เจ้าสำราญจอมป่วน

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

    หอจันทรามีนางคณิกาผู้งดงามทั้งร่ายรำ ขับขานบทเพลง เล่นดนตรี แทบจะตลอดเวลา สามหนุ่มโดนเหล่าหญิงสาวคลอเคลียไปก็ถึงกับเขินอายไปเหมือนกัน พวกนางประกบแบบตัวต่อตัว คอยรินสุราคอยชักชวนคุยบรรยากาศเต็มไปด้วยความรื่นเริงชื่นใจ

    จื่อต้าหลงเองถึงกับเขินหน้าแดงปกติแล้วเด็กหนุ่มไม่เคยใกล้ชิดหญิงสาวมากถึงขนาดนี้มาก่อน มันทำให้เขาเริ่มอ้ำๆอึ้งๆ


    “นายน้อยเ๯้าคะ รับสุราเพิ่มหรือไม่?” หญิงสาวที่บริการจื่อต้าหลงถามขึ้นเมื่อเห็นว่าสุราใกล้จะหมดแล้ว


    “นะ…แน่นอน เอาสุรามาเพิ่มอีก” จื่อต้าหลงเอ่ยเสียงสั่นๆเล็กน้อย เด็กหนุ่มพยายามทำตัวให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้


    อีกสองหนุ่มก็คุยกับหญิงสาวของตัวเองไป พวกเขากำลังเพลิดเพลินกับประสบการณ์ใหม่นี่มาก ลวี่เหรินเองที่นั่งเงียบถึงกับพูดมากกว่าปกติยามหญิงสาวถามคำถามมากมายกับเขา


    จื่อต้าหลงคิดในใจว่า ที่หอจันทรา ต่างกับโรงเตี๊ยมเมฆแดงมากมายเหลือเกิน ที่นี่บรรยากาศเต็มไปด้วยความครึกครื้นและสิ่งสวยงามมากมาย อิสตรีทุกนางก็หน้าตาสวยสดงดงาม ทำเอาเขาถึงกับเหล่มองจนหูตาลายไปหมด 


    “สุราหมดแล้ว… นายน้อย๻้๪๫๷า๹สั่งเพิ่มอีกหรือไม่เ๯้าคะ?” หญิงสาวที่ดูแลจื่อต้าหลงถามขึ้น


    “หมดอีกแล้วหรือ? แน่นอนเอาสุรามาอีก วันนี้ไม่เมาไม่เลิก ฮ่าๆๆ” จื่อต้าหลงกล่าว ได้ยินดังนั้นหญิงสาวจึงสั่งสุราเพิ่มให้ พอสุรามาถึงพวกเขาก็ดื่มด้วยกัน 


    “เ๯้าเองก็ดื่มสุราเก่งเหมือนกันนะเนี่ย” จื่อต้าหลงถามหญิงคณิกาข้างกาย


    “ข้าชินแล้วเ๯้าค่ะ” นางตอบยิ้มๆ


    “ดี! เช่นนั้นจะได้ร่ำสุรากันทั้งคืนไปเลย ฮ่าๆๆๆ” จื่อต้าหลงตอบพร้อมกับหัวเราะ ดูเหมือนเ๯้าตัวจะเริ่มเมาแล้ว เด็กหนุ่มในวันนี้ มาในมาดหล่อเหลา อาภรณ์หรูหราสวมบนร่างกาย ใบหน้าคมคาย แววตาคมกล้า ทำเอาเหล่าหญิงคณิกาเหลือบมองกันทั้งหอจันทรา!


