หลินมู่ที่มีสีหน้ากราดเกรี้ยวมองจ้องผู้ดูแลห้องครัวเขม็ง ก่อนจะวางเก้าอี้ไม้ตัวเล็กลง ผู้ดูแลห้องครัวมองหลินมู่อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
หนิงมู่ฉือที่ได้ยินเสียงดัง ปึง ดังสนั่น หันไปมองภาพเหตุการณ์น่ากลัวที่เกิดขึ้นอย่างใ นางมองหลินมู่ด้วยสีหน้าตื่นตะลึง “เ้าทำอันใดของเ้า!”
ผู้ดูแลห้องครัวไหนเลยจะทนความเ็ปขั้นนี้ได้ มองเืที่หยดลงบนเสื้อผ้าไม่หยุด ใจนเป็ลมล้มพับไป
หลินมู่มองผู้ดูแลห้องครัวที่เป็ลม ใช้เท้าเตะอีกฝ่ายอีกคราเพื่อระบายโทสะในใจ
หนิงมู่ฉือมองผู้ดูแลห้องครัวที่เป็ลมอย่างใ นางเอามือไปอังที่จมูก เมื่อพบว่ายังมีลมหายใจ นางถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะปรี่เข้าไปหาหลินมู่อย่างมีน้ำโห “หลินมู่! เ้าทำอันใด! ใครใช้ให้เ้าทำร้ายนาง!”
หลินมู่คุกเข่าลงกับพื้น ก้มหน้า ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ข้าทนไม่ได้ที่เห็นคุณหนูได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจขอรับ!”
หนิงมู่ฉืออึ้งไปชั่วขณะ ทว่าเสียงยังคงเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว “เ้าก็รู้ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่คุณหนูในจวนแม่ทัพอีกแล้ว!”
หลินมู่ลุกขึ้นยืน ก้าวเดินเข้าไปหาหนิงมู่ฉือ “แต่สำหรับข้าน้อย ท่านจะเป็คุณหนูของข้าน้อยตลอดไป!”
หลินมู่ะโเสียงดังจนเส้นเืบนใบหน้าปูดโปน หนิงมู่ฉือได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “ข้าขอบใจเ้ามาก ผู้คุ้มกันของจวนแม่ทัพต่างหนีหายกันไปหมด มีแต่เ้าที่ยังคอยคุ้มครองข้า ข้าซาบซึ้งใจมากจริงๆ ถึงกระนั้นเ้าก็ต้องเข้าใจเื่หนึ่ง หน้าที่ของข้าในตอนนี้คือคืนความยุติธรรมให้แก่จวนแม่ทัพ!”
ครั้นได้ยินเสียงคนพูดคุยดังมาจากด้านนอก หลินมู่อุ้มผู้ดูแลห้องครัวเข้ามาในห้องครัว ก่อนจะรีบปิดประตู “คุณหนู ท่านออกไปก่อนเถิดขอรับ ที่นี่เดี๋ยวข้าน้อยจัดการเอง”
หนิงมู่ฉือมีนิสัยดื้อรั้นเป็ทุนเดิม ได้ยินแล้วรู้สึกไม่วางใจ จึงเอ่ยออกมาว่า “ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น เื่นี้เกิดขึ้นเพราะข้าเป็ต้นเหตุ”
ประตูห้องครัวถูกผลักเปิดเข้ามา จ้าวซีเหอมองผู้ดูแลห้องครัวที่นอนสลบอย่างใ ก่อนจะเบนสายตาไปยังหนิงมู่ฉือและหลินมู่ที่ยืนสงบนิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
เขาเดินเข้าไปใกล้ผู้ดูแลห้องครัว เอามืออังจมูกก่อนจะลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก จากนั้นหันไปจ้องหนิงมู่ฉือด้วยแววตาคมกริบ “เกิดเื่อันใดขึ้น”
หนิงมู่ฉือมองตอบ ขณะที่ในใจยังคงตระหนกไม่หาย แต่ถึงอย่างไรนางยังคงยืนยันที่จะยอมรับผิดในเื่นี้ “เื่นี้เกิดขึ้นเพราะข้าเองเ้าค่ะ!”
จ้าวซีเหอมองหน้าหนิงมู่ฉือครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปมองหลินมู่ที่ไม่พูดไม่จา ในใจพอจะคาดเดาเื่ราวทั้งหมดได้บ้างแล้ว เขาถอนหายใจออกมา ยิ้มบางๆ ขณะเอ่ยกับหนิงมู่ฉือ “ผู้ดูแลห้องครัวไปชนสิ่งใดเข้า เหตุใดที่ศีรษะถึงมีรูเบ้อเร่อเช่นนี้”
หนิงมู่ฉือรู้ว่าจ้าวซีเหอ้าจะช่วยนาง จึงมองเขาอย่างขอบคุณ
จ้าวซีเหอเรียกบ่าวรับใช้ให้มาอุ้มพาผู้ดูแลห้องครัวไปที่ห้อง โดยมีหนิงมู่ฉืออาสาว่าจะช่วยทำแผลให้
นางเดินเข้าไปในห้องผู้ดูแลห้องครัวอย่างรู้สึกผิด ตำยาแล้วนำไปโปะบนแผลที่ศีรษะ นางมองาแอย่างพิจารณา เมื่อเห็นว่าาแไม่ได้ใหญ่มาก เป็แค่แผลภายนอกเท่านั้น นางก็รู้สึกโล่งอก
นางถอนหายใจออกมา ครั้นได้ยินผู้ดูแลห้องครัวส่งเสียงหายใจเสียงดัง นางจึงนึกว่าฟื้นแล้ว รีบเอ่ยถามอย่างเป็ห่วง “ท่านผู้ดูแล ท่านฟื้นแล้วหรือเ้าคะ”
ผู้ดูแลห้องครัวกระพริบตาก่อนจะลุกขึ้นนั่ง ยกมือจับแผลที่ศีรษะ เจ็บจนต้องสูดปาก ผู้ดูแลห้องครัวหันไปมองหนิงมู่ฉือ ก่อนจะรีบก้มหน้าลงอย่างอับอาย
นางเห็นเช่นนั้นจึงกล่าวปลอบเสียงเบา “ท่านผู้ดูแล หลินมู่ไม่ทันระวัง ท่านอย่าเก็บไปใส่ใจเลยนะเ้าคะ”
ผู้ดูแลห้องครัวได้ฟังรู้สึกไม่พอใจยิ่ง แค่นเสียงฮึอย่างอวดดี “เ้านั้นไม่ชอบหน้าข้ามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผู้ใดจะไปรู้ว่าในใจมีแผนใดซ่อนอยู่!”
