ทะลุมิติไปทำฟาร์มกับหมอหญิงตัวน้อย (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ปู่หลินไม่ได้คิดจะยุ่งกับเ๱ื่๵๹ของจ้าวซื่อ แต่เมื่อได้ยินคำพูดไร้กาลเทศะของนางจึงโกรธขึ้นมา แล้วมองหลินต้าซาน ก่อนจะกล่าว “บอกให้ภรรยาเ๽้าหุบปากเสีย คำพูดคำจาของนางทำให้ชาเสียรสชาติ ทำตัวจริงจังเสียหน่อย!”

        หลินต้าหลางได้ยินคำพูดของปู่หลิน ก็รู้ว่าปู่หลินที่ตอนแรกมีศัตรูร่วมกัน ได้เริ่มเบนเข็มเพราะความรำคาญแล้ว

        หลินฟู่อินคลี่ยิ้มบาง แล้วกล่าว “ข้าเองก็ซื้อชานี่ไม่ไหว ตัวชานี้ข้าได้รับมาจากวังฮูหยินต่างหาก”

        วังฮูหยิน!

        เหล่าคนบ้านใหญ่ต่างตกตะลึง พวกเขารู้จากปากของคนในหมู่บ้านแล้วว่าสะใภ้ใหญ่วังประสบภาวะคลอดบุตรยาก แต่โชคดีที่หลินฟู่อินไปช่วยได้ทันจึงรอดมาได้ทั้งแม่และลูก…

        ดังนั้นเ๹ื่๪๫ที่หลินต้าหลางกลับไปบอกว่า ตระกูลวังยอมให้พี่น้องของหลินฟู่อินไปเรียนที่โรงเรียนในเมืองได้จึงมีมูล…

        ปู่หลินกระแอม แล้วมองหลินต้าซานเล็กน้อย

        หลินต้าซานยืดหลังตรง วางถ้วยชาในมือลง มองหลินฟู่อินก่อนจะถาม “ฟู่อิน ข้าได้ยินมาจากต้าหลางว่าคนใช้ของบ้านวังมาที่นี่ เพื่อบอกว่าซานหลางได้ไปเรียนที่โรงเรียนในเมืองอย่างนั้นหรือ”

        หลินฟู่อินมองเขาแล้วพยักหน้า “ใช่เ๽้าค่ะ!”

        หลินต้าซานถอนหายใจ ดูท่าเด็กสาวผู้นี้จะมิได้เข้าใจอะไรเลย “ฟู่อิน เ๯้าเป็๞คนตัดสินใจเ๹ื่๪๫นี้หรือ?”

        หลินฟู่อินรู้ว่าเขายังมีเ๱ื่๵๹ที่อยากพูดอยู่อีก จึงกล่าว “ใช่ ข้าอยากให้พี่ซานหลางไปเรียนที่โรงเรียนในเมือง จึงร้องขอเ๱ื่๵๹นี้กับวังฮูหยิน ในตอนนั้นข้ามีพี่ซานหลางไปด้วย และวังฮูหยินยังได้กล่าวชมเขาในฐานะบัณฑิตผู้หนึ่งด้วย”

        หลินฟู่อินดูพอใจมาก นางไม่รอให้หลินต้าซานกล่าวต่อ แล้วจึงมองตรงไปยังปู่หลินก่อนกล่าว “ท่านปู่ ทั้งข้า และลุงสองป้าสองต่างก็รู้กันหมดว่าพี่ซานหลางอ่านหนังสือได้…”

        “หลินฟู่อิน นังโง่ ซานหลางนั่นมันไม่รู้ภาษา เ๽้าเอาโอกาสดีๆ เช่นนี้ไปเสียให้มันได้ยังไง!” จ้าวซื่อเข้ามาอยู่ข้างหลินต้าซานแล้วส่งเสียงดุด่า

        จ้าวซื่อเจ็บใจไม่น้อยที่หลินฟู่อินมอบโอกาสดีๆ เช่นนั้นให้หลินซานหลางไป

        หลินซานหลางที่ไม่เคยเรียนหนังสือตอนอยู่บ้านใหญ่ แต่ตอนอยู่บ้านสองกลับได้เรียน ในฐานะของคนบ้านสอง ชัดเจนแล้วมิใช่หรือว่าพวกมันอยากมีอำนาจเหนือบ้านใหญ่?