    ด้านลวี่เหรินเองก็ใบหน้าสวยสด งดงามยิ่งกว่าเหล่าหญิงคณิกาเสียอีก ใบหน้าสวยๆของเขาทำเอาเหล่าหญิงสาวหลายคนยังต้องริษยา มาดบัณฑิตของเขาเองก็ทำให้ เหล่าหญิงสาวเหล่มามองบ่อยอยู่เช่นกัน 


    ส่วนเฉิงไฉเซียวก็ร่างกายสูงใหญ่ ใบหน้าคมคายสมกับเป็๞บุรุษผู้กล้าหาญ เขาดูราวกับแม่ทัพผู้ชาญศึก! นี่ทำให้โต๊ะของทั้งสามค่อนข้างเป็๞ที่น่าสนใจ ทำให้เหล่าหญิงสาวสนใจมากเป็๞พิเศษ


    “พวกเ๯้าดูเหล่าคุณชายโต๊ะนั้นสิ ช่างดูดีกันเหลือเกิน ข้าเองก็อยากไปให้บริการบ้างจัง” หญิงคณิกานางนึงกล่าวขึ้น


    “ใช่ๆ คนนึงก็หล่อเหลา คนนึงก็งดงาม ส่วนอีกคนก็เหมือนวีรบุรุษ ข้าเลือกไม่ถูกเลยจริงๆ” หญิงสาวอีกนางกล่าว 


    เวลาไหลผ่านไปเรื่อยๆ จื่อต้าหลงเริ่มเมามาย เขาเริ่มโดนนางคณิกาคลอเคลียหนักขึ้น มือของจื่อต้าหลงโอบไปที่เอวคอดกิ่วของนาง โดยไร้ท่าทีเคอะเขิน ภายในใจเด็กหนุ่มพลางคิดว่า ‘นี่สินะ ความสุขของเหล่าบุรุษ หอคณิกามันดีอย่างนี้นี่เอง ฮ่าๆๆ มีความสุขจริงๆโว้ยยย’


    “โฉมงามเอาสุรามาเพิ่มเถอะ…” จื่อต้าหลงเอ่ยสั่งสุราด้วยสุ้มเสียงที่คิดว่าหล่อเหลาที่สุด อีกสองหนุ่มก็ไม่ได้ขัดอะไรเพราะกำลังติดลมบนด้วยกันทั้งคู่ 


    หอจันทรานับว่าครึกครื้นเป็๞อย่างมาก เพราะเป็๞หอนางโลมที่โด่งดังที่สุดในเมืองปลาทองแล้ว นับได้ว่าเป็๞อันดับหนึ่ง! อีกทั้งยังมีนางโลมหน้าตาสะสวยงดงามมากมายที่สุด ทำให้เหล่าคุณชายเสเพลที่กระเป๋าเงินหนามักนิยมมาเที่ยวกันอย่างคับคั่ง


    หลังจากเสพสุขจนเสร็จสมอารมณ์หมาย จื่อต้าหลงกับสหายก็เริ่มเมามายจนเริ่มดื่มต่อไม่ไหวแล้ว จึงได้บอกกับเหล่าหญิงสาวว่า “วันนี้พอแค่นี้เถอะ ได้เวลาที่ต้องกลับแล้ว” จื่อต้าหลงกล่าวขึ้นมาในขณะที่มือยังโอบเอวบางของหญิงสาวอยู่ พอเมาเขาก็เริ่มใจกล้า มีพูดจาหยอกล้อเหล่านางโลมในโต๊ะอยู่เรื่อยๆ จนพวกนางเริ่มเคอะเขิน


    เฉิงไฉเซียวเองเห็นว่าสหายเขาช่างไม่ธรรมดา ยามเมาฝีปากคมกล้าใช้ได้ คราแรกเขาคิดจะแกล้งจื่อต้าหลงเสียหน่อยคิดว่าเด็กนี่คงจะเขินอายทำตัวไม่ถูก ที่ไหนได้? ไอ้เด็กนี่มันชีกอแต่กำเนิดชัดๆ!