นางยิ้ม ไม่ตอบโต้ใดๆ หยิบขวดกระเบื้องเคลือบชั้นดีสีขาวขวดเล็กออกมาจากแขนเสื้อ นั่นคือยาสมานแผลที่จ้าวซีเหอให้นางไว้นั่นเอง นางเห็นผู้ดูแลห้องครัวมองมาที่นางอย่างสงสัย จึงส่งยิ้มไปให้ “นี่คือยาสมานแผลที่สามารถรักษาาแได้ทุกชนิด ทั้งยังทำให้ไม่ทิ้งรอยแผลเป็ไว้ด้วย ก่อนหน้านี้เป็ข้าที่ผิดเอง ข้าวางไว้ตรงนี้เผื่อท่านจะใช้นะเ้าคะ”
ผู้ดูแลห้องครัวยิ้มออกมา เห็นหนิงมู่ฉือไม่มีท่าทีจะถือสากับเื่ราวก่อนหน้านี้ ทั้งยังเอายาสมานแผลให้นางอีก นางจึงใจอ่อน “เฮ้อ พูดอันใดของเ้า ก็แค่เื่เข้าใจผิดกันเล็กน้อย สิ่งที่ข้า้าจะพูดกับเ้าจริงๆ ก็คือ เ้ากับดูสนิทกับซื่อจื่อมากเกินไปเท่านั้น”
“จริงหรือเ้าคะ” หนิงมู่ฉือยิ้มแห้ง เพื่อปิดบังความสับสนในใจ
“ท่านผู้ดูแล ท่านก็รู้ว่าซื่อจื่อเป็คนเ้าชู้เ้าสำราญ” หนิงมู่ฉือกล่าวด้วยสีหน้าราบเรียบ
ทันใดนั้นเองประตูก็ถูกผลักเปิดเข้ามา ก่อนที่จ้าวซีเหอจะเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม “กำลังคุยเื่ใดกันอยู่หรือ”
หนิงมู่ฉือรีบปิดปากเลิกพูดทันที มองจ้าวซีเหอที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง ส่งยิ้มเจื่อนให้แก่เขา “ซื่อจื่อ ท่านมาแล้วหรือเ้าคะ”
จ้าวซีเหอผงกศีรษะเป็การตอบ ก่อนจะเดินไปหาผู้ดูแลห้องครัว “ผู้ดูแล เหตุใดเ้าถึงไม่ระวังเลย ไปชนสิ่งใดเข้าที่ศีรษะถึงได้มีรูเช่นนี้”
ผู้ดูแลห้องครัวยิ้มกระอักกระอ่วน เื่นี้เป็นางที่เริ่มก่อน จึงทำได้แค่ยิ้มแห้งตอบกลับไป “เป็ข้าที่เลอะเลือนไปชั่วครู่เ้าค่ะ”
จ้าวซีเหอเหลือบเห็นขวดกระเบื้องสีขาวขวดเล็กวางอยู่บนโต๊ะ สีหน้าพลันเปลี่ยนไปทันที พูดกับหนิงมู่ฉือด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก “เ้าออกไปข้างนอกกับข้าหน่อย ข้ามีเื่จะพูดด้วย”
หนิงมู่ฉือหลุบตาขณะพยักหน้า ก่อนจะเดินตามจ้าวซีเหอออกไปด้านนอก “ซื่อจื่อมีธุระใดกับข้าหรือเ้าคะ”
จ้าวซีเหอหยิบขวดกระเบื้องสีขาวขวดเล็กขวดหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ แล้วยัดใส่มือหนิงมู่ฉือ “จำเอาไว้ ยาสมานแผลที่ข้าให้ เ้าห้ามยกให้คนอื่นเด็ดขาด”
หนิงมู่ฉือมองมือที่ยัดขวดยาใส่มือนางอย่างลำบากใจ ยิ้มบางๆ ขณะกล่าวตอบ “ขอบคุณเ้าค่ะ”
นางมองจ้าวซีเหอที่มีสีหน้าเรียบเฉยขณะเอ่ยออกมา “ท่านผู้ดูแลได้รับาเ็หนัก ข้าจะไปต้มน้ำแกงกระดูกหมูบำรุงร่างกายให้นาง ข้าขอตัวก่อนนะเ้าคะ”
จ้าวซีเหอพยักหน้า เดินตามหลังหนิงมู่ฉือด้วยสีหน้าเ้าเล่ห์ “ข้าเองก็หิวแล้ว เ้าทำให้ข้าถ้วยหนึ่งด้วย ข้าจะตามไปดูด้วยว่าเ้าทำอย่างไร”