ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เหมือนกับกำลังทดสอบเส้นประสาทของทุกคน
ใครจะไปคาดคิดว่า จู่ๆ จะเกิดเหตุการณ์ลอบสังหารองค์าาหนุ่มอเล็กซานเดอร์ ในขณะพิธีาาภิเษกบนแท่นหินบูชา ทุกคนยังไม่ทันจะหายใจากเหตุการณ์นั้น ก็เกิดเื่ที่น่าใยิ่งกว่าขึ้นมา
นั่นก็คือ การลอบสังหารองค์หญิงนาตาชา
โลกนี้มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันนะ? ทำไมถึงมีคนกล้าลงมือสังหารองค์หญิงผู้สูงศักดิ์แห่งราชอาณาจักรเซนิท ทั้งยังเป็การบุกโจมตีหกทิศทางที่ไร้ซึ่งความปราณีด้วย
ประกายคมดาบที่หล่นลงมาจากฟากฟ้า แฝงด้วยพลังที่มหาศาล เพียงเห็นประกายแสงสีเงินเลือนรางขึ้นมาครู่หนึ่ง ราวกับว่า หนึ่งคนหนึ่งดาบจู่ๆ ก็ฉีกกระชากอากาศออกมา หัวและเท้าลอยอยู่กลางอากาศขณะที่ร่วงลงมาเพื่อสังหาร ตัวดาบห่อหุ้มด้วยเปลวไฟสีเงิน ปลายดาบเสียดสีกับอากาศจนสามารถมองเห็นประกายไฟ เผยให้เห็นถึงพลังที่น่าเกรงขาม เพื่อปกป้ององค์หญิง นักรบสามดาวซูซานที่อยู่ข้างกายก็กระโจนขึ้นไปปะทะตรงๆ ร่างเปราะบางขององค์หญิงถูกพลังที่น่ากลัวตรึงไว้ทำให้ไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้วเดียว ผมยาวนุ่มสลวยเหมือนสาหร่ายปลิวไปตามแรงลมของดาบที่เคลื่อนเข้ามา...
นักฆ่าที่หล่นลงมาจากฟ้า มีความแข็งแกร่งอย่างน้อยก็ห้าดาว
และประกายคมมีดที่ปรากฏขึ้นตรงฝั่งซ้ายขวา เผยให้เห็นถึงตำแหน่งของนักฆ่าอีกสองคน มีดทั้งสองเล่มนี้มีสีเหลืองและใบมีดมีรูปร่างโค้งแบบแปลกๆ อีกทั้งตัวมีดก็เต็มไปด้วยคำจารึกไม่คุ้นตา บนคำจารึกมีเปลวไฟสีเขียวอมน้ำเงินกะพริบวาบ มีดตวัดกลางอากาศเป็เส้นตรง ทำให้กระแสในอากาศเกิดวุ่นวายขึ้น มีดฟันไปที่เอวขององค์หญิงอย่างไร้ความปราณี แม้ว่าปลายมีดยังไม่ทันััชุดสีฟ้าครามของนาง แต่องค์หญิงก็ราวกับเป็ตุ๊กตาที่ถูกลมของมีดฟันออกเป็สองส่วน
นักฆ่าทั้งสองคนที่ถือมีดโค้งสีเหลืองมีหน้าตา ส่วนสูง ทรงผม และเสื้อผ้าที่แทบจะเหมือนกันทุกอย่าง แม้แต่ท่าทาง ความเยือกเย็น ความตั้งใจสังหารและมีดก็ยังเหมือนกันอีกด้วย...นักฆ่าทั้งสองคนเป็นักรบคลื่นพลังธาตุไม้และมีความแข็งแกร่งอย่างน้อยก็สี่ดาวขึ้นไป
สำหรับหญิงสาวที่อ่อนแอไร้ซึ่งหนทางการต่อสู้ แค่วางแผนส่งยอดฝีมือสามคนมาลอบสังหารนางอย่างระมัดระวัง นางก็คงสิ้นใจไปในอึดใจเดียวแล้ว แต่นอกจากดาบที่อยู่กลางอากาศแล้ว ยังมีมีดคู่ที่ขนาบข้าง ด้านหลังก็มีกรงเล็บเหล็กสีขาวคู่หนึ่ง ทั้งหมดต่างแฝงไปด้วยพลังที่ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย
กรงเล็บที่ทำมาจากเหล็กสีขาวคู่นั้นครอบคลุมไปทั่วทั้งฝ่ามือและแขนบางส่วนของนักฆ่า พร้อมทั้งความรุนแรงที่หนาแน่นในขณะที่จะเสียบเข้าที่ร่าง เหมือนกับสัตว์อสูรทำให้คนที่มองรู้สึกถึงความหวาดกลัวไม่มีที่สิ้นสุด ปลายกรงเล็บฉีกอากาศหรือแม้แต่พื้นที่ได้อย่างง่ายดาย กรงเล็บที่ดุร้ายจู่โจมเข้าไปที่ด้านหลังขององค์หญิงตรงส่วนหัวใจ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หากโดนการโจมตีนี้โดยตรง ร่างผอมบางขององค์หญิงคนนี้ต้องกลายเป็เศษเนื้อและเศษกระดูกกองหนึ่งแน่!