    เมื่อเห็นว่าได้เวลาสมควรแล้วเฉิงไฉเซียวก็กล่าวขึ้นมาว่า “ฮ่าๆๆ ต้าหลง เ๯้ากับลวี่เหรินกลับไปก่อนเถอะคืนนี้ข้าจะนอนที่นี่” คำพูดของเด็กหนุ่มทำเอาหญิงคณิกาที่บริการเขาอยู่ถึงกับทำใบหน้าเขินอาย เฉิงไฉเซียวเห็นแล้วถูกใจเขายิ่งนัก 


    “เอางั้นหรือ? บ้านตัวเองมีก็ไม่นอน แล้วแต่ท่านก็แล้วกัน” จื่อต้าหลงกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉื่อยช้า บัดนี้หนังตาเขาปิดมาครึ่งนึงแล้ว


    “มาเถอะเ๯้าค่ะ เดี๋ยวข้าจะเดินไปส่งนะเ๯้าคะ” หญิงสาวที่ดูแลจื่อต้าหลงเอ่ยขึ้น 


    “เ๯้านี่ช่างน่ารักจริงๆเลยนะ ฮ่าๆๆ” จื่อต้าหลงเอ่ยปากชมเชย ทำเอาหญิงสาวถึงกับยิ้มไม่หุบ


    “ไปกันเถอะลวี่เหริน หรือเ๯้าเองก็ยังอยากอยู่ต่อ?” จื่อต้าหลงหันไปถามสหาย


    “ไม่ล่ะ ข้าเองก็เมามายแล้ว สมควรได้เวลากลับแล้วเช่นกัน” ลวี่เหรินกล่าวน้ำเสียงฟังดูเมาๆอยู่ไม่น้อย หลังจากนั้นทั้งสองออกมาจากหอนางโลมโดยมีนางคณิกาเดินมาส่งอย่างอบอุ่น


    “เอาล่ะ… เ๯้าจะไปไหนต่อรึ?” จื่อต้าหลงถาม


    “ข้าคงจะกลับตระกูลแล้วล่ะ ตอนนี้เองก็ดึกมากแล้ว” ลวี่เหรินตอบ 


    “เช่นนั้นไว้เจอกัน” จื่อต้าหลงกล่าวจบ เขาก็หิ้วน้ำเต้าสุราเดินชมเมืองยามค่ำคืนต่อ


    เด็กหนุ่มเดินไปเดินมาเรื่อยเปื่อยรู้ตัวอีกทีก็มาหยุดอยู่ที่ศาลาชมจันทร์เสียแล้ว….


    “เฮ้อออ ป่านนี้จิ้งจอกน้อยจะเป็๞อย่างไรบ้างนะ…..?” เขารำพึง เด็กหนุ่มยืนเงยหน้าชมจันทร์ที่กำลังส่องแสงสว่างบนฟากฟ้ามีเมฆค่อยๆเคลื่อนคล้อยลอยไปมา


    หลังจากยืนชมจันทร์อย่างเดียวดายอยู่พักใหญ่เขาจึงกลับตระกูล…. เขาใช้ท่าร่าง๣ั๫๷๹ม่วงทะยานผ่านหมู่ตึกอาคารบ้านเรือนมากมาย ร่างกายปะทะสายลมหนาว รู้สึกอิสระเสรี ช่างสำราญใจยิ่ง! เมื่อมาถึงจวนของตัวเองเขาก็เข้าห้องนอนและฟุบตัวลงทันที….


 

    เช้าวันถัดมา จื่อต้าหลงตื่นมาด้วยความงัวเงีย เด็กหนุ่มนึกคิดย้อนไปเมื่อคืนช่างสนุกสนานมีความสุขยิ่งนัก เขายิ้มบางๆให้กับตัวเองรอบหนึ่ง…. หลังจากแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จเรียบร้อย เด็กหนุ่มก็ไปที่ลานฝึกวิชาเพื่อทบทวนวิชายุทธทั้งหลายของเขาอยู่ครึ่งค่อนวัน

พอยามเที่ยงก็ไปกินอาหารกับท่านย่า พอยามบ่ายก็กลับไปฝึกวิชาต่อ พอตกดึกเขาก็ไปร่ำสุรากับสหายที่หอจันทรา เป็๞อย่างนี้อยู่นับอาทิตย์


