช่างเห็นความสำคัญของข้ายิ่ง"
"ดูท่าคงเป็การกระทำของศัตรูท่านจริงๆ" ถังชิงหรูยักไหล่ "เมื่อท่านรู้ตัวคนร้ายแล้ว ข้าก็ไม่ขอยุ่งเกี่ยวล่ะนะ"
"เ้าปรุงยาถอนพิษได้หรือไม่" เฟิ่งหยางมองถังชิงหรู "ไม่ใช่ยาถอนพิษที่สามารถแก้พิษซับซ้อนชนิดนั้น แต่เป็ยาลูกกลอนที่สามารถถอนพิษได้นับร้อยชนิด"
"ตอนนี้ข้าไม่มีวัตถุดิบ อีกอย่างท่านไม่ให้ข้าเป็หมอเองนี่" ถังชิงหรูลอยตามองเฟิ่งหยาง
"ข้าอนุญาตให้เ้าเป็หมอให้ข้าได้คนเดียว" เฟิ่งหยางกล่าวเสียงเย็น "หากไม่เห็นด้วย มือสองข้างของเ้าคงไม่จำเป็ต้องมีแล้ว"
ถังชิงหรูนึกถึงคราเมิ่งหลิง ตอนนั้นเขาแค่เอ่ยคำเดียว ลิ้นของชายร่างใหญ่ผู้นั้นก็หายไปเลย
"คุณชายลูกผู้ดีมีเงินอย่างพวกท่าน ไม่ชอบก็ใช้กำลังกดขี่ข่มขู่ผู้อื่น ชีวิตของพวกท่านคือชีวิต แล้วชีวิตของผู้อื่นมิใช่ชีวิตหรือไร" ถังชิงหรูไม่พอใจ แต่กลับไม่กล้าเป็ปรปักษ์กับเฟิ่งหยางโดยตรง ยามนี้หากเขาบอกว่าท้องฟ้าเป็สีแดง นางคงพยักหน้าโดยไม่ลังเล
"หากเ้าช่วยท่านปรุงสำเร็จ ท่านจะอนุญาตให้เด็กน้อยคนนั้นเข้ามาอยู่ด้วย" เฟิ่งหยางมองนาง รอยยิ้มกำจายกลิ่นชั่วร้าย "เพื่อรางวัลชิ้นนี้เ้าคงต้องขยันขันแข็งหน่อย"
ถังชิงหรูรีบผงกศีรษะ "แน่นอนอยู่แล้ว คุณชายมีจิตใจดุจพระโพธิสัตว์ ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านหาใช่คนประเภทที่เห็นคนตายแล้วไม่ช่วย คุณชายไม่ต้องเป็ห่วง ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง อย่างช้าสิบวัน ข้าจะช่วยปรุงยาถอนพิษที่ดีที่สุดให้แก่ท่านเอง ยาถอนพิษนั่นไม่เพียงแต่ถอนพิษตอนนี้ได้ ยังสามารถแก้พิษได้อีกมากมาย เกรงว่าแม้แต่สารหนู ท่านก็ยังสามารถจัดการกับมันได้"
เฟิ่งหยางส่ายหน้าน้อยๆ เอ่ยขึ้นในใจ เพื่อเด็กน้อยคนเดียวนางถึงกับเป่าหนังวัวจนลอยไปถึง์[1] ยังไม่มีใครแก้พิษจากสารหนูได้ แน่นอนว่าการลอบสังหารย่อมไม่ใช้สารหนูเพราะกลิ่นของมันแรงเกินไป ง่ายต่อการสังเกต
"แล้วการค้า่สองสามวันจากนี้จะทำอย่างไร ใครจะเป็คนทำ" เฟิ่งหยางเอ่ยถามลอยๆ
"ร้านเราขายดีขนาดนั้น ย่อมต้องปิดร้านจนกว่าสินค้าจะเข้า แค่แขวนป้ายหน้าประตู ลูกค้าเ่าั้ย่อมมองเห็น" ถังชิงหรูกล่าวเสียงเรียบ "ตอนนี้ข้าต้องเตรียมวัตถุดิบสำหรับปรุงยาถอนพิษ หากคุณชายไม่มีเื่อื่นใด ข้าก็ขอตัวก่อน"
เฟิ่งหยางมองถังชิงหรูเดินจากไปราวกับพายุ นี่เป็ครั้งแรกที่เขาเห็นนางใจร้อนเป็ไฟขนาดนี้
ปรกติเด็กสาวคนนี้ชอบต่อปากต่อคำกับเขา หากเปลี่ยนเป็สาวใช้จริงๆ คงตายด้วยน้ำมือตนเองนับครั้งไม่ถ้วน เขาไม่ใช่เ้านายประเภทที่ชอบให้ท้ายข้ารับใช้ แต่ยามเผชิญหน้ากับเด็กสาวคนนี้ เขากลับใจเหี้ยมไม่ลง ยิ่งไปกว่านั้นทุกครั้งที่เห็นนาง ก็อดใจหยอกเย้านางจนะโออกมาเต้นผางไม่ได้ทุกที ซ้ำร้ายยังรู้สึกว่านางน่ารักมาก
