“ที่เขาทำก็เพื่อตัวเ้านะ” หรวนเสี่ยวเหอเอ่ย “ที่จริงนายท่านใส่ใจเ้ามากนะ ที่เยวี่ยชุนโหลวค่อนข้างยุ่ง แต่นายท่านหร่านซวี่จือก็สรรหาเวลาว่างมาดูเ้า นี่บ่งบอกได้ชัดว่าเขานึกถึงเ้าตลอดนะ”
จินเฟิงหัวเราะเยือกเย็นในใจ เฮอะ? เกรงว่าจะมาดูเื่ตลกสิไม่ว่า
“เสี่ยวเหอ เ้าไร้เดียงสาเกินไป” จินเฟิงเอ่ยเสียงเยือกเย็น “ในโลกนี้ใช่ว่าคนทุกคนจะล้วนมีเมตตาจิตใจบริสุทธิ์ นึกถึงแต่คนอื่นเหมือนเ้าเสียเมื่อไหร่”
“เอ่อ…” เมื่อฟังจินเฟิงพูดจบ ใบหน้าของหรวนเสี่ยวเหอก็แดงขึ้นอีก จากนั้นก็เอ่ยเสียงค่อย “ที่จริงแล้ว ข้ารู้สึกว่านายท่านหร่านซวี่จือเปลี่ยนไปมาก”
“นายท่านหร่านซวี่จือเมื่อก่อน…นิสัยไม่ค่อยดีนักแต่ก็ดีกับพวกเข้า” หรวนเสี่ยวเหอหยิบกระเป๋าเงินที่เหน็บตรงเอวออกมา “เ้าดูสิ นี่คือของที่นายท่านหร่านซวี่จือมอบให้ข้า”
“ของเหล่านี้ เขามีตั้งมากมายนับไม่ถ้วน” จินเฟิงเอ่ย
ณ ขณะนั้น ก็มีเสียงเคาะระฆังบอกเวลาดังขึ้นจากด้านนอก
“ถึงเวลาแล้ว ข้าต้องกลับไปพักผ่อน หากถูกหัวหน้าหวังพบเข้าคงแย่” หรวนเสี่ยวเหอรีบเก็บข้าวของ “เสี่ยวเฟิง ข้าจะยืนอยู่ข้างเ้าตลอดไป เ้าดูแลร่างกายให้ดีนะ”
จินเฟิงพยักหน้า
หลังจากที่หรวนเสี่ยวเหอจากไป จินเฟิงก็นอนลงบนเตียง หัวใจที่เยือกเย็นมาทั้งวัน ในที่สุดก็รู้สึกถึงความอบอุ่นขึ้นมาบ้าง
หรวนเสี่ยวเหอไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ชาติที่แล้วเขาจริงใจกับตนเองมาโดยตลอด แต่กลับตนเองเ็าเมินเฉยใส่ ชาตินี้ข้าไม่อาจทำผิดต่อเขาอีก
ส่วนเ้าหร่านซวี่จือคนระยำนั่น เฮอะ ต้องคิดหาหนทางทรมานเขา เพราะเขาชั่วร้ายเกินไป
ขณะที่จินเฟิงกำลังสะลึมสะลือเข้าสู่ห้วงนิทรา จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตูห้องของตนเอง
ฉับพลันนั้น ก็มีมืออุ่นข้างหนึ่งก็นาบอยู่บนหน้าผากของเขา
อาการง่วงของจินเฟิงก็หายไปอย่างสิ้นเชิงแต่กลับมีท่าทีที่ตึงเครียดขึ้นมาทันใด
หร่านซวี่จือตรวจสอบอุณหภูมิร่างกายของจินเฟิงบนหน้าผากนั้นมันเย็นเฉียบ
จินเฟิงจัดอยู่ในกลุ่มคนที่กระดูกเย็นซึ่งหาได้ยาก ร่างกายแบบนี้เป็ยอดจอมยุทธ์ที่ร้อยปีจะพานพบได้หนึ่งคน แต่อุณหภมิร่างกายที่ต่ำมากอยู่ตลอดเวลาเช่นนี้ หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นตลอดเวลา ก็จะสร้างความเสียหายต่อร่างกายได้อย่างใหญ่หลวง
หร่านซวี่จือเห็นจินเฟิงปิดตาไว้แน่นและไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมา เขาจึงเปิดผ้าห่มออกอย่างอ่อนโยนและเบามือ
เสื้อด้านหลังถูกถลกขึ้น อากาศเย็นเฉียบกระทบกับิั่แผ่นหลัง จินเฟิงเกือบจะทนไม่ไหวแล้วสะบัดคนคนนี้ทิ้งสักที
ดึกขนาดนี้แล้ว คนผู้นี้มาที่ห้องของตนเอง เขามีวัตถุประสงค์อย่างไรกันแน่?
