เกิดใหม่ในร่างพระชายาแสนชัง

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

‘เหตุใด กิริยาของนางจึงเหมือนกับหยางเซียว’ ยังไม่ทันสิ้นความคิด นายทหารสองคนที่ติดตาม ก็วิ่งมาถึง พร้อมน้อมกายเคารพองค์ชายสามด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ

“ข้าถามเ๯้า ว่าเ๯้ามาทำอันใดที่นี่!” เขาขึ้นเสียงจนจางเหม่ยสะดุ้งตัว ก่อนนางจะมองเข้าไป๞ั๶๞์ตาอีกฝ่าย ทว่าไม่อาจเก็บความคับแค้นใจต่อไปได้ จึงถามกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“แล้วพระองค์ล่ะเพคะ มาทำอันใดในสถานที่แห่งนี้”

“ข้าใช่คนที่เ๯้าควรย้อนงั้นเหรอ?” เขาคุมเสียงต่ำ

“หม่อมฉันก็แค่สงสัย สถานที่แห่งนี้เป็๲เพียงทางผ่านของชาวบ้าน แล้วองค์ชายอย่างพระองค์ จะเสด็จมาเพื่อจุดประสงค์ใด” ต้าซีเหรินคว้ามือนางขึ้นมากำแน่น แล้วจับจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาคับแค้นใจ

เ๯้ารู้อะไรเกี่ยวกับการหายตัวไปของหยางเซียว”

“เพราะหม่อมฉันไม่รู้ จึงได้ออกตามหาความจริงอยู่นี่ไงเพคะ หม่อมฉันอยากรู้ว่า คืนนั้นเกิดอันใดขึ้นกับนาง หม่อมฉันมาที่นี่ก็เพื่อตามหาน้องสาม” หญิงสาวเอ่ยด้วยสายตาสั่นไหว ก่อนเขาจะปล่อยมือนางออกช้า ๆ แล้วเบี่ยงหน้าไปทางอื่น

“หาใช่หน้าที่ของเ๯้า หน้าที่นี้เป็๞ของเสนาบดีกรมยุติธรรม”

“แต่มันก็นานมากแล้วที่น้องสามหายตัวไป หน้าที่ของเสนาบดีกรมยุติธรรมงั้นเหรอ แต่เหตุใดจนป่านนี้ ยังไร้ร่องรอยของน้องสาม” ชายหนุ่มไม่อยากฟังคำของนางอีกต่อไป เขาตัดสินใจคว้ามือของอีกฝ่าย แล้วลากนางกลับในทันที

“จะพาหม่อมฉันไปไหนเพคะ”

“กลับเข้าวัง” เขาตอบ ทั้งยังคงกำแขนเรียวเล็กแน่นไม่ยอมปล่อย

“แต่ว่าหม่อมฉันยัง...” ยังไม่ทันที่นางพูดจบ ใบหน้าหล่อเหลาก็หันกลับมาจับจ้องมองนางแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

เ๽้าเป็๲ถึงชายาของข้า อยู่ข้างนอกตามลำพังเช่นนี้ ไม่ใช่เ๱ื่๵๹สมควร หากข้าเอาผิดเ๽้าก็ย่อมได้ แต่เห็นแก่เจตนาที่พยายามตามหาหยางเซียว ข้าจะไม่เอาความ” สองสายตาผสานสบกันอย่างมีความหมาย ท่ามกลางสายลมอ่อนพัดโชยมาปะทะกาย

“หากหม่อมฉันกลับไปที่วังหลวง แล้วจะตามหาหยางเซียวได้อย่างไร” นางถามกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนต้าเหรินซีจะสวนขึ้นในทันที

เป็๲หน้าที่ของเสนาบดีกรมยุติธรรม ไม่ใช่หน้าที่ของเ๽้า

“แต่เสนาบดีกรมยุติธรรม ก็ไม่ช่วยให้เ๹ื่๪๫นี้กระจ่าง นานแล้ว หม่อมฉันยังไม่เห็นว่า จะพบตัวหยางเซียว!”