นอกจากนี้ ยังมีการจู่โจมอีกอย่าง
นั่นก็คือลูกศรขนนกสีขาวทั้งสามดอก ตรงหัวลูกศรเป็สีทองที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายอันตรายอย่างเงียบเชียบ และยังมีกระบี่ทหารม้าที่มีปลายดาบแหลมคมอยู่ในมือของเงาร่างสีส้มที่โผล่ออกมาจากพื้นดินกะทันหัน...
บน ล่าง ซ้าย ขวา หน้า หลัง
อาวุธห้าประเภทที่แหลมคม
นักฆ่าทั้งหก
ทุกอย่างนี้ รวมตัวกันเป็กรงขังแห่งความตายขึ้นมา
ความแข็งแกร่งของนักฆ่าทุกคนต่างทำให้ผู้คนหวาดกลัว ประกายคมดาบ ปลายคมมีด ฝูงลูกศร และกรงเล็บแหลมคม ทุกอย่างต่างเล็งมาที่องค์หญิง มันทำให้นางเหมือนมดที่ถูกก้อนหินั์กดทับ อย่าว่าแต่ขยับเลย แม้แต่จะหายใจก็ไม่อาจทำได้ อากาศในรัศมีหนึ่งเมตรรอบตัวนางราวกับถูกแช่แข็งไว้ แม้แต่เศษฝุ่นละอองลอยอยู่ในอากาศก็ยังหยุดเคลื่อนไหว
และที่น่ากลัวที่สุดคือ ข้างกายขององค์หญิงในตอนนี้ แม้แต่ผู้คุ้มกันก็ยังไม่อาจจะเป็โล่เนื้อที่มีความแข็งแกร่งระดับต่ำสุดได้เลย
นักรบหญิงซูซานถูกคลื่นดาบที่ตกมาจากฟ้าบีบนางจนแทบเอาตัวไม่รอด สาวน้อยชุดม่วงที่ดูเหมือนจะมีพลังแข็งแกร่งลึกล้ำก็อยู่ห่างจากแท่นหินบูชานับร้อยเมตรเพราะไล่ตามสังหารบาร์เซิลด้วยความโกรธ หัวหน้าอัศวินโรมัน ปัฟลูย์เชนโคที่มักจะมีใบหน้าเปื้อนยิ้มอยู่เสมอ นำกองกำลังอัศวินนับสองร้อยกว่าคนมายืนคุ้มกันอยู่ที่ใต้แท่นหินบูชา...
พวกเขาต่างพากันอุทานอย่างตื่นใ
ทุกคนต่างพากันตื่นตระหนก แต่ก็ไม่มีใครพุ่งเข้าไปช่วยนางได้ทัน บางคนหลับตาลงด้วยความกลัว ราวกับว่ากลัวที่จะได้เห็นร่างขององค์หญิงคนนี้ถูกฉีกกระชาก ทั่วทั้งแท่นหินจะต้องมีเืสาดกระเซ็น...
