ปู่หลินไม่ได้คิดจะยุ่งกับเื่ของจ้าวซื่อ แต่เมื่อได้ยินคำพูดไร้กาลเทศะของนางจึงโกรธขึ้นมา แล้วมองหลินต้าซาน ก่อนจะกล่าว “บอกให้ภรรยาเ้าหุบปากเสีย คำพูดคำจาของนางทำให้ชาเสียรสชาติ ทำตัวจริงจังเสียหน่อย!”
หลินต้าหลางได้ยินคำพูดของปู่หลิน ก็รู้ว่าปู่หลินที่ตอนแรกมีศัตรูร่วมกัน ได้เริ่มเบนเข็มเพราะความรำคาญแล้ว
หลินฟู่อินคลี่ยิ้มบาง แล้วกล่าว “ข้าเองก็ซื้อชานี่ไม่ไหว ตัวชานี้ข้าได้รับมาจากวังฮูหยินต่างหาก”
วังฮูหยิน!
เหล่าคนบ้านใหญ่ต่างตกตะลึง พวกเขารู้จากปากของคนในหมู่บ้านแล้วว่าสะใภ้ใหญ่วังประสบภาวะคลอดบุตรยาก แต่โชคดีที่หลินฟู่อินไปช่วยได้ทันจึงรอดมาได้ทั้งแม่และลูก…
ดังนั้นเื่ที่หลินต้าหลางกลับไปบอกว่า ตระกูลวังยอมให้พี่น้องของหลินฟู่อินไปเรียนที่โรงเรียนในเมืองได้จึงมีมูล…
ปู่หลินกระแอม แล้วมองหลินต้าซานเล็กน้อย
หลินต้าซานยืดหลังตรง วางถ้วยชาในมือลง มองหลินฟู่อินก่อนจะถาม “ฟู่อิน ข้าได้ยินมาจากต้าหลางว่าคนใช้ของบ้านวังมาที่นี่ เพื่อบอกว่าซานหลางได้ไปเรียนที่โรงเรียนในเมืองอย่างนั้นหรือ”
หลินฟู่อินมองเขาแล้วพยักหน้า “ใช่เ้าค่ะ!”
หลินต้าซานถอนหายใจ ดูท่าเด็กสาวผู้นี้จะมิได้เข้าใจอะไรเลย “ฟู่อิน เ้าเป็คนตัดสินใจเื่นี้หรือ?”
หลินฟู่อินรู้ว่าเขายังมีเื่ที่อยากพูดอยู่อีก จึงกล่าว “ใช่ ข้าอยากให้พี่ซานหลางไปเรียนที่โรงเรียนในเมือง จึงร้องขอเื่นี้กับวังฮูหยิน ในตอนนั้นข้ามีพี่ซานหลางไปด้วย และวังฮูหยินยังได้กล่าวชมเขาในฐานะบัณฑิตผู้หนึ่งด้วย”
หลินฟู่อินดูพอใจมาก นางไม่รอให้หลินต้าซานกล่าวต่อ แล้วจึงมองตรงไปยังปู่หลินก่อนกล่าว “ท่านปู่ ทั้งข้า และลุงสองป้าสองต่างก็รู้กันหมดว่าพี่ซานหลางอ่านหนังสือได้…”
“หลินฟู่อิน นังโง่ ซานหลางนั่นมันไม่รู้ภาษา เ้าเอาโอกาสดีๆ เช่นนี้ไปเสียให้มันได้ยังไง!” จ้าวซื่อเข้ามาอยู่ข้างหลินต้าซานแล้วส่งเสียงดุด่า
จ้าวซื่อเจ็บใจไม่น้อยที่หลินฟู่อินมอบโอกาสดีๆ เช่นนั้นให้หลินซานหลางไป
หลินซานหลางที่ไม่เคยเรียนหนังสือตอนอยู่บ้านใหญ่ แต่ตอนอยู่บ้านสองกลับได้เรียน ในฐานะของคนบ้านสอง ชัดเจนแล้วมิใช่หรือว่าพวกมันอยากมีอำนาจเหนือบ้านใหญ่?