ฮึ! ต้องเป็เพราะ่นี้มีแต่เื่น่าเบื่อ มิเช่นนั้นจะเกิดความคิดเลอะเลือนเช่นนี้ได้อย่างไร สตรีผู้นั้นทั้งหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ ไร้ความสง่างาม เป็แค่สาวบ้านนอกหยาบคายไร้มารยาทคนหนึ่ง
ห้าวันต่อมา เฟิ่งหยางออกมาจากห้อง มีเสียงดังปึงปังมาจากห้องที่อยู่ติดกัน เขามองขึ้นไปบนฟ้า ตอนนี้ฟ้ายังไม่ทันสว่าง เด็กสาวผู้นั้นเคาะเสียงดังแบบนี้มากี่วันกี่คืนแล้ว นางคิดจะเร่งปรุงยาถอนพิษโดยไม่หลับไม่นอนเลยหรือไร
เพื่อเด็กที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าคนหนึ่ง ทำไมต้องทำถึงขั้นนี้ ความเป็ความตายของนางเองอยู่ในกำมือของเขาแท้ๆ นางยังคิดแต่จะเป็ผู้กอบกู้โลก
"เพื่อนายท่านแล้ว แม่นางถังต้องลำบากไม่น้อยเลยจริงๆ" พ่อบ้านมายืนอยู่ด้านหลังของเฟิ่งหยางั้แ่เมื่อไรมิอาจรู้ได้
เฟิ่งหยางได้ยินคำกล่าวของพ่อบ้าน สีหน้าก็ดำทะมึนเอ่ยว่า "เ้ากำลังขอร้องแทนนาง? ลืมไปแล้วรึ ว่านางเป็คนของผู้ใด นางคือสตรีของเฉินิ"
"เฉินิก็ส่วนเฉินิ นายท่านก็ส่วนนายท่าน อีกอย่างเขากับนายทานก็ไม่มีผลได้ผลเสียที่เกี่ยวข้องกันโดยตรง ไม่แน่ว่าพวกท่านอาจเป็พันธมิตรร่วมมือกันได้" พ่อบ้านกล่าวด้วยรอยยิ้ม "่นี้นายท่านเองก็ยุ่งมากพอสมควร แม่นางถังเป็แค่สาวน้อยคนหนึ่ง ไยท่านต้องสร้างความลำบากให้นางด้วยเล่า แค่นางไม่เป็ศัตรูกับท่านก็ประเสริฐแล้ว"
"นางจะเป็ศัตรูกับคุณชายเยี่ยงข้าได้อย่างไร" เฟิ่งหยางเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ "เพื่อเด็กน้อยคนหนึ่งก็กล้าขึ้นเสียงกับข้า ต่อไปเฉินิกลับมา ไม่รู้จะก่อเื่อะไรให้ข้าอีกบ้าง ตอนนี้ข้าจะหักเขี้ยวเล็บของนางก่อน เช่นนี้ก็หนีไม่พ้นมือข้าแล้ว"
บึ้ม! มีเสียงะเิดังมาจากห้องนั้น
เห็นควันดำลอยโขมงจากหลังคา
เฟิ่งหยางหน้าง้ำ "นางคิดจะเผาห้องข้าหรือไร"
"อาจจะ... กำลังหลอมโอสถอยู่ ดังนั้นจึงมือหนักไปบ้าง" พ่อบ้านปลอบประโลมอย่างระมัดระวัง "นายท่านอย่าเพิ่งบันดาลโทสะ ออกไปเดินผ่อนคลายอารมณ์สักหน่อยดีหรือไม่ รอให้แม่นางปรุงยาเสร็จ ข้าน้อยจะส่งคนไปแจ้งนายท่านเองขอรับ ถึงอย่างไรก็ต้องรออีกสองสามวัน ไม่ต้องรีบร้อน"
"ร้านหัวใจสตรีหยุดมาห้าวันแล้ว ภายนอกไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยรึ"
"เรียนนายท่าน ร้านของเราครองใจสตรีชั้นสูงเ่าั้ได้ ่นี้ไม่ได้เปิดร้าน มีคนจำนวนมากมาสอบถามว่าร้านหัวใจสตรีปิดกิจการไปหรือไม่ จนกระทั่งพวกเราออกไปให้คำอธิบาย ฮูหยินเ่าั้ก็ไม่มาก่อความวุ่นวายอีก แต่ข้าน้อยให้สัญญากับฮูหยินเ่าั้โดยพลการว่าจะขายสินค้าออกใหม่ให้กับลูกค้าเก่าเ่าั้ก่อน"
"อื้ม" เฟิ่งหยางไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับร้านค้ามากนัก เมื่อครู่ก็ถามไปอย่างนั้นเอง
