เฟิงมี่ได้เลื่อนขั้นตามสามีเป็ฮูหยินปลัด แต่นี่แค่เริ่มต้นแผนของนางเท่านั้น นางเริ่มเข้าสังคมได้ทำความรู้จักกับฮูหยินขุนนางต่างๆ ด้วยชื่อเสียงของสามีที่นางสร้างไว้ ทำให้นางเป็ที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ฮูหยินจวนใดก็อยากทำความรู้จัก ส่งผลให้การงานของสามีราบรื่น
ฮ่องเต้ได้ยินเื่ราวเกี่ยวกับปลัดโหย่ว จึงอยากพบสักครั้ง สั่งให้ปลัดโหย่วและฮูหยินเข้าเฝ้า เฟิงมี่และสามีเดินทางทันทีไปจนถึงเมืองหลวง เข้าพักในจวนรับรองสำหรับขุนนางต่างเมือง เพื่อไม่ให้ตัวตนเปิดเผยนางจึงแกล้งป่วยไม่สามารถเข้าเฝ้าได้ เพราะฮ่องเต้ และคนในวังบางคนรู้จักนาง
ปลัดโหย่วเข้าเฝ้าฮ่องเต้โดยลำพัง ในการเข้าเฝ้าไม่ได้มีอะไรมาก แค่ตรัสชมเชย และประทานรางวัลเป็แก้วแหวนเงินทอง เพื่อแสดงให้คนทั้งใต้หล้าได้เห็นว่าพระองค์ส่งเสริมคนดี
ในขณะที่เฟิงมี่รอปลัดโหย่ว ได้สั่งให้คนไปสืบว่ามารดาของนางถูกฝังไว้ที่ไหน และไปสืบข่าวของชินหวังเฟยด้วย
แต่สิ่งที่เกินความคาดหมายคือ หลังจากที่ปลัดโหย่วเข้าเฝ้าฮ่องเต้ ได้เดินทางไปพบกับชินอ๋องบิดาของเฟิงมี่ที่จวน เป็เจตนาของเขาเอง โดยที่เฟิงมี่ไม่รู้
“ถวายบังคมท่านอ๋อง ข้าน้อย โหย่วจิ้ง มีเื่สำคัญจะรายงาน” ปลัดโหย่วกล่าวพร้อมทำท่าคารวะ
“เ้ามีอะไรก็ว่ามา” ชินอ๋องตรัส
“ข้าน้อยมีข่าวท่านหญิงจะรายงาน ท่านหญิงเคยถูก ขุนนางผางจับไปเป็ทาสที่เหมืองเหล็ก ข้าน้อยเคยเชิญนายอำเภอถงไปช่วย แต่พวกเขาสมรู้ร่วมคิดกัน ตอนนี้ท่านหญิงอยู่กับข้าน้อย” ปลัดโหย่วเล่า
ชินอ๋องได้ยินดังนั้นจึงรีบไปหาท่านหญิงที่จวนพักขุนนางแบบลับๆ เพราะกลัวพระนางชินหวังเฟยจะรู้ ชินอ๋องสงสัยในตัวชินหวังเฟยแต่ไม่มีหลักฐาน และลึกๆ ยังมีความเชื่อใจในตัวนางอยู่ และเชื่อไม่ลงว่าจะเป็คนโเี้ แต่ความสงสัยก็เป็เหตุผลมากพอที่จะไม่บอกเื่ของเฟิงมี่ให้ชินหวังเฟยรู้ อีกทั้งบิดาของชินหวังเฟยมีตำแหน่งสูงในราชสำนักเป็ถึงเสนาบดีซึ่งมีอำนาจ และเป็ที่ไว้วางใจของฮ่องเต้ หากไม่มีหลักฐานที่มากพอ เสนาบดีเหว่ยไม่นิ่งดูดายต้องยื่นมือมาช่วยพระนางพ้นผิดแน่
เป็เวลาที่แสนยาวนานที่พ่อลูกไม่ได้พบกัน จนในที่สุดได้พบกันที่จวนพักรับรองขุนนาง
“มี่เอ๋อร์!” ท่านอ๋องตรัสเรียกเฟิงมี่
“ท่านพ่อ! ท่านมาได้อย่างไร” เฟิงมี่ใมาก
“เ้าต้องลำบากแล้ว” ท่านอ๋องตรัสทั้งน้ำตา และดึงนางเข้ากอด
“ข้าลำบากจริงๆ ท่านพ่อ พวกเขาช่างใจร้าย แต่ท่านไม่เคยออกตามหาข้าเลย” เฟิงมี่เลือกที่จะไม่ฟ้องเื่ชินหวังเฟย เพราะรู้ข่าวจากคนที่ไปสืบแล้วว่าพระนางยังอยู่ดี นั่นหมายความว่าชินอ๋องไม่ได้เอาผิดพระนาง ฟ้องไปก็ทำอะไรไม่ได้
“ข้านะหรือไม่ตามหาเ้า ข้าสั่งตามหาทั่วทั้งต้าลู่ แต่ไม่มีแม้ข่าวคราว” ชินอ๋องตรัสอธิบาย