หลินฟู่อินยิ้มออกมา แต่สายตาไม่ได้ยิ้มตาม
“ป้าใหญ่ บอกว่าเสียของได้ยังไง? พี่ซานหลางเองก็เป็บุตรชายของตระกูลหลินมิใช่หรือ?” น้ำเสียงของหลินฟู่อินเย็นเยียบลง “พี่ซานหลางน่ะชอบเรียน ทั้งยังเคยแอบฟังการสอนของซิ่วไฉชรามาก่อน เขาจึงรู้ตัวหนังสือมากมาย เมื่อข้ามีโอกาสในมือ ข้าจึงคิดถึงเขาก่อน”
คำพูดของหลินฟู่อินนั้นไม่มีอะไรผิด ปู่หลินก็หาจุดแย้งไม่ได้ เพราะอย่างไรเสียหลินซานหลางก็ยังเป็สมาชิกของบ้านหลิน
แต่โอกาสเช่นนี้มันดีกับหลินต้าหลางมากกว่าหลินซานหลางจริงๆ ต่อให้หลินซานหลางจะกำลังศึกษาอยู่ แต่ก็ยังไม่นานพอที่จะคาดหวังได้ แต่หลินต้าหลางนั้นต่างออกไป เขาเข้าสอบมาหลายครั้งแล้ว…
“ข้าจะไม่พูดอะไรมาก…” จ้าวซื่อลุกขึ้น สองมือท้าวเอว สายตาจ้องหลินฟู่อินเขม็ง “ฟู่อิน หุบปากแล้วฟังผู้ใหญ่เสีย แล้วหาทางให้ต้าหลางได้ไปเรียนซะ!”
“พี่ใหญ่น่ะหรือ?” หลินฟู่อินลากเสียงด้วยความไม่อยากเสวนากับจ้าวซื่อผู้เคยด่าว่าร้ายนาง แล้วจึงหันไปมองหลินต้าหลางด้วยรอยยิ้ม “พี่ต้าหลางออกจะเรียนเก่งมิใช่หรือ? ปีนี้ก็จะเข้าสอบอีกรอบด้วยนี่? แล้วยังคิดจะมาแย่งโอกาสของน้องตัวเองอีกหรือ?”
คำพูดของหลินฟู่อินนับเป็การดูิ่หลินต้าหลางเป็อย่างมาก เพราะอายุปูนนี้เข้าไปแล้วแต่กลับสอบตกทุกปี ความมั่นใจว่าตัวเองเป็นักเรียนที่ยอดเยี่ยมนี่คงแทบไม่เหลือแล้วละสิ แล้วยังคิดมาแย่งโอกาสได้ร่ำเรียนของน้องชายเช่นนี้อีก ช่างไร้ยางอายนัก!
หลินต้าหลางมองหลินฟู่อินอย่างเคียดแค้น นังนี่มันจะไปรู้อะไร? ปีนี้เขาต้องสอบผ่านแน่ๆ แต่เหตุใดเขาถึงอยากเข้าไปน่ะหรือ?
นั่นเป็เพราะที่โรงเรียนแห่งนี้มีคนสอบบัณฑิตผ่านทุกปี หากเขาเข้าไปเรียนแล้วสอบผ่านไปด้วยกัน เหล่าคนที่สอบผ่านไปพร้อมกับเขานี่แหละที่จะเป็ผู้ร่วมงานของเขาในอนาคต!