เวลานี้มีเพียงซุนเฟยที่มีระยะห่างไม่ไกลจากองค์หญิง
ตอนนี้เขาอยู่ใน ‘โหมดนักรบอเมซอน’ ด้วยพลังของนักรบอเมซอนเลเวล 16 นั้น มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับนักรบสามดาวระดับกลางเท่านั้น ด้วยระดับแค่นี้มันคงไม่มีประโยชน์อะไร เห็นตัวอย่างได้จากนักดาบสาวซูซาน ปัจจุบันนี้ ความแข็งแกร่งที่สูงที่สุดของซุนเฟยคือ ‘โหมดคนเถื่อน’ และต่อให้คนเถื่อนเลเวล 21 เรียกใช้ไอเทมครบชุดและ ‘ขวานคู่ม่วงเขียว’ ออกมา ก็มีความแข็งแกร่งอยู่ในขั้นสี่ดาวระดับกลาง
แต่ตอนนี้ แม้แต่เวลาจะเปลี่ยนโหมดก็ยังไม่มี และที่สำคัญคือ ซุนเฟยรู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่น่าหวาดกลัวของนักฆ่าทั้งห้าคนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะคนที่ตกลงมาจากฟ้า แม้ว่ามันจะเป็การโจมตีที่เรียบง่ายแต่ก็แฝงไปด้วยความอันตราย ซุนเฟยไม่สงสัยเลยว่าหากแลกที่กันได้ แล้วตัวเองไปอยู่แทนที่องค์หญิงในสภาพโหมดคนเถื่อนที่จัดเต็มด้วยไอเทม ก็คงไม่สามารถต้านอีกฝ่ายได้แน่ๆ
ในเวลากระชั้นชิดแบบนี้
ปฏิกิริยาตอบสนองตามสัญชาตญาณเร็วกว่าการประมวลผลข้อมูลในหัว
ภายใต้การกระตุ้นของประสบการณ์สัญชาตญาณการต่อสู้นักรบอเมซอน ซุนเฟยยืดมือออกไปตามจิตใต้สำนึก แสงสว่างสีทองเปล่งประกายระยิบระยับ ก่อนที่จะปรากฏธนูสีทองออกมาในมือเขา ใช้มือดึงสายธนูเบาๆ กระแสไฟฟ้าของลูกศรเวทมนตร์ทั้งหกกะพริบขึ้นมาตรงคันธนู จากนั้นก็ปล่อยสาย...
การเคลื่อนไหวครั้งเดียวแต่สามารถจัดการได้แบบรวดเดียวจบ ความเร็วของมันเหมือนกับเป็ภาพลวงตา
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ลูกธนูแหลมคมทั้งหกดอกทะยานออกไป
ตัวลูกศรสีดำ แฝงไปด้วยกระแสไฟฟ้าสีเงินและเสียงหวีดร้องแหลม ลอยข้ามท้องฟ้า
เสียงปล่อยสายธนูดังขึ้นครั้งหนึ่ง สามารถปล่อยลูกศรได้หกดอก
และทิศทางของลูกศรทั้งหกดอกนี้ก็ไม่เหมือนกันอีกด้วย
ดอกแรก พุ่งไปที่ดวงตาของนักดาบที่มีพลังสูงที่สุดและกำลังดิ่งลงมาจากอากาศคนนั้น
ดอกที่สองและสาม ไปทางช่องว่างข้างทั้งซ้ายขวาขององค์หญิง หากนักมีดทั้งสองคนที่กำลังถือมีดโค้งสีเหลืองเคลื่อนไหวมาทางด้านหน้าอีกเล็กน้อย เขาจะถูกลูกศรที่มีกระแสไฟฟ้าพันรอบลูกศรปักเข้าที่เอวพวกเขา
ดอกที่สี่ ยิงไปสกัดลูกศรขนนกสีขาวทั้งสามดอกที่กำลังโจมตีไปที่หัว ลำคอ หัวใจขององค์หญิง...