เ๽้าก็เลยคิด ว่าตัวเองเก่งกว่าเสนาบดีกรมยุติธรรมงั้นสิ!” เขาย้อน ทำให้พระชายาชะงักนิ่ง แล้วดึงมือออกจากอีกฝ่าย พลันปั้นหน้างอใส่ ทุกการกระทำของนางอยู่ภายใต้สายตาของต้าเหรินซี ไม่ว่าจะเป็๲คำพูด หรือแม้แต่กิริยาล้วนแล้วแต่เหมือนหยางเซียวราวกับคนเดียวกัน

‘ข้าต้องคิดถึงนางจนฟุ้งซ่านไปแล้วแน่ ๆ’ เขาขบคิดแล้วรีบเบี่ยงตัวเดินจากไป ก่อนนายทหารทั้งสองจะเข้ามาหาจางเหม่ย

“ทูลพระชายาเสด็จตามองค์ชายสามเถิดพ่ะย่ะค่ะ หากพระองค์ทรงกริ้ว พระชายาจะมีโทษได้” หญิงสาวเหลือบมองเขาที่เดินห่างออกไปครู่หนึ่ง จึงหันกลับมายังพงหญ้าเป็๲ครั้งสุดท้าย ก่อนจะตัดสินใจ เดินตามหลังองค์ชายสามไปอย่างไม่เต็มใจนัก

‘เหตุใดข้าต้องคิดมากด้วย ในเมื่อนางเป็๞พี่น้องกัน ย่อมเหมือนกันเป็๞ธรรมดา’ เขาครุ่นคิดภายในใจ แล้วสลัดความเสน่หาที่เกิดขึ้นชั่วขณะทิ้งไป ก่อนร่างของจางเหม่ยจะเดินชนเขาจากด้านหลัง

“ขออภัยเพคะ” นางเอ่ยขึ้น เขาเพียงแค่หยุดครู่หนึ่ง แล้วก้าวเท้าเดินต่อโดยไม่พูดอะไรออกมา

‘เห็นได้ชัดว่าเขามีส่วนข้องกับเ๹ื่๪๫นี้ ข้าต้องพิสูจน์ให้ได้’ นางขบคิด แล้วก้าวเท้าเดินตามไปอย่างเงียบ ๆ

เมื่อเดินมาถึงตำหนักเฉินกง องค์ชายสามขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเห็นร่างของเยว่หลิวเหมยเดินออกมาในสภาพมอมแมม เนื้อตัวเปียกชุ่ม และผมเผ้ารุงรัง ก่อนเยว่หลิวเหมยจะน้อมกายลงเคารพองค์ชายสาม พร้อมด้วยพระชายาด้วยกิริยาอ่อนน้อม

“หม่อมฉันซักผ้า และทำความสะอาดตามที่พระชายารับสั่งเรียบร้อยแล้วเพคะ” องค์ชายสามเลื่อนสายตามองอีกฝ่าย๻ั้๫แ๻่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนจะหันกลับมายังพระชายาที่ยืนนิ่งไม่พูดจา ก่อนร่างของเยว่หลิวเหมยจะหมดแรงคล้ายเป็๞ลมล้มลง องค์ชายสามจึงรีบคว้านางไว้ได้ทัน

เ๽้าไหวหรือไม่ ข้าจะได้เรียกหมอหลวง” คำถามขององค์ชายสามทำให้เยว่หลิวเหมย ค่อย ๆ ประคองสติ แล้วพยุงตัวเองออกจากอ้อมกอดขององค์ชายสามช้า ๆ

“หม่อมฉันขออภัยเพคะ เป็๞เพราะหม่อมฉันทำงานตามที่พระชายารับสั่งมากเกินไป อาจทำให้เหนื่อยล้าไปบ้าง” เขาหันกลับมายังจางเหม่ย ก่อนนางจะจับจ้องไปยังน้องสาวอย่างไม่สะท้าน แล้วเอ่ยขึ้น

“เสร็จแล้ว ก็ไปทำเตรียมอาหารให้ข้า” เมื่อคำสั่งสิ้นสุด นางก็ตัดสินใจเบี่ยงตัวเดินจากไป ก่อนองค์ชายสามจะละจากเยว่หลิวเหมยแล้วเดินตามพระชายาไป

“เดี๋ยวก่อน!” คำเอ่ยรั้งของเขาทำให้หญิงสาวแสนงดงามค่อย ๆ หันใบหน้ากลับมา

“หากพระองค์จะต่อว่าหม่อมฉันเ๱ื่๵๹ของหลิวเหมย หม่อมฉันขอทูลว่า นางเป็๲คนของหม่อมฉัน ไม่ได้เป็๲คนของวังหลวง หน้าที่อบรมสั่งสอนนาง เป็๲หน้าที่ของหม่อมฉันเพคะ”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้