“ฟู่อิน ไม่ว่าจะยังไง การที่เ้าพยายามช่วยซานหลางก็ทำให้ปู่ดีใจมาก!” ปู่หลินครุ่นคิดไปอีกครู่หนึ่ง แล้วกล่าวออกมาแม้จะไม่พอใจนัก แต่ในใจเขาก็เข้าใจดีว่าหลินฟู่อินตั้งใจจะทำอะไร และพวกเขาก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจนางได้
ยิ่งเผชิญหน้ากับหลานสาวผู้นี้ก็ยิ่งทำให้เขาประหลาดใจ จนน้ำเสียงอ่อนลงโดยไม่รู้ตัวในตอนที่พยายามเกลี้ยกล่อมนาง “แต่ก็อย่างที่เ้ารู้ ซานหลางค่อนข้างจะอายุมากไปหน่อยแล้ว ข้าจึงไม่อยากหวังมากนัก เหตุใดเ้าไม่มอบโอกาสดีๆ นี้ให้พี่ใหญ่ของเ้าเสียล่ะ?”
สีหน้าของปู่หลินเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิม มันทั้งดูอ่อนโยนและสงบนิ่ง สร้างความประหลาดใจให้ผู้คนรอบๆ รวมไปถึงหลินฟู่อินที่มองตาปริบๆ
หลินต้าหลางเดือดดาลมาก ตอนอยู่ที่บ้านยังดีๆ อยู่เลยแท้ๆ แต่เหตุใดพอมาถึงนี่แล้วกลับใจอ่อนลงกัน?
แล้วเช่นนี้จะเป็ไปตามที่หวังได้อย่างไร?
เขายิ่งกังวลเมื่อเห็นหลินฟู่อินมีท่าทีครุ่นคิด เมื่อนางเห็นปู่หลินกล่าวเสียงอ่อนเช่นนี้ นางจึงผ่อนเสียงตามแล้วตอบกลับอย่างสงบนิ่ง “ท่านปู่ ข้าเข้าใจที่ท่านสื่อแล้ว แต่ข้าเห็นต่างออกไป” ปู่หลินขมวดคิ้วทันที ปากขยับ “เ้าคิดเช่นไร ว่ามา”
“ท่านปู่ ปีนี้น่ะพี่ต้าหลางดูมีความมั่นใจในการสอบมากมิใช่หรือ เช่นนั้นการไปเรียนในเมืองก็ย่อมเป็การเสียเวลา ให้เขาเอาเวลาไปทุ่มกับการเตรียมสอบดีกว่า!” เมื่อหลินฟู่อินเห็นหลินต้าหลางตั้งท่าจะขัด นางจึงรีบโบกมือปัด “พี่ต้าหลาง ฟังข้าให้จบก่อนแล้วค่อยพูด!”
หลินต้าหลางอับอายมากเมื่อนางขัดเขาเช่นนี้
หลินฟู่อินกล่าวต่อ “แต่ว่านะท่านปู่ ทั้งพี่ใหญ่และพี่ซานหลางต่างก็เป็ลูกของลุงและป้า ต่อให้เขาถูกบ้านสองรับเลี้ยงไปแล้ว แต่ก็ยังเป็พี่น้องกันอยู่ หากพี่ซานหลางได้โอกาสนี้แล้วสอบจนผ่าน บ้านของท่านลุงก็จะดูยอดเยี่ยมมากเลยมิใช่หรือ?”
ปู่หลินได้ยินแล้วก็ใจสั่น แล้วเผลอมองหลินต้าหลางโดยไม่รู้ตัว
หลินต้าหลางยิ่งมีใบหน้าบิดเบี้ยว ชื่อเสียงของบ้านใหญ่มันจะทำไม ที่สำคัญในตอนนี้มันคือชื่อเสียงของเขาต่างหาก!
หลินฟู่อินหันไปมองหลินต้าซานที่ยังคงมีท่าทีโลเล หากหลินต้าซานเห็นด้วย เื่ก็จะจบได้ทันที แล้วนางก็จะไม่ต้องมีเื่ให้ปวดหัวอีก “ท่านลุง ท่านว่ายังไง?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้