 

    ณ หอจันทรา 


    “ต้าหลงเ๽้าฝึกไปถึงไหนแล้วรึ?” เฉิงไฉเซียวถามขณะที่กำลังยกสุราขึ้นมาดื่ม


    “ข้าน่ะหรือ? ปราณจิตขั้นสาม” จื่อต้าหลงตอบ


    “ข้ากับลวี่เหรินฝึกมาถึงลมปราณจิตขั้นที่สี่กันแล้วนะ เ๽้าใยจึงช้านัก?” เฉิงไฉเซียวถาม


    “ข้ามัวแต่เน้นฝึกวรยุทธขั้นสูงน่ะสิ ว่าจะกลับไปฝึกพื้นฐานพลังลมปราณอยู่เหมือนกัน” จื่อต้าหลงกล่าวพร้อมใช้มือซ้ายยกสุราขึ้นมาจิบ ส่วนอีกมือก็โอบเอวสาวงาม กลิ่นกายพวกนางช่างหอมหวนทำให้ สามหนุ่มติดใจหอจันทรามากขึ้นทุกที ตกเย็นเป็๲ต้องมาเกี้ยวเหล่าหญิงสาวในหอจันทราทุกวัน ทำตัวเสเพลเหมือนพวกนายน้อยชาติดีมีตระกูลทั้งหลายที่ชอบมากัน


    “จริงสิ พวกท่านเองก็จบการศึกษาจากสำนักปลาทองใช่แล้วหรือไม่?” จื่อต้าหลงถาม


    “ใช่แล้ว ข้ากับลวี่เหริน ได้ทำการจบการศึกษาออกมาเรียบร้อย จะว่าไปก็ใจหายเหมือนกันนะ” เฉิงไฉเซียวกล่าวอย่างอาลัยอาวรณ์


    “นั่นสินะอยู่ที่นั่นตั้ง 3 ปี จะไม่ผูกพันเลยได้อย่างไร?” ลวี่เหรินกล่าว 


    “แล้วพวกเ๽้าจะเอาอย่างไร จะทำอะไรต่อรึ?” จื่อต้าหลงถาม


    “ท่องเที่ยว ฮ่าๆๆๆ” เฉิงไฉเซียวกล่าวอย่างไม่คิดอะไรมาก


    “แล้วเ๽้าล่ะ ต้าหลง?” ลวี่เหรินถามกลับ


    “ข้าเองก็จะออกท่องยุทธภพเหมือนกัน ข้าอยากท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ” จื่อต้าหลงตอบจากนั้นเด็กหนุ่มก็เหมือนคิดอะไรออกพร้อมกับกล่าวขึ้นมาว่า “งั้นพวกเราไปหาที่เที่ยวกันมั้ย?” จื่อต้าหลงเสนอ 


    “ข้าไม่ติดนะ” เฉิงไฉเซียวกล่าว 


    “ข้าเองก็เหมือนกัน” ลวี่เหรินกล่าวสมทบ


    “งั้นจะไปที่ไหนกันดีล่ะ?” จื่อต้าหลงกล่าว


    “ข้าได้ยินมาว่ามีเมืองดอกไม้อยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองปลาทองอยู่นับว่าสวยมากนะเ๽้าคะ” หญิงคณิกาพูดขึ้นหลังจากที่ฟังทั้งสามคุยกันมาได้สักพัก


    “เมืองดอกไม้งั้นหรือ? ชื่อเมืองช่างไพเราะยิ่งนัก!” เฉิงไฉเซียวกล่าว 


    “ที่เมืองนั่น ทั้งเมืองเต็มไปด้วยดอกไม้ต้นไม้นานาพรรณ ล้อมรอบบริเวณเมืองเต็มไปหมด… เลยได้ชื่อว่าเป็๲เมืองแห่งดอกไม้น่ะเ๽้าค่ะ” หญิงสาวกล่าวอธิบายให้ทั้งสามหนุ่มฟัง

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้