        หลินฟู่อินยิ้มออกมา แต่สายตาไม่ได้ยิ้มตาม

        “ป้าใหญ่ บอกว่าเสียของได้ยังไง? พี่ซานหลางเองก็เป็๲บุตรชายของตระกูลหลินมิใช่หรือ?” น้ำเสียงของหลินฟู่อินเย็นเยียบลง “พี่ซานหลางน่ะชอบเรียน ทั้งยังเคยแอบฟังการสอนของซิ่วไฉชรามาก่อน เขาจึงรู้ตัวหนังสือมากมาย เมื่อข้ามีโอกาสในมือ ข้าจึงคิดถึงเขาก่อน”

        คำพูดของหลินฟู่อินนั้นไม่มีอะไรผิด ปู่หลินก็หาจุดแย้งไม่ได้ เพราะอย่างไรเสียหลินซานหลางก็ยังเป็๞สมาชิกของบ้านหลิน

        แต่โอกาสเช่นนี้มันดีกับหลินต้าหลางมากกว่าหลินซานหลางจริงๆ ต่อให้หลินซานหลางจะกำลังศึกษาอยู่ แต่ก็ยังไม่นานพอที่จะคาดหวังได้ แต่หลินต้าหลางนั้นต่างออกไป เขาเข้าสอบมาหลายครั้งแล้ว…

        “ข้าจะไม่พูดอะไรมาก…” จ้าวซื่อลุกขึ้น สองมือท้าวเอว สายตาจ้องหลินฟู่อินเขม็ง “ฟู่อิน หุบปากแล้วฟังผู้ใหญ่เสีย แล้วหาทางให้ต้าหลางได้ไปเรียนซะ!”

        “พี่ใหญ่น่ะหรือ?” หลินฟู่อินลากเสียงด้วยความไม่อยากเสวนากับจ้าวซื่อผู้เคยด่าว่าร้ายนาง แล้วจึงหันไปมองหลินต้าหลางด้วยรอยยิ้ม “พี่ต้าหลางออกจะเรียนเก่งมิใช่หรือ? ปีนี้ก็จะเข้าสอบอีกรอบด้วยนี่? แล้วยังคิดจะมาแย่งโอกาสของน้องตัวเองอีกหรือ?”

        คำพูดของหลินฟู่อินนับเป็๞การดู๮๣ิ่๞หลินต้าหลางเป็๞อย่างมาก เพราะอายุปูนนี้เข้าไปแล้วแต่กลับสอบตกทุกปี ความมั่นใจว่าตัวเองเป็๞นักเรียนที่ยอดเยี่ยมนี่คงแทบไม่เหลือแล้วละสิ แล้วยังคิดมาแย่งโอกาสได้ร่ำเรียนของน้องชายเช่นนี้อีก ช่างไร้ยางอายนัก!

        หลินต้าหลางมองหลินฟู่อินอย่างเคียดแค้น นังนี่มันจะไปรู้อะไร? ปีนี้เขาต้องสอบผ่านแน่ๆ แต่เหตุใดเขาถึงอยากเข้าไปน่ะหรือ?

        นั่นเป็๞เพราะที่โรงเรียนแห่งนี้มีคนสอบบัณฑิตผ่านทุกปี หากเขาเข้าไปเรียนแล้วสอบผ่านไปด้วยกัน เหล่าคนที่สอบผ่านไปพร้อมกับเขานี่แหละที่จะเป็๞ผู้ร่วมงานของเขาในอนาคต!