ดอกที่ห้า ยิงถากส่วนคอขององค์หญิงไปที่ลำคอของเ้าของกรงเล็บสีขาวด้านหลังของนาง
ดอกที่หก ยิงไปที่ด้านหลังศีรษะของนักฆ่าที่ถือกระบี่ทหารม้าผุดออกมาจากแสงสีส้ม
ทักษะการยิงธนูแบบนี้ เรียกได้ว่าเป็ทักษะที่น่าอัศจรรย์
นักรบอเมซอน ทักษะธนูยาว ‘ยิงกราด’
สามารถยิงลูกศรหลายดอกได้ในเวลาเดียวกัน และยังทำให้ลูกศรเวทมนตร์ที่ยิงกราดมุ่งไปยังเป้าหมายที่แตกต่างกันได้ ถือเป็พลังโจมตีที่ไม่เลวจริงๆ
นี่เป็ทักษะยิงลูกศรระดับสูงใน ‘โหมดนักรบอเมซอน’ ของซุนเฟย
นี่เป็ ‘โหมดนักรบอเมซอน’ ของซุนเฟย
ซุนเฟยไม่ได้หวังว่าลูกศรทั้งดอกจะสามารถกำจัดนักฆ่าทั้งหมดได้ เขาแค่หวังว่าจะสามารถชะลอการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายได้สักเล็กน้อยก็ยังดี ให้พวกเขาได้มีเวลาตั้งสติ นอกจากยื้อเวลาให้ตัวเองแล้ว ยังยื้อเวลาให้สาวน้อยชุดม่วงผู้แข็งแกร่งคนนั้นที่อยู่ห่างออกไปร้อยเมตรได้ตั้งสติกลับมาด้วย
หลังจากยิงลูกศรหกดอกในครั้งเดียวออกไป ซุนเฟยก็รีบเปลี่ยนเป็ ‘โหมดคนเถื่อน’ แล้วทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ไม่มีเวลามานั่งคิดว่าเขาจะไปทันหรือไม่ ตัวเองสามารถเป็คู่ต่อสู้อีกฝ่ายได้หรือเปล่า การช่วยองค์หญิงเป็ทางเลือกเดียวของซุนเฟยตอนนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาไม่อาจให้องค์หญิงคนนี้ต้องมาตายที่แท่นหินบูชาของเมืองแซมบอร์ดแน่ๆ
แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของซุนเฟยก็ยังคงช้าอยู่ดี
ธนูดอกแรกยิงไปทางนักฆ่าที่กำลังลอยดิ่งลงมากลางอากาศ เดิมทีมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่แล้ว เพียงปะทะเข้ากับคลื่นพลังในร่างของยอดฝีมือห้าดาวโดยตรง ก็สามารถทำลายลูกศรเวทมนตร์ดอกนั้นจนกลายเป็ผุยผง ปลิวไปในอากาศ ไม่ได้ก่อความวุ่นวายใดๆ แก่ตัวนักฆ่าคนนั้น
ธนูทั้งสองดอกที่ยิงไปทางนักฆ่ามีดโค้งสีเหลืองทั้งสองคน ในตอนที่ลูกศรกำลังจะเสียบเอวนักฆ่าก็ปะทะเข้ากับคลื่นพลังที่ปกป้องร่างของอีกฝ่าย สุดท้ายก็ตกลงลงมาปักพื้น แทบจะไม่สร้างอันตรายใดๆ แก่ตัวนักฆ่าทั้งสองคน
ส่วนลูกศรที่ยิงไปที่นักฆ่ากรงเล็บเหล็กสีขาวด้านหลังขององค์หญิง ถูกนักฆ่าในชุดขาวสะบัดมือขวาปัดลูกศรจนกระเด็นออกไป ส่วนมือซ้ายที่แหลมคม ที่เหมือนเคียวยมทูตยังคงพุ่งไปทางหัวใจด้านหลังขององค์หญิงอย่างรุนแรง
ส่วนลูกศรหนึ่งดอกที่ยิงไปสกัดลูกธนูขนนกสีขาวทั้งสามดอกนั้น ดูเหมือนจะมีประโยชน์พอสมควร
เมื่อลูกศรที่ยิงออกมาด้วยทักษะมหัศจรรย์ไปกระทบเข้ากับส่วนหัวของลูกธนูสีขาวดอกแรก จนเกิดเสียงดังติ้ง เกิดประกายไฟกระเด็นออกมา ลูกธนูสีขาวดอกแรกที่ลอยอยู่กลางอากาศก็พลันเอียงไปชนเข้ากับลูกธนูดอกที่สอง จากนั้นลูกธนูดอกที่สองก็ชนกับลูกธนูดอกที่สาม...เส้นทางการยิงของลูกธนูสีขาวก็เปลี่ยนทิศทางทันที มันแฉลบไปด้านข้าง.....
ดอกที่หกที่ยิงไปทางนักฆ่าที่ถือกระบี่ทหารม้าไว้ในมือแล้วโผล่มาจากใต้ดิน ได้ยิงตรงเป้าที่เล็งไว้อย่างแม่นยำ แต่ก็มีเพียงเืที่ไหลออกมาจากแผ่นหลังของนักฆ่าคนนั้น แม้ว่านักฆ่ารูปร่างสูงใหญ่คนนั้นจะร้องออกมาด้วยความเ็ป แต่เขาก็ข่มความเ็ปไว้ ในขณะที่สองมือจับกระบี่ทหารม้าแน่นและเหวี่ยงไปทางสองขาขององค์หญิงอย่างไร้ความปรานี...