จินเฟิงคิดในใจอย่างเยือกเย็นพร้อมกับกำหมัดแน่น เด็กหนุ่มเตรียมพร้อมโจมตีหร่านซวี่จือได้ทุกเมื่อ
ไม่นานนัก มืออบอุ่นข้างหนึ่งก็แนบกับหลังของเขา
จินเฟิงกำลังจำลุกขึ้น ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงพลังงานอบอุ่นที่ส่งผ่านจากฝ่ามืออย่างไม่ขาดสาย
จินเฟิงใ
หร่านซวี่จือกำลังถ่ายกำลังภายในเข้าสู่ชีพจรให้ตนเองอย่างนั้นหรือ?
เป็ไปได้อย่างไรกัน?
คงแค่เสแสร้งแกล้งทำสินะ?
ฝ่ามือของหร่านซวี่จือกดบนหลังของจินเฟิงแล้วทอดถอนใจเงียบๆ
คิดไม่ถึงว่าภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงครึ่งปี ร่างกายของจินเฟิงกลับมีพัฒนาการได้รวดเร็วเช่นนี้ ตอนที่เพิ่งเจอกันยังเป็แค่หนังหุ้มกระดูก ตอนนี้กลับมีกล้ามเนื้อตรงหลังให้เห็นบ้างแล้ว
จินเฟิงนั้นจัดว่าอยู่ใน่เด็กหนุ่มที่อายุเพียงสิบเอ็ดสิบสองปีซึ่งเป็่ที่ร่างกายกำลังเติบโตได้ที่ดีที่สุด หากว่าได้รับสารอาหารไม่เพียงพอใน่หลังจากนั้น ต่อไปก็คงยากที่จะบำรุงได้แล้ว
ขณะที่หร่านซวี่จือถ่ายกำลังภายใจเข้าสู่ชีพจรให้จินเฟิง อีกด้านก็กำลังคิดอย่างใจลอยว่าควรจะหาอะไรบางอย่างมาบำรุงให้เ้าน้องชายซื่อบื้อคนนี้ดี
ตอนนี้จินเฟิงกับหรวนเสี่ยวเหอสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ อันที่จริงหร่านซวี่จือนั้นรู้ แต่ก็ไม่ได้ห้ามปราม จิตที่เป็ศัตรูของจินเฟิงที่มีต่อเขานั้นแกร่งกล้าเกินไป เขาไม่อาจตั้งแง่กับจินเฟิงไปเสียทุกเื่ได้
ราวครึ่งชั่วโมงผ่านไป หร่านซวี่จือเก็บมือลง มีเม็ดเหงื่อซึมออกมาตรงขอบหน้าผาก
ชีพจรของจินเฟิงนั้นได้รับการถ่ายพลังจากหร่านซวี่จือแล้ว ต่อจากนี้สามารถเรียนวิชากำลังภายในจิตใจที่ล้ำลึกขึ้นไปได้อีกระดับ ชาติที่แล้วจินเฟิงไม่ได้รับการปฏิบัติตัวเช่นนี้ ชาตินี้ ความสามารถของจินเฟิงจะแข็งแกร่งกว่าเดิมอย่างแน่นอน
หร่านซวี่จือดึงผ้าห่มของจินเฟิงขึ้นมาห่มให้เขาทั้งตัว จากนั้นก็เดินออกจากห้องอย่างระมัดระวังแล้วปิดประตู
หวังเซวียนยืนถือตะเกียงไฟอยู่ด้านนอก มองเห็นสีหน้าของหร่านซวี่จือนั้นซีดขาว เอ่ยด้วยความเป็ห่วง “นายท่าน ท่านเป็อะไรไหมขอรับ? ให้ข้าน้อยเรียกคนต้มข้าวต้ม ทำร่างกายให้อบอุ่นหน่อยนะขอรับ? ”
“ไม่เป็อะไรหรอก” หร่านซวี่จือส่ายศีรษะ
ร่างกายของจินเฟิงมีธาตุเย็นที่แข็งแกร่งเกินไป จึงส่งผ่านฝ่ามือเข้าสู่ร่างของหร่านซวี่จือด้วย ดังนั้นยากที่จะหลีกเลี่ยงอาการหนาวเหน็บทั่วร่าง การนอนหลับพักผ่อนสักคืนคงจะช่วยให้ดีขึ้น
หวังเซวียนยังคงเป็ห่วง แม้ว่าหร่านซวี่จือจะแสดงท่าทีว่าไม่ต้องทำให้ยุ่งยาก แต่ก็ยังไปสั่งคนที่โรงครัว
หร่านซวี่จือเดินมุ่งหน้าสู่ห้องของตนเองเพียงคนเดียว
พอหร่านซวี่จือย่างเท้าจากไป จินเฟิงที่อยู่ในห้องก็แอบเปิดประตูออกมาเงียบๆ
จินเฟิงยื่นศีรษะออกมา ในสมองค่อนข้างสับสนและมีเครื่องหมายคำถามมากมายที่เกิดขึ้นในใจ
ทำไมหร่านซวี่จือถึงช่วยเหลือเขาแบบนี้? ทำไม?