แค่กๆ ๆ ถังชิงหรูวิ่งออกมาจากในห้อง
ยามนี้นางเลอะเทอะไปทั้งตัว ใบหน้าก็เปื้อนเขม่าจนดำปี๋ ผมเผ้าราวกับใบไม้แห้ง ตอนนี้เปลี่ยนไปจนแทบมองไม่ได้
เดิมทีเฟิ่งหยางยังอารมณ์ไม่ดี แต่พอเห็นสภาพอันแสนอนาถของนางยามนี้ ใบหน้าหล่อเหลาก็ผ่อนคลาย เปล่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
"ฮ่าๆ " เฟิ่งหยางชี้ไปที่ถังชิงหรู หัวเราะเสียงดังลั่นพลางกล่าวว่า "ผู้หญิงอย่างเ้า... ช่างอัปลักษณ์ยิ่ง"
ถังชิงหรูถลึงตาใส่เขาอย่างหงุดหงิด กางฝ่ามือกระโจนเข้าหาเฟิ่งหยาง ป้ายฝ่ามือสีดำเมี่ยมไปบนใบหน้าของเขา จนทิ้งคราบดำปื้นไว้บนดวงหน้าหล่อเหลาปานประหนึ่งเทพเซียน
เฟิ่งหยางตัวแข็งเป็หิน
ฝ่ามือดำปี๋ยังโบกไปมาอยู่ตรงหน้า เขาเห็นถึงความสกปรกของมันอย่างชัดเจน ชั่วยามนั้น สีหน้าของเขาเผยความหวาดกลัวอย่างสุดชีวิตประหนึ่งเห็นผี
ถังชิงหรูมองตาใสอย่างไร้พิษสง ยิ้มอ่อนกล่าวว่า "คุณชาย ขออภัยจริงๆ เ้าค่ะ ข้าไม่ทันระวัง หลายวันมานี้ไม่เห็นคุณชาย รู้สึกตื่นเต้นดีใจ เลยมือหนักไปหน่อย คุณชายไม่เป็ไรใช่หรือไม่ สีหน้าท่านไฉนจึงย่ำแย่นักเล่า หรือว่า่นี้เหน็ดเหนื่อยเกินไป แม่นางในย่านโคมแดงเ่าั้แต่ละคนล้วน้าปรนนิบัติคุณชายกันทั้งนั้น ท่านไปผ่อนคลายสักหน่อยดีกว่า อย่าให้ตนเองต้องอัดอั้นเกินไปเลย"
เฟิ่งหยางไม่ได้ยินถ้อยคำของถังชิงหรู แม้ว่าเขาจะรู้ว่านางต้องไม่พูดอะไรที่ดีแน่ แต่เขาก็ไม่ได้ยิน บัดนี้มีแต่เสียงวิ้งลั่นกระหึ่มอยู่ในสมอง สีหน้าราวกับเห็นภูตผีอย่างไรอย่างนั้น
พ่อบ้านมองเฟิ่งหยางอย่างตื่นตระหนก รีบเข้ามาประคอง พลางเอ่ยถาม "นายท่าน เป็อันใดหรือไม่"
ถังชิงหรูเพิ่งสังเกตเห็นความผิดปรกติ เฟิ่งหยางอึ้งนานเกินไปแล้ว แม้ว่าจะโกรธจนเลอะเลือน ก็ไม่น่าจะถึงกับเงียบไปนานขนาดนี้
"เป็อย่างไร" ถังชิงหรูมองพ่อบ้านจากด้านข้าง
พ่อบ้านขึงตาใส่นางด้วยความโมโห "ยังมีหน้ามาถามข้าอีกหรือว่าเป็อันใด เ้าทำแบบนี้กับนายท่าน เ้าว่าจะเป็อย่างไรเล่า"
"ข้าไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย" ถังชิงหรูโบกไม้โบกมือ "ก็แค่ป้ายหน้าเขาจนเป็คราบสกปรกเท่านั้นเอง ต้องโมโหขนาดนี้เชียวหรือ"
"นายของข้าเป็โรครักความสะอาด" พ่อบ้านฝากถ้อยคำทิ้งท้ายไว้ ก่อนพาเฟิ่งหยางเข้าไปในห้องนอน "นายท่านไม่ต้องเป็ห่วง ข้าน้อยจะช่วยล้างให้ท่านสะอาดเดี๋ยวนี้เลยขอรับ"
ถังชิงหรูมองเฟิ่งหยางที่เดินสะเปะสะปะเข้าห้อง ก่อนพึมพำออกมา "ดูท่าอาการของโรคนี้จะรุนแรงมาก"
--------------------------------------------------------------------------------
[1] คำว่าเป่าวัว (吹牛) หรือเป่าหนังวัว (吹牛皮) เป็สแลงหมายถึงคุยโวโอ้อวดเกินจริง