ปฏิกิริยาตอบสนองของนักฆ่าทั้งหกคนนี้ แต่ละคนไม่เหมือนกัน มันสะท้อนให้เห็นถึงระดับความแข็งแกร่งสูงต่ำระหว่างพวกเขา
ขั้นตอนทั้งหมดเกิดขึ้นในชั่วพริบตา คนส่วนใหญ่ยังคงนิ่งอึ้งร้องอุทาน
ในตอนนี้ ซุนเฟยและองค์หญิงก็อยู่ห่างกันราวๆ สิบเมตร
นอกจากนักฆ่าลึกลับที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนแล้ว นักฆ่าคนอื่นทั้งห้าคนต่างมีระยะห่างจากองค์หญิงไม่ถึงสี่เมตร พวกเขาสามารถสังหารองค์หญิงให้กลายเป็กองเศษเนื้อได้ก่อนที่ซุนเฟยจะวิ่งไปถึง จากนั้นเขาก็จะหันกลับมาสังหารซุนเฟยอีกที
สถานการณ์คับขันแล้ว
เทพแห่งความตายกำลังกำรอบคอระหงส์ขององค์หญิงอยู่ เพียงแค่ออกแรงบีบเบาๆ ทุกสิ่งทุกอย่างก็จบ องค์หญิงที่ถือครองอำนาจยิ่งใหญ่ ตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กสาวกำพร้า...และการวางแผนลอบสังหารในครั้งนี้ จะกลายเป็แบบแผนคลาสสิกในการลอบสังหารของนักฆ่า
และผลที่ตามมา เมืองแซมบอร์ดทุกคนจะต้องถูกกลบฝัง ตายไปพร้อมๆ กับองค์หญิง
นักรบสาวซูซานพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะพุ่งไปข้างหน้า หัวหน้าอัศวินโรมัน ปัฟลูย์เชนโคที่กำลังวิ่งตรงขึ้นมาบนแท่นหินบูชา สาวน้อยชุดม่วงที่อยู่ห่างไปนับร้อยเมตรก็กำลังเคลื่อนมา...
เวลา
ตอนนี้ สิ่งที่้าที่สุดคือเวลา
หากมีคนที่สามารถจู่โจมขัดขวางพวกเหล่านักฆ่าได้อีกครั้ง...แต่เพราะั้แ่แรกแล้ว ไม่มีใครจะคาดคิดว่าจะเป็แบบนี้ จึงไม่มีใครไหวตัวทันสักคน เมื่อทำทุกอย่างแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล ตอนนี้ทุกคนต่างพากันสิ้นหวัง ทว่าซุนเฟยกลับทำให้ทุกคนต้องรู้สึกประหลาดใจ
ทันใดนั้นเขาก็พลันะโออกมาตรงหน้าเสียงดังว่า
“ยังไม่ลงมืออีก?”
ติ้ง ติ้ง ติ้ง ติ้ง ติ้ง!
ราวกับตอบสนองต่อความโกรธของซุนเฟย จู่ๆ ก็เกิดเสียงโจมตีอย่างต่อเนื่องดังขึ้นมาในหูของทุกคน พวกเขาเห็นเพียงประกายไฟนับไม่ถ้วนปรากฏออกมาในรัศมีครึ่งเมตรขององค์หญิง ประกายไฟพวกนี้ก่อตัวขึ้นจากอาวุธโลหะที่โจมตีกระทบเข้ากับที่ครอบที่มองไม่เห็น อาวุธในมือนักฆ่าที่ฟันเข้าไปก็เด้งออกมา
ดาบ
เป็ดาบยาวธรรมดามาก
ดาบนี้ปรากฏอยู่ด้านหน้าขององค์หญิงอย่างไม่น่าเชื่อ
ดาบตวัดเป็เส้นตรงกลางอากาศ ทำลายความสามัคคีในการลอบสังหารของเหล่านักฆ่า
ประกายดาบสว่างจ้า ขัดขวางการสังหารของเหล่านักฆ่าที่จู่โจมมาในระยะประชิดได้ทันท่วงที
---------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้