คิดไม่ตก ร่างกายของจินเฟิงนั้นเดินตามหร่านซวี่จือไปอย่างไม่อาจควบคุมได้
หร่านซวี่จือเดินอยู่ด้านหน้า เนื่องจากร่างกายอ่อนแอเล็กน้อยจึงไม่ทันสังเกตจินเฟิงที่อยู่ด้านหลัง
คาดไม่ถึงว่าธาตุเย็นในร่างกายของจินเฟิงจะร้ายกาจเพียงนี้ เบื้องหน้าของหร่านซวี่จือเริ่มพร่ามัว ขณะที่ก้าวเดินก็เริ่มไม่มั่นคง เมื่อเดินไปถึงตรงทางขึ้นบันได เท้าเกิดเซ เขารีบยกแขนขึ้นเกาะผนังเพื่อทรงตัว
หร่านซวี่จือหายใจหอบ ริมฝีปากเปลี่ยนเป็ขาวซีด ตรงตำแหน่งฝ่ามือของเขา ลมปราณแห่งความหนาวเหน็บแผ่กระจายอย่างไม่หยุดหย่อน กระทั่งหน้าอกก็เย็นจนรู้สึกเ็ปเล็กน้อย
หร่านซวี่จือกำลังจะอ้าปากเรียกคน แต่คิดไม่ถึงว่าเบื้องหน้ากลับดำมืดและร่างเขาก็โน้มตัวทิ้งลงไปด้านหน้า
จินเฟิงที่อยู่ด้านหลังสะดุ้งใ กำลังจะเข้าไป แต่คิดไม่ถึงเงาดำพาดผ่านเบื้องหน้า คนผู้หนึ่งเคลื่อนตัวผ่านไปอย่างรวดเร็ว และรับตัวหร่านซวี่จือเอาไว้ได้
ใบหน้ามีหน้ากากปกปิดไว้ แต่จินเฟิงจำรูปร่างของคนผู้นั้นได้ เขาก็คือองครักษ์เงาข้างกายของหร่านซวี่จือ——อิ่ง
อิ่งใช้นิ้วสกัดจุดชีพจรตรงลำคอของหร่านซวี่จืออย่างรวดเร็ว เพื่อห้ามการแพร่กระจายของธาตุเย็น จากนั้นก็วางฝ่ามือแนบกับหน้าอกของหร่านซวี่จือทันที และถ่ายกำลังภายในเข้าสู่ร่าง
ผ่านไปราวห้านาที สีหน้าของหร่านซวี่จือก็ดีขึ้นในที่สุด
อิ่งใช้แขนสองข้างอุ้มหร่านซวี่จือขึ้น เงยหน้ามองตำแหน่งหน้าต่างของห้อง้า จากนั้นเขาก็เหาะขึ้นไปและพาหร่านซวี่จือเข้าสู่ห้องนอนผ่านหน้าต่าง
เงาคนด้านในเคลื่อนไหวไปมา จินเฟิงชะเง้อจนคอแทบเคล็ดแต่ก็มองไม่เห็น
สถานการณ์เมื่อครู่คืออะไรกัน? ทำไมองครักษ์เงาถึงเข้าออกห้องของผู้เป็นายได้ตามใจ?
หากเขาจำไม่ผิด หร่านซวี่จือนั้นมีรสนิยมความชอบเพศเดียวกันา ดูจากรูปร่างของอิ่ง ท่าทางน่าจะใช้ได้ทีเดียว หรือระหว่างสองคนนี้มีอะไรที่ไม่สามารถบอกผู้อื่นได้อย่างนั้นหรือ?
ชาติที่แล้วจินเฟิงไม่เคยใส่ใจเื่ราวเหล่านี้ของหร่านซวี่จือ รู้เพียงว่าหร่านซวี่จือนั้นมักเว้นระยะห่างจากผู้อื่นนับพันลี้ ไม่เคยมีผู้ใดกล้าเข้าห้องของเขา ตราบใดที่เขายังไม่อนุญาต
แต่การกระทำเมื่อสักครู่ของอิ่งนั้น แสดงออกถึงความคุ้นเคยกับหร่านซวี่จืออย่างชัดเจน
ค่ำคืนนี้เกิดเื่ราวขึ้นมากมาย ความคิดของจินเฟิงเริ่มสับสน นอนกลิ้งอยู่บนเตียงแต่ไม่อาจหลับได้ลง
รุ่งสาง ขณะที่หร่านซวี่จือตื่นขึ้นมา แสงแดดจากหน้าต่างแสบตาอย่างมาก
หร่านซวี่จือเปิดประตูออก ได้ยินเสียงะโโวยวายจากด้านล่าง
เสียงค่อนข้างดังและวุ่นวายซับซ้อน หร่านซวี่จือยื่นศีรษะออกไปดู พบว่าเป็คุณชายลูกเศรษฐีที่เคยทำให้หลิงอวิ้นลำบากใจคนนั้น เพียงแต่ว่า หนนี้เขาไม่ได้มาเพียงผู้เดียว แต่คุณชายคนนั้นกลับพาคนมาอีกด้วยมากมาย ดูก็รู้ว่ามาก่อเื่