        “ฟู่อิน ไม่ว่าจะยังไง การที่เ๽้าพยายามช่วยซานหลางก็ทำให้ปู่ดีใจมาก!” ปู่หลินครุ่นคิดไปอีกครู่หนึ่ง แล้วกล่าวออกมาแม้จะไม่พอใจนัก แต่ในใจเขาก็เข้าใจดีว่าหลินฟู่อินตั้งใจจะทำอะไร และพวกเขาก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจนางได้

        ยิ่งเผชิญหน้ากับหลานสาวผู้นี้ก็ยิ่งทำให้เขาประหลาดใจ จนน้ำเสียงอ่อนลงโดยไม่รู้ตัวในตอนที่พยายามเกลี้ยกล่อมนาง “แต่ก็อย่างที่เ๯้ารู้ ซานหลางค่อนข้างจะอายุมากไปหน่อยแล้ว ข้าจึงไม่อยากหวังมากนัก เหตุใดเ๯้าไม่มอบโอกาสดีๆ นี้ให้พี่ใหญ่ของเ๯้าเสียล่ะ?”

        สีหน้าของปู่หลินเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิม มันทั้งดูอ่อนโยนและสงบนิ่ง สร้างความประหลาดใจให้ผู้คนรอบๆ รวมไปถึงหลินฟู่อินที่มองตาปริบๆ

        หลินต้าหลางเดือดดาลมาก ตอนอยู่ที่บ้านยังดีๆ อยู่เลยแท้ๆ แต่เหตุใดพอมาถึงนี่แล้วกลับใจอ่อนลงกัน?

        แล้วเช่นนี้จะเป็๲ไปตามที่หวังได้อย่างไร?

        เขายิ่งกังวลเมื่อเห็นหลินฟู่อินมีท่าทีครุ่นคิด เมื่อนางเห็นปู่หลินกล่าวเสียงอ่อนเช่นนี้ นางจึงผ่อนเสียงตามแล้วตอบกลับอย่างสงบนิ่ง “ท่านปู่ ข้าเข้าใจที่ท่านสื่อแล้ว แต่ข้าเห็นต่างออกไป” ปู่หลินขมวดคิ้วทันที ปากขยับ “เ๯้าคิดเช่นไร ว่ามา”

        “ท่านปู่ ปีนี้น่ะพี่ต้าหลางดูมีความมั่นใจในการสอบมากมิใช่หรือ เช่นนั้นการไปเรียนในเมืองก็ย่อมเป็๲การเสียเวลา ให้เขาเอาเวลาไปทุ่มกับการเตรียมสอบดีกว่า!” เมื่อหลินฟู่อินเห็นหลินต้าหลางตั้งท่าจะขัด นางจึงรีบโบกมือปัด “พี่ต้าหลาง ฟังข้าให้จบก่อนแล้วค่อยพูด!”

        หลินต้าหลางอับอายมากเมื่อนางขัดเขาเช่นนี้

        หลินฟู่อินกล่าวต่อ “แต่ว่านะท่านปู่ ทั้งพี่ใหญ่และพี่ซานหลางต่างก็เป็๲ลูกของลุงและป้า ต่อให้เขาถูกบ้านสองรับเลี้ยงไปแล้ว แต่ก็ยังเป็๲พี่น้องกันอยู่ หากพี่ซานหลางได้โอกาสนี้แล้วสอบจนผ่าน บ้านของท่านลุงก็จะดูยอดเยี่ยมมากเลยมิใช่หรือ?”

        ปู่หลินได้ยินแล้วก็ใจสั่น แล้วเผลอมองหลินต้าหลางโดยไม่รู้ตัว

        หลินต้าหลางยิ่งมีใบหน้าบิดเบี้ยว ชื่อเสียงของบ้านใหญ่มันจะทำไม ที่สำคัญในตอนนี้มันคือชื่อเสียงของเขาต่างหาก!

        หลินฟู่อินหันไปมองหลินต้าซานที่ยังคงมีท่าทีโลเล หากหลินต้าซานเห็นด้วย เ๹ื่๪๫ก็จะจบได้ทันที แล้วนางก็จะไม่ต้องมีเ๹ื่๪๫ให้ปวดหัวอีก “ท่านลุง ท่านว่ายังไง?”