ที่หาเฟิงมี่ไม่เจอเพราะตอนนั้นโดนจับไปเป็ทาสในเหมือง ซึ่งไม่มีใครคิดว่านางจะอยู่ในนั้น และด้วยอยู่ในเหมืองนางเองจึงไม่รับรู้ข่าวภายนอก จึงไม่แปลกที่จะไม่รู้ว่าบิดาแทบพลิกทั้งต้าลู่เพื่อตามหานาง จนเวลาล่วงเลยไปหลายเดือนกว่าจะออกมาได้จึงคลาดกัน
เฟิงมี่เล่าชีวิตที่ผ่านมาให้บิดาฟัง จึงได้รู้ว่านางแต่งงานแล้วกับโหย่วจิ้ง ซึ่งต่ำศักดิ์กว่านางค่อนข้างมาก ทำให้ผู้เป็บิดาเสียใจยิ่งนัก นางยืนกรานตัดสินใจอยู่กับโหย่วจิ้งต่อ ไม่กลับจวนชินอ๋อง และด้วยความอับอายชินอ๋องจึงไม่ได้บอกใครว่าท่านหญิงยังมีชีวิตอยู่และอยู่ที่ไหน (สตรีสูงศักดิ์โบราณหากหายไปข้ามคืนโดยลำพังถือว่าไม่บริสุทธิ์ เป็เื่ใหญ่ บางคนอาจถูกจับแต่งงานลวกๆ บางคนอาจถูกจับบวชเป็แม่ชีที่วัด)
ชินอ๋องส่งสาส์นไปยังท่านโหวอวิ๋น เ้าเมืองเถี่ย ให้หาความผิดของ ขุนนางผางผู้คุมเหมืองเหล็ก และนายอำเภอถง เพื่อล้างแค้นให้ธิดา
สุดท้ายก็หาความผิดเจอ ขุนนางเลวมักเคยทำเื่ชั่วไว้เสมอ ขุนนางผางต้องโทษความผิดในคดีจับชาวบ้านมาเป็ทาสโดยพลการ ต้องโทษปะาชีวิต เพราะขุนนางมีหน้าที่ดูแลชาวบ้านหากทำผิดต่อประชาชนต้องโทษหนัก ส่วนนายอำเภอถง ต้องโทษคดียักยอกข้าวหลวงที่จะแจกให้ชาวบ้าน แอบลักลอบไปขายให้อดีตผู้นำการค้าข้าว ต้องโทษปะาชีวิต กำหนดปะา 3 วัน นับจากนี้ เวลาเที่ยงวัน พระอาทิตย์ตรงหัว
วันปะาขุนนางทั้งสอง เฟิงมี่ได้มาส่งขุนนางผาง ได้นำสุรามาให้เขาดื่มเป็จอกสุดท้าย ซึ่งสมัยโบราณก่อนเพชฌฆาตจะสังหาร จะให้นักโทษกินอาหารมื้อสุดท้าย
“ข้านับถือท่านขุนนางผางเป็อย่างมาก ขอมอบสุราให้ดื่มเป็จอกสุดท้าย” เฟิงมี่กล่าวขออนุญาตผู้คุมปะา และได้รับการอนุญาต
“ข้ารู้แล้วว่าต้องเป็ฝีมือท่าน” ขุนนางผางพูดอย่างไม่แปลกใจมากนักที่เห็นเฟิงมี่ เพราะรู้ว่าวันนี้ก็ต้องมาถึง
“ท่านจะให้เกียรติข้า ดื่มเหล้าจอกนี้เป็การสั่งลาได้หรือไม่” เฟิงมี่กล่าวแล้ว สั่งให้คนส่งจอกเหล้ายื่นให้ขุนนางผาง
“เป็ข้าที่ได้รับเกียรติมากกว่า ที่มีผู้สูงศักดิ์มาส่งข้า” ขุนนางผางยกเหล้าดื่มหมดจอก เพราะรู้ยังไงก็ต้องตาย
ทันใดนั้นเองอาการจากยาพิษไส้ขาดที่ผสมในเหล้ากำเริบ พิษนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็แต่เป็พิษที่ไม่ตายทันทีจะรู้สึกทรมานอย่างมากราวกับไส้จะขาดจริงๆ หลังจากนั้นไม่นานเพชฌฆาตตัดหัวขุนนางผาง พร้อมกับนายอำเภอถง สิ้นชีพลงทันที
เมื่อตำแหน่งนายอำเภอเจี้ยนเค่อว่างลง เ้าเมืองเห็นว่าปลัดโหย่วเป็ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด จึงเสนอรายชื่อไปยังวังหลวง และได้รับการอนุมัติ
ในที่สุดโหย่วจิ้งก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็ขุนนางขั้น 7 ส่วนเฟิงมี่ได้เลื่อนขั้นตามสามีเป็ฮูหยินนายอำเภอ เป็สตรีที่มีเกียรติสูงสุดในอำเภอเจี้ยนเค่อ เหตุการณ์นี้ทำให้เฟิงมี่รู้ว่าสามีของนางเป็คนทะเยอทะยาน เขารู้ตัวตนนางั้แ่แรกว่าเป็ท่านหญิง และเขาใช้นางเป็สะพานก้าวเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้